จะครึ่งปีแล้วสินะที่เราไม่ได้พบกันแบบนี้ ฉันปล่อยให้เธอตามหาฉันจนเจอว่าฉันไปอยู่เสียที่ไหนและยอมให้เธอได้พูดคุย ได้ยินเสียงกันบ้าง ก็เพียงเพราะเธอพูดคำง่ายๆว่าคิดถึง-อยากอยู่ด้วยกันอีกเท่านั้นเอง แต่แปลกที่วันนี้ใจฉันกลับไม่เต้นระรัวเหมือนอย่างวันแรกที่จู่ๆก็รู้ว่าเธอตามมาเจอร่องรอยจนได้อีก หลังจากตัดใจจากเธอไปแล้ว ฉันดีใจนะที่เรายังพบกันได้อีก มันอาจจะข้ามพ้นช่วงเวลาที่ต้องถามใจตัวเองไปแล้ว คำตอบของฉันต่อเรื่องของเราดูว่าจะชัดเจนจนแทบจะสรุปได้แล้ว
นี่คือเหตุผลที่ฉันดูขรึมและนิ่งกว่าที่เธอเคยเห็นกระมัง ฉันรู้เต็มอกว่าเราคือใคร .. ฉันไม่ใช่คนงอแงด้วยสิ
เธอโทรมาบอกว่าไม่สะดวกจะมาพบในทีแรก ฉันอยากจะหัวเราะออกมาแทนที่จะหน้าเศร้าทำอะไรไม่ถูกไปหนึ่งวันเต็มๆ แต่ฉันอยู่ใกล้นี้เองที่รัก จะพรุ่งนี้หรือให้รออีกสองสามวันฉันก็จะอดทนรอ ไม่มีทางที่ฉันจะกลับบ้านกับความรู้สึกผิดหวังในสิ่งที่ตั้งใจหรอกนะ ฉันตั้งใจมาพบเธอ เธอเท่านั้นที่เป็นคนสำคัญที่สุด คนอื่นๆมันก็แค่... ฉันจะรอจนกว่าจะได้พบเธอ
ฉันคิดเตรียมคำพูด-จัดแจงวาดภาพต่างๆเรียงไว้ในหัวแล้วว่าเมื่อเราเจอกันฉันจะทำอะไร จนเมื่อพบเธอเข้าจริงๆ ฉันกลับหมดความกล้าแม้แต่จะมองหน้าเธอได้ตรงๆ อะไรที่คิดเอาไว้ว่าจะทำก่อนหน้านี้กลับอันตรธานหายไปหมด ที่เหลืออยู่ก็มีแค่ ตัวของฉัน ตัวของเขาและสิ่งรอบตัวตรงนั้น ฉันได้กลิ่นความจริงและบางอย่างกอดฉันเอาไว้หลวมๆ
ในรถ เรานั่งกันเงียบๆ ..ไม่สิ ฉันต่างหากที่เงียบไปเอง เสียงเธอค่อนอยู่แว่วๆว่าฉันมันคนใจร้าย ทิ้งเธอ หนีไปไม่บอกกล่าวกันสักคำ
ไม่ใช่น้ำเสียงอิดออดแบบนั้นหรอกที่ทำให้ฉันอยากจะขยับเข้าไป ประคองหน้าเขาเอาไว้ และพรมจูบไปทั่วๆเพื่อจะอธิบายว่า ฉันหนีเธอแล้วก็จริงแต่สุดท้ายก็ไปไม่ได้ไกลจากกันเลย มันเป็นความจริง เป็นชีวิตจริงๆของผู้หญิงคนนี้ที่บังคับให้ต้องทำแบบนั้นโดยที่คิดว่ามันอาจจะดีที่สุดสำหรับเราที่จะห่างหายจากกันได้เสียที ใช่ คำอธิบายมันไม่กว้างแต่มันลึก เธอจะเปิดใจยอมรับฟังมันเสมอ ฉันรู้ ขอเลือกที่จะไม่เป็นคนเลวอีกแล้ว ฉันไม่อยากโกหก เพื่อเล่นเกมสนุกๆกับเธอ ..เวลาเช่นนั้นถูกข้ามผ่านช่วงไปแล้ว
ฉันเห็นตัวเองกุมมือนั่งนิ่งหันมองไปนอกหน้าต่างรถหลบจากหน้าเธอ ไม่ได้ใส่ใจว่าเธอจะพูดอะไร เหมือนกับมันอิ่มแล้วข้างในว่า นี่ไงฉันนั่งอยู่ข้างๆเธอตัวจริงตรงนี้แล้ว เรื่องอื่นก็ไม่สำคัญอีกแล้วนาทีนี้ แต่ด้วยมารยาทฉันรวบรวมความกล้าหันไปมองหน้าคู่สนทนาแว่บหนึ่งแล้วรีบหันกลับมา เป็นแว่บแรกที่ได้เห็นหน้าเธอในรอบครึ่งปีของฉัน
เธอเปลี่ยนไปหรือเปล่านะ ทำไมเธอดูไม่เหมือนที่ฉันเคยรู้จัก ฉันหันไปมองเขาซ้ำอีกแว่บหนึ่ง เธอหันมาสบตา ฉันนึกอยากให้รถเคลื่อนตัวไปเร็วกว่านี้เสียจริง จะได้หลุดจากความรู้สึกแปลกๆนี่เสียที เป็นทรงผมของเธอที่เปลี่ยนไป เป็นเสื้อของเธอที่สีสวยสดใสเข้ากับเธอเป็นที่สุดและยีนส์สีเดอนิมที่เพิ่งเห็นเธอใส่ นึกเสียดายเวลาหลายนาทีที่ไม่กล้าจ้องมองเธอเสียแต่แรก ฉันเป็นอะไรไปนะ?
เราถึงบ้านแล้ว ฉันเข้าห้องข้างในด้วยความเคยคุ้น เดินดูโน่นนี่และหัวเราะออกมา พูดอยู่คนเดียวอย่างกับทักทายบ้านที่ไม่ได้พบกันเสียนาน เธอเก็บรถแล้วก็ตามเข้ามา รวบตัวฉันเอาไว้จากข้างหลัง กระซิบข้างหูเบาๆทั้งที่ก็อยู่กันแค่สองคน คิดถึงกันบ้างไหม? เป็นคำถามที่ลบทุกอย่างตลอดเวลาครึ่งปีให้หายวับแล้วมาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ตรงนี้
เธอถอยหลังไปนั่งกับขอบเตียงทั้งที่กอดฉันแน่น แล้วเอนหลังลง ฉันตัวแข็งนอนอยู่บนอกเธอทั้งอย่างนั้น!! ไม่หนี ไม่ดิ้น ไม่ขยับ เหมือนแทบไม่หายใจในอ้อมกอดเธอ ฉันกดคางลงกับท่อนแขนที่โอบพาดอกไว้ เธอยิ่งรัดแขนแน่นเข้า เอาเลย! ถึงฉันจะกระดูกแตกป่นลงไปด้วยการนี้ก็ทำเถิด ฉันไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออีกแล้ว เธอเป็นที่หมายสุดท้ายที่ตั้งใจในการเดินทางครั้งนี้ จะทำอะไรฉันก็ตามใจเถิด ฉันอยู่ตรงนี้แล้วที่รัก ......
เรานอนลง
ข้างเคียงกัน ใช้เวลาคุยกันโดยปราศจากพันธนาการแห่งเวลา ไม่มีเกรงใจฉันบ้างเลยว่าขาที่ก่ายเกี่ยวตัวฉันเอาไว้จะหนักแค่ไหน กอดของเธอที่แน่นจนแขนสั่นจะทำให้ฉันหายใจหายคอออกไหม เธออยากจะทำอย่างนี้ในทุกครั้งที่เราคุยกัน เสียงเธอสารภาพ..ฉันสำรวจตัวเธอจนทั่วเหมือนไม่เคยได้เห็นมาก่อน วันนี้ฉันแปลกใจที่พบว่าจริงๆแล้วนัยย์ตาของเธอเป็นสีน้ำตาลอ่อนใสแจ๋ว หรือเพราะห้องมันสว่างนะ นิ้วของเธอเรียวยาวเล็กลงกว่าที่เคยได้เห็นหรือเปล่า ฉันจำไม่ได้ว่าพูดอะไรออกไปบ้างแต่ที่จำแม่นคือรอยยิ้มกว้างๆ สบายๆของเธอ อารมณ์ดีสินะ ดีใจจัง อย่างน้อยนี่ก็ทำให้สบายใจไปได้อีกเดือน เธอไม่เข้าใจความหมายที่ฉันพูดออกไปหรอก ภาพความทรงจำเหล่านี้จะอยู่ช่วยหล่อเลี้ยงฉันไม่ให้แห้งเฉาตายไปเพราะหมดรักจากเธอไง..ฉันซุกอยู่กับอกเขากลางเตียงกว้าง เราต่างคนปล่อยให้ความเงียบมานอนกับเราด้วย ไม่อยากรู้ว่าเธอจะกำลังคิดถึงอะไร ฝ่ายฉันเองไม่มีอะไรอื่นข้างในเว้นเสียก็แต่ความสบายใจ ผ่อนคลาย มีเพียงท่อนขาเราที่ขยับไล้ขาอีกคนเล่นเพลินๆ ฉันผละเงยหน้าขึ้นแล้วนอนจ้องสบตา บันทึกภาพความทรงจำ เธอจ้องตอบกลับมานิ่งสักอึดใจก็ระบายยิ้มน้อยๆ
....
ฉันต้องกลับเสียที เธอช่วยขยับแต่งตัวให้ฉันอย่างกับเล่นตุ้กตาตัวโปรดที่หายไปนาน ต้องจูบลากันแล้ว ถึงเธอเอ่ยปากว่าไม่รู้จะได้เจอกันอีกเมื่อไร เธอพยายามเลี่ยงไม่ให้คำว่าครั้งสุดท้ายลอดออกมา แต่รู้ไหม ฉันกลับไม่รู้สึกแบบนั้นเท่าไร ฉันมั่นใจว่าเราผ่านช่องว่างแห่งความทรมานได้แล้ว ไม่ว่าครั้งหน้าของเราจะเป็นวันไหน นับไปอีกนานแค่ไหนมันก็คงไม่ทรมานไปกว่านั้นอีกแล้ว เธอยืนกอดฉัน ค้อมตัวซบหน้าลงกับไหล่เล็กๆสักพักก็เลือกที่จะจูบหน้าผากฉันเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนฉันจะลาออกจากบ้านนั้นมา
...ฉันเดินทางกลับบ้านคนเดียวด้วยความอิ่มใจ
ฉันเพิ่งคิดออกหลังจากทบทวนคำพูดของเธอ ใช่ ฉันแค่อยากอยู่ใกล้ๆกับเธอเท่านั้น มันจะเป็นอย่างไรก็ช่างมันปะไร จะเจ็บปวดหรือไม่ ก็ไม่เห็นจะสน
เธอถูกอีกแล้ว !! ถูกทุกอย่าง เราแค่ได้อยู่ด้วยกัน
มันทำให้ฉันคิดย้อนถึงคำพูดทุกคำของเธอ เธอพูดถูกทุกอย่างมาตลอด
วันนี้เธอถามเรื่องส่วนตัวของฉันหลายอย่าง อาจจะนับว่าเป็นครั้งแรกเพราะก่อนหน้านี้ฉันเองที่ตั้งกฎว่า ห้ามถามมาก ฉันเองจะตอบก็ต่อเมื่อพอใจจะตอบ ห้ามเซ้าซี้ เธอคงจะ...อยากรู้จักฉันให้ดีขึ้นสินะ
ฉันรู้สึก บางอย่างเราก็ต่อกันติดลึกๆ มันผลักดันให้เธอบ่นคำนั้นออกมาอีกครั้งกับพระเจ้า
ทำไม เราไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้นะ .. แต่มันก็มีบางอย่างคั่นอยู่กลางระหว่างเรา
อยากจะพูดว่า ชีวิตจริงมาคั่นตรงนั้นไว้
แต่ถามว่า อะไรไม่จริงบ้าง?......หือ??
ตอนนี้ การเล่นเกมของฉัน-การปิดหน้าตัวเอง มันจบลงไปแล้ว ที่รัก
ที่เหลืออยู่ เป็นความรักล้วนๆ.
จากคุณ :
podduang-pk
- [
18 ส.ค. 50 15:07:53
]