Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    "เพื่อนบ้านคนใหม่"....ดีน ดาเรน...ฆาตกรตัวจริงปรากฏแล้วครับ.

    “เพื่อนบ้านคนใหม่”
                                                                                          โดย.....ดีน  ดาเรน


    บ้านของผมอยู่ในชนบทแต่ไม่ห่างไกลจากความเจริญนัก อยู่ห่างจากอำเภอเพียงสามกิโลเมตรเท่านั้นเอง ที่บ้านผมเป็นชาวไร่ชาวนาธรรมดาแต่ก็มีความสุขดีตามสภาพพอเพียงดังพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯของเรา

    เพื่อนบ้านของเราส่วนมากก็มีอาชีพทำไร่ไถนาเช่นเดียวกันแทบทุกครัวเรือนส่วนพวกลูกหลานบางคนก็ยึดอาชีพเดิมที่บรรพบุรุษทำต่อเนื่องกันมา บางคนซึ่งคือส่วนมากมักจะเข้าไปทำงานในตัวอำเภอหรือบางคนอาจจะเข้ากรุงเทพฯไปเลย ประสบความสำเร็จบ้าง ล้มเหลวบ้างแล้วแต่ความสามารถและการประพฤติตัวของแต่ละคนในเมืองใหญ่เช่นนั้น

    ตัวผมเองคิดว่าเมื่อจบการศึกษาระดับมัธยมแล้วผมคงจะเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในจังหวัดและเมื่อเรียนจบผมคงฝังรกรากอยู่ที่บ้านเกิดของผมนี้เองไม่ไปไหน กรุงเทพฯนั้นมีความเจริญก็จริงแต่คงไม่มีความสุขอย่างแท้จริงเหมือนบ้านเกิดของเราซึ่งแวดล้อมด้วยพ่อแม่พี่น้องและปู่ย่าตายายอันอบอุ่น

    มีเพื่อนบ้านบางคนเหมือนกันที่คิดตรงข้ามกับผม ประกอบกับถูกแรงกระตุ้นจากลูกหลานที่ฝันใฝ่ถึงความศิวิไลของกรุงเทพมหานครฯ พวกเขาขายที่ขายนาอพยพเข้าไปแสวงหาอนาคตและโชคลาภที่เมืองหลวง...ซึ่งพวกเขาหารู้ไม่ว่าอาจจะกลายเป็นเมืองลวงของเขาอย่างไม่รู้ตัว

    แต่ในทางกลับกัน ก็มีนะที่คนกรุงเทพฯบางคนละทิ้งเมืองที่สวยงามนั้นมาตั้งต้นชีวิตใหม่ที่ชนบท...ก็เพื่อนบ้านคนใหม่ของผมนี่ไง

    เพื่อนบ้านคนนี้มาจากกรุงเทพฯเขาซื้อที่ติดกับที่ของผม แต่ที่ของเขาไม่ติดถนนขนาดประมาณสิบไร่ราคาจึงไม่แพงนัก เวลาเขาจะเข้าจะออกจากที่ต้องผ่านที่ของผมซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร บ้านนอกบ้านนาก็อย่างนี้แหละครับ นิดๆหน่อยๆพอพึ่งพาอาศัยกันได้เราก็เอื้อเฟื้อต่อกันเสมอ เพราะฉะนั้นทุกวิถีชีวิตของคนกรุงเทพฯสองสามีภรรยาจึงอยู่ในสายตาของผมอย่างไม่ได้ตั้งใจ

    พี่ศักดาและพี่ไพลินคือเพื่อนบ้านคู่นี้ ทั้งสองคนมาจากกรุงเทพฯด้วยสาเหตุบางประการที่ผมไม่อาจรู้ได้ พี่ศักดาเป็นคนกรุงเทพฯโดยกำเนิด แต่พี่ไพลินเป็นคนต่างจังหวัดที่เข้าไปทำงานในกรุงเทพฯและได้รู้จักและร่วมชีวิตกับพี่ศักดา

    พี่ศักดาปลูกบ้านหลังเล็กๆกะทัดรัดหลังหนึ่ง เป็นบ้านชั้นเดียวทำด้วยอิฐฉาบปูนทั้งหลัง ตอนก่อสร้างผมยังไปยืนดูอยู่บ่อยๆ ผมว่ามันสร้างไม่ยากเหมือนบ้านไม้ เห็นพี่ศักดาลงมือช่วยช่างก่ออิฐถือปูนด้วยตัวเองแล้วผมชักคันไม้คันมืออยากช่วยทำบ้าง...แต่เขาคงไม่ให้ช่วยหรอก ผมจึงยืนดูอยู่เฉยๆ

    แต่อย่างที่บอกแล้วว่าที่ๆพี่ศักดาปลูกบ้านอยู่นี้ไม่มีทางออกถนน...ทางเดินน่ะมี จะเดินตรงที่ว่างตรงไหนก็ได้เพราะพวกเราไม่ได้กั้นรั้วขอบที่แต่อย่างใด ทุกคนต่างตกลงรู้จุดบอกขอบเขตของที่ของแต่ละครอบครัว ใครจะไปกั้นไปปักรั้วกันหวาดไหวเพราะบางคนมีที่เป็นร้อยๆไร่ ที่บ้านผมมีประมาณเจ็ดสิบไร่ ดูเหมือนมาก แต่ถ้ามามองรวมกับพื้นที่กว้างสุดลูกหูลูกตานี้ ที่ของบ้านผมก็เล็กนิดเดียว

    พูดถึงพี่ศักดาต่อ...พี่ศักดามีรถยนต์คันหนึ่งไว้ขับเข้าอำเภอเพื่อไปทำงานตอนเช้าและกลับบ้านตอนเย็น ปัญหาก็เกิดขึ้นมา เพราะไม่มีถนนที่รถจะวิ่งเข้าบ้าน ไอ้จะอนุญาตให้พี่ศักดาทำถนนริมที่ของผมตรงเข้าบ้าน มันก็ติดขัดตรงที่ที่ตรงนั้นแม่ทำสวนครัวไว้ตั้งเนินนานมาแล้ว อีกอย่างถ้าเกิดมีถนนขึ้นมาจริงๆวันหนึ่งหลายๆปีข้างหน้ามันจะไม่กลายเป็นทางสาธารณะไปหรือ ความคิดนี้ยายผมติงขึ้นมาทุกคนก็เลยกลัวๆเพราะเวลามีเหตุมีความขึ้นโรงพักโรงศาลทีไรที่บ้านมักกลัวและยอมเสียเปรียบเขาทุกที...เราจึงตกลงให้พี่ศักดาปลูกเพิงเล็กๆไว้ข้างบ้านของผมเพื่อจอดรถ แล้วพี่ศักดาจึงขี่จักรยานเข้าบ้านอีกต่อหนึ่ง...การณ์นี้พี่ศักดาให้ค่าเช่าที่จอดรถเล็กๆน้อยๆกับผมและบางวันผมก็ได้อาศัยรถพี่ศักดิ์เข้าอำเภอ

    ภรรยาของพี่ศักดา พี่ไพลินเป็นคนน่ารัก เป็นคนสวยคนหนึ่ง รู้สึกว่าเป็นคนทางภาคเหนือ เมื่อมาอยู่ใหม่ๆมีไอ้หนุ่มและไม่หนุ่มในละแวกแอบแวะเวียนโฉบมาลอบชมความขาว สวยของพี่ไพลินบ่อยๆเพราะแถวบ้านผมมีแต่สาวผิวคล้ำ ดำๆ ดำ และดำมากแทบทั้งนั้น หาขาวๆไม่ค่อยมี พี่ไพลินอยู่บ้านเฉยๆไม่ได้ออกไปทำงานนอกบ้าน เป็นแม่บ้านเต็มขั้นให้พี่ศักดาสามีหนุ่มหล่อ (หล่อมากๆ) สาวๆในอำเภอแอบเหล่และนึกเสียดายสถานภาพไม่โสดของพี่ศักดาอยู่ตึม ไม่เว้นแม้แต่สาวคล้ำๆดำๆและดำแถวบ้านของผม.....เริ่มยุ่งละซี...คนสวยคนหล่ออยู่ตรงไหนมักจะมีเรื่องยุ่งเกิดขึ้นเสมอ

    ผมคิดผิดแฮะ! พี่ศักดากับพี่ไพลินเขาก็อยู่อย่างมีความสุขดีตามประสาผัวหนุ่มเมียสาว เขาก็อยู่กันมาเรื่อยๆหนุ่มๆสาวๆที่แอบเมียงมองสามีภรรยาคู่นี้ก็ค่อยๆหายไป...ผมดูไม่ออกว่าใครรักใครมากกว่ากันเพราะดูจะรักมากๆเท่ากันทั้งสองคน ทั้งคู่ดูเหมาะสมกันมากทั้งรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติ สังเกตดูจากเครื่องประดับทองหยองที่พี่ไพลินเขาใส่และจากคำบอกเล่าที่ทั้งคู่ได้สนทนากับผมและครอบครัวผมอยู่เนืองๆ

    เย็นวันหนึ่งมีรถสปอร์ตสีสวยใหม่เอี่ยมจอดที่หน้าบ้านของผม ผมก็ไม่ได้อยากรู้เรื่องของชาวบ้านนักหรอกแต่เห็นรถมันสวยและก็จอดที่ทางเข้าบ้านผมพอดีจึงต้องสนใจเป็นธรรมดา พี่ศักดานั่นเองก้าวลงมาจากรถพร้อมหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่ง ทั้งคู่ยืนคุยอะไรกันสักครู่ฝ่ายหญิงก็กลับขึ้นรถและขับย้อนกลับไปทางเข้าอำเภอ พี่ศักดาโบกมือบายๆให้สาวคนนั้น...ความจริงผมก็ได้ยินที่เขาพูดคุยกันแม้จะไม่ชัด แต่ถ้าหากผมตั้งใจฟังจริงๆคงรู้เรื่องขัดเจนหมดทุกถ้อยกระทงความเพราะบรรยากาศในชนบทนี้เสียงที่อื้ออึงอยู่ทั่วไปคือความเงียบ เงียบมากจริงๆ ใครพูดอะไร ใครนินทาอะไรแม้จะแน่ใจว่าไม่มีใครได้ยินแล้วก็อาจจะเป็นข่าวแพร่สะพัดทั้งหมู่บ้านในวันรุ่งขึ้น...ผมไม่ได้พูดเว่อหรอกนะ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ...คนชนบทถึงเป็นคนพูดเสียงดัง พูดความจริง และไม่นิยมซุบซิบนินทาใครด้วยเหตุผลนี้แล

    คืนนั้นผมจึงได้ยินเสียงพี่ศักดาทะเลาะกับพี่ไพลินอย่างชัดเจนแม้จะไม่ได้ตั้งใจฟัง (จริงๆ) ใจความว่ารถของพี่ศักดิ์เสียเพื่อนสาวที่ทำงานจึงอาสามาส่ง แต่ฟังๆหางเสียงพี่ไพลินไม่ยอมเชื่อ และรู้สึกว่าจะได้ยินเสียงซาวด์แทรกซ์ประกอบ ตุ้บตั้บ ปึ้กปั้ก โครมๆเพล๊งๆ ประมาณนี้แหละ...เย็นวันรุ่งขึ้นตอนผมขับรถมอเตอร์ไซด์กลับจากโรงเรียนผมสวนทางกับพี่ไพลินที่ขับรถจักรยานตรงไปทางอำเภอ พี่ไพลินแต่งตัวเท่ห์มากสมกับเป็นสาวกรุงเทพฯเธอใส่กางเก งยีนสามส่วนเสื้อยืดคอกลมสีขาวและทับด้วยแจ็กเก็ตยีนเข้าชุดกัน  ที่เท่ห์มากๆคือถุงมือหนังสีน้ำตาล  และที่ขาดไม่ได้ไม่ว่าพี่ไพลินจะแต่งตัวอย่างไรพี่ไพลินจะต้องมีผ้าพันคอสีชมพูติดตัวเสมอ ไม่ผูกคอก็คาดผม คาดเอวหรือใส่ในกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงให้ชายมันพลิ้วกับลม...เราตะโกนทักทายกันได้ความว่าพี่ไพลินจะเข้าอำเภอไปซื้อของใช้ที่จำเป็นที่ซุปเปอร์มาร์เกตในอำเภอ

    และเย็นๆใกล้ค่ำนั้นพี่ศักดาก็ขับรถที่ซ่อมเสร็จแล้ว (ซ่อมเร็วจัง) กลับบ้านพร้อมกับพี่ไพลินและรถจักรยานที่ผูกไว้บนหลังคารถ พี่ไพลินหิ้วข้าวของพะรุงพะรัง พี่ศักดาไม่ยักกะช่วยถือเลย...

    เย็นวันรุ่งขึ้นพี่ไพลินไปซื้อของอีก และก็ผูกจักรยานกลับมาบนหลังคารถอีกตามเคย...เป็นอย่างนี้อยู่สี่ห้าวัน พี่ไพลินแกขับรถจักรยานทะมัดทะแมงมากขัดกับความสวยหวานน่ารักของแกจริงๆ...วันที่ห้าได้ละมังผมได้ยินเสียงทะเลาะกันรุนแรงดังมาจากบ้านพี่ศักดา แว่วว่าพี่ไพลินจะขอเข้าไปหางานทำในอำเภอแต่พี่ศักดาไม่ยอม แกให้เหตุผลว่าแกหวงพี่ไพลินไม่อยากให้หนุ่มที่ไหนมองพี่ไพลิน สรุปว่าต่างฝ่ายต่างหึงหวงซึ่งกันและกัน...คืนนี้เสียงประกอบดังมากกว่าคืนก่อน แถมด้วยเสียงอีเหมียวแมวสุดรักของพี่ไพลินที่เดินตามติดแกอยู่เสมอ...เสียงโกรธระคนตกใจของอีเหมียวดังเงี้ยวๆแหวกๆ ผสมกับเสียงต่อสู้ของพี่ศักดาและพี่ไพลินดังโอ๊ยมาเป็นระยะๆ คืนนี้นอกจากผมยังมีอีกหลายคนในบ้านได้ยินเสียงทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจฟังเหมือนกัน (จริงๆ)

    เช้าวันรุ่งขึ้นผมโอ้เอ้ไปโรงเรียนสายกว่าทุกวันเพื่อลอบสังเกตการณ์ แต่รอจนวินาทีสุดท้ายที่ผมจะต้องขับรถไปโรงเรียนก็ไม่เห็นพี่ศักดามาเอารถไปทำงานเสียที ผมคงรอไม่ได้แล้ว ไว้เย็นนี้แล้วกันคงมีอะไรคืบหน้า (เอ...ผมนี่ชักจะไม่ได้ตั้งใจมากไปละมั้ง?)

    ผมรีบกลับบ้านทันทีที่ได้ยินเสียงออดบอกหมดเวลาเรียน.....รถพี่ศักดายังจอดอยู่ในเพิง พี่แกคงไม่ได้ไปทำงาน อิอิ คงหยุดงานอยู่โอ๋ปลอบใจพี่ไพลินแน่ๆ ก็อย่างนี้ละผมเห็นมาบ่อยๆ ผัวเมียเดี๋ยวตีกันเดี๋ยวรักกันเป็นประจำ ก็คงเพราะรักกันมากไปนั่นเอง (รู้สึกผมจะแก่แดดมากไปนะ!)

    แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดเกิดขึ้น.....

    รถสปอร์ตคันเดิมที่เคยมาส่งพี่ศักดาเลี้ยวเข้ามาในถนนเข้าบ้านของผมและจอดลงข้างๆรถของพี่ศักดา สาวสวยคนนั้นก้าวลงมาและเดินดุ่มไปที่บ้านของพี่ศักดาอย่างมั่นใจโดยไม่สอบถามอะไรใครเลยแม้แต่ผมที่ยืนอยู่แถวนั้น...เอาละวาจะเกิดอะไรขึ้น...(อ้อ! ผมเคยแอบได้ยินพี่ศักดาชี้แจงกับพี่ไพลินว่าสาวคนนั้นเป็นเพื่อนที่ที่ทำงาน เธอย้ายมาจากต่างจังหวัดเหมือนกันจึงค่อนข้างว้าเหว่ พี่ศักดาจึงให้ความเมตตาเพราะเข้าใจในหัวอกของคนพลัดถิ่นเช่นเดียวกัน)

    ผมพยายามเงี่ยหูฟัง (คราวนี้ยอมรับละว่าตั้งใจ) แต่จับใจความอะไรไม่ได้ ฟังคล้ายๆกับว่าสาวคนนั้นมาเยี่ยมเพราะไม่เห็นพี่ศักดาไปทำงาน พี่ไพลินก็พูดดีกับสาวคนนั้น เสียงพี่ศักดาหัวเราะอย่างมีความสุข....ผมได้กลิ่นกับข้าวที่พี่ไพลินทำโชยมาตามลม...ได้ยินเสียงร่วมวงกินข้าวเย็นกันอย่างสมานฉันท์เกินความคาดหมายในความคิดของผม...หรือผมจะเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายเกินไปนะนี่...ก็ดีที่เรื่องเป็นอย่างนี้ ใครล่ะอยากจะให้เขาทะเลาะกัน ที่ผมสอดรู้สอดเห็นอยู่นี่ก็เพราะไม่อยากให้เขาต้องแตกแยกกันเพราะความหึงหวงนั่นเอง

    แล้วผมก็รู้สึกโล่งอก (ไม่ใช่เรื่องอะไรของผมสักหน่อย) หันกลับไปดูทีวี ทำการบ้านและเล่นสนุกๆตามประสาวัยรุ่นชนบทของผมต่อไป...ผมลืมเรื่องของพี่ศักดาและพี่ไพลินไปสักสองสามวัน อีกอย่างเป็นเพราะพ่อไปทำธุระที่ต่างอำเภอและซื้อลูกกระต่ายพันธุ์ต่างประเทศมาให้ผมเลี้ยงคู่หนึ่ง  มันน่ารักมาก ผมกับพ่อจึงสาละวนกับการต่อกรงและเห่อเลี้ยงดูมันจนลืมสนใจบ้านพี่ศักดาเสียสนิท

    ผมเพิ่งกลับมาสนใจครอบครัวของพี่ศักดาอีกครั้งเมื่อวันสุดสัปดาห์ต่อมา พี่ศักดาขับรถกลับไปกลับมาหลายเที่ยว ประเดี๋ยวเข้าประเดี๋ยวออกทั้งวัน จนกระทั่งเย็นวันอาทิตย์พี่ศักดาจึงเข้ามาที่บ้าน พี่เขาถามพวกเราว่ามีใครเห็นพี่ไพลินบ้างไหมเพราะพี่ไพลินหายไปจากบ้านสองวันแล้ว พี่ศักดาไปตามหาทุกๆที่ก็ไม่มีใครรู้เรื่องโทรไปสอบถามตามบ้านเพื่อนที่กรุงเทพฯหรือแม้กระทั่งที่บ้านเกิดของพี่ไพลินพี่ศักดาก็สอบถามมาแล้ว แต่ทุกคนไม่รู้ไม่เห็น และพี่ศักดาได้ไปแจ้งความเรื่องคนหายไว้ที่สถานีตำรวจเรียบร้อยแล้ว

    พวกเรา หมายถึงทุกคนในครอบครัวผมลงความเห็นและปลอบใจพี่ศักดาไปว่าพี่ไพลินคงน้อยใจและแสนงอนเรื่องหญิงสาวรถสปอร์ตที่ยังเวียนมาหาพี่ศักดาอยู่บ่อยๆ พี่ไพลินจึงหนีไปซ่อนตัวที่ไหนสักแห่งให้พี่ศักดารู้สึกผิด วันหนึ่งเมื่อพี่ไพลินหายงอนแล้วเธอคงกลับมาเอง พี่ศักดารู้สึกดีขึ้นจึงกลับไปดำเนินชีวิตตามปกติ

    สามเดือนต่อมามีตำรวจมาเต็มบ้านของพี่ศักดาโดยมีพ่อแม่ของพี่ไพลินซึ่งลงมาจากเมืองเหนือเป็นผู้แจ้งความสงสัยลูกเขยจะทำการฆาตกรรมลูกสาว เพราะก่อนพี่ไพลินจะหายไปเธอโทรฯไปปรับทุกข์กับที่บ้านบ่อยๆเรื่องที่ถูกพี่ศักดาขู่จะเอาชีวิตถ้าหากพี่ไพลินเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตการงานและชีวิตส่วนตัวของเขากับเพื่อนๆ อีกอย่างทรัพย์สินของมีค่าส่วนตัวของพี่ไพลินรวมทั้งเงินในธนาคารจำนวนมากที่พ่อแม่ได้ให้ไว้ถูกถอนไปหมดสิ้นโดยบัตร ATM หลักฐานต่างๆชี้บ่งไปที่พี่ศักดาเพียงแต่ไม่มีร่างของพี่ไพลินซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ

    แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 50 09:03:26

    แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 50 07:38:32

    แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 50 12:19:45

    จากคุณ : ดาเรน - [ 7 ก.ย. 50 12:16:47 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom