๑
เขาคือคนพเนจรผู้อ่อนล้า
ผ่านทางมาฝ่าแดดที่แผดเผา
หรี่ดวงตาฝ่าแสงหลบแฝงเงา
บ่ายวันเหงาเข้าร่มรับลมเย็น
เราก็คนเร่ร่อนสัญจรผ่าน
ได้พบพานผ่านทางต่างทุกข์เข็ญ
ทักทายกันฉันท์มิตรคิดประเด็น
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเน้นปัญญา
อำลากันวันใหม่อาจได้พบ
หรือเพียงสบบนเส้นทางต่างปรารถนา
มีที่ยืนบนโลกร่วมเวลา
แบกปัญหานานัปการหวังผ่านพ้น
๒
ทั้งเขาและเรามีเงาเป็นเพื่อน
อาจนานปีเดือนที่เขาดั้นด้น
อาจนานเดือนปีที่เราทุกข์ทน
เราต่างเดินวนสับสนเส้นทาง
คืนวันสัญจรย้อนวนบนโลก
พบเคราะห์พบโศกโชคสุขทุกอย่าง
ต่างคนเดินไปในหมอกเลือนจาง
ย่ำเท้าก้าวย่างบนทางยืดยาว
รองเท้าเก่าเก่าที่เราสวมใส่
ย่างไปย่ำไปในคืนเหน็บหนาว
คืนแรมมืดดำน้ำค้างพร่างพราว
ทิ้งรอยที่ก้าวกับกาลเวลา
รองเท้าเก่าเก่าที่เราสวมอยู่
เมื่อลองมองดูรับกับใบหน้า
ของคนเก่าเก่าเฝ้าด้นมรรคา
เวียนวนค้นหาค่าใดไม่พบ
ต่างคนวนว่ายเหนื่อยหน่ายทุกข์ทน
สับสนดิ้นรนด้นไปไม่จบ
วันวันคิดค่าราคาบวกลบ
มิเคยสงบมิคบค้าใคร
๓
อาจบางวันฉันและเขาร่วมเงาร่ม
รับสายลมพรมผ่านริมธารไหล
แลกวาทะทักทายสื่อสายใย
มอบความหวังกำลังใจให้แก่กัน
อาจบางวันฉันและท่านได้ผ่านพบ
ร่วมสมทบเส้นทางแม้ต่างฝัน
ยิ้มแย้มให้ถึงไม่มีที่ผูกพัน
ชั่วครู่นั้นฉันท์มิตรจิตไมตรี
ต่างสัญจรร่อนเร่ว้าเหว่เหงา
หาร่มเงาเนารักสักถิ่นที่
ฝ่าสายธารกาลเวลามหานที
ช่วงชีพนี้สั้นนักจักผ่านลา
ต่างสัญจรร่อนเร่ว้าเหว่เปลี่ยว
เดินโดดเดี่ยวเดียวดายกายใจล้า
ผู้ร่วมทางบางคนบนมรรคา
ทักทายมามีค่าพอต่อคนจร
แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 50 20:34:19
จากคุณ :
คมเย็น
- [
7 ก.ย. 50 12:12:25
]