เมื่อเวลา ล่วงไป ได้หมั่นซ้อม
ด้วยอดทน จนพร้อม จึงหาญสู้
ฝึกจนเพริศ จนพริ้งพราย ลวดลายครู
จักเปนตาย คงได้รู้ อยู่ครานี้
แต่พอโหม หลายวันนัก ชักถดถอย
เรี่ยวกำลัง ก็ค่อย ค่อย น้อยริบหรี่
ยิ่งใกล้วัน ยิ่งหวั่นใจ อย่างไรดี
จักแย่แล้ว ในครานี้ ฤๅ กฤติกา
บอกตัวเอง ต้องทำได้ ต้องใจแข็ง
รวบรวมแรง เพื่อแรกรำ สะระหม่า
แต่ยิ่งซ้อม ยิ่งอึดอัด ขัดสายตา
นายนั่นมา เป่าปี่ นี้เคืองใจ
. . . . .
วันงานจริง พอประแรก แปลกใจวับ
ตามืดมัว เหมือนแสงดับ ลับไปได้
แต่พยายาม ยังหยัดยืน ฝืนหายใจ
รำต่อไป แม้เลื่อนลาย ทั้งสายตา
หูยังยิน กริ่งกริ่ง เสียงฉิ่งฉับ
ยังฟ้อนรับ มือยังกราย ใจยังสง่า
แต่ฝืนสาม สี่จังหวะ สุดจะพรรณนา
. . . . .
ทรุดลงหน้า. . . ตรงเวที. . . ที่กำลังรำ
. . . . .
ณ นาที สติขาด ระนาดหยุด
ในที่สุด ก็อุ่นกาย ใจวาบหวำ
เห็นราง ราง นั่นใช่ไหม ฅนใจดำ
ที่ถลำ มารับฉัน ทันท่วงที
แลสำนึก สุดท้าย ยังได้ยิน
ทุกสำเนียง ประมวลสิ้น สองหูนี่
ฟื้นสิครับ ฟื้นเถิดนะ. . . นะคนดี
รู้ไหมพี่ ประหวั่นหวาด เพียงขาดใจ.
แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 50 23:45:48
แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 50 23:40:17
แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 50 20:00:14
จากคุณ :
พจนารถ๓๒๒
- [
14 ส.ค. 50 19:57:32
]