ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อวันวาน ได้ยินข่าวแว่วๆ ว่า คดียังไม่สามารถ ลงตัวได้ เพราะ มีผู้เสียหาย เรียกเงิน กว่า 7 ล้านบาท อยู่สองท่าน  ได้ยินว่า คุณแม่ หมูแฮม ยังไม่ตกลง จ่ายให้ ได้ยินแค่นั้น...ก็รู้สึก เห็นใจ ผู้ได้รับเคราะห์ เหล่านั้นจริงๆ          หวังว่า กฎหมาย คงจะเป็นธรรม ขอแก้ไขเติมอีกนิด ได้ยินว่า คนขับรถเมล์กับกระเป๋า เรียกค่าเสียหายคนละ 7 หมื่น  แล้วยังไม่ตกลงกัน เรื่องรายละเอียดยังไม่ทราบ นะคะ นั่นเป็นข่าวทีวีวันก่อนที่ได้ยินน่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 50 02:36:45 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 5 ก.ย. 50 00:48:54 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ให้กฎหมายยุติธรรมอย่างใจคิด เมื่อพินิจพิศดูคงไม่ได้ จะใช้ความรู้สึกข้างในใจ มาตัดสินในคดีจึงไม่ควร ยังมีบทบัญญัติในกฎหมาย ข้อเท็จจริงทั้งหลายในบางส่วน ทั้งช่องว่างของกฎหมายตามกระบวน ที่ศาลต้องขวนขวายมาพิจารณา กฎหมายจะเป็นธรรมหรือไม่อยู่ในมุมมองของแต่ละคนครับ กรณีของหมูแฮมยังไม่ได้ฟ้องศาล การที่เขาจะจ่ายค่าเสียหายให้ผู้ได้รับเคราะห์หรือไม่ ถ้าจ่ายก็จะมีผลดีกับตัวเขาถือเป็นเหตุบรรเทาโทษแต่ถ้าไม่จ่าย ผู้เสียหายก็มีสิทธิยื่นฟ้องคดีแพ่งได้ ส่วนการฟ้องคดีทางแพ่ง ถ้าไม่มีเงิน ก็สามารถติดต่อสภาทนายความได้ครับ นอกเรื่องไปหรือเปล่านะตัวผม ขอกลับห้องศาลาประชาคมเลยดีกว่า เดี๋ยวอยู่นานจะถูกใครเขาต่อว่า ดันหลงมาตอบกฎหมายห้องกวี จากคุณ : leonnoom - [ 5 ก.ย. 50 02:06:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3    ด้วยความยินดีเป็นที่ยิ่ง ท่านมีสิทธิ์ท้วงติงได้เต็มที่ หากเป็นเรื่องกฎหมายยิ่งยินดี ท่านผู้อื่นจักได้มีแหล่งปัญญา         อันอารมณ์พอประสมกับความโกรธ ล้วนพิโรธเพราะจำเลยนั้นหายหน้า มิเคยเอ่ยขอโทษชาวประชา ทั่วพาราจึงคั่งแค้นแน่นระงม             หากออกมายอมรับกับผู้คน ที่ฉงน อาจหงุด ผุดผสม ยิ่งบิดาอาละวาดปาดคารม เหล่าประชาจึงเสียงขรมขึ้นทันควัน       ดีที่มีมารดาออกหน้าไว้ ลดความแรงลงไปเลิกหุนหัน แต่ความเนิ่นนานนี้มิดีพลัน เชื่อไหมท่าน..ยังมิตอบสอบปากคำ  ??? อันนี้ตอบแทนชาวประชา ทั่วไป ที่ได้ติดตามข่าวคดีนะคะ เห็นยังอ้างว่า ปวดหัวเป็นไขัทุกวันให้การไม่ได้ จริงเท็จเป็นอย่างไร มิทราบกว่านั้นนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ที่มาตอบกลอนให้ แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 50 02:34:37 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 5 ก.ย. 50 02:28:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไปโหวตแล้วค่ะ เก่งจังค่ะ โต้ตอบกันเป็นกลอน เห็นใครแต่งกลอนแล้วชื่นชมค่ะ เพราะรู้ว่าตัวเองไม่มีปัญญาจะแต่งได้เป็นเรื่องเป็นราว :o) จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 5 ก.ย. 50 04:42:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 .^ ) _ __ _ _ _ __ _  ( ^ จากคุณ : เอ่อ่อ่ะนะคะ - [ 5 ก.ย. 50 07:57:03 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ตอบ คห. 4 คุณ : กุลธิดา (kdunagin)       เพิ่งไปอ่านเรื่อง คุณหญิงไอรีณของคุณจบมา ขอยกย่องให้เป็นนักเขียนเรื่องภาษางามดีอย่างน่าติดตาม เต็มไปด้วยข้อมูลรายละเอียดได้ละแม้นยุคนั้น (ที่เราเคย ได้สัมผัสในวัยเล็ก...อันเป็นควันหลงจากยุคนั้น)           ขอบคุณที่ติดตามไปร่วมโหวต เพราะ ทุกคนก็ ไม่อยากให้คดีเงียบหาย จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 5 ก.ย. 50 12:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อคืนก่อนไปรับประทานอาหารเย็นงานเลี้ยงวันเกิดญาติ ณ ซอยลือชา ซอยหนึ่ง -สาม พหลโยธิน..ครบรอบวันเกิด คุณลุง อดีต อธิบดี อ.ต.ร. ท่านหนึ่ง....ได้แลเห็นเหล่าพี่น้องญาติใกล้ชิด สายตำรวจมากมาย แล้วก็นึกถึง คดีดังๆทั้งหลาย รวมคดีนี้ด้วยเช่น กัน ว่า...เขาจะ เห็นแก่ตัวและครอบครัวกันมากกว่าประชาชน หรือไม่ ?           หลายคนอาจจะคิดว่า ถ้าอย่างนั้น ผู้เขียนก็ ไล่ล่า เอากับ เด็ก ด้วยไม่เกรงใจเอาละสิ ?           หามิได้เลย สมัยเมื่อ ปี 2529-31 ประมาณนั้น ระหว่างปลาย ชีวิตแปดปีทำงานที่บริษัทโฆษณา ถนนคอนแวนต์....ได้มีเวลาไปเรียน ตัดเย็บเสื้อกับ อาจารย์ ดวงดาว ท่ามตระกูล ที่ สมาคมฝรั่งเศส อาลิยงซ์ ฟรงเซส์ นั้น..... ได้มีโอกาสใกล้ชิด โฉมงามคนหนึ่ง เป็นสุภาพสตรีน่ารัก ที่มาเรียนร่วมห้องกัน...ชื่อ คุณ สาวิณี  (ปะการะนัง) ...คนนั้น          เป็นคนสุภาพ เรียบร้อย อ่อนหวาน เป็นที่ยิ่ง...            จึงไม่มีอคติอะไรที่จะ  เขียนกลอนนี้ขึ้นมา...แต่โดย ความเนิ่นนาน ของคดีความ ที่ลากไป ..อะไร จะ เป็นเครื่องพิสูจน์ใจ ผู้พิทักษ์สัน ติราษฎร์ จึงต้องขออนุญาต เขียนกลอนให้สักครั้ง @@@@   แด่ประชาชนผุ้ทุกข์ยาก และ น้ำตาประชาชนที่รินไหลหลั่ง อันเนื่องมาแต่ความคลั่งของลูกของเธอ...@@@@@             หาก มันเกิดขึ้นกับหลานเรา ซึ่งเป็นลูกตำรวจ ด้วยกันทั้งนั้น เราในฐานะ อา ป้า ก็คงเจ็บปวดพอสมควร แต่จะ " วิ่งช่วยเหลือ" หรือไม่ ? ไม่ได้สำคัญเท่ากับ           " เด็กคนนั้นควรจะไป กราบขออภัย ผู้รับเคราะห์ เหล่านั้นด้วยตัว เอง แต่แรกเลย..."             ถึงแม้จะอ้างอาการป่วยอะไร ...ก็ ไม่อาจลบล้างรอยในหัวใจ ของทุกคนไปได้  ถึงคุณพ่อจะมาพูดขออภัยในภายหลัง ก็ยังฝังใจ ทุกคนอยู่           คุณแม่คงต้องทำหน้าที่หนักเหมือนเดิมนะคะ...น่าเห็นใจ .............ไม่ได้คิดโอ้อวด แต่จะบอกว่า เราก็ญาติกาหัวอกเดียวกัน.. .แต่ กฎหมาย ย่อมเป็นกฎหมาย จะหลีกเลี่ยงไปได้ ก็ได้เหมือนกัน ทว่า น้ำใจที่ให้แก่กันนั้น คนไทยเราเห็นสำคัญกว่าเงิน ... ............              น้องชายนายตำรวจของข้าพเจ้า ยังกำลังหัดเดินอย่างขะมัก เขมัน หลังจากปีกว่าผ่านไป จากการที่ถูก นักศึกษาเอแบค ขับรถชน กระเด็น...ก็ กล่าวถึงทุกครั้งว่า   ญาติพี่น้องทุกคน ไม่ติดใจเอาความ เด็กและ ครอบครัวเด็กคนนั้นกันเลย  เนื่องจากความมีน้ำใจ กุลีกุจอ รีบนำไปส่งโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในละแวกนั้น คือ สมิติเวช ศรีนครินทร์ และ แจ้งญาติของฝ่ายเราทันทีว่า น้องถูกรถชนอยู่โรงพยาบาล       แม้นว่า ค่ารักษาพยาบาลหลายล้านที่บริษัทประกันและ ครอบครัวเด็กคนนั้น พยายาม วิ่งหามาปะให้จนสุดฤทธิ์  (ก็ยังไม่พอ..) ก็คงไม่มีอะไรจะเทียบกับ ร่างกาย ที่ยัง มือหงิก งอ   แม้นจะจับปากกาเขียนหนังสือยังไม่ค่อยจะได้  ยังต้องใช้ระบบสวนทวาร เพราะระบบ ร่างกายมันไม่ทำงาน   สามารถคลานขึ้นมา นั่ง หัดเดินได้ก็บุญแล้ว เงินยี่สิบล้าน สามสิบล้าน ก็ยัง ไม่เทียบเท่าชีวิตน้องชายนายพันตำรวจ คนหนึ่งของเรา..ที่กำลัง จะรับตำแหน่งใหม่อยู่มะรอมมะร่อ ในปีก่อนนั้น ?           นั่นคือเหยื่อการขับรถคนหนึ่ง...แล้วเหยื่อประชาชนเหล่านั้น เขาไม่มีค่า ไม่มีราคา หรือ   เขาไม่มีความหมายที่จะไปเยี่ยมเยียน แสดงน้ำใจ ขออภัยเขาดอกหรือ ?             หวังว่า ท่านที่เตรียมถ้อยคำจะกระหน่ำกลับหรือ ปรามาส ผู้เขียนต่อไป ช่วยคิดดูสักหน่อย              เวทีละครชีวิตนี้ ม้นยุติธรรมดีจริงๆ               ภาพจากสองด้าน และ หลายด้านของชีวิต คงจะทำให้ หลายคน ที่ได้ไปอ่านกระทู้ รายวัน มากมายเหล่านั้น คิด และ คิด ว่า            คน ก็คือ คน          แต่ คน ก็มี น้ำใจ            เช่นกัน ครอบครัวเรา หากไม่ได้รับความดีมีน้ำใจของเด็กเอแบค คนนั้น ซึ่งแม้จะขับรถชนกระเด็นขึ้นพาดกระจกตัวเองแตกหมด ยังอุตส่าห์ อุ้มขึ้นรถ นำไปส่งโรงพยาบาลที่ดี่ที่สุดที่จะหาให้ได้  มิเช่นนั้น น้องเราคง ตายกลางถนนไปแล้วนั้น            ที่ญาติ อยากจะฟ้องเรียกสัก สิบล้าน ก็ นั่งเฉยอยู่ ปล่อยให้ตำรวจ เขาทำงานเขาไปตามระบบอาญา ไม่ไปก้าวก่ายเรียกแพ่งอะไรเพิ่มเติม ก็เพราะ ความดี ความเอาใจใส่ของเขา               ขออนุญาตนำ ความรู้สึกส่วนตัว อีกด้านของ มุมกลับในชีวิตสังคมนี้มาเขียนให้อ่านผสมกับเรื่อง หมูแฮม              ว่า อีก มุมกลับหนึ่ง ซึ่ง ตำรวจ ก็ถูก นักศึกษาชนจนเป็นอัมพาต ฉับพลัน ใช้เวลา ปีกว่า กว่าจะกำลัง หัดเดินอย่างหุ่นยนต์อยู่ขณะนี้...ก็เป็น อีก โศกนาฎกรรม บนท้องถนน ที่   พวกเขาก็ชดใช้กันสุดฤทธิ์ที่พวกเขาจะ ทำได้ ...พวกเขา อาจ ทำไม่ได้ อย่างหมูแฮม ก็ตรงที่ คนโดนชนเป็นตำรวจ เสียนี่ จะวิ่งล้มคดี คงยาก ...เท่านั้นเอง จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 5 ก.ย. 50 12:26:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณ คุณ : เอ่อ่อ่ะนะคะ หวังว่าคงไม่เครียดดอกนะคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 5 ก.ย. 50 12:42:17 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คดีหมูแฮม..ในมุมมองของหนู วันนี้คงไม่แต่งเป็นกลอนนะคะ เพราะเดียวอธิบายในสิ่งที่คิดได้ไม่หมดค่ะ หนูทราบว่าหลายคนไม่เข้าใจว่าทำไมหมูแฮมจึงทำเช่นนั้น เป็นเพราะการถูกเลี้ยงที่ตามใจมากรึเปล่าหนอ.. หนูอยากเล่าถึงคนที่เป็นสมาธิสั้นไฮเปอร์และบุคคลออทิติก ทั้งสามอาการไม่ใช่อย่างเดียวกัน แต่ก็ใกล้กันมาก เราจะพบว่าถ้ามีบุคคลในตระกูลใดเป็นสมาธิสั้น ก็มีแนวโน้มที่จะมีคนอื่นในสายเลือดเป็นอย่างหนึ่งอย่างใดในสามอาการนั้น คนโดยทั่วไปจะไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กคนนี้ซนจัง เด็กคนนี้ก้าวร้างวจัง หรือทำไมไม่นิ่งเลย   เด็กพวกนี้ถ้าได้รับการแก้ไขก่อน5ขวบ อาจจะกลับมาได้เกือบเหมือนคนปกตินะคะ แต่ถ้าไม่ได้รับการแก้ไข หรือพ่อแม่ไม่ยอมรับความจริง หรือพ่อแม่เองอาจจะเป็นอยู่ด้วยเลยไม่คิดว่าควรแก้ เด็กก็จะโตขึ้นมาแบบคนที่มีอารมณ์รุนแรงและควบคุมตนเองไม่ได้ในบางเวลา บุคคลพวกนี้น่าสงสารมากในสายตาของหนูเพราะเค้าก็ไม่มีความสุขในสิ่งที่เค้าเป็น บางครั้งเค้าก็อยากทำตัวให้คนอื่นรักแต่ทำไม่เป็น อาการชักของหมูแฮมในวันเกิดเหตุหนูเชื่ออย่างสนิทใจว่าหมูแฮมไม่ได้แกล้งทำ ที่พูดนี่หนูไม่ได้รู้จักครอบครัวนั้นเลยนะคะ แต่เป็นเพราะหนูศึกษาและสัมผัสกับผู้ที่มีอาการแบบนี้มามาก พอจะมองออกค่ะ และหนูไม่เคยคิดว่าหมูแฮมทำถูกนะคะ หนูกลับมองว่าน่าจะมีกฎหมายห้ามบุคคลบางพวกขับรถเพราะเวลาควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วจะมีความเสียหายเกิดขึ้นได้.. นี่เป็นเพียงแต่เรื่องที่อยากเล่าให้ฟังนะคะหาใช่จะมาคัดค้านใดๆไม่ค่ะ.. ด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ จากคุณ : ดั่งก้อนกรวด - [ 5 ก.ย. 50 13:28:07 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ ดั่งก้อนกรวดที่รัก       ในแวดวงคนรู้จักเราหลายคน เป้นโรคประหลาดขาดสติกันเยอะค่ะ แต่ พ่อแม่ ต้องทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี       โดยเฉพาะ ไม่ไปออกทีวีแต่เช้ามืดทั้งๆที่เมื่อคืนลูกเพิ่งวิ่งไล่ขึ้นชน คนตายโดยเจตนา ทั้งที่เขายืนรอรถเมล์บนฟุตปาธ         โดยการออกอากาศนั้น ประกาศว่า  " ก็คนนั้นมัน คนชั้นต่ำไม่มี การศึกษา "         นั่นคือเชื้อเพลิงกับน้ำมันเบนซินอย่างดีที่ใครก็รับไม่ได้          ถึงแม้จะ มาพูดขอโทษอีกครั้ง ก็ไม่สามารถทำให้ ผู้คน หายรังเกียจ โกรธเคือง โดยเฉพาะ การไม่ไป แสดงความรับผิดชอบ ไม่ไป งานศพ ผู้ตายที่เขาไม่ได้ผิดอะไร วิ่งไป ชนเขา ไปทับเขา แถม ใส่เกียร์เร่งเครื่องบรื๊นๆ อยู่บนตัวพวกเขาหลาย คนที่ติดอยู่ใต้ท้องรถ           เขาผิดอะไรหรือ ถึงต้องวิ่งขึ้นไป ประกาศศักดาขนาดนั้น            เวลาผ่านไป จนถึงวันนี้          ยังมีข้ออ้างว่า ป่วยลุกไม่ไหว ให้การไม่ได้          น่าสมเพชนักนะคะ          เรื่องป่วย แค่เป็นเรื่องข้ออ้างที่คนเขาไม่ได้สนใจค่ะ เขาสนใจ  "ทีท่า การออกมารับผิดชอบที่ถูกต้อง ต่อ สังคม และ ประชา ชนไทยที่ถูกกระทำอย่างไร้มารยาท "           นั่นต่างหาก ที่เขาต้องการ       ทุกคน จึง มองว่า เมื่อไหร่ คดีจะได้สอบสวนเสียที เมื่อไหร่ จะได้ขึ้นศาล เสียที ดั่งนั้นค่ะ น้องก้อนกรวด ลองคลิกเข้าไป หากข้อความในข่าวได้แต่วันแรกเลยนะคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 5 ก.ย. 50 13:47:12 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เรียนพี่tiki_ทิกิ ที่เคารพ.. ค่ะหนูก็ตามข่าวอยู่บ้างค่ะ และก็เคยคิดถึงความรู้สึกของผู้ที่สูญเสีย ทั้งๆที่พวกเค้าไม่มีความผิดใคๆเลย หนูคิดเสมอว่าชดเชยเท่าใดก็ไม่คุ้มกันค่ะ แต่ที่หนูเล่าให้ฟังก็เพียงแค่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครๆอีก คือหนูอาจจะพูดไม่ตรงจุด สิ่งที่หนูอยากสื่อออกมาจากเรื่องนี้ก็คือ การที่ลูกเป็นแล้วพ่อแม่ไม่ยอมรับไม่แก้ไข แล้วเกิดเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นหนะค่ะ หลายครั้งนะคะที่หนูเห็นว่าเด็กคนนี้เป็นแน่ๆเลย หนูต้องใช้ความกล้าอย่างมากมายที่จะเดินเข้าไปคุยกับพ่อแม่เด็ก และแนะนำให้เค้านำเด็กไปแก้ไข ทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่อะไรของหนูเลย และหลายครั้งที่พ่อแม่เด็กโกรธหนูมากๆเลยค่ะ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเสี่ยง เพราะกลัวว่าจะเลยวัยทอง5ขวบของการแก้ไขไปก่อนค่ะ สรุป..ง่ายๆก็คือหนูอยากให้คนเข้าใจถึงอาการเหล่านี้แล้วแก้ไขก่อนที่จะสายเท่านั้นค่ะ เพราะหลายท่านไม่เคยคิดว่ามีโรคแบบนี้ด้วยหนะค่ะ.. ด้วยความเคารพจากใจจริงค่ะ.. จากคุณ : ดั่งก้อนกรวด - [ 5 ก.ย. 50 14:16:49 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ : ดั่งก้อนกรวด   คะ         มีอะไรมากมายในโลกนี้ ที่เกินพละกำลังของเราที่จะเข้าไปแก้ไขได้ สิ่งที่ล่วงไปแล้วแก้ไขไม่ได้ แต่อาจเป็นอุทธาหรณ์ให้คนอื่นได้รู้สึก และ ระมัดระวัง มิให้เกิดขึ้น         เรื่องเล็กๆน้อยๆของการเลี้ยงดูลุกอย่างตามอกตามใจจนเคยตัว ก็สร้างให้ลูกกลายเป็นคนอันตรายในสังคม มีอยู่มาก พวกน้องๆในห้อง เฉลิมไทย เขาได้ วิพากย์วิจารณ์มานับแต่บทต้นๆ ที่ เข้าไปอ่านมาสอง เดือนที่ผ่านมาแล้วนะคะ...ถือว่า เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เป็นถ้อยคำวิพากย์ วิจารณ์ที่แม้จะแรงอย่างที่ ผู้ถูกวิจารณ์รับได้ยาก แต่เป็นสิ่งที่ดี เป็น เสมือนบทเรียนชีวิตที่ทุกคนควรจะได้ดู         แต่เสียดายอยู่อย่าง ที่ในวันนั้น เรามัวแต่ยุ่งเรื่องอันใดอยู่ มิได้ แนะชี้นำให้ พวกเราเข้าไปดูมาแต่ต้น หลายถ้อยคำวิพากย์นั้น เป็น ถ้อยคำ ที่ทำให้เรารู้จัก ถ่อมตน ถ่อมตัว ลงมา เสมือน การชักกระตุก ลูกโป่งที่กำลังลอยลิบลิ่ว ให้ลอยอยู่แค่ ที่ มีกำลังเหนี่ยวรั้งอื่น เหนี่ยวรั้งไว้        ........เช่นกันกับกระทู้นี้        พี่ทิกิ นำ เรื่อง น้องชายมาเปรียบเทียบให้ฟัง ถึง สภาพการณ็ตรงกันข้าม ระหว่างความได้เปรียบเสียเปรียบในสังคม              หาก เรา ในฐานะ ผู้ถูกกระทำ (แต่อยู่ในสถานะเหนือกว่าจำเลย ทุกประการ ) ทำอะไรรุนแรงกับจำเลยเกินไป... เด็กคนนั้น คงหมดสภาพ คงไม่อาจมีอนาคตต่อไปในสังคมได้เลย                 หากเรา กระหน่ำ ซ้ำเติมเขา เช่น เรา เรียกเขาสัก ยี่สิบล้าน ให้หายคุมแค้น ที่ ตำแหน่งหน้าที่การงานน้องเรา จักทำ "รายได้ในอนาคต" ทั้งศักดิ์ศรี เกียรติยศ และ ชดใช้ ด้วย ชีวิตเขาที่ไม่เหมือนเก่า เอาให้คุ้ม มันได้เงินมา ด้วย จำเลย ก็จะ ย่อยยับอับปางไปทั้งตระกูลกันทีเดียว                 ใช่ ในฐานะผู้นำครอบครัวของน้องชายนั้น เขามีภาระลูกชาย ที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัย ภาค Inter ซึ่งต้องใช้เงินมากมายในการเรียน เขา มี บ้าน อสังหาริมทรัพย์ทั้งเก่า และ ใหม่ ที่เพิ่งทำสัญญากู้แบงค์หลาย ล้าน... เขามีภาระ ดูแล แม่ และ อื่นๆ อีกมาก                 การ ทรงสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวของเขาที่ผ่านมาก็ ต้องใช้จ่ายสิ้นเปลือง กว่าชาวบ้านชาวช่องหลายคนอยู่                 หากเรา ทำเช่นนั้น ให้สมใจ สภาพเดิมของเขา กัน               แน่ใจว่า จำเลย จักต้อง ฆ่าตัวตาย เป็นแม่นมั่น               ในฐานะ โจทก์ของน้องชาย  สิ่งที่เขาทำ คือ ปล่อยไปเป็นหน้าที่ ของตำรวจ และ ทางราชการ ฟ้องร้องกันทางอาญาไป การที่จะได้ลดหย่อน ผ่อนโทษเหล่านั้น ก็ขึ้นอยู่กับ " ความเมตตาปรานีของศาล" ที่จะพิพากษา ลงมา                 หาก อ้าปากสักคำ แน่ใจ ว่า จำเลย ต้องตาย เอาทีเดียว แค่ หน้าที่การงาน  วงศ์ตระกูลของน้องชายแค่นี้ แค่ "ญาตินายตำรวจใหญ่ หลายตำแหน่ง " ที่เกี่ยวพันกัน   จำเลยแค่ได้เห็น ก็เข่าอ่อนกันไปหมดแล้ว ดังนั้น  สิ่งที่น้องชาย ข้าพเจ้าทำ คือ การอยู่นิ่ง  ยอมรับสภาพ "กรรมของตน " ว่าอาจเคยทำร้ายทำลายผู้ใด มาในอดีตชาติ จึง  " ให้อภัย" อย่างที่สุด แก่ จำเลย......             ข้าพเจ้า มิได้ติดตามคดีของน้องชายโดยละเอียด เพราะ หากตัว เองไปก้าวก่ายคดีเขา อาจทำให้ เกิดความ ไม่เป็นธรรม แก่ สังคม  เพราะ "ความรุ้สึกส่วนตัวของเราที่ ยัง เกรี้ยวโกรธ ที่น้องเราถูกรถชนจนปางตาย ปานนั้น " มันจะ กดทับความเป็นจริง                 ในทำนองกลับกัน                หาก จำเลย อย่างหมูแฮม ที่อยู่ใน สถานะ "สูงส่ง เลิศเลอ " ดังที่ว่ากันมาในข่าวมาตลอด    ก็น่าที่ หมูแฮม จะ " ชดใช้ให้สมควร "แก่ โจทก์ทุกคน และ ให้ความยุติธรรม แก่ คนที่เขามารับกรรม โดยไม่รู้อิโหน่ อิเหน่ นั้นเลย              ก็ คงตอบได้เท่านี้แหละค่ะ          ส่วนเรื่อง เจ็บป่วยอะไรของจำเลยคดีหมูแฮม ก็ สุดที่จะไปสืบค้น เป็นไปตาม คำแพทย์ทั้งหลายแหละค่ะ          ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมตอบนะคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 5 ก.ย. 50 22:51:58 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขออนุญาตค้อปี้ ข้อความในกระทู้ที่แนะนำมาที่นี่ ความคิดเห็นที่ 453   ถ้าคนไทยหนึ่งคนไม่ปลอดภัย คนไทยที่เหลือไม่มีใครปลอดภัย คนเลวย่ามใจ เพราะคนไทยหาดีแทบไม่ได้................มักง่ายเพียงประนาม หรือ รุมประชาทัณฑ์ ที่ผ่านมาคดีต่างๆ ทั้งที่ลงข่าว และ ไม่ลงข่าว มักหลุด เพราะไม่มีคนไทย แม้สักคนหนึ่ง ที่สนใจให้เกิดความเป็นธรรมจริงๆ ที่จะต่อสู้ ปกป้องผู้ที่อ่อนแอกว่า ที่จะยืนหยัด เป็นธงชัย ให้คนในสังคม มาร่วมแรง ร่วมใจกัน ต่อสู้ กับ อธรรม ทุกคน ต่างคิดว่า ไม่ใช่เรื่องของตน ขาดจิตสำนึกสาธารณะ ขาดชาตินิยม มุ่งแต่เอาตัวเองให้รอด มีแนวคิดที่ฝังลึกในวัฒนธรรมไทยมานานแล้วว่า ............รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี............. ซึ่งไม่ใช่เพียงบทกลอนอ่านเลยผ่าน แต่ฝังลึกในสันดานอย่างน่ากลัว ความย่ามใจในการทำผิด จึงเกิดขึ้นซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าในสังคมไทย เพราะย่ามใจว่า ชนชาติไทยนี้ จะหาคนที่รัก คนไทยคนอื่น ทุ่มเท เพื่อคนอื่น ที่ไม่ใช่คนในครอบครัวตัวเอง อย่างจริงจัง ไม่มีหรอก คนอ่อนแอ ที่โดนรังแก จึงถูกทิ้งให้ต่อสู้เพียงลำพัง และ พ่ายแพ้ในที่สุด ........ซึ่งคนอ่อนแอ และ พ่ายแพ้ นั้นเมื่อพิจารณาจนถึงที่สุดแล้ว ไม่ใช่ใครเลย.........ประเทศไทยเรานั่นเอง pandin.thai@gmail.com จากคุณ : แผ่นดินไทย  - [ 1 ส.ค. 50 15:07:22 ]       ความคิดเห็นที่ 454   ถ้าคนในสังคมไทย เห็นสิ่งที่คุณ tkl1982 กระทำ คือ รักความยุติธรรม แล้วลงมือกระทำให้เกิดผล แน่วแน่ มั่นคงไม่เปลี่ยนไป ฯลฯ แล้วหลายๆ คนทำตามอย่างคุณ tkl1982 ก็เชื่อได้ว่าสังคมไทยจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ยินดีที่สังคมไทยมีคนอย่างคุณครับ pandin.thai@gmail.com จากคุณ : แผ่นดินไทย  - [ 1 ส.ค. 50 15:15:13 ]   http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5650333/A5650333.html#453 http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5650333/A5650333.html#454 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 5 ก.ย. 50 23:32:01 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ด้วยความเคารพครับคุณ : tiki_ทิกิ ผมอยากจะบอกว่าระยะเวลา 2 เดือนนับตั้งแต่เกิดคดีจนถึงวันนี้ ถ้าในสายตาของบุคคลทั่วไปมันจะนานนะครับ แต่ถ้าในการดำเนินการด้านสอบสวนระยะเวลา 2 เดือนไม่นานเลยนะครับ ที่ผมบอกอย่างนี้ ไม่ใช่ผมเข้าข้างหมูแฮมหรือตำรวจ ถ้าจะพูดในลักษณะงานของผม ส่วนใหญ่มักจะอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับตำรวจ อย่าตกใจว่าผมเป็นโจรหรือผู้ร้ายที่ไหน ผมเป็นทนายความครับ และใจผมอยากให้หมูแฮมโดนลงโทษด้วย แต่ตอนนี้สงสารตำรวจครับ เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีท่มีคนจับตาดูกันมาก ผู้เสียหายก็เยอะ การสอบสวนก็ต้องใช้เวลาครับ เพราะถ้ารีบๆ สอบสวน อาจจะไม่ได้ข้อเท็จจริงที่จริง อีกทั้งตำรวจก็มีคดีมี่อยู่ในมือเยอะ ส่วนเรื่องหมูแฮมจะโดนลงโทษแค่ไหน ก็ต้องอยู่หลังจากนี้ เมื่อตำรวจสอบสวนเสร็จ ก็ส่งให้อัยการสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ถ้าสั่งฟ้อง ก้ต้องดูว่าศาลท่านจะพิจารณาพิพากษาอย่างไร และมันก็มีเหตุผลหลายอย่างที่จะทำให้หมูแฮมอาจไม่ต้องติดคุก หนึ่งในนั้นก็อย่างที่หนูดั่งก้อนกรวดว่าเป็นโรคจิตอย่างหนึ่ง ส่วนเรื่องค่าเสียหายนั้น อย่างไรผมว่าครอบครัวหมูแฮมเขาก็คงต้องจ่าย แต่เขาจะจ่ายให้แค่ไหน คงอยู่ที่สามัญสำนึกและความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของครอบครัวเขา อาจจะไม่เต็มตามความต้องการที่ผู้เสียหายอยากได้ แต่ผู้เสียหายก็มีสิทธิไปฟ้องทางแพ่ง แต่อย่างหนึ่งที่อยากจะบอก การที่ศาลจะสั่งจ่ายค่าเสียหายเท่าไร ก็ต้องดูหลายอย่างประกอบ อยากบอกว่าตอนนี้อย่าเพิ่งใจร้อนครับ ดูกันต่อไป อย่างน้อยคดีนี้ดัง และมีคนจับตา คงไม่หายไปเฉยๆ ครับ อาจจะดูว่านานแล้วในตอนนี้ ระยะเวลาที่หมูแฮมเขาทำผิด แต่อยากให้เพื่อนเพื่อนช่วยกันคิด การสอบสวนการทำผิดใช่ง่ายดาย คดีนี้คนสนใจมหาศาล อีกพยานในคดีก็มากหลาย ข้อเท็จจริงอื่นอื่นอีกมากมาย ที่ตำรวจต้องขวนขวายทำคดี การสอบสวนอย่างเร่งด่วนคงไม่เหมาะ ต้องวิเคราะห์ทั้งฝ่ายนู้นและฝ่ายนี้ ผู้ต้องหาผู้เสียหายพยานมี เป็นหน้าที่ตำรวจต้องสอบปากคำ อดใจรอกันหน่อยเถอะนะจ๊ะ คดีคงจะไม่จบแบบขำขำ ใครทำกรรมก็ต้องรับผลกรรม ที่เขาทำเอาไว้สักวันเอย แต่งกลอนไว้หน่อย เดี๋ยวเขาหาว่าผมเข้าห้องกวีแล้วไม่ยอมแต่งกลอน 5555 จากคุณ : leonnoom - [ 6 ก.ย. 50 00:16:54 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เรียนพี่ tiki_ทิกิ ที่เคารพ เมื่อวานหนูอ่านเรื่องของน้องชายพี่ข้ามไปได้ยังไงก็ไม่ทราบ คือเพิ่งมาเห็นและอ่านวันนี้นี่เอง หนูอ่านแล้วรู้สึกเข้าใจในสิ่งที่พี่พยายามที่จะบอก เห็นใจและซึ้งใจกับความงดงามของคนในครอบครัวของพี่จริงๆค่ะ และเสียใจอย่างมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้องชายของพี่ หนูก็ยังเป็นแค่เด็กถึงจะพยายามมองเรื่องราวต่างๆในหลายมุมแต่ก็ยังไม่กว้างพอ ขอบคุณนะคะที่แต่และกระทู้ของพี่มีสาระและข้อคิดดีๆเสมอ แต่ก็ต้องยอมรับอย่างไม่อายจริงๆว่าบางทีหนูต้องอ่านหลายรอบ ถึงจะเข้าใจอะค่ะแฮะๆๆ(หนูไม่ค่อยฉลาดนักอะค่ะพี่) แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 50 09:57:34 จากคุณ : ดั่งก้อนกรวด - [ 6 ก.ย. 50 09:55:29 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบคุณ น้อง ดั่งก้อนกรวดก่อนนะคะ           ห้องทุกห้องในพันทิป  เสมือนภัตตาคารใหญ่ในห้างสรรพสินค้า         ภัตตาคารเหล่านั้น เสิร์ฟอาหารรสโอชะ หลากรสไว้ให้ อยู่ที่เราจะ ไปลิ้มชิมรสหรือไม่   เปรี้ยว หวาน ขม เค็ม เผ็ด และมันย่อง มีทุกอย่าง         เช่นกันกับทุกความเห็นที่วางลงไป         ขึ้นอยู่กับคนเลือกจะรับประทาน         ขึ้นอยู่กับการ เคี้ยว กลืน  หรือ กลืนไปเลยไม่ได้เคี้ยว หรือ กลืนแล้ว เกิดระบบขับถ่ายเสีย ผ่านไปไม่ได้ย่อย         สุดแต่วิธีรับประทานของแต่ละบุคคล           ดังนั้น ใครจะได้ อะไร   หรือ ไม่ได้ อะไร มิใช่ แค่สติปัญญาของ แต่ละบุคคล  แต่ อยู่ที่ การมีเวลา พิเคราะห์ ทบทวน ไตร่ตรอง หรือ การ มีอคติต่อบุคคลจนลืมมอง สิ่งที่จะได้จากงานนั้นๆของเขา               ในกระทู้ " เสรีภาพสูง" อย่าง ห้องเฉลิมไทย ซึ่ง ใช้เสรีภาพ ปานกลาง พอสมควร   อคติ หรือ ไม่    ตามน้ำหรือไม่ อยู่ที่คนอ่าน คน วิจารณ์  และ การไตร่ตรอง                หลาย คำถาม และ หลายคำตอบวิจารณ์นั้น สะท้อนภาพ สังคม มาอย่างชัดแจ้ง   เสรีภาพในการ ตอบ คำ ยังมีอยู่ ตราบเท่าที่ คน อ่านจะ ไม่อคติ                คำตอบของพี่ทิกิ ที่นี่ก็เช่นกัน.....หาก ด้วยอคติส่วนตัว แน่ใจว่า พี่จะถูก "ด่า" อีกตามเคย ว่า ทำเป็นอวดใหญ่ อวดโต ฯลฯ อย่างที่เคยได้ ยินมา....หลายครั้ง                ยกตัวอย่าง หาก พี่ เขียนว่า ขี่มอเตอร์ไซค์ในซอยที่ฉวัดเฉวียน ไปด้วย เด็กมั่วยา และ ขี้สุนัข    เขาก็ลงมติว่า พี่อยู่ในสลัม...แต่ พี่บรรยายเวลาลงจาก "คอนโดชั้นกลางกลางเมือง" ผ่าน วิถีชีวิตพื้นถิ่นเหล่านั้น ไม่ได้แปลว่าเรา เป็น เด็กมั่ว หรือ ขี้สุนัข              หาก พี่เขียนว่า พี่ไปงาน คนใหญ่คนโต ก้ไม่ได้แปลว่า พี่เป็น คนใหญ่คนโต  และ คนหลายสิบล้านคนในประเทศนี้ เขาก็มี "ญาติโกโหติกา" เป็น คนใหญ่คนโต กันเยอะแยะไป แต่ หากเขามาเขียนกันหมดทุกคน ก็นับว่า บ้าจี้ กันไปเช่นกัน             พ่อเคยสอนเสมอว่า  ในฐานะผุ้ใหญ่ ย่อมต้องรู้ทุกอย่างแล้วจัด ระบบได้ว่า อะไรดี อะไรฝ่ายดี  อะไรชั่ว อะไรฝ่ายชั่ว          ในฐานะคนชั้นกลางธรรมดาสามัญอย่างเรา เราอยู่ตรงไหนก็ได้ จะไปนั่งกับชั้นสูงก็ไม่ได้ลำบากใจ  มีมารยาทดีพอจะเสวนาวิสาสะกับ ชั้นผู้ใหญ่เหล่านั้นไม่เคอะเขิน  จะไปนั่งกับชั้นธรรมดาสามัญทั่วไปใน ท้องถนนก็ รู้สึก ธรรมดา  เพราะ พ่อแม่ อบรมสั่งสอนมาให้เห็นค่าความ เป็นคน และ มองคนที่น้ำใจ มิใช่สินทรัพย์เงินตรา กับยศฐาบรรดาศักดิ์ ของเขา              และ สิ่งเหล่านี้ เป็น "สิ่งที่ข้าราชการไทยควรกระทำ" อย่างที่พ่อ พร่ำสอนให้ได้ยิน(จนเบื่อไปเลย) มาเสมอ           กระทู้ หมูแฮม กำลังจะกลายเป็นกระทู้  กรีดชั้นวรรณะ คนให้ สลายลงมาหรืออย่างไร  ?           คนที่น้บว่า ตัวเองสูง นั่น ย้อนกลับมานิดหนึ่ง  โดยตำแหน่งหน้าที่ ตระกูลท่านอาจสูงศักดิ์ แต่คนตระกูลสูงกว่า มีแน่นอน โดยตำแหน่งหน้าที่ ยศฐาบรรดาศักดิ์ ฐานะ  ท่านอย่าเอาสิ่งนั้นไป เชือดเฉือน ชาวบ้านร้านถิ่น เพราะ คนยิ่งอยู่สูง เขายิ่งทำตัวธรรมดาสามัญ เขาย่อม ค้อมหัวให้ประชาชน ด้วยความเคารพสิทธิมนุษย์  และ เขาย่อม "เงี่ยหูฟัง " สิ่งที่ "คนเหล่านั้นพูด"         ธรรม คือ ธรรมชาติ ของชีวิตนั้น         เป็น สากล         ขอบคุณที่ น้องดั่งก้อนกรวด มองเห็นสิ่งที่พี่พยายามพูด         โดย ฐานะ และ ตำแหน่งของ โจทก์ อย่างน้องชาย ย่อมต้อง เรียก ราคา ให้สม กับค่าความเสียหาย แต่ เขา "อภัยให้จำเลย" ซึ่งมิได้ "มีเจตนา"จะ ขับรถพุ่งชน ทำร้าย  การที่ เรา " ต้องเสียอะไรไปบ้าง " เทียบกับ "ความเสียหายตามฐานะ " มันไม่ ดีเท่า  " การประคอง มนุษยธรรมไว้ในสังคม "            ตายไป ก็เอาอะไรไปไม่ได้       ยังยืนยันอีกครั้งว่า ในฐานะ ตระกุล หมูแฮม  ควรจะ " ชดใช้เขาให้ พอที่ฐานะตนเองจะเกื้อกูลเหล่าคนที่ตนเรียกว่า -ชั้นต่ำ- นั้น ให้สาสมกับ ฐานะตนเอง" สิ  ถึงจะสมควร            ยกตัวอย่าง  ขอทานวิ่งชนคนถือแก้วแตก ขอทานอาจชดใช้ 10 บาท  เท่าที่ตนมี                 แต่ ท่านผู้สูงศักดิ์ วิ่งชน นอกจากจะต้องจ่ายค่าแก้ว ที่เขาซื้อมา ราคา 100 บาท ยังต้อง เสียค่า "ทำขวัญ" ที่เขาหกล้ม ขวัญหนีดีฝ่อ อีก 500 บาท ยังต้อง เสีย "ค่าเสียเวลา" ที่เขา ขาดรายได้ ทำมาหากิน มานั่งแจ้งความวิ่งไล่ตามคดี อีก วันละ 200 บาท รวม อีก 60 วัน คือ อีก 12000 บาท รวมทั้งสิ้น 12600 .- บาท ดั่งนี้ เป็นต้น            นี่แหละ ถึงจะเรียกว่า "ราคาสังคม คนชั้นสูง" จริงๆ หรือไม่ใช่ ? จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 6 ก.ย. 50 15:06:49 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ค่ะพี่..หนูเข้าใจและเข้าใจคำว่ารับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้นด้วยค่ะ เดียวหนูคงต้องไปแอบเข้าห้องเฉลิมไทยบ้างแล้ว..ยังมิเคยเข้าไปเลยค่ะพี่ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะพี่.. จากคุณ : ดั่งก้อนกรวด - [ 6 ก.ย. 50 19:05:18 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ : ดั่งก้อนกรวด คะ ยินดีที่ที่คุณ เข้าใจบางอย่างมากขึ้น        ขอนอกเรื่อง หมูแฮม ไปอีกสักเรื่อง แต่ก็เกี่ยวๆ ก้บการเป็น "ลูกหลานนายตำรวจใหญ่ " อยู่นั่นแหละ            ในช่วงที่น้องถูกรถขนทะร่อทะแร่ เข้าผ่าตัดด่วนอยู่  ในปีที่แล้วนั้น         น้องสะไภ้ ก็ เปรย ขึ้นว่า    "ทำไมคนดีดีอย่างพี่เค้าต้องเป็นอย่างนี้ไปได้ รู้ไหมพี่ "     ช่วงนั้น หาก ไม่วิ่งไปทำบุญให้ ตามที่ต่างๆ รวมทั้งโรงพยาบาลสงฆ์ และ การบริจาคซื้อโรงศพที่ วัดหัวลำโพง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ เราก็ไป พบกันที่โรงพยาบาล นั่งกันอยู่ตรงห้องรวมญาติด้านนอก       ชีวิตน้องยัง มีโอกาสตายเมื่อใดไม่มีใครรู้ได้ เครื่องมือแพทย์ทุกชนิด สายระโยงระยางรอบตัว  ...  โอกาสที่รอด แต่จะเป็นเจ้าชายนิทราก็เป็น ไปได้ 90 เปอร์เซ็นต์ ...โอกาสจะ เป็น ร่างกายก้อนเนื้อที่นอนนิ่งบนเตียง ทั้งชีวิต ก็ 99 เปอร์เซ็นต์...               แล้ว เรื่องบางเรื่องที่พี่น้องไม่เคยได้ยิน น้องสะไภ้ก็เล่าให้ฟัง         สมัยที่น้องชายยังอยู่แถวส.น.บางซื่อ นั้น ... วันหนึง ก็มี ชายหนุ่ม คนหนึ่ง มาจากต่างจังหวัด ได้ความว่า ลงรถที่จตุจักรแล้ว ขอความช่วย เหลือ มาตลอดทางจนถึงโรงพัก...           หนุ่มคนนั้น ขอความช่วยเหลือ จากตำรวจทุกคนที่เดินผ่านมา ก็ไม่มีใครทำให้ ทุกคนมองหมอนั้น เป็นตัวประหลาดเหลือหลาย           ก็ อยุ่ดีๆ ก็ นำ "ใบเซ็นรับรองความประพฤติ " เพื่อที่เข้าเป็นตำรวจ ได้ความว่า สอบได้ แต่ไม่มี " ผู้หลักผู้ใหญ่" คนใด จะยอมลงชื่อในใบรับ รองดังกล่าว ทั้งหมู่บ้าน ก็ไม่มีใครยอมทำให้ หมอเลยตัดสินใจ นั่งรถมา ตายเอาดาบหน้ามากรุงเทพฯเลย           ในที่สุด หนุ่มนั้น ก็ พบ น้องชาย เข้าจนได้            " แล้วไง ? จะบ้าเหรอ ใครจะไปเซ็นให้ " ข้าพเจ้าวิจารณ์ให้น้อง สะไภ้ฟัง  ซึ่งได้ผล เธอ พูดไป ยิ้มไป มีรอยเศร้าปนซาบซึ้งในน้ำเสียง             " พี่เขาเซ็นรับรองให้เลยพี่...เขามอบสำเนาบัตรประจำตัวตำรวจ เขาให้ นายนั่นไป พร้อมเซ็นร้บรองให้เลย "           เออ มีด้วยเหรอ คนอย่างนี้ เราทุกคนเลิกคิ้ว มองหน้ากัน           "แล้ว พออีกไม่นาน เดือนสองเดือนได้ ตอนนั้นเรายังอยุ่แฝลต ซอยลือชาอยู่....ก็มี บ้านน้อกบ้านนอก แก่ๆคนหนึ่ง แก นุ่งกางเกงเคียน ผ้าขาวม้ามาเลย นะ พี่ ในมือแกมีผ้าขาวม้าผืนหนึ่งมาด้วย   มาขอพบพี่ เขา เจอหน้าแกก้มลงกราบกับพื้นเลย ว่า ทั้งจังหวัด ก็ไม่มีใครช่วยแก ทั้งที่ลูกชายสอบตำรวจได้...ถ้าไม่ได้พี่เขาเซ็นให้ ลูกแกคงไม่ได้เข้าทำงาน ดอก..."             น้ำใจ..มากมาย มหาศาล          น้องชายนั้นได้ชื่อว่าเป็นคน ปากกล้า ท้าทายยอดเยี่ยมเลย ใครไป ใกล้ๆ ทำอะไรไม่ดี แก ลุยแหลก ....สมัยทำงานใกล้วังสวนจิตร  ได้ข่าวว่า สั่งขังลูกน้องที่กินยาม้าแก้ง่วงหลายคน ครั้งละหลายวัน  เพื่อจะให้ มัน "หักดิบให้หายในคุก" ว่าอย่างนั้น.... แต่ลูกน้องคงไม่รักดอก นายเฮี้ยบๆอย่างนั้น             วันที่คนบ้าไปถืออาวุธจะทำร้ายคนแถวพระรูป   น้องชายก็เข้าไป กล่อมเสียจน คนร้าย วางอาวุธ ยอมไปกับแกโดยดี             จำได้ว่า แกเล่าให้ฟังว่า ..สมัย ดูจราจรแถวพระรูป มีสาวซิ่งรถมา ขอดูใบขับขี่ เจ้าหล่อน กระชากรถลากแกติดประตูไปด้วยไกลเลย...            ฯลฯ          ที่น้องชายเปรยเล่าให้ฟัง ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง...รู้อย่างเดียวว่าเป็นคน มีน้ำใจอย่างมาก แต่ กลับถูกเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ถูกรถชนจนง่อยกินอยู่ นานเกือบปี  เพิ่งสามารถ หัด ยืน เดิน ในสามสี่เดือนที่ผ่านมา  หลังจากเข้า รับการบำบัดที่ศูนย์สิรินธร กระทรวงสาธารณสุข อยู่หลายเดือน...            ทีนี้  คนที่ถูก หมูแฮมชน เขาจะ ฟื้นคืนได้เร็วอย่างนี้หรือ ?   นอก จาก น้องจะ มีเงินเดือนตำรวจที่เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ส่วนหนึ่ง มีภรรยา ระดับ ซี 9 ที่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้อีกส่วนหนึ่ง อันเป็นความพยา ยามของคนทั้งสองที่จะไม่ ไป ยุ่งกับคนชน...ด้วยเวทนาที่พ่อแม่เขาต้องไป กู้หนี้ยืมสินมาเพื่อ ชดใช้ค่ารักษาพยาบาลหลายล้านระหว่างรักษาตัวที่ สมิติเวช ศรีนัครินทร์ หกเดือนกว่านั้น ...             การ บำบัด ที่ตามมา ก็ยังต้องใช้เงินมากมาย อาทิเช่น ต้องไปนวดบำบัด อยุ่เรื่อยๆ  ครั้งที่พาไป วัดสังฆทาน ได้ คน นวดที่วัด เขาอาสา มานวดให้ที่บ้าน ครั้งละ 300 บาท  ต้องสั่ง ลูกประคบมา นึ่งนวดตัว ต้องมี พยาบาลพิเศษที่จ้างมาจากศูนย์ เดือนละ เหยียบหมื่น ซึ่งต้องมาคอยประคองให้ลุกนั่ง ทั้งต้องทำหน้าที่ สวนทวารหนัก ทวารเบา ฯลฯ ...            แล้ว คนที่ถูกหมูแฮมชน บาดเจ็บน้บสิบคนเหล่านั้น เขาจะมีชีวิต หลังจากออกจากโรงพยาบาลอย่างไร ใครจะดูแล เงิน นิด เงินน้อยจะไป ช่วยเขาได้อย่างไร ...ค่าใช้จ่ายดูแล คนพิการ สักคนนั้น มันมากมายเกิน ทีคนธรรมดา จะรับได้ นะคะ                   ขออนุญาตฝากความไว้เท่านี้ก่อน จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 6 ก.ย. 50 20:03:57 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เรียนพี่tiki_ทิกิ อ่านแล้วก็ได้แต่เศร้าใจค่ะ ถ้าเป็นคนในครอบครัวเราจะทำยังไงดี หนูถึงคิดไปที่ต้นเรื่องไงคะพี่ จะไม่เกิดเรื่องขึ้น ถ้า..พ่อแม่ยอมรับความผิดปกติของลูก แก้ไขเสียแต่เล็ก พี่ทราบมั๊ยคะว่ามีเด็กมากมายที่เป็นแบบนี้แล้วพ่อแม่ไม่ยอมรับความจริง คิดว่าเดี๋ยวโตก็ดีเอง จนอาการมากและเลยวัยแล้วถึงไปหาหมอ และมักจะโกหกตนเองว่าลูกเป็นนิดเดียวเอง จริงๆแล้วหนูก็ไม่กล้าพูดมากกลัวเค้าหาว่าไปว่าครอบครัวเค้า แต่ถ้าไปดูจากสถิติคนที่ก่อคดีรุนแรงมักจะเป็นบุคคลพวกนี้อะค่ะ ต้องโทษที่พ่อแม่ค่ะ.. จากคุณ : ดั่งก้อนกรวด - [ 6 ก.ย. 50 21:26:11 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตอบ ค.ห.14 คุณ : leonnoom       อย่างแรกขอขอบคุณการุณย์จิต เป็นมิ่งมิตรตอบกลอนมินอนเฉย หวังปัญญากฎหมายร่ายตามเกย ขอชมเชยสักวัน..ขยันดี        หากทนายทายไว้ไม่ทะแนะ ว่าตำรวจตรวจแยะใช่หลบหนี ก็พอฟังขึ้นได้ เรื่องไมตรี ส่วนตัวนั้น..อาจมี..หลบมิจาง      มีที่ไหน "ที่จำเลยยังไม่พร้อม " เลยนอบน้อม รอดู อยู่ห่างห่าง หรือ- เลียนแบบดารา -คนไกลทาง ซึ่งชอบอ้าง "ใบแพทย์" อย่างแวดวง       ทำคดีคนดังเกินนั่งเล่น แต่ทุกวัน รถเข่น ฆ่าประสงค์ ขับซิ่งแสน เมืองแม้น เกมกดลง หากพะวง อย่าออก นอกเรือนชาน      เสียงหัวเราะ ว่าเพราะ เกรงจะขำ แต่เสียงไห้ ชอกช้ำ จากหลายบ้าน น่าจะเป็นอุทธาหรณ์ ย้อนดวงมาน ให้เจือจาน ยุติธรรม ...อย่าซ้ำเติม ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ  คุณ : leonnoom น้องดั่งก้อนกรวด ขอไปธุระก่อน ค่ำๆ จะเข้ามาตอบนะคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 7 ก.ย. 50 10:47:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มาตอบ ค.ห.19 คุณ ดั่งก้อนกรวด .........ตามสัญญาว่าจะมาค่ำ แต่นี่ อาจจะดึกไปนิดเพราะ ลงกระทู้ เรื่อง ใหม่ไว้ข้างบน...              เรื่องโรคอะไรต่อมิอะไร ที่เห็นญาติๆ ก็มีลูก มีโรคต่างๆ กันคนละแบบ ส่วนใหญ่ แม่ และ พ่อ ก็ไม่ยอมรับว่าลูกเป็นโน่นเป็นนี่กัน เพราะ ความรักมาก            บางคนเป็นโรคหอบหืด  ก็ถือโอกาส ลงดิ้นพรวดพราด ทุกครั้งที่ ไม่ได้ดั่งใจ พ่อ แม่ คนใกล้ ตัว ก็ต้องรีบหาอะไรมา ส่งให้ จะได้ หายหอบ        บางคน ก็เป็น ออทิสติค               บางคน ก็เป็น โรคอะไร ชักๆ ทั้งนั้น มันเป็นโรคกรรมจริงๆ ต้อง แก้ด้วย การพาไปหาพระ ไปรู้จักนั่ง สมาธิ ควบคุมอารมณ์ หากปล่อยไว้ก็เป็นหนักกันทั้งนั้น            ก็ขอให้ทุกคนที่มีลูก ช่วยกัน ทำใจ รักษาเขาด้วยทางพระให้มาก ๆ น่าจะดีขึ้นนะคะ ก็หวังอย่างนี้แหละค่ะ น้องคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 8 ก.ย. 50 00:01:53 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แวะมาบันทึกไว้ ว่า ได้เข้าไปโหวตกระทู้ ที่เฉลิมไทย ให้กำลังใจ เพื่อนๆที่ตั้งกระทู้ที่นั่น เลยได้ลง กระทู้ ที่ 2000 ความคิดเห็นที่ 1997   แวะมาให้กำลังใจเพื่อนๆชาว เฉลิมไทย อีกรอบ และ โหวตให้ เช่นเคย จากคุณ : tiki_ทิกิ   - [ 10 ก.ย. 50 18:41:05 ]   ความคิดเห็นที่ 1998   ด้วย.. จากคุณ : จิตรางคทา (ตาราไต)  - [ 10 ก.ย. 50 18:43:03 ]     ความคิดเห็นที่ 1999   ช่วยต่ออีกที ว่า วันนี้ วันลำดับที่ 67 ส่วน #1982 เห็นข่าวสัปดาห์ก่อน ว่า เลื่อนเป็นวันที่ 14 อีก สี่วันค่ะ อดใจหน่อยนะ ตอนนี้ ข้าพเจ้าตอบต่อ จาก 1997 แล้วสินะคะ ใครจะมา 2000 หนอ จากคุณ : tiki_ทิกิ   - [ 10 ก.ย. 50 18:48:27 ]   ความคิดเห็นที่ 2000   อุ๋ย ข้าพเจ้าเองหรือ ? กระทู้นี้ โหวต 2000 แล้วค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ   - [ 10 ก.ย. 50 18:51:32 ]     http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5650333/A5650333.html#2000         ถึงแม้ว่าจขกท ที่นั่น จะหายไป แต่ ทุกคนก็ยังไปโหวตให้กำลังใจ อยู่   ก็ขอให้ ความยุติธรรม  จงสถิตสถาพรในสังคมไทยตลอดไป จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 10 ก.ย. 50 19:01:47 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คดีนี้เงียบหายไปอย่างคาดเลย แต่ก็สนใจติดตามตลอดน่ะ ค่ะ แต่ขอออกความคิดเห็นที่แตกต่างกันสักหน่อยนะคะ ที่จริงแล้วตัวเองก็สงสารแม่ของหมูแฮมมากๆ เลยค่ะ ที่ ต้องช่วยลูก รับความทุกข์ใจ ทั้งแรงกดดันสารพัด ทั้งที่ เธอเองก็มีเวลาเลี้ยงลูกน้อยกว่าคนเป็นพ่อซะอีก (เธอ แยกทางกับสามีไปนานแล้ว แต่ยังต้องรับผลกรรมต่อไป อีก น่าสงสารค่ะ แต่อย่างว่า คนเป็นแม่ก็ต้องรักลูกจนถึงที่ สุดอยู่แล้ว) ส่วนคนที่เป็นพ่อแทนที่จะช่วยลูก แต่ก็ดันเหมือนไปซ้ำ เติมด้วยคำพูดบางคำที่ฟังแล้วมันแสลง และสมเพศใจ พอๆ กับการกระทำของลูกชาย แทนที่จะทำให้ สถานการณ์ดีขึ้นกลับซ้ำร้ายหนักกว่าเก่า ทำให้เห็นธาตุแท้ ของเค้าจริงๆ ว่าเป็นยังไง (ลูกถึงได้ออกมาเป็นอย่างนี้) ส่วนฝ่ายลูกจะมาอ้างว่าเพราะป่วยแล้วจะลดความผิดลงได้ เหรอ...ถ้าโรคหงิกมันทำให้พ้นผิดจริง กฎหมายบ้านเมืองนี้ ก็แย่เต็มทีแล้วค่ะ แล้วที่น่าสรรเสริญมากที่สุด คือน้ำใจของคุณสุชีรา  ลูก สาวของผู้เสียชีวิตที่บอกว่าพร้อมจะให้อภัยกับเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้น ขอเพียงให้หมูแฮม มากราบขอขมาศพของแม่ น้ำใจเธอสูงส่งจริงๆ ค่ะ ทั้งๆ ที่เธอก็ไม่ได้เป็นคนชนชั้นสูง เลย ขอให้ผลบุญในคุณความดีของเธอส่งผลไปสู่ดวง วิญญาณของมารดาให้ไปสู่สุขติ... จากคุณ : หนูแฮม (HamMostFear) - [ 15 ก.ย. 50 17:58:15 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณ คุณ น้อง  : หนูแฮม (HamMostFear)  ที่แวะมาตอบค่ะ เมื่อครูเข้าไปโหวตให้ชาวเฉลิมไทย เขาได้หัวใจ แล้วตอบเขาไว้ อย่างนี้  เลยแวะมา แปะไว้ให้อ่านกัน เพราะเข้าง่าย ที่โน่น 2280 กระทู้ ตอบเข้าไปแล้วค่ะ ความคิดเห็นที่ 2280   ฝากกราบเรียนคุณตำรวจ คุณ ทนาย คุณ อัยการ ท่านผู้พิพากษา ผ่านกระทู้ ชาวเฉลิมไทย พันทิป ที่นี่ ตอนมาเขียนวันนี้ เห็น คำตอบ อยู่ที่ เลข 2278 มีคนมาโหวตให้กันทุกวัน ที่เขาโหวตกระทู้ก็เพื่อ เป็นกำลังใจให้แก่ ผู้ป่วยเจ็บ และ ตาย และ ญาติคนตาย          แม้คนที่ตายจะอยู่ในปรภพ แต่ท่านอาจจะได้เห็น กระแส ของประชาชนที่เข้ามาตามเรื่อง ด้วยพลังงานไฟฟ้าและ สายไฟเบอร์ อ๊อพติคที่นี่....และ อีกหลายที่       สิ่งที่คนตายต้องการ ย่อมต้องการ " การขออโหสิกรรม เพื่อ ที่เธอเหล่านั้น ผู้บริสุทธิ์ ผู้น่าสงสาร ผู้ต้องกลายเป็น "ผีเฝ้าถนน" "ผีเฝ้าโรงพยาบาล " โดย ไม่รู้ตัวเหล่านั้น ได้ ผ่อนคลายจิตใจและ ไปสู่สุคติ           ควรที่ พ่อแม่ ญาติพี่น้อง คุณ น้องหมูแฮม ควรจะพิจารณา เมตตาให้มากๆ เขาจะได้ไม่จองเวรจองกรรม น้องหมูแฮม และ ฯลฯ ทั้งหลาย  ...         การขออโหสิกรรมนั้น ก็น่าจะเข้าไปทำบุญทำทานให้เขากัน บ้าง ไป บริจาคเงินทรัพย์สินเงินทองให้ผู้บาดเจ็บเสียหายต่างๆ อัน ไม่เกี่ยวแก่คดีบ้าง นำอาหารการกินไป บริจาค เขา และ ผู้ป่วยอื่นๆบ้าง ไป ทำบุญที่ โรงพยาบาลสงฆ์บ้าง ไปปฏิบัติธรรมแล้วแผ่ส่วนกุศลให้ เขาบ้าง       มิฉะนั้น หลับตาครั้งไร เขาก็อาจมายืนทวงอยู่ข้างเตียง หรือ เขา อาจมาแวะ เคาะกระจก ให้บ่อยๆ เพราะ จิตยังติด ยังยึด กับคนที่ทำเขา อย่างมิชอบ อยู่          ส่วนอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ท่าน ชดใช้เขาพอหรือยัง ? หากยัง ใช้ๆ ไปเสียให้หมด จะได้ไม่ ตามไป ทวงท่านชาติหน้าเยอะๆ อีก นะ      แล้วก็มาโหวตให้กระทู้นี้อีก      ด้วยความสงสาร และเวทนา ทุกท่าน       ดังที่ได้ยินมาว่า ทนายจากห้อง ศาลาประชาคม ที่ไปตอบในกระทู้ กลอนข้าพเจ้าที่ห้องสมุด  บทกวี ก็ บอกว่า คดีนี้เป็นคดีดัง คงจะไม่มี ทางเงียบ แต่ คงต้องส่งเอกสาร พยานต่างๆ ให้ครบถ้วนกันทีเดียว        เอ้า ก็รอดูกันไปอีก        ว่า จะได้ยิน 14 กันยา เลื่อนไปอีกหรือคะ      เลื่อนอย่างไร ก็ ญาติพี่น้องหมุแฮม ไป ทำบุญทำทาน ซื้อโลงศพ ให้ผีไม่มีญาติ ด้วยแล้วกัน จากคุณ : tiki_ทิกิ   - [ 17 ก.ย. 50 21:53:54 ]      http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5650333/A5650333.html#2280 แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 50 07:56:15 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 17 ก.ย. 50 22:52:22 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เข้าไปกระทู้โน้น ก็อุ่นใจหน่อยที่ จขกท ยังอยู่ดีมีสุข ไม่ได้ถูกอุ้มไปไหน      ที่ " ลบหายไปบ้าง "นั้นมิใช่ อะไร แต่เกิดเพราะ ไปพิมพ์ คำต้องห้าม (โห ยิ่งใหญ่จริงๆ ) เข้าให้       สังคมไทยนี้ น่าสังเวช ..... ไม่ยอมรับความจริง ช่วยเหลือ ปิดบัง แถม รวบ หลายคดี ให้เป็น คดี เดียว เพื่อ ให้ ผลการพิพากษา จำนวนปีที่ต้อง(อาจติดคุก) ลดน้อยลง ได้ เออ แปลกจริงนะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 19 ก.ย. 50 07:51:50 ]

ความคิดเห็นที่ 26 วันก่อนที่เข้าไป ดู หน้าเฉลิมไทย เห็น กระทู้ ตอบพุ่งลิ่วไป สามพันห้าร้อยกว่า เดี๋ยวจะไปก๊อปมาให้ดูว่า ไปถึงเบอร์อะไรแล้ว แต่ แต่ คดี ไม่ได้ไปไหนเลย แปลกแต่จริง เข้าไปดูแล้ว อยู่ 3595  แล้ว จะ สี่พันอยู่อีกไม่นาน น่าสงสาร เหยื่อ จริง ๆ ค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 23 พ.ย. 50 12:50:08 ]