บันไดยังไงก็ต้องตั้งบนพื้น
เออ...ไม่รู้อะไรมาสะกิดใจผม ให้มองช่างคนนั้นที่มาช่วยติดหลอดไฟ-เดินสายไฟ ที่บ้านสงสัยผมคงอยากจะลองทำเองให้ได้เหมือนกับเขา เผื่อวันหลังจะได้ไม่ต้องเสียเงินไปจ้างช่างอีก ขณะที่สายตาสอดรู้สอดเห็นพยายามจดจำทักษะเกี่ยวกับสิ่งที่ช่างกำลังทำอยู่นั้นเอง ก็เหลือบไปเห็นบันไดที่เป็นนกต่อส่งตัวเขาขึ้นสู่เบื้องบน ซึ่งบางครั้งส่วนสูงเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอสำหรับงานแบบนี้ แล้วบันไดนั่นก็ยังทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเสียด้วย มันไม่สั่น งึกๆ เลยแม้แต่น้อย อาจเป็นเพราะช่างนั้นทรงตัวดีรวมถึงพื้นที่ดีด้วย คุณลองคิดดูสิว่าถ้าพื้นเป็นรู หรือ ขุรขระ เดี๋ยวสูงเดี๋ยวต่ำจะไม่ให้บันไดที่ตั้งอยู่นั้นไม่สั่นได้อย่างไร?
ถูกแล้ว บางครั้งการมีพื้นฐานที่ดี ก็ทำให้บันไดที่คุณใช้ก้าวไปสู่ความสำเร็จนั้นแข็งแรงยิ่งขึ้นและพร้อมที่จะส่งตัวคุณขึ้นไปสู่จุดหมายที่คุณเคยใฝ่ฝันเอาไว้
แน่นอนว่า คนส่วนใหญ่ ล้วนมีพื้นปูรองอยู่แล้ว
สำหรับบันไดในการต่อยอดของตนเอง พวกเขาเหล่านั้นเลือกที่จะยอมเสียเวลามาสร้างพื้นให้แข็งแรง ราบเรียบ และ มั่นคง ดีกว่าปีนป่ายขึ้นไปบนบันไดที่สั่นโคลงเคลงซึ่งอาจจะตกลงมาเจ็บได้ตลอดเวลา
...ทว่าบางคนกลับคิดตรงกันข้ามกับคนในกลุ่มแรกอย่างสิ้นเชิง...
พวกเขาเลือกที่จะปีนป่ายไปด้วยบันไดที่สั่นโครงเครง สู่จุดหมายที่ตนตั้งไว้ คำว่าเสียเวลาเป็นคำที่ใช้อ้างได้ดีสำหรับคนอย่างพวกเขา การทรงตัวที่ดีทำให้การก้าวขึ้นบนไดในขั้นแรกๆนั้นทำได้ไม่ยากเท่าใดนักและนั่นทำให้พวกเขาคิดว่าตนสามารถทำได้ จึงเริ่มปีนป่ายสูงขึ้นไปอีก จากสองขั้นไปสามขั้นจากสามขั้นไปหกขั้นและจากหกขั้นไปเก้าขั้น พวกเขาไม่ยอมหยุด พวกเขาไม่เคยเหนื่อยเพราะปลายทางที่เขาหวังไว้นั้นเป็นยากระตุ้นอย่างดีที่ช่วยสลายความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยได้อย่างน่าอัศจรรย์ จนในที่สุดพวกเขาก็ฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลายขึ้นมาสู่จุดหมายได้ สำ...
เหมือนสวรรค์ลงโทษ...
คำว่า เร็จยังไม่ทันหลุดออกจากปาก ทันใดนั้นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ก็อุบัติขึ้น บันไดของพวกเขาเริ่มสั่นคลอนโอนเอนไม่เป็นท่า ในอีกไม่กี่วินาทีต่อมาบันไดของพวกเขาก็ไม่อาจที่จะทรงตัวอยู่ได้อีกต่อไป มันล้มลงสู่พื้นเบื้องล่าง โดยที่ไม่ให้ผู้ปีนนั้นได้ตั้งตัวหรือเตรียมใจเลยแม้แต่น้อย หลายคนที่ปีนขึ้นมาด้วยบันไดที่สั่นโครงเครงนี้ พยายามตะกุยตะกายไขว่คว้าอากาศธาตุ จากความสำเร็จกลับกลายเป็นความว่างเปล่า...
พร้อมกับการตกลงมาที่เจ็บปวดรวดร้าวไปถึงขั้วหัวใจ...
หลายคนไม่ยอมลุกขึ้นมาสู้อีกเพราะทั้งเหนื่อยหน่ายและท้อถอย
หลายคนบาดเจ็บแสนสาหัสจนเลือกที่จะล้มลงอยู่อย่างนั้น ไม่ทำอะไรต่อไปอีก
และอีกหลายคนแหงนมองฟากฟ้าสีหม่นหมองที่ชุกชุมไปด้วยเมฆฝน พวกเขากำลังมอง พวกที่ปีนบันไดต้วมเตี้ยมเมื่อตอนแรก บัดนี้กลับใกล้ถึงจุดหมายเต็มที
ณ เวลานี้ เวลาที่คนกลุ่มหนึ่งขึ้นไปถึงจุดหมายของชีวิตที่ตนใฝ่ฝันไว้
กับ ณ เวลานี้ เวลาที่คนอีกกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งร้องไห้กับความโง่เขลาของตนเอง
ทั้งอารมณ์ทั้งห้วงแห่งความรู้สึกในเวลานั้นมันแตกต่างกันจนน่าใจหาย...
แต่ก็ยังมีมนุษย์บางคนเมื่อผิดพลาดก็พร้อมที่จะยอมจดจำบาดแผลนี้ไว้เป็นบทเรียน เพื่อย้ำเตือนถึงรอยบาดแผลนี้ว่ามันเจ็บขนาดไหน
ขณะที่บางคนเลือกที่จะผิดแล้วผิดเลย ไม่คิดจะจดจำบาดแผลเอาไว้ แล้วก็ทำผิดซ้ำผิดอีก
นี่อาจเป็นแรงฮึดให้กับใครหลายคนที่พอล้มแล้วก็รีบกลับมาสร้างพื้นใหม่ให้แข็งแรง เพื่อการปีนป่ายในครั้งต่อไป
แต่ความผิดหวังนี้ก็อาจจะเป็นแรงฉุดให้อีกหลายคนไม่อยากจะลุกขึ้นมาสู้อีกเช่นกัน
เห็นไหมล่ะ? ว่าการมี พื้น ที่ดีนั้นสำคัญต่อเส้นทางชีวิตของคุณมากน้อยขนาดไหน เพราะเรื่องง่ายๆพื้นๆแบบนี้แหละ ที่คุณอาจจะมองข้ามมันไปแต่เชื่อเถอะว่าหากคุณมีพื้นที่ไม่แข็งแรงจริงๆ ก็อาจจะทำให้คุณตกบันไดลงได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกัน
ช่างเปลี่ยนหลอดไฟ-เดินสายไฟเสร็จเรียบร้อยแล้ว พอลองกดสวิตซ์ แสงจากหลอดนีออนก็สว่างสไหว บ้านของผมกลับมามีความสว่างตรงมุมนั่งเล่นชิวๆอีกครั้งหนึ่ง หลังจากสนิทสนมกับความมืดมนมานาน ช่างส่งยิ้มให้ผมเล็กน้อย แน่ล่ะมรรยาทที่ดีผมยิ้มตอบ...
ผมรู้ว่าเขากำลังเหนื่อยผมเลยเอาน้ำมาเสิร์ฟให้
เขายิ้มเจื่อนๆอีกครั้ง เอ๊ะ...นี่เขาจะยิ้มหาปาป๊าอะไรบ่อยคงไม่ใช่ว่ามาพิศวาทอะไรในตัวของผมหรอกนะ
เขายิ้มต่อ-ผมก็ยิ้มตอบกลับไปอีกที เอาแล้วไงมันเอาแล้วแน่ๆตาปริ่มๆเยิ้มๆของช่างเริ่มเข้ามาใกล้ผมทุกที ทุกที จนในที่สุดร่างสูงใหญ่นั้นก็หยุดอยู่ตรงหน้าของผม
น้องครับขอค่าแรงพี่ด้วยครับ แหะๆ
อ้าวเวน...หลอกกูคิดผิดไปตั้งไกล แหม...เล่นเอาซะเกือบเสียศูนย์ตกบันไดลูกผู้ชายแล้วมั้ยล่ะ...
เลิศสุนทร
จากคุณ :
พริ้ว พรรณนา
- [
29 ก.ย. 50 08:07:05
]