ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5777540/W5777540.html
ตอนที่ 2
น้องชายครึ่งปิศาจ
วันรุ่งขึ้น ณ วังเวหา หมอหลวงป๋ายวิ่ง(เลื้อย)ตุ้บตั้บหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องพลางร้องเรียกเสียงดังลั่นมาก่อนตัว
ท...ท่านชาย ท่านชายหมิงหลุนพระเจ้าค่ะ ! แต่แล้วกลับพบว่าในห้องมีแต่นางกำนัลประจำห้องเท่านั้น ส่วนเจ้าของห้องไม่ทราบหายไปไหนเสียแล้ว นางกำนัลหยุดงานในมือ และหันมากล่าวถามพร้อมกับตอบคำถามไปในตัวว่า
หมอหลวงป๋าย มีธุระอะไรกับท่านชายหรือเจ้าคะ ? เมื่อครู่ท่านชายบอกว่าจะออกไปเดินเล่นสักหน่อยน่ะเจ้าค่ะ
หา ? ออกไปแล้วเรอะ ? หมอหลวงป๋ายร้องเสียงหลง ใบหน้าสีเผือกเปลี่ยนเป็นดำคล้ำด้วยความตกใจสุดขีด
นางกำนัลถามอย่างประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ ?
ท่านชายเฉิงกวงกลับมาแล้วน่ะสิ ! ขาดคำ หมอหลวงป๋ายก็ตัว(เข่า)อ่อนยวบทรุดแปะลงไปนอนกับพื้นพลางครางฮือ คราวนี้...คราวนี้ตายแน่ๆ...
นางกำนัลหน้าซีดเผือดทันทีที่ได้ยินคำตอบถนัดหู
ท...ท่านชายเฉิงกวงหรือเจ้าคะ ?!
<>::<>::<>
ในสวนดอกไม้ของวัง หมิงหลุนเดินอยู่บนทางสายน้อยขนาบด้วยดอกไม้หลากสีนานาพันธุ์ ตัวเขาในเวลานี้ไม่มีอารมณ์จะมาชื่นชมทิวทัศน์รอบด้านเลยสักนิด เพราะในสมองเต็มไปด้วยคำถามมากมายมหาศาลวนเวียนไปมาโดยไม่สามารถหาคำตอบได้เลยสักคำถาม หมิงหลุนรู้สึกราวกับมีอะไรบางอย่างที่ไร้สภาพทว่าหนักอึ้งกดทับอยู่บนตัวจนแทบจะหายใจไม่ออกกระนั้น ทั้งไม่ว่าจะพยายามอย่างไร เขาก็สลัดภาพใบหน้าอันสิ้นหวังของเด็กชายคนนั้นออกไปจากสมองไม่สำเร็จอีกด้วย
เท้าที่ก้าวเดินไปเรื่อยเปื่อยชะงักลงเมื่อนางกำนัลหลายนางเดินผ่านมาย่อกายถวายบังคมพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้
คิกคิก ถวายบังคมเพคะท่านชายหมิงหลุน
อืมม์ หมิงหลุนทำเสียงรับคำในลำคอ พร้อมกันนั้นก็อดนึกกังขาไม่ได้ ...ประหลาดแท้ ทำไมพวกนางกำนัลตั้งเยอะแยะถึงเอาแต่ส่งยิ้มให้ข้ามาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วล่ะนี่ ? แถมยังยิ้มแบบแปลกๆ เสียด้วยสิ !... ชายหนุ่มสังเกตเห็นว่ากลุ่มนางกำนัลที่เอ่ยทักเขาเมื่อครู่ยังไม่ได้เดินจากไปไกล แต่พากันหยุดยืนส่งสายตาทอดสะพานมาให้ห่างจากด้านหลังของเขาออกไปไม่มากนัก ทำเอาเขาเห็นแล้วเสียวสันหลังวาบๆ อย่างไรชอบกล
ยังไม่ทันที่หมิงหลุนจะนึกออกว่าควรทำตัวอย่างไรดี ก็ได้ยินเสียงนางกำนัลผู้หนึ่งร้องตะโกนขึ้นว่า
อา ! ท่านชายหมิงหลุน ท่านชายหมิงหลุนอยู่ที่นี่แน่ะ !
และแล้วฉับพลันนั้นทางด้านหลังของนางก็มีนางกำนัลกลุ่มใหญ่เหาะลงมาจากฟ้าวิ่งตรงเข้ามาหาหมิงหลุนทันที !
โอ๋ ? ทันได้อุทานอย่างตกตะลึงเพียงแค่นี้ ก่อนจะถูกหมู่ผกานับหมื่นพันแห่กันเข้ามาห้อมล้อมในพริบตา
ท่านชายหมิงหลุนเพคะ ได้ยินว่าพักก่อนท่านทรงประชวร พวกเราเป็นห่วงกันแทบแย่แน่ะเพคะ ! นางกำนัลคนหนึ่งดึงมือหมิงหลุนมากุมพลางกล่าวเสียงออดอ้อน
ฮ่าฮ่าฮ่า อย่างนั้นหรือ ? หมิงหลุนกล้อมแกล้มรับไปตามแกน เพราะไม่ทราบจะตอบว่าอย่างไรดีจริงๆ
นั่นสินั่นสิ พวกเราหรืออยากไปเยี่ยมท่านจะแย่ แต่คนของวังเวหานี่สิเพคะ ดันไม่ยอมให้พวกเราเข้าไปเยี่ยมท่านชาย นางกำนัลอีกคนฟ้องด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียด
อาการของท่านชายดีขึ้นบ้างหรือยังเพคะ ? ที่บ้านเดิมของข้ามีตำรับยาโบราณอยู่เล็กน้อย ได้ยินว่าช่วยรักษาได้สารพัดโรคด้วยนะเพคะ !
ข้าช่วยไปเสี่ยงทายให้ท่านชายด้วยนะเพคะ !
......
......
หมิงหลุนผู้ไม่มีปัญญาดิ้นหลุดจากวงล้อมมองบรรดาหญิงสาวรอบด้านที่เอาแต่พูดประจ๋อประแจ๋ไม่ได้หยุดด้วยสีหน้าอยากจะร้องไห้
...สวรรค์ ! นี่เมื่อก่อนข้าใช้ชีวิตแบบไหนกันแน่ ?!...
ขณะที่กำลังนึกกลุ้มอกกลุ้มใจว่าจะเอาตัวรอดฝ่าวงล้อมหลบหนีไปอย่างไรดีนั่นเอง เสียงแค่นอย่างเย็นชาเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นทางด้านหลังอย่างได้จังหวะราวกับสวรรค์มาโปรด
หึ ! ยังชอบทำตัวล่อลวงหญิงสาวไร้เดียงสาอยู่เหมือนเดิมเลยนี่...อู๋หมิงหลุน !
ครั้นหันไปมองทางต้นเสียง ก็พบว่าผู้พูดคือหนุ่มน้อยรูปงามผู้มีนัยน์ตาคมกริบสีทองและเรือนผมยาวสลวยสีเงินซึ่งท่วงท่ากิริยายังแฝงความเป็นเด็กอยู่เล็กน้อย ที่น่าประหลาดคือ มุมปากของเด็กหนุ่มมีเขี้ยวดั่งเขี้ยวพยัคฆ์แลบโผล่ออกมาให้เห็น นัยน์ตาสีทองจ้องมองตรงมายังหมิงหลุนอย่างเย็นชา หนุ่มน้อยแปลกหน้าไม่เพียงแต่เอ่ยคำพูดด้วยน้ำเสียงถากถางอย่างชัดเจนเท่านั้น มือขวาซึ่งมีกรงเล็บยาวและดูแข็งแกร่งผิดมนุษย์ยังกุมอยู่ที่ดาบซึ่งแขวนอยู่ข้างเอวอีกด้วย ราวกับพร้อมจะเด็ดชีวิตหมิงหลุนได้ทุกขณะจิต
เมื่อเหล่านางกำนัลเห็นว่าผู้มาคือใคร ก็พากันกล่าวอย่างร้อนรน
อา ! ท่าน...ท่านชายเฉิงกวง ! ท่านชายหมิงหลุนเพคะ พวกเราคงต้องขอตัวก่อนนะเพคะ จบคำก็แห่กันจากไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางความงุนงงของหมิงหลุน
โอ๋ ? ชายหนุ่มมองตามหลังพวกสาวๆ ที่พากันเผ่นหนีหายไปอย่างรวดเร็ว ...ไหงแค่เดี๋ยวเดียวก็หนีไปกันหมดเสียแล้วล่ะนี่ ?... แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็รู้สึกขอบคุณหนุ่มน้อยผมเงินเป็นอย่างมากอยู่ดี จึงส่งยิ้มไปให้พลางพูดว่า ขอบใจเจ้ามากนะ
หนุ่มน้อยคลี่ยิ้มเย็นชา ชิ ! ขอบใจข้ารึ ? น่าขำสิ้นดี คำพูดแบบนี้ก็หลุดจากปากของเจ้าได้ด้วยงั้นรึ !
คำตอบบอกความเป็นอริอย่างชัดเจนของอีกฝ่ายทำเอาหมิงหลุนถึงกับอึ้ง ก่อนจะถามอย่างฉงน
เจ้า...คือใครหรือ ? ...ผมสีเงินนี่...เขาเป็นคนที่ข้าเห็นในความฝันอย่างนั้นหรือ ? แล้วเมื่อครู่พวกนางกำนัลเรียกเขาว่า ท่านชาย เหมือนข้า...แปลว่าเขาเป็นน้องชายของข้าหรือ ??...
อู๋เฉิงกวงนึกว่าอีกฝ่ายจงใจล้อเขาเล่น จึงแผดเสียงอย่างเดือดดาลสุดขีดจนผมแทบจะชี้ตั้งอยู่รอมร่อ
เจ้าชื่ออู๋หมิงหลุน ข้าชื่ออู๋เฉิงกวง เจ้าว่าข้าเป็นใครกันล่ะหา !
โอ๋ ? เจ้าไม่ใช่มนุษย์หรอกหรือ ? หมิงหลุนจ้องไปที่เขี้ยวที่แลบออกมาจากปากของอีกฝ่าย ...ก็ดูเขี้ยวนั่นสิ แล้วยังกรงเล็บนั่นอีก ดูยังไงก็ไม่เหมือนมนุษย์เลย แต่ว่า...ก็ไม่เหมือนปิศาจด้วยเหมือนกัน !...
คำกล่าวของหมิงหลุนทำเอาเฉิงกวงถึงกับตะลึง แต่ก็นึกขึ้นได้อีกฝ่ายอาจจะแค่แกล้งทำ จึงพูดตอบไปว่า
หึ ! ข้าไม่สนว่าเจ้าจะป่วยจริงหรือแกล้งป่วย ข้าเคยบอกไว้แล้วว่าข้าจะเด็ดชีวิตเจ้าโดยเร็วที่สุด ! มอบชีวิตมาซะเถอะ ! ขาดคำ ดาบที่ข้างเอวก็ถูกชักออกจากฝักฟันเข้าใส่หมิงหลุนในพริบตา !
ว้ากกกกก !! ไอ้เจ้านี่ไหงพูดปุ๊บลงมือปั๊บแบบนี้ล่ะหา ! หมิงหลุนร้องลั่นพลางรีบหลบทันควัน แต่แขนได้ถูกคมดาบของเฉิงกวงกรีดเป็นแผลเสียแล้ว ความรู้สึกเจ็บแปลบรุนแรงแผ่ขยายจากส่วนแขนลามไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว
หึ ! เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือว่าหากข้าอยากจะแก้แค้นละก็ เจ้ายินดีน้อมสนองทุกเมื่อน่ะ ? การที่อีกฝ่ายเป็นพี่ชายไม่ได้ทำให้เฉิงกวงมีทีท่าว่าจะยั้งมือไว้ไมตรีแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับเน้นโจมตีแต่จุดตาย หมายเด็ดชีวิตทุกท่าดาบเสียด้วยซ้ำ ราวกับว่าทั้งสองมีความแค้นอันลึกล้ำต่อกันกระนั้น !
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้เห็นหมิงหลุนเอามือกุมศีรษะวิ่งหนีอุตลุด เฉิงกวงก็อดนึกในใจด้วยความกังขาไม่ได้
...แปลกจริง เมื่อก่อนเจ้านี่มักจะหนักแน่นเยือกเย็นอยู่เสมอนี่นา ทำไมวันนี้ถึงได้ดูลุกลี้ลุกลนแบบนี้เล่า ?... เขารู้สึกราวกับว่าอู๋หมิงหลุนตรงหน้าในเวลานี้เป็นคนละคนกับอู๋หมิงหลุนคนก่อนหน้านี้อย่างไรอย่างนั้น ! นี่แค่ป่วยแค่พักเดียว มันจะเปลี่ยนแปลงกันได้มากมายถึงเพียงนี้เลยเชียวหรือ ?...
ข้าเคยบอกตั้งแต่เมื่อไรกัน ? เจ้าจำผิดแล้วมั้ง ! พวกเราเป็นพี่น้องกันแท้ๆ นะ ! หมิงหลุนตะโกนลั่นขณะที่ในใจพยายามคิดหาทางเอาตัวรอดอย่างสุดความสามารถ ...จะทำยังไงดี ? ในหัวมีแต่ความว่างเปล่า ทำไมข้าถึงนึกคาถาหรือท่าต่อสู้ตอบโต้ไม่ออกเลยสักนิดล่ะนี่ ? สมองเหมือนถูกล้วงไปจนกลวงอย่างนั้นล่ะ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ?...
โชคร้ายที่ดูเหมือนคำพูดของหมิงหลุนจะไปจี้จุดเดือดของอีกฝ่ายเข้าให้เสียแล้ว เฉิงกวงเค้นเสียงลอดไรฟันอย่างเย็นชา
พี่น้องงั้นรึ ? หึ ! มือตวัดปลายดาบชี้ใส่จมูกของหมิงหลุนทันที ข้ารอวันนี้มานานนักหนาแล้ว ไปตายเสียเถอะ ! เฉิงกวงเงื้อดาบขึ้นสูง แล้วตวัดฟันลงอย่างไร้ความปรานี
หมิงหลุนจ้องคมดาบที่พุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็วพลางแผดร้องสุดเสียงด้วยความหวาดกลัวจับขั้วหัวใจ
อ๊ากกกกก !!
ภาพสุดท้ายที่หมิงหลุนมองเห็นคือรัศมีสีขาวที่แผ่ขยายออกตรงหน้าเขาอย่างรวดเร็ว ครั้นแล้วทุกอย่างจึงดับวูบลง...
<>::<>::<>
จากคุณ :
ซีเรีย
- [
4 ก.ย. 50 05:30:30
]