Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    รสชาติชีวิตความเป็นครู....เจสซี่

    ตอน ปฐมบทแห่งอาชีพครู

    ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อยตัวนิดเรียนอยู่ชั้นประถม 2 ก็ได้รับการกรอกหูอยู่เสมอจากครูประจำชั้นว่า
    “โตขึ้นมา อย่าเป็นครู...ขอร้องกันตรงนี้”

    ครูพูดด้วยหน้าตา ท่าทางและน้ำเสียงจริงจัง พร้อมทั้งอธิบายเหตุผลหลักๆว่าการเป็นครูนั้นเหนื่อยแสนเหนื่อย (ตอนนั้นยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่พอมาถึงทุกวันนี้แล้วขอบอกกันซึ่งๆหน้าว่า เหนื่อยสุดๆเลยจริงๆ)
    เป็นความจริงที่ว่า เด็กๆทุกคนครั้งหนึ่งเคยคิดอยากเป็นครู ที่เปล่งประสิทธิสมบูรณ์ทางอำนาจ ฮ่าฮ่าฮ่า สามารถออกคำสั่งเป็นที่เกรงกลัว สามารถสอนหนังสือเด็กได้อย่างดี ได้ใส่ชุดสวยๆและรองเท้าส้นสูง (ซึ่งเป็นดั่งความใฝ่ฝันของเด็กผู้หญิงคนนี้มากๆ ขอย้ำ มากมาก)
    แต่เมื่อได้รับฟังคำบ่นของครูบ่อยๆว่า เป็นครูแล้วเหนื่อย เงินก็น้อยยยยย...อย่างแรง ก็คิดว่าโตขึ้นคนอย่างเราจะไม่เป็นครูแน่นอน ขอย้ำกัน ณ จุดนี้

    ตอนเรียนชั้นประถมมัธยม ครูเจสเป็นเด็กเรียบร้อยมาก ผมตัดสั้นระดับติ่งหู ติดกิ๊บ เรียบร้อยเชื่อฟังครูทุกอย่าง จนกระทั่งเอ็นทรานซ์ติด นิเทศศาสตร์ ลายเพิ่งออก ตัดผมซอยแบบที่ถ้าครูฝ่ายปกครองที่โรงเรียนสตรีวิทย์เห็นอาจแพ่นกบาลเอา

    เท่านั้นยังไม่พอ มีการย้อมผมเป็นสีทองเหมือนฝรั่ง จนเป็นที่ฮือฮามาก(ตอนนั้นคิดว่าที่คนฮือฮาเป็นเพราะ เราเท่ห์

    แต่ที่ไหนได้ แบบว่าหน้าเป็นหมวยเผือกมาก เพราะขาวอยู่แล้ว คิ้วก็ไม่ค่อยมี ยังย้อมผมสีเหลืองซะขนาดนั้น แหะๆ เป็นความผิดพลาดอย่างรุนแรงของชีวิตครั้งหนึ่งเลยล่ะคร้าบพี่น้องคร้าบ)

    ตอนนั้นคณะที่เรียนก็อยู่ตรงข้ามกับครุศาสตร์แท้ๆ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจบมาจะเป็นครูได้ เพราะคนที่เป็นครูอย่างน้อยต้องเรียบร้อยมากๆ ซึ่งนี่ไม่ใช่ฉัน คงไม่ใช่ฉัน ....อย่างแน่นอน

    พอเรียนจบก็เริ่มออกหางานทำ ได้ทำงานเกี่ยวกับการวางระบบคอมพิวเตอร์ และตรวจสอบคุณภาพสินค้า ทำไปทำมาก็พบว่า...ไม่ใช่ฉัน คงไม่ใช่ฉัน...อีกแล้ว

    เลยถามตัวเองว่าเราชอบและอยากทำอะไรที่ทำแล้วมีความสุข...ก็ตอบตัวเองได้ว่าไม่รู้...แป่ววว รู้อย่างเดียวว่าทำงานกับเด็กแล้วรุ่ง เพราะเคยเป็นพิธีกรรายการ Looney Tune ทางช่อง 3 แล้วรู้สึกว่าเวิร์คถึงเวิร์คมอร์ จึงสมัครเป็นครูที่ Brain School ซึ่งเป็นโรงเรียนเสริมทักษะด้านการคิดให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์

    ตอนที่ไปสัมภาษณ์รู้สึกประหม่ามากคือ แต่ไหนแต่ไรมาแค่ให้ขีดเส้นตรงเจสยังทำไม่ได้ ตัดกระดาษก็เบี้ยวบูดตูดลิง วันที่ไปสัมภาษณ์สร้างภาพสุดฤทธิ์ด้วยการแต่งตัวเป็นครูมากๆ เส้นเชิ้ตแขนสั้นสีโอลด์โรส กระโปรงทรงสอบสีดำ หน้าตาใจดี(ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติอยู่แล้ว)

    ครูใหญ่ถามคำถามโน้นนี้ แต่คงมีคำถามหนึ่งที่ทำให้ชนะใจกรรมการ ซึ่งคำถามนั้นก็มีอยู่ว่า

    “ทำไมถึงอยากเป็นครู?”
    ตอนนั้นตอบไปตามใจที่คิดว่า เราเข้ากับเด็กได้ดีจากประสบการณ์การทำงานเป็นพิธีกร และอยู่กับเด็กแล้วสนุกดีมีความสุข ที่สำคัญดิฉันคิดว่าตัวเองรักเด็ก

    พอพูดถึงตรงนี้ครูใหญ่ทำหน้าอึ้งๆแบบ จริงเหรอ ก็เลยพูดเสริมไปว่า

    “แม้ดิฉันจะไม่ได้เป็นนางงาม แต่ดิฉันก็รักเด็กจริงๆนะคะ”
    พูดจบครูใหญ่ก็หัวเราะ ฮ่าๆ แล้วขอดูพอร์ทโฟลิโอ และในที่สุดก็รับดิฉันเป็นครู
    วีดวิ่ว กิ๊วก๊าว ดีใจสุดๆ

    เริ่มมาทำงานเป็นครูฝึกหัดสอนที่โรงเรียนก่อนผ่านไปเป็นครูที่ Brain school center ซึ่งกำลังจะเปิด

    ช่วงนั้นตื่นเต้นมากๆได้เจอเพื่อนชื่อครูแอม ที่ช่วยสอนและแนะนำสิ่งต่างๆด้วยความเต็มใจ ให้กำลังใจสาระพัด จนสามารถเป็นครูเจสที่มั่นใจและสอนได้ดีเช่นทุกวันนี้(พูดทำไมหว่าเรา?) แต่ไม่พูดถึงคงไม่ได้เพราะถ้าครูแอมมาอ่านแล้วไม่เจอ อาจมีการงอนเกิดขึ้นได้

    ช่วงแรกๆที่สอนเด็กซึ่งไม่เคยสอนมาก่อนในชีวิต ตื่นเต้นมากๆ ทำอะไรขำๆสารพัด แก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างหมดแรง แต่ผลตอบแทนก็คุ้มค่านัก ผลตอบแทนที่ว่านี้คือรอยยิ้มและคำพูดซื่อๆจากเด็กๆว่า
    “หนูรักคุณครู”
    เด็กบางคนไม่อยากกลับบ้านถ้าครูเจสไม่ไปส่งขึ้นรถ ช่วงนั้นรู้สึกเหมือนเป็นนางฟ้า ฮ่าฮ่าฮ่า

    จนเมื่อโรงเรียน Brain School เปิดที่เซ็นทรัลและได้เป็นครูเต็มตัว จำได้ว่าตื่นเต้นมากๆไฟแรงลุกโชนท่วมตัว ทำการบ้านอ่านหนังสือเกี่ยวกับพัฒนาการเยอะมาก
    เมื่อมองย้อนกลับไปในวันแรกเริ่มต้นของอาชีพครู ทำให้รู้สึกประหลาดใจว่า เรามาถึงขนาดนี้ได้อย่างไร...มาเป็นครูเต็มตัว...มาเป็นครูที่ไม่เคยคิดว่าอยากเป็นหรือเป็นไปได้

    สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราอยากเป็นครูที่ดีที่สุดก็เพราะ เด็กๆและผู้ปกครอง ครูเจสรู้ดีว่าการจะเลี้ยงเด็กคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย และสิ่งที่ผู้ปกครองพยายามทำอยู่นี้ทำให้คิดได้ว่า สิ่งที่พวกเขาทำจะต้องไม่เสียเปล่า ครูเจสจะพยายามอย่างเต็มที่ในการสอนเด็กทุกคน(ที่อยู่ในกำมือ)ให้รู้จักคิดและเป็นเด็กที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์ และสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีงามต่อไป จากการวางรากฐานที่ดีในช่วงปฐมวัยนี้

    สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างช่วงที่เป็นครูสอนล้วนเป็นความทรงจำที่ “ขำ”และ สนุกจนมีเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง พร้อมที่จะฟังรึยังคะ ถ้าพร้อมแล้วลุย...เลยค่ะ

     
     

    จากคุณ : แยมส้มนมเนยช๊อกโกแลตหวานมัน - [ 4 ก.ย. 50 15:49:39 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom