อีกเรื่อง
ที่พิสูจน์ไม่ได้ 1 : ผู้อาศัยอีกคนที่ไม่เคยรู้จัก
สำหรับคนเรานั้น ดูเหมือนว่าจะชอบเรื่องลึกลับมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะถ้าเรื่องลึกลับนั้นเป็นเรื่องสยองขวัญด้วยแล้วล่ะก็...อาจจะเป็นเพราะว่ามันยังไม่สามารถพิสูจน์หรือหาหลักฐานที่แน่ชัดได้จึงทำให้เราเกิดความอยากรู้อยากเห็นหรืออยากพิสูจน์ก็ได้
สิ่งที่ผมกำลังจะเล่าต่อจากนี้ ก็เป็นเรื่องที่ผมไม่สามารถหาข้อพิสูจน์ได้เช่นกัน แต่รับรองได้ว่ามันเป็นเรื่องจริงที่ผมประสบพบเจอมากับตัวเองทั้งสิ้น...
บ้านเช่าที่ผมอาศัยอยู่ตั้งแต่เกิด ลักษณะเป็นห้องแถวอยู่ในซอยซึ่งเป็นเส้นทางลัดที่เชื่อมระหว่างถนนเพชรเกษมกับถนนอิสรภาพ ตัวบ้านเป็นห้องแถวสองชั้นกึ่งปูนกึ่งไม้ คือผนังด้านหนึ่งเป็นปูน และผนังอีกด้านหนึ่งรวมถึงพื้นชั้นสองและบันไดเป็นไม้ หลังคาถูกมุงด้วยสังกะสีตามแบบบ้านโบราณ ประตูเป็นแบบซี่บานเหล็กเลื่อนออกทั้งสองข้าง สภาพตัวบ้านค่อนข้างจะทรุดโทรมเนื่องจากปลูกก่อนที่ผมจะเกิดไม่น่าจะต่ำกว่าสิบปี
...และประสบการณ์สยองขวัญครั้งแรกในชีวิตของผมก็เกิดขึ้นที่บ้านหลังนี้ หลังจากที่ผมอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มาแล้ว 17 ปี...
วันนั้นเป็นหนึ่งในวันหยุดปิดเทอมฤดูร้อน ซึ่งมันก็คงจะเหมือนกับวันหยุดฤดูร้อนวันอื่นๆ หากเพียงแต่ว่าวันนี้ผมต้องตื่นเช้ากว่าปกติเล็กน้อย เนื่องจากเป็นวันที่ผมต้องไปรับรู้ผลของความพากเพียรจากการเรียนในปีที่ผ่านมา
ที่โรงเรียน...หลังจากทำกิจกรรมในช่วงเช้าซึ่งเป็นปกติของทางโรงเรียนแล้ว ก็มีการแจกสมุดรายงานผลการเรียนก่อนที่จะปล่อยให้นักเรียนกลับบ้าน...หลังจากผมรับสมุดรายงานผลการเรียนแล้ว ก็อยู่คุยกับเพื่อนสักพักหนึ่งแล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน...และวันนี้ก็คงจะเหมือนกับวันอื่นๆ อีกเช่นกัน หากเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้น...!!!
บ้านที่ผมอาศัยอยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนมากนัก ใช้เวลาเดินถึงกันประมาณสิบห้าถึงยี่สิบนาที ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะเดินเท้าไปกลับมากกว่าที่จะนั่งรถประจำทางหรือมอเตอร์ไซด์รับจ้าง
เมื่อกลับถึงบ้าน ความรู้สึกง่วงก็ถาโถมเข้ามาในทันที อาจเป็นเพราะในช่วงปิดเทอมผมค่อนข้างจะนอนดึก อีกทั้งไม่ได้ตื่นเช้ามานานแล้ว...ผมรู้สึกง่วงมาก... พอเข้าบ้านได้ผมก็รีบล็อกประตู เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็ล้มตัวลงนอนกับพื้นบ้านทันที ปกติผมจะชอบนอนกับพื้น เพราะพื้นปูนมันเย็นดี และก็มักจะนอนตะแคงหันหลังเข้าฝาบ้าน ผมว่าเป็นปกติของคนกลัวผีล่ะนะเพราะกลัวว่าถ้านอนหันหลังออกจะมีอะไรมานอนข้างหลัง
...แต่วันนี้...ผมดันนอนตะแคงหันหลังออกจากฝาบ้านเสียนี่...
.....เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ผมเองก็ไม่แน่ใจ แต่ผมมารู้สึกตัวอีกทีตอนที่ผมมีความรู้สึกว่าทำไมอากาศวันนี้มันร้อนจัง ร้อนแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ทั้งๆ ที่พัดลมเพดานก็ยังเปิดอยู่ จะว่าไปแล้วเหมือนกับว่ามันร้อนมาจากข้างในตัวมากกว่า ผมรู้สึกว่านอนต่อไม่ได้แล้ว
...ลุกขึ้นอาบน้ำดีกว่า...ผมคิดอย่างนั้น
และก่อนที่ผมจะลืมตาขึ้น พลันหูผมได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง
...เอ๊ะ...เสียงใครคุยกัน...ใครเดินอยู่ที่ด้านหลังของผม...!!! เป็นความคิดต่อมาหลังจากนั้น
ขณะนั้นผมรู้สึกว่ากำลังนอนอยู่ที่ไหนซักแห่งที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนผมไปนอนอยู่กลางงานเลี้ยงค๊อกเทล คือมีเสียงคนเดินไปเดินมาและเสียงคนคุยกันเสียงดังเต็มไปหมด แต่ที่น่าแปลกคือเมื่อผมพยายามฟังว่าเค้าคุยอะไรกัน มันกลับฟังไม่รู้เรื่อง เหมือนต่างคนต่างแย่งกันพูดทำให้จับเสียงอะไรที่พอจะฟังออกไม่ได้เลย ด้วยความที่เป็นคนกลัวผีอยู่แล้วทำให้ผมรีบลืมตาทันที
...ผมยังคงนอนอยู่ในบ้านเหมือนเดิม...
เมื่อเห็นดังนั้น ผมจึงพยายามจะหันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น...แต่
!!!...ขยับตัวไม่ได้...
เสียงคนเดินกับคนคุยกันยังคงไม่เงียบหายไป มันยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่องทั้งๆ ที่ตาผมซึ่งพยายามกลอกไปมาเพื่อตรวจสอบสิ่งรอบตัวก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติแม้แต่น้อย ผมรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้เหงื่อที่หลังกับที่หน้าผมมันไหลออกมาเหมือนมีคนเอาน้ำมาสาด...เสื้อที่ใส่อยู่ตอนนี้เปียกไปหมด...ความรู้สึกตอนนั้นมันร้อนมากจริงๆ
แต่ว่าตอนนี้...นอกจากความรู้สึกร้อนแล้ว ความรู้สึกกลัวก็เพิ่มเข้ามาด้วย
ผมไม่รู้ว่าผมนอนฟังเสียงคนเดินคนคุยกันนานเท่าไหร่ แต่สำหรับผมในตอนนั้นเหมือนนานชั่วกัปชั่วกัลป์
...ต้องทำอะไรซักอย่าง...ความกลัวที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นแรงส่งให้สมองของผมสั่งการแบบนั้น
พอคิดได้อย่างนั้น สายตาของผมก็ทำตามสมองทันที ผมพยายามเหลือกตาไปมาเพื่อหาอะไรหรือใครก็ได้ในบริเวณนั้นที่จะช่วยผมได้......แล้วสายผมก็ไปสะดุดกับอะไรอย่างหนึ่ง
...คน...มีคนนอนอยู่ด้านหลังของผม...
ด้วยความที่ขณะนั้นความกลัวเริ่มเข้ามาเกาะกินใจมากแล้ว ทำให้ผมคิดไปเองว่าคนที่นอนอยู่ข้างหลังต้องเป็นแม่แน่ๆ ผมพยายามมองให้ชัดว่าใช่หรือไม่ แต่ก็มองไม่ถนัดเนื่องจากตัวที่ขยับไม่ได้นั่นเอง ผมพยายามกลอกตาไปด้านหลัง แต่ผมก็เห็นแค่เงาดำรูปร่างเหมือนคน นอนตะแคงห่างจากด้านหลังผมประมาณหนึ่งฟุต
ผมในเวลานั้นเห็นแค่นี้ก็ใจชื้นแล้ว ผมพยายามเรียกผู้ซึ่งผมเข้าใจว่าเป็นแม่ให้ตื่นเพื่อให้มาช่วยผม แต่...
...อื่อ...อือ...เสียงมันไม่ออก...ทั้งๆ ที่ในใจผมคิดว่าผมได้ตะโกนอย่างสุดเสียงแล้ว แต่หูผมกลับไม่ได้ยินเสียงที่เปล่งออกมาจากลำคอแม้แต่น้อย เสียงมันไม่ออก...ต้องเรียก...!!!... ทำยังไงดี...
หลังจากคิดได้แค่นั้น ผมก็พยายามยื่นมือซ้ายที่แนบลำตัวด้านบนอยู่ออกไปด้านหลังเพื่อเรียกบุคคลซึ่งผมคิดว่าเป็นแม่ของผมเอง ทั้งๆ ที่อยู่ห่างแค่ฟุตเดียว แต่ผมรู้สึกว่าการยื่นมือไปให้ถึงเงาๆ นั้น ต้องใช้เรี่ยวแรงอย่างมหาศาล
...แปะ...!!!...เสียงมือกระทบพื้น...เอาใหม่...
...แปะ...อีกแล้ว...!!! เสียงมือกระทบพื้น มือที่ยื่นออกไปผ่านเงาดำนั้นไปเฉยๆ แล้วกระทบกับพื้น
จนถึงตอนนี้ผมก็คิดอะไรไม่ออกแล้ว จำได้ว่าความคิดตอนนั้นสับสนมาก ความรู้สึกหนึ่งก็ยังคงบอกว่าร้อนมาก อีกความรู้สึกก็บอกว่าอยู่ไม่ได้แล้ว ความคิดมันทั้งงง ทั้งสับสน ปนเปกันไปมา...ต้องหนีแล้ว...ต้องหนีแล้ว...ความคิดสุดท้ายวูบขึ้นมา
...แล้วผมก็ลุกขึ้นมาได้อย่างกับติดสปริง...
ทุกสิ่งทุกอย่างกลับเป็นปกติ ผมเปียกโชกไปทั้งตัวเพราะเหงื่อ...ผมเหลือบตาไปมองนาฬิกาติดฝาผนังแบบลูกตุ้มโบราณ พร้อมกับเสียงตุ้มนาฬิกาดังบอกเวลา...เที่ยงตรงพอดิบพอดี...ผมนั่งมองดูนาฬิกาอย่างงงๆ และฟังเสียงตุ้มนาฬิกาดังจนครบสิบสองครั้ง สักพักหนึ่งผมก็ลุกขึ้นยืน...เปิดประตูบ้าน...เดินออกมานอกบ้าน...
พอสายตากระทบเข้ากับแสงแดดและม่านตาเริ่มปรับระดับแสงได้แล้ว ผมก็รู้สึกว่าผมได้กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้ว ทันใดนั้นผมนึกอะไรอย่างหนึ่งออก...ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะลืม...
ก็...วันนี้...ทุกคนในบ้านไปต่างจังหวัดกันหมด...!!!
...แล้วคนที่นอนอยู่ด้านหลังผมเมื่อสักครู่...เป็นใคร...!!!
เหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำเอาผมเซื่องซึมและกลายเป็นคนเงียบผิดปกติไปพักใหญ่ ก็มันเป็นประสบการณ์สยองขวัญครั้งแรกในชีวิตของผมเลยนี่นะ แถมดันเกินในบ้านตัวเองอีก จะย้ายหนีก็คงเป็นไปไม่ได้
เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำเอาผมไม่กล้านอนบริเวณนั้นของบ้านไปหลายเดือนถึงแม้ว่าจะมีคนอยู่ด้วยก็ตาม และหลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นไปได้สักระยะ ผมตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟัง ซึ่งคำตอบของพ่อก็ทำเอาผมอึ้งไปเหมือนกัน เพราะพ่อตอบผมกลับมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า...
เห็นแล้วเหรอ...
หมายความว่ายังไง หรือว่าพ่อของผมเห็นเขาคนนั้นเป็นประจำอยู่แล้ว หรือว่าบางทีทุกคนในบ้านหลังนี้อาจจะเคยเห็นเขาคนนั้น ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าเขาคนนั้นต้องอยู่ที่นี่มานานแล้วน่ะสิ
เขา....ผู้อาศัยอีกคนในบ้านหลังนี้....ที่ผมไม่เคยรู้จัก
ครับ...และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมพบกับประสบการณ์ที่ทุกวันนี้ผมเองก็หาคำอธิบายไม่ได้ว่าคืออะไร แต่หลังจากวันนั้น ผมก็มักเจออะไรแปลกๆ แบบนี้เป็นประจำ บางครั้งก็รู้สึกดี แต่บางครั้งก็น่ากลัวมากๆ จนถึงขนาดเลือดตกยางออกเลยก็มี...ซึ่งทุกครั้งที่เจอ ผมก็ยังคงไม่รู้ว่ามันคืออะไร และทำไมถึงเกิดกับผม ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ตั้งสิบเจ็ดปี ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย
แต่ถ้าประสบการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องเกี่ยบกับผีจริงๆ อย่างน้อยก็บอกผมได้อย่างหนึ่งว่า
...มันไม่ได้มาแค่ตอนกลางคืน......!!!!
...ถ้ามีโอกาส ผมคงจะนำประสบการณ์อื่นๆ มาเล่าให้ฟังอีกครับ...
จากคุณ :
KTHc
- [
29 ก.ย. 50 22:56:25
]