เฮ้อ...ฉันถอนหายใจดังเฮือกใหญ่ๆ จนน้องพนักงานที่นั่งอยู่ข้างๆถามว่า
" เป็นอะไรไปพี่ ถอนหายใจซะดังเชียว
" ก็ดีใจน่ะสิ หมดเวลางานซะที คนไข้เยอะจริงๆวันนี้ เหนื่อย ปวดหลังจะตายอยู่แล้วอ่ะ " ฉันตอบ
" แล้ววันนี้วันศุกร์ พี่กลับบ้านหรอ " น้องถามฉัน
" อืม กลับสิ เนี่ยจะห้าโมงเย็นอยู่แล้ว กว่าจะขับรถลงดอย ไปถึงก็มืดพอดี ฝนตกอีกตะหาก สงสัยต้องค่อยๆ คลานไป " ฉันตอบน้องไป
วันนี้วันศุกร์ ฉันก็คงเหมือนใครอีกหลายๆคนที่ทำงานอยู่ต่างอำเภอ หรือต่างจังหวัด จะต้องขวนขวายหาทางรีบกลับบ้าน ฉันก็เหมือนกัน เมื่อไรที่ไม่ได้อยู่เวร ฉันจะกลับบ้านเสมอ บ้านที่ฉันอยู่มาตั้งแต่เด็ก มีพ่อ แม่ และน้องชาย ( สุดที่ร้ากกก) รออยู่ และที่สำคัญ อาหารเย็นสุดโปรดที่แม่มักจะทำรอฉันไว้เสมอ เวลาที่ฉันกลับบ้าน เพราะรู้ว่าฉันคงไม่ได้กินอาหารดีเหล่านี้ (แน่ล่ะ ก็ฉันทำกับข้าวไม่เป็นนี่ ก็ได้แต่พึ่งกับข้าวถุง หรือไม่ก็ของที่คนไข้มักนำมาฝาก )
ฉันค่อยๆขับรถลงดอยมา จากที่ทำงานที่ฉันอยู่ ห่างจากบ้านฉันซึ่งอยู่อีกอำเภอหนึ่ง ไปประมาณ110 กิโลเมตร จริงๆถ้าเป็นทางตรง ก็คงใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียวก็ถึง แต่นี่ เป็นดอยล้วนๆเลย โค้งเป็นร้อย ก็เลยต้องค่อยๆขับลงไป แถมฝนตกอีก ทำให้ใช้เวลาในการเดินทางนานพอสมควร
" เฮ้อ...ถึงบ้านซะที โห...จะ 2 ทุ่ม แล้วหรือนี่ มิน่าล่ะ ท้องมันถึงร้องนัก" ฉันบ่น ขณะที่กำลังเก็บของเข้าบ้าน พอถึงบ้านปุ๊บ ฉันก็ตะโกนเรียกแม่ทันที
" แม่ๆ มาถึงแล้ว วันนี้ทำไรกิน " (ไม่ค่อยเรียบร้อยเลยนะยะ) ฉันร้องถามพลางเดินเข้าไปในบ้าน
" อ้าว...มาถึงแล้วหรือลูก มาพอดีเลยแม่ถามอะไรหน่อยสิ "
หือ...จะต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่ๆเลย ไม่งั้นแม่คงไม่ถามเราตั้งแต่เห็นหน้าเราอย่างนี้หรอกน่า
" เรื่องไร แม่ " ฉันถามแม่ออกไป
" ก็แม่ได้ข่าวว่า อิม จะแต่งงาน "
หา!! อะไรนะ ไอ้อิมจะแต่งงาน...ฉันอึ้งไปประมาณ 3 วินาทีแล้วย้อนถามแม่ว่า
" แล้วแม่รู้ได้ไงอ่ะ "
" ก็ ป้าโสภาน่ะสิลูก ( ป้าโสภาเค้าเป็นเพื่อนแม่ค่ะ แล้วก็เป็นเพื่อนแม่ไอ้อิมมันด้วย เอ่อ..สุดท้ายเนี่ย ทั้ง 3 คนเป็นเพื่อนกันค่ะ ) ป้าโสภาโทรมาบอกว่า อิมจะแต่งงานแล้ว แต่ว่าไม่รู้เมื่อไหร่ แล้วเราล่ะรู้รึเปล่า " แม่เล่าให้ฟัง พลางย้อนถามฉัน
" ยังเลยแม่ มันไม่ได้แต่งมั้ง ข่าวโคมลอยแหง ถ้าแต่มันก็ต้องโทรมาบอกแล้วดิ เพราะเป็นเพื่อนสนิทกัน "
ฉันนั่งนึกถึง ไอ้อิม หรือ นังอิมเพื่อนของฉัน ซึ่งรู้จักกันมาประมาณ 22 ปีแล้ว เห็นหน้ากันมาตั้งแต่ 4 ขวบ เพราะเรียนที่เดียวกันตลอด ตั้งแต่เตรียมอนุบาล นุ่งเอี้ยมแดงจนถึง ม.6 เพิ่งมาแยกย้ายกันตอนจบ ม.ปลายนี่แหล่ะ ฉันไปเรียนพยาบาลส่วนอิมเรียนหมอฟัน ซึ่งก็ไม่แปลกหรอกเพราะอิมเป็นคนเรียนเก่งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แถมยังนิสัยดี เรียบร้อย (ในสายตาแม่ฉัน) ซึ่งต่างกับฉันลิบลับ ที่ดูเป็นลิงแถมปากยังไม่ค่อยดีอีกตะหาก ฉันยังจำได้เลยว่า ตอนที่อาจารย์ที่ปรึกษารู้ว่าฉันจะไปเรียนพยาบาล อาจารย์แกอวยพรฉันว่า " อย่าไปเตะก้านคอคนไข้นะลูก " เฮ่อๆๆ แต่ถึงแม้เราจะต่างกัน แต่เราก็สนิทกัน แล้ะเป็นเพื่อนกันได้ พอนึกขึ้นได้ ฉันรีบโทรหาอิมทันที ยังไม่กินละข้าว เนื่องจากแม่ เอ้ย...ฉันอยากรู้ว่าเรื่องจริงเป็นยังไง
ตู๊ด ตู๊ด.....เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดัง ...เอ ทำไมมันไม่รับซักทีหว่า
" ฮัลโหล " เสียงอิมรับสาย
" ฮัลโหล อิมหรอ นี่ฉันเองนะ ว่าไง แกทำไรอยู่ " ฉันถามออกไป แหมตั้งประโยคเกริ่นนำซะหน่อย เดี๋ยวหาว่าเราอยากรู้
" เออ กลับบ้านหรอ เล่นเกมส์อยู่น่ะ มีอะไรเปล่า " อิมตอบ ( หนอยยังไม่พูดอีกนะ )
" เออ เพิ่งกลับมาถึงแหล่ะ แล้วนี่แกมีไรจะบอกฉันมั๊ย " เมื่อไม่บอก ฉันก็ถามซะเลย
อิมเงียบไปประมาณ 10 วินาที แล้วคงนึกขึ้นได้ว่าฉันคงรู้เรื่องแล้วแน่เลบ ก็คนอย่างฉันน่ะ ไม่มีทางซะหรอกที่จะตกข่าว เพราะสมัยเรียนน่ะ ใครๆก็รู้ว่าฉันน่ะ เป็นผู้สื่อข่าวหญิงประจำโรงเรียน ใคร อะไร ที่ไหน รู้ไปหมด!
" อืม ฉันกำลังจะแต่งงาน " เหอๆ ในที่สุดก็เปิดเผยความจริงออกมาจนได้นะ แต่
" เฮ้ย...หา ว่าไงนะ แกกำลังจะแต่งงานจริงๆหรอ แล้วแกแต่งกับใคร ที่ไหน เมื่อไหร่???? ฉันร้องถามออกไป (ด้วยความตกใจ)
"เฮ้ยๆ ใจเย็นๆ " อิมส่งเสียงเรียกฉัน ก่อนที่ฉันจะสติแตกไปมากกว่านี้ " ฉันก็จะแต่งงานกับ ท็อปน่ะ " อิมบอก
อิม จะแต่งงานกับท็อปนี่เอง ...หา....แต่งกะท็อปน่ะหรอ ฉันนึกย้อนไปประมาณ 15 ปีที่แล้ว สมัยนั้นพวกเราเรียนชั้นประถมอยู้เลย ฉันนึกถึงหน้าของ ท็อป ออก เนื่องจาก ท็อปอยู่ห้อง 2 พวกเราอยู่ห้อง 3 ฉันนึกถึงเด็กชายหัวเกรียน หน้ายาว ปากย้อย ที่มักจะยื่นหน้าเข้ามาห้องฉันเสมอ ( จริงๆแล้วเค้าก็หน้าตาดีแหล่ะนะ โตมาหล่อเชียว)
" นี่พวกแกจะเล่นหนังแฟนฉันกันหรือไง แหมๆแต่งงานกะเพื่อนตอนเด็ฏๆ แล้วนี่ทำไมแกไม่บอกฉันล่ะ "
( รู้สึกเสียหน้าเล็กน้อย เพราะเป็นเพื่อนกัน แต่แม่ฉันดันรู้ก่อน )
" ก็กะจะบอกอยู่ แต่ว่ามันแต่งตั้งเดือน มกรา ปีหน้าแหน่ะ ฉันกะว่าไว้ใกล้ๆ ก่อนแล้วฉันจะโทรไปบอกอีกที มันอีกตั้งนานเดี๋ยวจะหาว่าฉันเห่อ น่ะ " อิมบอก
" เออๆ เข้าใจ แล้วนี่แกนึกยังไงจะแต่งงานน่ะ เพราะเพื่อนๆในกลุ่มเรายังไม่มีใครแต่งงานนะโว๊ย " ฉันถามอิม
" ก็มันยังไม่มีใครแต่งไง ฉันก็เลยแต่งเบิกโรงให้แกก่อนเผื่อพวกแกจะได้แต่งกันไง " ดู๊ ดู มันตอบสิ
" อ่ะนะ พวกฉันน่ะยังไม่อยากแต่งหรอก จะรีบแต่งไปทำไม อายุยังน้อยอยู่เลย ( อีกไม่กี่ปี จะ 30 แล้วเนี่ยะนะ) แล้วแกกับท็อปก็อยู่คนละจังหวัดไม่ใช่หรอ ต้องอยู่ไกลกันนะโว๊ย แล้วแกจะทนได้หรอ " ฉันไซโค มันสุดฤทธิ์ จะยอมได้ไง ฉันยังไม่ได้แต่งน๊า.....
" เอ่อน่า เรื่องนี้ฉันคุยกับท็อปแล้ว ไม่มีปัญหาเราตกลงกันได้ แล้วอีกอย่างอยู่ห่างกันแค่ร้อยกว่าโลเอง ขับรถแป๊บเดียวก็ถึง แล้วที่สำคัญท็อปเป็นคนดีด้วย ไม่นอกใจฉันเด็ดขาด "อิมบอก
อืม...ก็จริงของไอ้อิมมันนะ ท็อปน่ะจัดว่าเป็นแฟนที่ดี ดูแลเทคแคร์ดีตลอด เสมอต้นเสมอปลาย ไม่งั้นจะตามไอ้อิมได้นานตั้ง 15 ปีรึ แต่อย่างว่านะ วิญญาณนางมารร้ายเข้าสิงแล้วนี่
" แล้วนี่แกแต่งงานก็ต้องมีลูกน่ะสิ งั้นก็ลำบากแย่ พ่ออยู่ทาง แม่อยู่ทาง แล้วแกจะเลี้ยงลูกคนเดียวได้หรอ " น่านๆ ยังไม่หยุดอีกนางมารร้าย
" เออ เรื่องนี้แกไม่ต้องห่วงฉันเลยนะ เพราะว่าฉันจะรอให้ท็อปย้ายมาก่อน ค่อยคิดเรื่องนี้ แล้วอีกอย่างตอนนี้ฉันอยู่กับแม่ 2 คนต้องดูแลแม่ด้วย " อิมบอกฉัน
" แล้วแกไม่เสียดายชีวิตสาวโสดหรอ " เหอๆ เผื่อยุขึ้น
" ไม่! เพราะฉันพร้อมแล้ว " อ๊ากๆๆๆ จบค่ะ จบคำถามเลย
" นี่ตกลงว่าฉันยุแกไม่ขึ้นจริงๆเลยใช่ป่ะ " ฉันถามออกไป
" ใช่ ยังไงฉันก็จะแต่ง แล้ววันงานแกมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวฉันด้วย " อิมตอบพร้อมกับสั่งฉัน
" เออ ก็ได้ " ฉันรับคำด้วยเสียงอ่อยๆ นี่เราจะต้องเสียสมาชิก " คานยังคอย " ไปแล้วหรือนี่ แต่ไม่เป็นไร เพื่อความสุขของเพื่อน ฉัน " ยังคอยคาน " คนเดียวก็ได้ ฮือๆ
" เออ ถ้าหากแกไม่เปลี่ยนใจก็คงไม่ว่าแกละ ยังไงก็ขอให้แกมีความสุขมากๆละกัน ดีใจด้วยนะ " ฉันบอกอิม เมื่อยุไม่ขึ้นก็อวยพรส่งซะเลย
" อืม ขอบใจนะ แล้ววันงานแกอย่าลืมมาละกัน ฉันจะเตรียมเพื่อนเจ้าบ่าวไว้รอแก เอ้ย...ไว้ให้ " อิมบอก
" เออๆ ขอบใจนะ ยังงี้ค่อยยังชั่วหน่อย ค่อยมีกำลังใจไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว " อิอิ " อืม ไม่มีไรแล้วล่ะอิม ฉันโทรมาถามเฉยๆ เดี๋ยวฉันไปกินข้าวก่อน ไว้แล้วค่อยเจอกันนะจ๊ะ " ฉันบอกอิม
" อืมๆๆจ้าๆๆๆ หวัดดีจ้า "
ฉันวางสายจากอิม....เฮ้อ ตกลงแต่งงานจริงๆ เดี๋ยวฉันต้องไปบอกแม่ซะหน่อย ท่าทางคุณนายจะอยากรู้มาก อิอิ
" แม่ๆ ตกลงอิมมันแต่งงานจริงๆอ่ะ " ฉันร้องตะโกนบอกแม่
" นั่น...แม่ว่าแล้ว ข่าวแม่ไม่มีผิด " แม่ร้องบอกฉัน ท่าทางภูมิใจมาก พร้อมๆกับหันมามองทางฉัน ด้วยสายตา ประมาณว่า....แล้วเมื่อไหร่จะถึงคราวลูก ตรู ซะที.....
เอิ๊ก.....ไปกินข้าวดีกว่า เห็นสายตา แล้วเสียว......
**************************************************************************
ก็มาจากเค้าโครงเรื่องจริงน่ะคะ เป็นคนที่คิดเรื่องไม่ค่อยออก ต้องอาศัยเหตุการณ์จริงตลอด ลองอ่านดูนะคะ
จากคุณ :
โยเกิตมะนาว
- [
13 ส.ค. 50 11:45:42
]