Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    >> เพียงแรงเฉียดไหวของไหล่ที่สวนทาง <<

    ผมไปเดินตลาด

    ตลาดนัดเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใจกว้างที่สุดในโลก  ทุกชนชั้นเข้ามาเดินเล่นอย่างสบายใจไม่ต้องห่วงหน้าตาและไม่ต้องกังวลราคาสินค้า  ต่อให้บวกกำไรเข้าไปแล้วก็ยังไม่แพงไปกว่าค่าขึ้นหิ้ง  ที่สำคัญตลาดไม่เคยเหงา แม้ตลาดที่ไม่ค่อยมีคนเดินก็ยังมีเสียงสนทนาของบรรดาพ่อค้าแม่ขาย  หัวเราะหยอกกันเล่น หรือไม่ก็ปะคารม  ด้วยระดับเดซิเบลที่แปรผันตามเหลี่ยมมุมของความสัมพันธ์

    มีผู้คนเดินเฉียดไหล่ในตลาดกว่าร้อย อาจเคยกระทบกันเมื่อวันก่อน เพียงแต่เราไม่เคยใส่ใจ อย่างมากเพียงพยักหน้ากล่าวขอโทษ แล้วก็ลืมกันไป ด้วยกลไกการให้อภัยระดับสัญชาตญาณ   ไม่เหลือแรงแค้นเคืองใจไว้ให้หนักอก

    หลายชีวิตเพียงเฉียดไหล่แล้วกลายเป็นอดีต แม้ช่วงของการสะกิดกันจะลึกซึ้ง แต่ถ้าปล่อยผ่านไปแล้ว เราก็ปล่อยให้ผ่านไปเป็นส่วนใหญ่  ไม่มีใครทราบวันเวลาข้างหน้าว่าเรื่องระหว่างคนสองคนที่พบกันจะดีหรือร้าย  บางครั้งเราอยากให้ออกมาดี แต่ด้วยตัวแปร ณ โมงยามขณะนั้น  อาจทำให้เราคิดว่าเกินกำลัง เหนื่อยเกินไป  ไม่มีหวัง หรือก้าวออกไปแล้วปล่อยเอาไว้ครึ่งๆกลางๆ  

    ทิ้งวันเวลาของเราเอาไว้อย่างนั้น ใช้ชีวิตตามเวรกรรมที่ได้รับแบ่งมาจากหลายภพชาติ  จนกระทั่งวันเวลาที่ยาวนานได้นำใครบางคนมาพบเราอีกครั้ง

    ระหว่างร้านขายของ ผมเจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งไม่เคยคิดว่าจะได้เจอกันอีก บอกตามตรงว่าเธอหายไปจากความคิด ทั้งๆที่ช่วงหนึ่งของชีวิต ผมเคยคิดถึงเธออยู่ทุกวัน

    คนรักเก่า  ถ้าหมายถึงแค่ฝ่ายเดียวก็คงใช่   ในความจริงระหว่างเราเรียกแบบนั้นยังไม่ได้เลย  ผมกับเธอก็แค่คนที่รู้ว่าต่างฝ่ายต่างมีตัวตนในบทบาทหน้าที่ทางสังคม  มีโอกาสเดินสวนทาง สบตา และยิ้มให้กัน  

    จนกระทั่งพรหมลิขิตเอาเราไปไว้คนละที่ทางบนโลก ไม่แน่ใจว่าเป็นบททดสอบหรือเวลาที่เป็นโอกาสระหว่างเราหมดแล้วและถึงเวลาให้โอกาสคนอื่นๆ  

    ผมอธิบายความรู้สึกของตนเองที่มีต่อเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ  บางทีอาจแค่หนุ่มติดสาวตามธรรมดาโลก

    ขอย้ำอีกที เธอหายไปจากความคิดของผมนานแล้ว   เมื่อไม่เคยคิดไว้ก่อน จึงรับมือช่วงขณะของการพบกันอีกครั้งไม่ถูก  ทำได้เพียงยิ้มทักและถามไถ่ที่มาที่ไปของกันและกันโดยไม่หยุดฝีเท้าที่กำลังก้าวเดิน   เรามีโอกาสเฉียดกันอีกหน ครั้งนี้เป็นเพียงเศษหนึ่งส่วนแสนของเมื่อก่อน

    รอยยิ้มของเธอเขย่าหัวใจของผมได้เหมือนเดิม  ไม่มีใครแกร่งพอทานทนอดีตแสนหวาน  

    พอจากมาแล้วจึงคิดออก  การพบกับใครบางคนเป็นเรื่องสำคัญ  ความจริง  ควรแลกหมายเลขโทรศัพท์ของกันและกันเอาไว้  คิดล่วงไปถึงการชวนกินข้าวเย็น  เดินเล่นในเมืองตลอดทั้งคืน  หาเพลงฟังในผับ  นั่งดื่มที่ป้ายรถประจำทาง อาจเลยไปไกลถึงการหลับนอนด้วยกันในคืนนั้น  ตื่นขึ้นมาในเช้าของอีกวันด้วยความทรงจำแสนสุข  แล้วต่างคนต่างไปตามทางที่ตนจากมา  

    เป็นความคิดที่ค่อนข้างเห็นแก่ตัว แต่ถ้าต่างฝ่ายต่างมีความสุข มันอาจเป็นอีกช่วงหนึ่งในชีวิตที่มีความสุข

    ทั้งหมดเป็นเพียงความคิด บางที ผมอาจได้อิทธิพลจากภาพยนตร์โรแมนติกมากเกินไป  ทั้งฮอลลีวู้ด เกาหลีและญี่ปุ่นหยิบจับเรื่องแบบนี้สร้างภาพยนตร์ขายดีมาแล้วหลายเรื่อง  ภาพยนตร์ไทยไม่ค่อยปรากฏ เพราะประการหนึ่งอาจไม่ผ่านเซ็นเซอร์หรือบางครั้งอาจขัดต่อศีลธรรมอันดีงาม  สังคมบ้านเรารับเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยได้  ให้ความสำคัญเรื่องผิดและถูกเหมาะและควรมากกว่าความสุข

    แค่สัมผัสรอยโหยหายในอดีต ความสุขชั่ววูบยาม จบลงตรงนั้น ไม่สานต่อไปจากนั้น  ส่วนใหญ่ที่เรื่องราวแบบนี้จบไม่สวย  เป็นเพราะคาดหวังความสุขเกินงามจากเวลานั้น หรือ มีบุคคลที่สามเข้ามาข้องแวะ

    แล้วเราก็เพียงเดินเฉียดไหล่กันอีกรอบ ได้ยิ้มทักกันอีกหน

    บางครั้งเราอาจเดินเฉียดความรู้สึกสุข เศร้า เหงา รัก ที่เคยเกิดขึ้นกับคนๆหนึ่งกับคนอีกคนหนึ่งในชีวิตปัจจุบัน รู้สึกว่าคนๆนี้ช่างคุ้นเคยเหลือเกิน ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อนสักนิดเดียว  คำอธิบายทั่วไประบุว่า เป็นกรณีของการได้พบเนื้อคู่ของตน
    แต่ในโลกที่พอโตขึ้นมาแล้วพบกับชีวิตที่ซับซ้อน  เราแทบจะก้มหน้าเดินถนน ปั้นหน้ายิ้มให้คนที่เราไม่อยากคุยด้วยและนั่งเฝ้าหน้าคอมพิวเตอร์แล้วใช้ตัวตนที่สองทำความรู้จักตัวตนที่สองของคนอื่นๆ   โอกาสที่เราจะเปิดใจรับใครในชีวิตจริงคงไม่ใช่เรื่องง่ายดาย  หากกามเทพมีอยู่จริง ผมว่าคงต้องใช้ศรที่คมเป็นพิเศษจึงทะลวงหัวใจของคนยุคสมัยนี้ทะลุ

    ความรู้สึกคุ้นเคยใครคนใหม่เหมือนได้รู้จักกันมาก่อน อาจเกิดจากความอบอุ่นจากใครบางคนในความหลัง  แม้เราจะลืมหน้าค่าตาของเขาไปแล้ว  แต่หยดหยาดของความรู้สึกดีๆต่อกันยังคงหลงเหลือไว้อย่างไม่รู้สึกตัว จนกระทั่ง รอยยิ้มจากใครสักคนทำให้ความรู้สึกส่วนนั้นสั่นไหวจนใจเต้นพอง  ..แล้วความรักก็ทำงานของมันไป

    คุยมาเสียยาวเหยีด บางทีเราอาจแค่ต้องการความโรแมนติกแบบในหนังสักเรื่องจริงๆ

    คนสองคนเฉียดผ่านกันด้วยรอยยิ้มเป็นจุดเริ่มต้นบางสิ่งบางอย่าง

    “ ..วิทย์ลงมาซื้อบุหรี่ที่บาร์  เขาได้พบกับเด็กสาวอายุคราวลูกชื่อพลอยมาขอบุหรี่  วิทย์จุดไฟให้  กินกาแฟด้วยกัน คุยกันเรื่องเพลง แล้วชวนขึ้นไปนอนพักผ่อนบนห้อง  ระหว่างทางเดินในโรงแรม ทั้งวิทย์กับพลอยบอกชื่อของตนแก่อีกฝ่าย เป็นหลักฐานว่าคนสองคนได้รู้จักกันแล้ว ...มีช่วงขณะที่ทั้งสองคนได้ใช้เวลาเพียงลำพังในห้อง เพียงคุยกัน นอนบนเตียงเดียวกัน กอดกัน แต่ไม่มีเซ็กซ์ ...มันทำให้วิทย์รู้สึกดี บางทีความอบอุ่นนั้น เขาอาจเคยได้รับจากแดงซึ่งเป็นภรรยาที่แต่งงานกันได้แปดปีมาก่อน ..ก่อนหน้านั้น  วิทย์บอกพลอยว่าความรักมันมีวันหมดอายุเหมือนปลากระป๋อง ...”
    (บางส่วนจากภาพยนตร์เรื่องพลอย โดยเป็นเอก)

    ความรักมันไม่มีวันหมดอายุหรอก มันยังอยู่กับเราเสมอ เพียงแต่ในโลกที่ถูกเปลือกต่างๆคลุมไว้หลายชั้น เราคงไม่ค่อยนึกถึงกันนัก ต้องรอสักวันหนึ่ง ให้ใครบางคนเฉียดเข้ามาใกล้ๆ แล้วทำให้หัวใจเต้นแรงจึงรู้สึกถึงความรักขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง


    ผมกลับจากตลาดทิ้งตัวลงบนเตียงนอนตะแคงขวา มองชั้นหนังสือ

    ชั้นที่สองจากด้านล่างเป็นหนังสือแนวบริหารจัดการห้าหกเล่ม

    คนบางคนเก่งการบริหารเรื่องการจัดการจนเขียนหนังสือเป็นร้อยๆหน้าและขายดิบขายดี ผมคิดว่าคนจำพวกนี้คงเชี่ยวชาญในการรับมือกับความหลัง อาจเชียวชาญถึงขึ้นดึงความหลังมาจัดการให้ได้อย่างใจคิด

    ผมพลิกตัวตะแคงทางซ้าย มองเห็นเพียงขอบเตียงและกำแพง

    แต่สำหรับคนบางคน

    ความหลังก็มีไว้ปล่อยให้ผ่านไป จะเฉียดเข้ามากี่ครั้ง....ก็มีไว้ปล่อยให้ผ่านไปจริงๆ

    จากคุณ : กาแฟสอง - [ 27 ส.ค. 50 19:21:48 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom