ขอบคุณเหลือเกินความรักที่เดินทางมา ทำให้คนอย่างฉันรู้ว่าเธอสำคัญเพียงไร
คุณเชื่อไหมว่าฉันเกิดมาท่ามกลางความอบอุ่นของครอบครัวที่มีอัตราส่วนเพศชายมากกว่าเพศหญิง จนบางครั้งในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงของชีวิต ฉันเกือบคิดไปว่า ฉันเกิดมาถูกที่หรือเปล่านะ หรือพระเจ้าให้เพศฉันผิด เปล่าเลยมันไม่ได้น้อยเนื้อต่ำใจอะไรหรอก เพราะตอนนี้ฉันจะนำเรื่องราวส่วนเสี้ยวของความรัก ที่พี่ชายสุดที่รักแต่ละคนของฉันมาเขียนเล่าให้เพื่อนๆ อ่านกัน (เพื่อเป็นการแก้แค้นเล็กๆ น้อยๆ ตามประสาน้องสาวคนเล็กของพี่ชายทั้ง 5 คน อิอิ)
พี่ชายคนโตของฉันชื่อ วสุธา ศิขรินทรา เรียกง่ายๆ ว่า ดิน ย่อมาจาก แผ่นดิน คุณวสุธาแกถือสิทธิขาดความเป็นพี่ชายคนโตด้วยชอบธรรม เพราะบังเอิญเกิดก่อนพี่น้ำเพียงสามนาที เท่านั้น เน้นว่า เท่านั้น ซึ่งต้องกลายเป็นพี่ชายคนรองไปโดยปริยาย เฮ้อ น่าสงสารจัง....
คุณวสุธา หรือ แผ่นดิน แต่ต่อไปนี้จะเรียก พี่ดิน พี่ดินแกจบบริหาร MBA แต่ตอนนี้ดันเปิดร้านขายกาแฟแถวๆ ลาดพร้าว แกบอกว่ากิจการเล็กๆ ก็เพียงพอต่อชีวิตของแกแล้ว ร้านนี้จึงกลายเป็นที่สิงสถิตของน้องๆไปโดยปริยายเช่นกัน แม้ว่าร้านจะเล็กแต่ลูกค้าก็ไม่น้อยตามลงไป กำไรอยู่ตัวหรอก
ทุกเช้าก่อนออกไปเปิดร้าน พี่ดินต้องตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้าให้พวกเราทั้ง 5 คน ไม่อดตายตอนเช้า (จริงไม่ตายหรอก ก็ว่าไปเรื่อย) แล้วบางวันก็หอบหิ้วฉันไปโยนไว้แถวๆ มหาวิทยาลัยก่อนจะไปเปิดร้าน ร้านกาแฟเล็กๆ ที่มีที่นั่งไม่มากนัก มีชั้นหนังสือที่ถูกอัดแน่นด้วยหนังสือนานาชนิดที่วางไว้ให้บริการแก่ลูกค้า โทนสีน้ำตาลอ่อนของร้านดูสบายตาน่านั่ง(สำรวจจากผู้พบเห็น) ชีวิตที่ดูเหมือนจะสบายๆ ซ้ำไปซ้ำมาของพี่ดินดูสงบสุขดีหรอกนะ ถ้าวันนั้น.....
วันที่ฝนตกลงมายังกับฟ้ารั่ว ทั้งที่นาฬิกาเพิ่งบอกว่า บ่ายโมงเองนะ ภายในร้านจึงมีลูกค้าบางตา
กริ๊ง ก๊อง กริ๊ง ก๊อง กริ๊ง ก๊อง
เสียงสัญญาณดังจากประตูหน้าร้านดังขึ้น เพื่อบอกว่าลูกค้ากำลังจะเข้าร้านแล้ว
บ้านศิขรินทรา ยินดีต้อนรับครับ หญิงสาวผมซอยสั้น พร้อมกระเป๋าเป้ใบโต เดินเข้ามาในร้าน
ขอโทษทีนะค่ะ พอดีฝนตกมากะทันหัน ร้านเลยเปียกหมดเลย วารีบอกออกไปเมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูง ผิวขาว ในชุดผ้ากันเปื้อนของร้านเดินเข้ามาทักทาย
ไม่เป็นไรครับ เชิญเข้านั่งก่อน หน้าตาดีจัง วารีคิดก่อนจะเห็นชายหนุ่มบอกหญิงสาวตัวอ้วนๆ หน้าตาน่ารักคนหนึ่งให้นำผ้าขนหนูมาให้เธอ ก่อนที่เขาจะเดินไปหลังร้าน
เชิญค่ะ ใช้ได้ ฟานรับรองว่าสะอาด หญิงสาวที่แทนตัวเองว่าฟานส่งผ้าผืนเล็กมาให้ ก่อนจะพาเธอไปนั่งที่มุมด้านในของร้านตามความต้องการ
พี่ชื่ออะไรหรือค่ะ เราชื่อฟาน ฟาน หรือฟานรีแนะนำตัวกับหญิงสาวผมสีชมพูซอยสั้นตรงหน้า
วารีจ้ะ แต่เรียกพี่ว่าน้ำก็ได้นะ วารีตอบพร้อมกับส่งผ้าที่บัดนี้เปียกชื้นให้กับฟานรี ซึ่งขอคืนหลังจากที่เห็นว่าเธอใช้เสร็จแล้ว
ว้าว จริงหรือค่ะ ชื่อเหมือนพวกเราเลย วารีมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างงงๆ แต่ก่อนจะได้ถามอะไร เสียงชายหนุ่มในชุดผ้ากันเปื้อนคนเดิมก็เรียกสาวน้อยที่แนะนำตัวว่าชื่อ ฟานรีไปเสียแล้ว
จะรับอะไรดีครับ ชายหนุ่มคนเดิมเดินเข้ามาถามเธอพร้อมกับส่งเมนูแผ่นเล็กให้
ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่น้องสาวผมมาวุ่นวาย
ไม่เป็นไรค่ะ ฉันสิต้องขอบคุณที่ช่วยเหลือ วารีกล่าวขอบคุณพร้อมกับรอยยิ้มที่เธอคิดว่าเป็นมิตรที่สุดส่งไปให้ชายหนุ่ม
งั้น ขอชาร้อนดีกว่าค่ะ รู้สึกว่าอากาศจะเย็นทีเดียว
สักครู่นะครับ ชายหนุ่มเดินกลับไปยังเคาน์เตอร์ของร้าน
หล่อจัง ผิวซ้วย สวยยังกับผู้หญิง เสียงไพเราะกังวานจัง วารีคิดขึ้นขณะที่ชายหนุ่มเดินกลับไป ก่อนจะหันกลับมาจมอยู่กับเรื่องราวของหนังสือเล่มหนึ่งที่ชายหนุ่มหยิบมาให้อ่านข้ามเวลาระยะรอให้ฝนหยุด เราจะข้ามเวลามาพบกัน
เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ แต่ถ้วยชาที่ตอนแรกมีไออุ่นจากควันรอยขึ้นมาบัดนี้เย็นราวกับน้ำในตู้เย็นก็ไม่ปาน จนทำให้วารีต้องลุกขึ้นไปที่เคาน์เตอร์
ขอโทษค่ะ หญิงสาวผมชมพูซอยสั้น วสุธาคิดเมื่อถูกเรียกจากงานที่กำลังทำอยู่หลังเคาน์เตอร์
รับอะไรดีครับ หรือว่าเบื่อ แต่คงต้องรอให้ฝนหยุดก่อน คุณวารีถึงจะไปได้
เปล่าค่ะ แต่คุณ....รู้ชื่อฉัน หญิงสาวถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเขาเรียกชื่อเธอ
ครับ ยายฟานมาแนะนำคุณให้ผมฟังแล้ว ว่าแต่จะรับอะไรดี วสุธาถามด้วยเสียงที่เป็นกันเองขึ้นว่าเดิม สวย น่ารักจัง เหมือนที่ยายฟานว่าจริงด้วย วสุธาคิด
คือ ค่ะ ฉันต้องการชาเพิ่ม ถ้วยเก่ามันเย็นหมดแล้ว หญิงสาวบอกพร้อมกับส่งถ้วยชาใบเก่าให้กับชายหนุ่ม
ลองชาตระไคร้ไหมฮะ ผมเพิ่งลองเอามาขายที่ร้าน อร่อยดีทีเดียว วสุธาบอกพร้อมกับรินชาตระไคร้ในกาใบเล็กในถ้วยชาของเธอ ไอบางๆรวยระรินให้ความรู้สึกอุ่นขึ้นมา วารียกขึ้นมารับความอบอุ่นนั้นก่อนจะจิบความอบอุ่นนั้นลงไป
อร่อยจัง หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างร่าเริง น่ารัก วสุธาคิดก่อนจะส่งยิ้มกลับไปให้เธอ
ดีจัง ที่คุณชอบ
ขอบคุณค่ะ วารีเดินกลับมาที่โต๊ะมุมเดิม พร้อมกับความอบอุ่นบางอย่างที่เข้ามากระทบจิตใจ เหมือนกับว่าเสียงเรียกจากหัวใจกำลังบอกว่า พบแล้ว พบแล้ว เขาที่รอคอย วารีเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง มองเห็นผู้คนผ่านไปมาอย่างเร่งรีบทั้งที่ฝนกำลังตกลงมาเพื่อให้คนชะลอความเร่งรีบนั้นบางลง โลกภายนอกที่แตกต่างกับที่นี่ ในนี้อย่างสิ้นเชิง
วสุธาเช็ดแก้วใบสุดท้ายเสร็จ เขาจึงเดินเข้าไปในห้องเล็กๆ ของร้านที่เป็นที่พักสำหรับครอบครัวยามมานั่งเล่นที่ร้าน เขาพบน้องสาวคนเดียวของบ้านกำลังนอนหลับสนิทบนโซฟานุ่มราวกับยึดครอง บนโต๊ะเต็มไปด้วยกระดาษรายงานที่ถูกเขียนบ้าง ขยุ้มทิ้งบ้าง วสุธายิ้มอย่างเอ็นดู ภาพของหญิงสาวตาโต ผมสีชมพูเข้ามาห้วงความคิด ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน วสุธาคิด วารี หญิงสาวผมซอยสั้นทันสมัยด้วยสีชมพูอินเทรน รอยยิ้มนั้นแม้จะสดใสแต่ก็แฝงความเหงาอย่างร้ายกาจในดวงตา วสุธาจึงเดินออกมาภายในร้านซึ่งบัดนี้ไม่มีลูกค้าอื่นนอกจากหญิงสาวคนนั้นคนเดียว เธอยังคงเหม่อมองออกไปข้างนอก โดยไม่รู้ว่าหนังสือบนตักกำลังไหลลงสู่พื้นช้าๆ
แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 50 16:18:19
จากคุณ :
ตาติลา
- [
24 ส.ค. 50 16:17:39
]