Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    Angel #Update

    ลมหายใจที่เวียนเข้าออกที่จมูก ช่างเบาบางเหลือเกิน แทบไม่รู้สึกถึงชีวิตเลย...

    ผมจ้องมองเพดานเก่าๆที่มีโคมไฟรูปทรงพื้นราวกับมันเป็นภาพนิจนิรันดร์ด้วยดวงตาที่แห้งผาก สิ่งที่เรียกว่าเรียบนิ่งสิงอยู่ภายในของผมเสียจนไม่รู้ว่าแสงสว่างที่มีเบื่อหน่ายความหยุดนิ่งในห้องจนสลัวแล้วจากไปเหลือแต่ความมืดมิดเมื่อไหร่  ไม่รู้เลยจริงๆ

    ที่สร้างความแปลกใจให้ผมที่สุดคือ 24ชั่วโมงที่แล้วผมอยู่ที่ไหน ทำอะไร กับใคร หัวสมองยังจำได้อยู่หรือเปล่าไม่แน่ใจ หรือผมตายไปทั้งตัวแล้วจริงๆนับจากกลับมาที่บ้าน

    ผมลองกระพริบตาสองสามครั้งหลังจากไม่ได้กระพริบมานานเท่าไหร่ไม่รู้  ร่างกายก็เหมือนกันไม่ได้ขยับมาทั้งวัน มันกลายเป็นแค่ก้อนเนื้อรอวันเน่าไปแล้วกระมัง ถ้ายังไม่ตายทำไมผมถึงรู้สึกเป็นสิ่งแปลกแยกในโลกนี้

    วิญญาณของผมเว้าแหว่งหายไปครึ่งหนึ่ง เมื่อลองทบทวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นชั่ววันคืน อะไรก็ตามมันได้ทุบชีวิตที่ผมเพิ่งตระหนักว่ามันเปราะบางหากเราไม่เฉลียวจนแตกสลาย

    ผมขดตัวลง คืนวันสิ้นปีผมพบกับนิคกี้ เขามีใบหน้าสวยเชิญชวนสายตาทั้งหญิงและชายจับจ้อง  ชายหนุ่มอายุรุ่นเดี่ยวกับผมคนนั้นอารมณ์ดี เบิกบานเหมือนดอกไม้ไฟที่จุดในคืนเฉลิมฉลองคืนนั้น บทสนทนาของเรามันเป็นอะไรที่ทำให้ความรู้สึกอยากตายอันกล้าของผมผ่อนเบาลงอย่างไม่รู้ตัว และเพราะเมา เราจึงเลยเถิด  แม้รู้ร่างกายสวยงามหากแต่ผิดกาลเทศะแต่ก็มิอาจหยุดความต้องการ ผมเสพสมจนล้นความกระหาย ทั้งที่รู้ครรลองธรรมชาติรสสวาทของสองร่างกายไม่มีความเหมาะสมไหนจะเคยพูดถึง....ระหว่างชายกับชาย

    แต่อย่างไรเล่าครับ เหมือนผลไม้ในสวนอีเดนนั่นแหละ ไม่เคยเห็นไม่เคยแตะต้อง เขาเอาแต่พูดว่าไม่เหมาะ ไม่ดี สุดท้ายก็มีคนได้ลิ้มรสจนได้  นิคกี้ไม่ใช่ผลไม้วิเศษเขาเป็นผลไม้อาบพิษ  และพิษนั้นได้กำซาบซ่านเข้าเจาะและเริ่มไชชอนชีวิตผมแล้ว อีกไม่นานผมจะเหมือนผลไม้เน่าจนกว่าจะตาย

    ผมอุดปากแน่น ภายในท้องเกิดอาการเกร็งแน่น ลิ้นปรี่ราวมีแมลงเล็กๆวินว่อนจนหวิว  ความเครียดจัดหลอนหลอกจนร่างกายผมทนไม่ไหวอีกต่อไป ผมผุดลุกขึ้นแล้ววิ่งไปที่ห้องน้ำ โก่งคออาเจียนจนหน้าแทบทิ่มอ่างล้างหน้า กลิ่นน่ารังเกียจปะปนมั่วไปหมดจนผมอาเจียนอีกรีบ อาเจียนพุ่งแบบนี้ทำให้รู้สึกเหมือนหัวจะหลุดลงไปกลิ้งในอ่าง...

    เปิดก๊อกวักน้ำบ้วนปากล้างหน้า แล้วเงยหน้ามองกระจก ผมมองตัวเองแล้วหายใจแรง ราวเจออริที่เกลียดกันมาสามสิบชาติ สองมือของผมกำหมัดแน่นก่อนจะสาดหมัดข้างหนึ่งกระแทกจนกระจกแตกปลิวว่น

    หยดข้นสีเข้มกระจายพร่างพร้อมกับเศษเสี้ยวของกระจก ผมมองมือตัวเองที่ถูกเศษคมกระจกบาดและฝังอยู่อย่างชาเย็น นิ้วโป้งของมือที่ปกติยกขึ้นกดเศษแหลมให้จมลึมลงไปอีก เลือดระรัวหลั่งไม่หยุด นิ้วโป้งที่ใช้กดก็เริ่มปริเป็นแผลฉกรรจ์ไปด้วย ผมมองหยดเลือดที่ชุ่มโชกกระอักไหลจากปากแผลอย่างใจเย็น

    ออกมาให้หมดตัวเสียก็ดี เลือดที่ที่เต็มไปด้วยเชื้อชั่วไม่น่าต้องการอีกแล้ว  แก้มของผมร้อนวาบเป็นทางยาว ผมกระพริบตาจึงรู้ว่าน้ำตากำลังกลบดวงตา ตัวผมก็สั่นสะท้านจนระงับไม่ได้

    แปลกนะ... ตลอดมาผมเพรียกหาแต่ความตายเพราะเบื่อโลก แต่พอมันได้ยินและกำลังมาหาในอีกไม่ช้าผมกลับตาขาวจนตัวหดเหลือนิดเดียว  
    "ไม่เคยรู้จักความตายจริงๆหรอกนายน่ะ ไม่แน่จริงนี่หว่า" เสียงนิคกี้มาจากไหนไม่รู้ เขาเยาะเย้ยและสุขสมที่ทำอย่างนี้กับผม

    ผมยกมือที่เต็มไปด้วยเลือดขึ้นทุบตัวเอง เสื้อเชิ้ทขาวเป็นด่างสีแดงเลอะเทอะไปหมด ผมคว้าเศษกระจกชิ้นใหญ่ที่สุดขึ้นมา หงายข้อมืออีกข้างขึ้นแล้วกดคมของมันแนบหนักกับเส้นโลหิตใหญ่ แค่ออกแรงสวนเท่านั้นผมคิด ทุกอย่างจะดับมืด ล้างไพ่เริ่มกันใหม่อีกครั้ง...


    ผมหลับตาแน่น  มือสั่น  ไม่ได้กรีดคมเข้าเนื้อเยื่อบนข้อมือ หากแต่กรีดร้องสุดเสียง
    "นิคกี้ แกเป็นอะไรกันแน่วะ"

          บนตึกในห้องของผู้อำนวยการ จีนมองนิคกี้ที่กำลังคุยสนิทสนมกับสาวสวยอ่อนใสบ้างล่าง นายแพทย์ใหญ่วัยกลางคนถอนใจซ้ำไปซ้ำมา ก่อนหน้านั้นจีนแอบเข้ามาในห้องเขาพร้อมซองเอกสารซึ่งตอนนี้อยู่บนโต๊ะตรงหน้าเขา
    "เป็นผลการตรวจร่างกายประจำปีของท่านประธาน" ผู้อำนวยการสานมือวางศอกบนโต๊ะ เขาคิดว่าทนายอย่างจีนอย่างไรเสียก็อ่านเอกสารของแพทย์ไม่เข้าใจหากไม่มีคำอธิบายประกอบ ศัพท์ทางการแพทย์คนที่มีอาชีพไม่ใกล้เคียงอย่างไรก็ต้องใช้กุญแจแพทย์ไข จีนหันกลับมามองหน้าก่อนอธิบายเอกสารในสารซองอย่างละเอียดพร้อมต้องสมติฐานเพื่อขอความถุกต้องอีกครั้ง ผู้อำนวยการตาค้างเขาอ้าปากแล้วหุบ

    "คุณอยู่วงการนี้มานานไม่ทราบว่าพอจะได้ยินเรื่องอัศจรรย์วงการแพทย์ ที่บอสตัสเมื่อปี 19xx หรือไม่ อืมมันเป็นข่าวดังที่ลงกันแค่สองวันเท่านั้น"

    "แต่นิตยสารการแพทย์หลายฉบับลงก้นครึกโครมมากนะครับ ผมอ่านแล้วยังทึ่งเลย เด็กอายุสิบหกเท่านั้น เดี๋ยวหรือว่า..." ผู้อำนวยการเบ่งตามองจีน

    "มันไม่สำคัญหรอกครับ ไม่เลย"

    "ท่านประธานไม่ได้พูดถึง"

    "นิคกี้ไม่รู้เรื่องนี้หรอกครับ เราอยู่กันคนละวงการ ตอนที่ผมเรียนหมอเขายังเรียนอยู่ไฮสคูลที่นิวยอร์คอยู่เลย อีกอย่างนิคกี้เขาไม่เคยสนใจอะไรมากกว่าเรียนสายธุรกิจเพื่อนกลับมาสานต่อธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ของพ่อ"

    "ใช่ไหมครับ นิคกี้เป็นโรคนี้" จีนโยนซองใหญ่สีฟ้าบนโต๊ะ ผู้อำนวยการหน้าเสีย

    "คุณได้เอกสารพวกนี้มาจากไหน"

    "ตอบที่ผมถามเถอะ" จีนเกือบตะคอกออกไป ดีแต่ยั้งได้ อย่างไรผู้อำนวยการก็อาวุโสกว่า  จีนเงยหน้าหลับตา เนื้อตัวสั่นเทาเมื่อศีรษะที่เต็มด้วยเส้นผมสีดอกเลาของผู้อำนวยการโยกพยักหงึกหงัก เขาไม่อาจหลบหนีความจริงที่ตัวเองรู้ได้อีกแล้ว  

    ความรู้สึกแห้งป่นถูกพัดหายไปในห้วงสุญญากาศ  ดวงใจเจียนจะขาดห้วงด้วยแกนกลางแสนสำคัญได้ถูกเชือดจากมีดคมที่ไม่เห็นแม้คมวาวยามตวัดเข้าตัดอย่างโหดเหี้ยม จีนยกมือขึ้นปิดดวงตาข้างหนึ่งด้วยว่ารู้สึกถึงน้ำอุ่นใสที่หยาดอาบลงผิวหน้า
    "โธ่เอ๋ย นิคกี้"

    แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 50 22:39:13

     
     

    จากคุณ : vannessia - [ 29 ก.ย. 50 22:34:22 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom