Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ขนมเค้ก …กาแฟ และ สองเรา(อีกหน)

    ขนมเค้ก …กาแฟ และ สองเรา(อีกหน)

    ไม่มากครั้งนักจะได้เลี้ยงขนมเค้กใครสักคน  ไม่ได้ขี้เหนียวและไม่ได้ขาดแคลน แต่ไม่ชอบกินเค้ก  ยิ่งนั่งดูคนกินเค้กจะนึกในใจเสมอว่ากินเข้าไปได้อย่างไร

    ความสุขทางใจที่ได้รับเข้าไปทางปาก  เพื่อนร่วมโต๊ะที่กำลังฟาดฟันกับเค้กเนยชิ้นที่สองว่าอย่างนั้น ราวกับมองเห็นความคิดของผมผ่านแววตา  

    พฤติกรรมและความรู้สึกนึกคิดของใครสักคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตจนแทบกลายเป็นส่วนใหญ่ เราล้วนล่วงรู้กันดีโดยมต้องอาศัย  ไม่ใช่หรือ

    แต่ทั้งรู้ ว่าเธอชอบกินขนมเค้ก  ผมก็ไม่เคยพาเธอไปกินเค้กหรือติดไม้ติดมือไปฝากสักชิ้น  บางทีนั่นอาจเป็นสาเหตุเดียวที่ทำให้เราคงไว้เพียงสถานะแฟนเก่าที่มีดีกรีบ่มไว้สองปี

    เราต่างคนต่างเข้าใจและไม่ได้โกรธเคือง  เป็นเพียงเรื่องของคนที่ไม่ใช่และไม่อาจลากจูงให้ไปถึงฝั่งฝัน  เสียสถานะคนรักแต่อย่าเสียสถานะเพื่อนสนิท  เราสองคนเคยหยอกกันเล่นแบบนั้น จนวันหนึ่งมันกลายเป็นหลักการดำเนินชีวิตคู่ของเราสองคน

    ชีวิตคู่มิใช่เพียงคู่รัก คู่ชีวิต  หรือคู่สมรส   หากมองเพียงแค่นั้นออกจะคับแคบไปสักนิด ควรผนวกความสัมพันธ์ของคนสองคนในรูปแบบอื่นเข้าไปด้วย

    เลขสองเป็นเลขที่ยิ่งใหญ่ เป็นจุดเริ่มต้นของสัญลักษณ์ที่แสดงว่าจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป  ดังนั้นจึงไม่ควรจำกัดไว้ใช้กับความรักเพียงสถานเดียว

    เลขสองเป็นเลขที่ยิ่งใหญ่  เธอกำลังจัดการเค้กชิ้นที่สอง ผมหวังว่าเธอจะพอแค่นี้  หยุดปากสักพักแล้วคุยกับผมก่อนคงไม่ใช่เรื่องหนักหนา  ส่วนจะต้องการชิ้นทีสามตามมาค่อยว่ากันอีกที

    ผมแปลกใจที่จู่เธอโทรมาขอให้ผมเลี้ยงเค้ก แน่ล่ะว่า ผมปฏิเสธทันควัน ขอร้องให้ไปกินอย่างอื่นแทน บอกว่าจะเลี้ยงไม่อั้น  แต่เธอยืนกรานขอให้เลี้ยงเค้กเท่านั้น อย่างอื่นไม่ยินยอม

    คนเราผูกพันกับบางสิ่งจนเป็นแบบแผนในการดำเนินชีวิตที่ตนเอง   ไม่เคยสังเกตว่าบางครั้งเราก็เสพติดสิ่งที่รักชอบจนถอนตัวไม่ขึ้น  ขาดไปสักวันจะกระวนกระวาย ขาดไปหลายวันเริ่มมีอาการลงแดง  นักเขียนหนังสือประเภท How to คนหนึ่ง เคยเขียนไว้ว่า ยิ่งเราเสพติดหรือยึกเกาะสิ่งใดมากเกินไปเราจะทำให้สิ่งนั้นพังพินาศและตนเองมีเภทภัยในทางใดทางหนึ่ง  ในกรณีของเธอ ผมคิดว่าคงตรวจสอบได้จากเส้นรอบวง บางส่วนของเธอดูจ้ำม่ำเกินที่บันทึกไว้ในความทรงจำของผมมากนัก

    “ เมื่อไหร่จะเลิกกินกาแฟ ” เธอหยุดปากหลังจากเช็ดคราบเนยบนช้อนส้อมด้วยลิ้น แล้วถามผม ด้วยคำถามที่คุ้นเคยและได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วน ไม่ว่าจะในฐานะคนรักหรือในฐานะเพื่อน

    “ ไม่รู้สิ ..”   ผมตอบแบบนั้น ถึงเวลาที่ต้องหยุดเสพสิ่งที่รักก็คงต้องหยุด เพียงแต่เวลานั้นยังมาไม่ถึง   ผมเคยคิดว่าที่เราจบกันเพราะผมไม่ยอมเลิกกินกาแฟ  ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะพ่อของเธอกินกาแฟจนความดันโลหิตสูง

    น่าสนุกที่คนเราแสดงความรักต่อคนที่เรารัก ด้วยการให้ใครคนนั้นเลิกในสิ่งที่รักเป็นชีวิตจิตใจ  
    “ ทำไมถึงโทรมาขอให้เลี้ยงขนมเค้ก ? ”  ผมถามกลับ

    เธอตอบเพียงว่าอยากกินเค้กกับผมสักครั้ง แล้วก็เล่าย้อนถึงครั้งที่ผมจูงมือเธอเดินผ่านร้านเบเกอรี่  ตบท้ายด้วยคำถามว่า

    “ ทำไมเธอไม่ยอมเลี้ยงเค้กฉันเลย ? ”

    “ ไม่ชอบกินเค้ก ” ผมตอบอย่างรวบรัด

    น่าแปลกคนเรามักคิดว่าคนรักจะไม่ชอบในสิ่งที่เราไม่ชอบ และไม่ต้องการเห็นเขาพัวพันกับสิ่งนั้น

    “ อีกอย่าง กลัวว่าจะเป็นเบาหวาน ”  ผมเสริมอีกนิด

    “ ฉันเพิ่งยี่สิบสาม ไม่ต้องกังวลหรอก ”

    “ แต่น้ำหนักห้าสิบห้า ”

    “ เกินไป แค่ห้าสิบสองเอง ”

    การแซวน้ำหนักของผู้หญิงเป็นเรื่องต้องห้ามพอๆกับขื่อคานของบ้านเรือน  กรณีของคนใกล้ชิดไม่ต้องคิดถึงเรื่องแบบนั้นมากนัก แค่คุยในภาษาที่เป็นเรา  ผมรู้ดีว่าตัวเองเป็นคนปากเสียตามธรรมชาติ  สามารถจับสาระทุกประเภทพลิกแพลงเป็นถ้อยความเชิงเชือดเฉือนความรู้สึก

    ผมเคยคิดอีกนั่นแหละว่า เธอจบกับผมเพราะฝีปาก

    “ แฟนเธอเป็นไงบ้างล่ะ สบายดีไหม ? ..”

    อดีตคนรักถามถึงคนรักในปัจจุบัน อย่าไปตีความคำถาม  ถามแค่นั้นและจบลงแค่นั้น ไม่มีสิ่งใดแอบแฝง อย่าคิดว่าเป็นคำถามหยั่งเชิงเพื่อขอรื้อฟื้นความสัมพันธ์เพราะจะเสียความรู้สึกหากไม่เป็นไปตามนั้น  ยิ่งอดีตคนรักที่เป็นเพื่อนสนิท บางทีก็แค่ถามไปอย่างนั้นเอง

    “ ก็ดี ” ผมตอบสั้นๆตามประสาคนพูดน้อยเพราะถ้าพูดมากอาจทำให้ปากแตก สมัยก่อนผมเคยถูกเธอตบบ่อยๆ  แค่หัวไหล่ไม่ใช่ใบหน้าอย่าคิดมาก

    “ ทำไมวันนี้ยอมเลี้ยงเค้กฉันล่ะ ? ดูสิ เมฆครึ้มมาแต่ไกล  ”

    “ เพราะรู้ว่าคุณจะเป็นคนจ่ายค่ากาแฟน่ะสิ ”

    “ นี่ถามจริงๆนะ อย่าทำเป็นเล่นสิ ”

    “ กลัวเธอจะมีปมด้อย แล้วกลายเป็นบาดแผลฝังใจใต้จิตสำนึก แล้วกลายเป็นโจรปล้นร้านเบเกอรี่  ”

    “ สมควรแล้วทีเราเลิกกัน ” พูดจบ เธอก็ถอนหายใจ เป็นเสียงถอนลมหายใจที่เครียดที่สุดเท่าที่เคยได้ยิน
    ผมหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมานับเงินแล้วบอกเธอว่า

    “ สั่งเพิ่มก็ได้นะ ผมเลี้ยงเต็มที่ ”

    “ พอแล้ว ฉันอิ่ม ”  เธอตอบสั้นห้วน สีหน้าท่าทีหงุดหงิดในอารมณ์  คล้ายรำคาญคู่สนทนาที่เป็นเจ้ามือขนมมื้อนี้  “ เธอจะสั่งกาแฟเพิ่มก็ได้นะ ฉันเลี้ยงค่ากาแฟเอง ”

    ผมโบกมือเรียกพนักงาน สั่งคาปูชิโน่ร้อนและขอชาเขียวไว้ล้างปากหนึ่งถ้วย

    “ นี่ฉันพูดเล่นนะ เอาจริงเหรอ ”

    ผมเพียงไม่เคยขัดใจใคร  ดังนั้นตอนเธอขอเลิกกันจึงไม่มีการใช้ความรุนแรงเพื่อฉุดยื้อ  นอกจากใช้แรงใจเพื่ออดทนในวันที่ใครบางคนไม่อยู่และถึงอยู่ก็ไม่เหมือนเดิม  ใช่ เธออ้วนขึ้น

    “ ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวผมจ่ายเองก็แล้วกัน ”

    “ เอาน่า ฉันล้อเล่น เธอก็รู้ว่าฉันก็ทีเล่นทีจริงไม่แพ้กันหรอก ถามอีกทีนะ ทำไมเธอถึงยอมเลี้ยงเค้กฉัน ”

    ผมเอามือประสานกันวางบนโต๊ะ โน้มตัวมาข้างหน้า รู้สึกอึดอัดนิดหน่อย

    “ ผมคิดถึงวันเวลาเก่าๆของเรา ..”

    “ วันเวลาเก่าของอดีตคนรักของเธอ  ไม่มีเวลาไหนได้กินเค้กกับคนรัก ..”

    “ ผมรู้ว่าเราไม่มี และผมก็เอาแต่กินกาแฟ  พอคิดถึงช่วงที่เราอยู่ด้วยกันแล้วมันอบอุ่น และเวลาที่เราพบกันทุกครั้ง ผมก็ไม่อยากให้มันหมดไปเลย  ผมเพียงอยากเราอยู่ด้วยกันนานขึ้น  ถ้าขนมเค้กทำให้ผมได้อยู่กับคุณนานขึ้นอีก คุณจะกินกี่ชิ้นก็ได้  มันฟังดูตลกแต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ ”

    “ ฉันเอง ก็เหมือนกัน ดังนั้นฉันถึงไม่เคยห้ามคุณกินกาแฟจริงๆจังเสียที ..อีกอย่างพ่อฉันเพิ่งเผาเมื่อสองสัปดาห์ก่อน  ถึงกาแฟจะไม่ใช่สาเหตุหลักของโรคความดันโลหิตสูง แต่เธอลดปริมาณลงบ้างก็ดีนะ ฉันขอร้อง ”  

    “ ในฐานะไหน เพื่อนสนิท หรือ คนรัก ..” ผมถาม

    หลังจากเป็นคนรักเก่า เราพบกันแบบเพื่อน หลายครั้งในชีวิตคนเรา ความรักมักก่อตัวมาจากความเป็นเพื่อนมิใช่หรือ

    “ เราต่างคนต่างมีแฟนแล้ว ดังนั้น คงต้องบอกว่า ฐานะคนเคยรัก...ใช่ ... ยังรักอยู่  ถ้าในช่วงสองปีที่เราคบกันเรามีช่วงเวลาดีแบบวันนี้ คุณกินกาแฟ ฉันกินเค้ก บางทีเราอาจไม่ต้องเลิกกันก็ได้  ”

    “ หมายความว่า เราเลิกกันเพราะเรื่องกิน มันฟังแล้วไม่ค่อยโรแมนติกเท่าไหร่ ..”

    “ ไม่ใช่หรอก เราเพียงไม่มีเวลาดีๆด้วยกันจริงๆเสียที  เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน รักมักจะมีความสุขอยู่แค่คนเดียว ในขณะที่อีกคนทำได้แค่เฝ้ามองโดยไม่ขัดขืน  ฉันรู้ว่าเรื่องของเรามันดูดีในสายตาของใครหลายๆคน แต่ความรักที่มีความสุขอยู่ฝ่ายเดียว มันไปไม่รอดหรอก ”

    “ แต่...คุณน่าจะบอกผม ผมปรับปรุงตัวได้ ”

    “ สองปีกว่า คุณน่าจะรู้จักฉันดีแล้วนะ หรือไม่ก็น่าจะสังเกตท่าทางฉันออกบ้าง ”

    พฤติกรรมและความรู้สึกนึกคิดของใครสักคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตจนแทบกลายเป็นส่วนใหญ่ เราล้วนล่วงรู้กันดีโดยมต้องอาศัย  ไม่ใช่หรือ  จู่ๆผมก็คิดแบบนั้นอีก และยอมจำนนต่อเหตุผลของเธอ

    “ เรายังรักกันใช่ไหม ? ” ผมถาม

    “ ในทางความรู้สึกนั้น ใช่แน่นอน ”


    เธอตอบผมเท่านั้น แล้วสั่งเค้กชิ้นที่สาม  ผมจิบกาแฟถ้วยที่สอง ระหว่าเราปราศจากคำพูดใดๆอีก มีเพียงสบตาแล้วยิ้มให้กันในบางครั้ง เธออ่านนิตยสารและกินเค้ก ผมจิบกาแฟพลางมองดูผู้คนผ่านไปมา  มีบางช่วงขณะที่ผมรู้สึกว่าในความทรงจำของเราไม่เคยมีบรรยากาศเช่นนี้เลย

    เราเคยเป็นเลขสอง แต่ตอนนั้นเราเป็นสองที่เพียงเอาขีดสองขีดมาวางคู่กันแบบตัวเลขโรมัน  ตอนนี้เราเป็นเลขสองที่ใช้สัญลักษณ์เลขอารบิก

    เพราะถึงจะบอกว่าเป็นสอง แต่ตัวเลขสองแบบอารบิกก็มีเพียงตัวเดียวเท่านั้น

    จากคุณ : กาแฟสอง - [ 24 ส.ค. 50 02:32:00 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom