Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    เรื่องเล่าเบาๆ ไม่เผาผี (วิญญาณแอบแฝงที่เบาะหลัง)

    ได้ฤกษ์เปิดตัวเรื่องราวแรกของห้องกักวิญญาณในบล็อกซะที เลยถือโอกาสพาผีมาปล่อยในถนนฯ (อันนี้ไม่ค่อยน่ากลัวนัก เพราะเจอกันแบบไม่เป็นเรื่องเป็นราวเท่าที่ควร แบบแว้บผ่าน แว้บผ่าน) หลังจากที่คิดอยู่นานว่าจะเริ่มจากเรื่องไหนก่อนดีนะ ในที่สุดก็สินใจได้ซะทีหลังจากที่ได้ยินคำถามหนึ่งมาจากแฟนของน้องสาวเกี่ยวกับกลิ่นสาบสางเหม็นเน่าที่โชยผ่านเข้าจมูกมาคล้ายลักษณะของคนที่เดินสวนกัน ไอ้เรารึก็นึกรู้ได้ทันทีว่าคืออะไร ด้วยผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน ก่อนจะเฉลยเรื่องที่ถามให้แฟนน้องฟังก็เลยเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังซะก่อน เพื่อจะได้ไปคิดเอาเองว่าเขาเจออะไร ไว้แล้วเรื่องของแฟนน้องที่ไปเจอมานี่จะเอามาเล่าให้ฟังทีหลังละกันนะคะ เหอ เหอ เหอ

    มาฟังเรื่องของมณีนาคากันก่อนดีกว่า

    *********************************ผีเอ๋ยจงออกมา (ซะดีๆ)*************************

    วิญญาณแอบแฝงที่เบาะหลัง

             จำได้ว่าตอนนั้นน่าจะเป็นสาวพาณิชย์ไปแล้ว เพราะตอนนั้นเรียนรอบบ่าย เลิกเรียนตอนทุ่มนึง ก็ให้พ่อไปรับตามปกติ ทั้งที่ทุกอย่างก็ดูปกติเหมือนๆ กับทุกคืนเวลากลับบ้าน แต่แล้วเรื่องไม่ปกติก็เกิดขึ้น เมื่อพ่อแวะจอดรถลงไปซื้อของแถวบางขุนนนท์

             ระหว่างนั้นพ่อกับแม่ลงไปซื้อของด้วยกัน ทิ้งให้ฉันต้องนั่งๆ นอนๆ อยู่ในรถคนเดียว ฉันก็พยายามจะหลับๆ ตื่นๆ อยู่เป็นพักๆ เพราะไม่รู้จะทำอะไร ถ้าจะนั่งรออยู่นิ่งๆ เฉยๆ มันก็น่าเบื่อไง ครู่หนึ่งเหมือนเห็นพ่อเดินมาเปิดประตูรถเอาถุงกับข้าวที่เพิ่งซื้อมาเก็บก่อนจะเดินไปไหนต่อ ทิ้งให้ฉันนอนเงกอยู่ในรถคนเดียวอีกตามเคย

             ตอนนี้ล่ะที่ฉันเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในรถ รู้สึกว่าเบาะหลังที่ฉันนอนอยู่มันยวบๆ คล้ายมีใครมานั่งอยู่ ถ้าสิ่งผิดปกติเป็นเพียงสิ่งที่ฉันรับรู้ได้เพียงแค่นั้น ฉันคงไม่คิดอะไรมากมายนัก คงคิดว่าเพราะมีถุงกับข้าวและของอื่นๆ ที่พ่อเพิ่งจะเอามาวางไว้เมื่อครู่นี้เป็นแน่ ถ้าไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าชวนสะอิดสะเอียนเจ้ากรรมนั่นลอยเข้ามาปะทะโสตนาสิกเข้า จากกลิ่นแผ่วจางมันเริ่มทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ จนเหม็นอวลไปทั่วรถ จนฉันแทบทนไม่ไหว แต่ก็ยังพยายามค้นหาที่มาของกลิ่นนั้นอยู่เพื่อให้แน่ใจว่ามันเป็นกลิ่นของอะไรกันแน่ อาหารเน่าบูด? หรือ สัมภะเวสี?

             จากอาการง่วงงุนก่อนหน้านั้นมันหายไปเป็นปลิดทิ้ง ฉันพยายามไล่ดมกลิ่นเลียนแบบสุนัขตำรวจซะอย่างนั้น เพื่อหาที่มาที่ไปของกลิ่น ฉันไล่ดมกลิ่นจากถุงกับข้าวและของอื่นๆ ทีละถุง กระทั่งกระเป๋าหนังสือ แฟ้มงานพ่อ แม้กระทั่งรองเท้านักเรียนเผื่อว่าฉันอาจจะเหยียบขี้หมาขึ้นมาบนรถแล้วกลิ่นมันอาจจะเพิ่งมาสำแดงเดชตอนนี้ก็เป็นได้ แต่จนแล้วจนเล่าฉันก็หาที่มาของกลิ่นไม่เจอ

             จากเบาะหลังที่ฉันนอนอยู่ฉันเริ่มเลื้อยไล่ดมมาที่เบาะด้านหน้ารถ ทั้งซ้ายขาว บนเบาะ ใต้เบาะ ก็ไม่พบที่มาของกลิ่น แม้ว่าเจ้ากลิ่นนั่นมันยังอวลอยู่ทั่วก็ตาม ฉันเองยังอดไม่ได้ที่จะต้องกลั้นใจเป็นพักๆ ยอมแม้กระทั่งเปิดกระจกระบายอากาศออกทั้งที่แอร์ในรถก็ออกจะเย็นเฉียบเสียขนาด

             ฉันเริ่มมั่นใจมากขึ้นว่ากลิ่นเหม็นอันน่าสะอิดสะเอียนนั้นย่อมไม่ได้มาจากสิ่งปกติธรรมดาอย่างที่พยายามคิดไว้ตั้งแต่แรก เหม็นเน่าซะขนาดนี้ต้องไม่ใช่วิญญาณที่ดีแน่นอน แต่อดที่จะนึกแปลกใจไม่ได้เช่นกันว่า เจ้าของกลิ่นอันน่ารังเกียจนั่นเข้ามาอยู่ในรถของพ่องฉันได้อย่างไร

             เมื่อฉันแน่ใจแล้วว่าที่มาของกลิ่นไม่พึงประสงค์นั้นยังเร้นกายอยู่ และอยู่ข้างๆ ฉันนี่เอง ฉันเริ่มกระถดถอยจากกลางเบาะเข้ามาจนชิดประตูรถฝั่งซ้ายจนตัวแทบลีบ เพราะเริ่มรู้สึกว่าพื้นเบาะมันยวบๆ กระเถิบเข้ามาหา แต่จะว่ามองเห็นเจ้าของกลิ่นด้วยก็ไม่เชิง เพราะมันเหมือนคลื่นลมร้อนแค่ไหวๆ

             ก่อนที่ฉันจะชิงเปิดประตูรถวิ่งออกไปตั้งหลักข้างนอก พ่อกับแม่ก็กลับมาพอดี ฉันโดนดุเรื่องเปิดกระจกรถทิ้งไว้ทั้งที่แอร์ก็เปิดไว้ให้ แต่ถึงจะโดนดุฉันก็ยังอุ่นใจที่พ่อกับแม่กลับมาอยู่เป็นเพื่อน หวังว่าเจ้าของกลิ่นนั่นจะไปเสียที

             แต่ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลย ถึงแม้ว่าพ่อจะขับรถออกมาไกลจากตรงนั้นแล้วแต่กลิ่นนั่นยังคงอยู่ในรถ ที่น่าแปลกใจที่สุดคือ เหมือนพ่อกับแม่ไม่ได้กลิ่นนั่น คนได้กลิ่นจนคลื่นเหียนกลับมีเพียงฉันคนเดียวเท่านั้น ครั้นพอเอ่ยปากถามให้หายสงสัย ก็โดนดุกลับมาอีก เพราะไม่มีใครได้กลิ่นจริงๆ

             จากแอร์ที่เย็นฉ่ำจากหน้ารถที่เป่ามายังเบาะหลัง ฉันเริ่มที่จะไม่รับรู้ถึงความเย็นฉ่ำชุ่มชื่นใจนั้นเสียแล้ว มันแทนที่ด้วยไอร้อนบางอย่างที่ค่อยคืบคลานเข้ามาพร้อมกับกลิ่นเหม็นที่ยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นทุกทีตามระยะทางที่ใกล้จะถึงบ้าน

             และแล้วเมื่อมาถึงโค้งสุดท้ายก่อนที่ฉันจะอาเจียนออกมาตอนที่พ่อเลี้ยวรถผ่านศาลพระพรหมหน้าปากซอยเข้ามาในหมู่บ้าน เจ้ากลิ่นเหม็นเน่าอันน่าสะอิดสะเอียนนั้นก็หายวูบไปทันที เหมือนมีคนโยนเศษเนื้อเน่าทิ้งไปจากบนรถ อากาศบริสุทธิ์กลับคืนมาอีกครั้งแบบทันทีทันใดเช่นกัน จากความอบอ้าวของไอร้อนก่อนหน้านี้กลายกลับมาเป็นความฉ่ำเย็นที่ชุ่มชื่นอีกครั้ง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะงานนี้ วิญญาณร้ายตามมาแอบแฝงอยู่บนรถตลอดทาง แค่ปลายจมูกแค่นี้แต่พ่อกับแม่ดันไม่รู้เรื่อง ปล่อยให้ฉันต้องผจญกับชะตากรรมอันเหม็นคลุ้งนี้อยู่คนเดียว เวรกรรมจริงๆ


    ***********************************จบค่ะ***********************************

    แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 50 08:23:11

    จากคุณ : มณีนาคา - [ 24 ก.ย. 50 08:21:15 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom