1. ใจที่ไร้ความกลัว
ในบางครั้ง ความกล้าหาญเท่านั้น ที่จะทำให้เราทุกคนฝ่าด่านความกลัว
ก้าวข้ามความมืดมนของชีวิตและเป็นจุดเปลี่ยนที่เราก็ไม่อาจคาดการณ์ได้เลย
จูเลียส ซีซาร์ มีชื่อเต็มว่า เดอุส จูเลียส ซีซาร์ เป็นคนหนุ่มที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและไม่มีความกลัวต่อสิ่งใดในโลกใบนี้
ตอนที่เป็นเด็กเขาเป็นลูกชายที่กำพร้าพ่อ เหลือแต่แม่ที่คอยอุ้มชูและเขาไม่ถือว่าเป็นปมด้อยแต่ประการใด
ครั้งหนึ่งในชีวิตวัยเยาว์เขาเคยถูกโจรสลัดจับไปเป็นทาสในเกาะ ในบางครั้งก็ถูกคุมขังไว้ในความมึดตามลำพัง เขาทนทุกข์ทรมานอยู่นานจนรวบรวมความกล้าหาญหนีตายออกมาได้
แต่เท่านั้นยังไม่พอสำหรับคนชื่อซีซาร์ เขากลับไปพร้อมกับพรรคพวกเพื่อเข้าทลายชุมโจรบนเกาะนั้นจนราบเรียบ นำหัวหน้าโจรและสมุนที่สะบักสะบอมกลับมารับการลงโทษตามกฎหมายบ้านเมือง
เขา ไม่เพียงแต่เอาชนะความกลัวด้วยความกล้าเท่านั้น เขายังเชื่อมั่นในความกล้าของเขามาก
เขาเป็นแม่ทัพที่ทหารโรมันรักและจงรักภักดีเป็นอย่างยิ่ง จนแทบจะพูดได้ว่า ไม่เคยมีทหารในสมัยใดจะ รักเจ้านายของตนยิ่งไปกว่าทหารรักซีซาร์
จนว่ากันว่า ที่ไหนมีอันตราย ที่นั่นเขาจะเป็นคนแรกที่บุกนำเข้าไปก่อน
ถ้าในการเดินทางกองทหารจำเป็นจะต้องข้ามแม่น้ำสักสายหนึ่งที่น่ากลัวที่สุด เขาจะเป็นคนแรกที่ลงว่ายน้ำนำบรรดาทหารทั้งหลายลงไป
และในเวลาต่อมาเขาเป็นเพียงคนเดียวที่หลายคนทั่วโลกอดที่จะประหลาดใจว่า ทำไมหนอคนตัวเล็กไม่เกิน 8 ฟุตคนนี้สามารถนำกองทัพของโรมันตีชนะประเทศต่าง ๆ ถึง 300 ประเทศ ได้เมืองต่าง ๆ ไว้ในอำนาจถึง 800 เมือง

คนเพียงคนเดียวที่กุมชะตาชีวิตคนไว้ค่อนโลก
ในเวลาต่อมา 2,000 กว่าปีหลายคนจึงรู้ว่า คำพูดอมตะของซีซาร์ที่พูดว่า
"ข้าไปถึงแล้ว "
นั้นคงหมายความว่า เขาได้ก้าวพ้นจากความกลัวที่ซุกซ่อนอยู่ในใจมนุษย์ทุกคน
ความกลัวต้องเอาชนะด้วยความกล้าเท่านั้น
และไม่มีอะไรที่จะทำให้มนุษย์พ่ายแพ้ได้
ตั้งแต่มีมนุษย์คนแรกในโลกจนถึงปัจจุบัน
ก้าวข้ามเลยไปถึงอนาคต
ไม่มีจริงๆ...
เรื่องราวความกล้าของซีซาร์ได้ถูกนำมาเป็นตัวอย่างในการดำรงชีวิตของมนุษย์ในเวลาต่อมาและกลายเป็นบทเรียนสำคัญบทหนึ่งของมนุษย์ที่ไม่ยอมให้ความกลัวใดๆมาครอบงำจิตใจและทำให้ชีวิตพบกับความล้มเหลวและพ่ายแพ้ต่อชีวิต
........................................................................................................