ความคิดเห็นที่ 1 ฉันไม่อาจยับยั้งตนได้ในตอนค่ำ พอเมฆมาสีดำ ฉันก็อยากหลับไหล พอกลางวันฉันก็บ่นว่าร้อน มันเหลือทนเกินจะนอนร้อนเสียจนหม่นไหม้         พอตอนเย็นฉันก็เห็นแต่หนัง อยากจะเปิดเสียจังทีวีไทยไทย พอตอนค่ำเป็นเวลาจำวัด ฉันก็เดินสะบัดมาดูหนังใหญ่         พอตอนดึกหลังมื้ออาหาร ฉันก็หาวนานนานพาลจะเป็นลมใส่ พอดึกดึก จะคึกอาบน้ำ เผื่อจะชุ่มจะฉ่ำจะได้เย็นในใจ        อาบน้ำประแป้งแต่งตัว แล้วอยากจะเล่นหัววกับทีวีทีใหม่ เอ่อ เออ เอิ๊งเงย ฉันจะทำฉันใด ฉันอยากจะเรียงพิลึกพิลั่น อยากจะยกความสำคัญให้กับภาษาไทย ภาษาละคือบทกวี แห่งท้องทุ่งท้องที่กับวิญญาณไทยไทย      ขอกราบครู เจ้ากลอนกวี ทำให้ฉันคิดดี แล้วก็คิดแบบใหม่ จะเรียบเรียงเป็นตัวอักษร เผื่อว่าคนอ่านย้อนจะคิดขำในใจ            วันนี้ จะเรียงมาเป็นอารมณ์ไทยไทยพื้นบ้าน อยากเห็นท่านมาต่องาน จะเป็น ลำตัด หรือ อะไร เชิญมาเรียง จะเป็นอีแซว จะเป็นอีกกี่แนว ก็เชิญเถิดพี่ไทย    จะเป็นมาลัย หรือจะเป็นมารวย คนไหนถูกหวย ไชโย...ภาษาไทย         พวงเจ้าเอ๋ย..ลำใย ไม่เมืองไม่มุ้ง ดีใจ๊ ดีใจ ( ที่จบได้....เอย) สวัสดีทุกท่านคะ วันนี้ มันเซ็งๆ จะมาเขียนหน้าบทกวี ก็เกรงใจ ว่าจะรก กระทู้หน้าบทกวี ขอนำมา ลงความเรียงจากใจที่นี่ก่อนแล้วกัน จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 2 ต.ค. 50 00:50:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แต่งเป็นกลอนได้ทั้งเพราะทั้งมีความหมายดีจังค่ะ ชื่นชมคนแต่งกลอนเก่งๆค่ะ เมื่อสมัยเด็กๆ เคยเรียนแต่งบทกวี เป็นกลอนบทเดียวที่ครูเอามาอ่านให้เพื่อนฟังหน้าชั้น เพราะเป็นกลอนบทเดียวที่เพื่อนฟังแล้วหัวเราะกันได้ท้องคัดท้องแข็ง เพราะนอกจากสัมผัสจะมั่วจนไม่ได้เรื่องแล้ว ยังใช้คำศัพท์ผิดๆถูกๆอีกต่างหากค่ะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) - [ 2 ต.ค. 50 05:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 กว่าจะวันเลือกตั้งอีกหลายเดือน ถึงวันนั้นก็ตื่นไปใช้สิทธิ์เนอะ :) จากคุณ : scottie - [ 2 ต.ค. 50 15:33:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คนเรา   ถ้าสามารถนอนหลับได้  เมื่อต้องการ.... นับว่า  มีแก้ววิเศษอยู่กับตัว เพราะ สะท้อนการมองโลกในแง่ดี  การปรับตัวได้  ไม่คิดมาก ไม่เครียด มีระเบียบในชีวิต  มีโลกทัศน์ที่ปล่อยวาง  มีความไม่กลัว  ไม่หวาดระแวง.. ก่อนจะหลับ................คืนร่างกายให้กับธรรมชาติ.. และตื่นแรกที่รู้สึก..........ขอบพระคุณต่อวันใหม่และชีวิตใหม่.. ในวันนี้.......................... จากคุณ : dicky5 - [ 2 ต.ค. 50 19:31:31 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อคืนว่า จะนำ กลอนเพลงชาวบ้าน มาลงให้อ่านกัน แต่ก็ มัวไป ดู จอมนาง บูเช็คเทียน ช่อง ๓ ไมได้มาอ่านกันต่อ ยกประโยชน์ไปคืนพรุ่งนี้ต่อนะคะ คุณ : กุลธิดา (kdunagin) คะ นังๆ เบื่อๆ ขึ้นมา ก็ เปิดจอ พิมพ์ กลอน มือ เปล่า มา โดยเฉพาะ กลอนเพลงชาวบ้านร้านถิ่นแก้เครียดค่ะ คุณ : scottie  คะ หลับได้นานๆ อย่างนั้น ท่าจะดีนะคะ อี๊ อี๊ คุณ : dicky5  คะ     ถ้า สั่งตัวเองให้หลับผิดเวลาชาวบ้าน  ได้ ละ ก็ ข้าพเจ้าเองแหละค่ะ บางวันก็ไม่หลับไม่นอน ล้มตัวลง ก็นอนอ่านหนังสือต่อค่ะ จนกว่า จะหลับไปจริงๆ ตื่นตามใจ นิสัยไม่ดีมากๆค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 3 ต.ค. 50 00:29:44 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เข้ามาอ่านเป็นรอบที่สามแล้วค่ะ แต่แต่งกลอนแบบนี้ไม่เป็นได้แต่คอยอ่านค่ะ อย่างหนูแค่กลอนแปดธรรมดายังไปไม่ค่อยรอดเล้ยค่ะพี่ แต่ไม่ทราบเป็นยังไงชอบอ่านจังเลยค่ะ.. จากคุณ : ดั่งก้อนกรวด - [ 3 ต.ค. 50 07:53:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ^^ เข้ามาอ่านครับ จากคุณ : KTHc (KTHc) - [ 3 ต.ค. 50 12:27:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ น้อง ดั่งก้อนกรวดคะ ลีลาทำนองเสียง ลงท้าย สระ เหมือนกัน ทุก บาทหลังนี้ เป็นลีลา โคลง ฝรั่ง แต่ มาดังในไทยเป็น กลอนพื้นบ้านได้ เหมือนกัน        เคยมีเพื่อนที่ทำหนังสือ "คลังสมอง" ออกทุก 15 วัน นับ ได้ ยี่สิบปี แล้ว ได้ ให้อ่าน สิ่งที่เขาค้นมาตีพิมพ์            เป็นบทกวี ฝรั่ง ที่   ท่าน สุนทรภู่   เขียนกลอน ได้เหมือนเป๊ะ บันทัด ต่อบันทัด   ทีนี้ หนังสือน่ะ หายไปแล้ว ด้วย ย้ายบ้านไปมา นับสิบกว่าครั้งใน รอบ ยี่สิบปีนี้ จึงเสียดายอย่างยิ่งที่ จำชื่อกวีฝรั่ง นามนั้น ไม่ได้ ไม่แน่ใจว่า เป็นใคร  แต่ที่แน่ แน่ เขาพิมพ์ก่อน เรานับหลายสิบปี    ตาม เลขปีฝรั่งที่เขาเขียนไว้         และ  กลอน ที่ สุนทรภุ่เขียนนั้นคือ         "ถึงม้วยดิน สิ้นฟ้า มหาสมุทร ...ไม่สิ้นสุด ความรัก สมัครสมาน " บทนั้น นั่นเอง        วันที่ข้าพเจ้า เห็นเพื่อน เขียนนำลง ให้รู้สึก อายจังหว่า.....เพราะเทียบ ภาษาอังกฤษ กับ ไทย แล้ว มันเหมือนกันจริงจัง อย่าง นั่งไม่ติด                 แต่ ก็ ต้อง ทำใจ ด้วยความอายนิดๆ ว่า นั่นคือ การที่ ลัทธิธรรมเนียมฝรั่งเข้าไทย มาแต่สมัยสมเด็จพระณารายณ์ มหาราช   ครั้นมาถึง ยุค รัตนโกสินทร์ ก็ มี ฝรั่งอังกฤษเข้ามา รุกรานเมือง ตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งหลาย .....           เอ้า จำต้องไปที่อื่นก่อน ไม่มีเวลาตอบแล้วค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 4 ต.ค. 50 14:51:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาเขียนต่อค่ะ ตอนนี้ กำลัง นั่งคิดว่า  เล็ก มนต์ทิวา ชัยพิพัฒนานนท์ นั้น เขียนไว้ใน คลังสมอง หรือเล่มอื่นของเธอ แต่เราท่าจะเริ่มแก่ จึงลืมชื่อหนังสือ หลายเล่มที่เล็กประจง สรรค์สร้าง แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะ หนังสือมีคุณภาพ แต่ ไม่ได้หาโฆษณา...       ทว่า จำได้ ติดตา  เพราะ เธอเขียนไว้ที่หน้า บทบรรณาธิการ เลยในวันนั้น        และ ในเวลาต่อ มา ข้าพเจ้า ก็ ไล่หา อ่านจาก บทกวีเก่า หลากหลายของไทย ซึ่ง บางท่าน นิยม เขียน โคลง ไทย มีคำ ฝรั่งอยู่ด้วยก็มี        จะว่าทำลายภาษาหรือ ก็มิใช่ เพราะ คำไทย มากมาย เราหยิบยืม เขมร ลาว ญวน จีน มาลายู มาใช้ เอิกเกริก จนเป็นคำไทย           สมมุติว่า คืนนี้ดูแข่งบอล จะ เขียนเป็น แข่งลูกกลม นี่ คนไทย คงงง พิลึก ละนะคะ       ศัพท์แสงไทยเรามากมาย ก็มาจาก ภาษาสันสกฤต ด้วย อิทธิพล ทาง ขอม ซึ่งเป็น เจ้าแผ่นดินเดิมที่เราเคยอยุ่กันมา หาก เราไป หันดู  กวี ชาวบ้านเราหลากหลาย (ยังไม่ขอค้อปี้ใครมา ให้ดู เพราะ ไม่อยาก ไปแตะที่เขาเขียนไว้ว่า "สงวนลิขสิทธิ์" ) เราก็พบ ภาษาต่างประเทศ และ " กลิ่นนมเนย" ทั้งจาก สันสกฤต เอง และ จาก ประเทศ ตะวันตก อีกมากเลย อย่างที่ปฎิเสธไม่ได้           ทุกวันนี้ เรา ยอมรับ ว่า ท้าวทองกีบม้า นั้น เป็นเจ้าของ ตำหรับ " ฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด "        มาดู ขนมที่เราว่า ไทย อย่างยิ่ง อย่าง สังขยา เราก็มองไป เห็น ขนม คัสตาร์ด ฝรั่ง      เรามองเห็นขนมฝรั่ง จากเครื่องมือ เครื่องใช้ การ อบ แบบไทยๆ  แต่ "วัสดุ หรือ แร่ธาตุที่ทำเครื่องใช้ นั้น เป็นวิวัฒนาการก้าวหน้า จากฝรั่งกันทั้งนั้น "           มันไม่แปลกอะไรที่ใครจะรับวัฒนธรรม ที่ไหลบ่ากันมาทาง การค้า           ฝรั่งเอง ก็วิ่งหา สมุนไพรไทย ไปใช้ทำยา กันมากมาย            ภาษา จึงเป็น การ สื่อสาร แลกเปลี่ยน วัฒนธรรม กัน มากกว่าจะ มา คัดง้าง กันเรื่องชาติ พันธุ์           หาก เรา จะให้เกียรติที่มาที่ไป ของวัฒนธรรม คือ วิถีทาง ชีวิตที่เจริญขึ้น...โดยไม่ทิ้งรากเหง้าไทย ไทย  เราก็น่าจะรับได้ เรียนรู้ได้                 อย่างเพลงแร็พ ทุกวันนี้ ฟังให้ดีดี มันเพลงแหล่ บ้านเรา นี่เองนี่นา ....เคยคิดอย่างเข้าข้างตัวเอง ด้วยขำ ขำ ว่า พวกมะกันมัน มาตั้งกองทัพในไทย ไปอยู่อีสาน อุดร อุบล เหล่านั้น เป็นไปได้ไหม ที่จะรับวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้านเราไป ร้องรำทำเพลง จังหวะ นั้น มา ?                  ก็ยังไม่เคยมีใครไป วิจัย             แต่ ที่ แน่ แน่  เราอย่า อับอาย ที่ หากไปค้นเจอ ว่า กวีดังๆ ของเรา ได้ " แปลบทกวีฝรั่งมา แล้วมา ใช้ศัพท์แสงไทย แต่งใหม่ ให้ไพเราะเพราะพริ้ง "                 ยอมรับว่า ไพเราะ เพราะพริ้ง จริงๆ            เรื่อง กวี พื้นบ้าน วันนี้ วางไว้ก่อน ที่จริง ก็มี ข้อมูลในมือมาก พอจะนำลง แต่ เกิดไม่อยาก นำมาเขียน เพราะ คนที่เขารู้จริง มีเยอะ มาก ๆ           จะขอ บอกแต่เพียงว่า        ชื่นชม แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์  ...ชอบ งาน ครู ไพบูลย์ บุตรขัน ชอบ   เพลง ทูล ทองใจ             เหล่านี้ หากเป็นเด็กๆ คุณแม่คงจะหยิกจนเขียวเลย ว่าลูกทำไม ชอบฟัง เพลง บ้านน้อก บ้านนอก              แต่ ทุกวันนี้ เราจะเห็นว่า เนื้อเพลง ลูกทุ่ง เพลงพื้นบ้านไทย เรา มากมาย นั้น                จริงใจ             เป็นที่สุด จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 5 ต.ค. 50 02:35:53 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีค่ะพี่ทิกิ  แวะมาอ่านค่ะ อ่านแล้วได้คิดตามจนความคิดเห็นท้ายนี่ตาโตเลยค่ะ  ก็เติบโตมาท่ามกลางเสียงเพลงค่ะ  ที่บ้านพ่อชอบชรินทร์ วินัย และสุนทราภรณ์  แม่ชอบทูล  ทองใจ  น้าเปิดลูกกรุง รุ่นผ่องศรี  วรนุชให้ฟัง  ส่วนตา..นี่ชอบลำตัด  เลยฟังได้แทบทุกแนวค่ะ  แต่โดยส่วนตัวแล้วค่อนไปทาง เพลงเพื่อชีวิต  อย่าง มาลีฮวนน่า,  หงา  คาราวาน  ค่ะ จากคุณ : ณ กมล - [ 5 ต.ค. 50 12:49:29 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คุณ ณ กมล        เมื่อเล็กๆ นะคะ ฟัง เพลงกล่อมจากคุณ ย่า ขึ้นใจทีเดียว " วัดเอย วัดโบสถ์ ปลูกข้าวโพด.......สาลี ลูกเขย...ตกยาก แม่ย้าย ...ก็พราก...หลูกส้าว นี้ เฮอะ เออ....เฮอะ เออ เอ่อ เออ...เฮ้อ เออ...เอย..."          สภาพสังคม นั้น ติดซึมเข้ามาในสมอง คุณ ดูลีลา การเขียน เพลงกล่อมเด็ก นั้นไว้ ให้ดี            อย่างเวลา กล่อมลูก จะ กล่อมด้วย เพลง เขมรไทรโยคค่ะ        "บรรยาย...ความ...ตาม ไท้...เออ เอ๊อ เอ่อ เอย ซาเด็จ...เออ เอ้อ เออ ย่า....ยาตตร อะอออออ เออ เออ เอย   ยัง ...ไทร ฮื้อ โยค...... ประ...พาส...ฮิอ...ฮิอ ฮื้อ หือมม์ ฮืมมม พะนา...สน....ฮือ อฮือ ฮือ ฮื้ม...มมม์ " หลับไปแล้วมังคะ เด็กในมือ 555           บรรยากาศไทยไทย           วันนี้ ไม่ขอ ส่งลิงก์ ให้ละค่ะ เพราะว่า เดี๋ยวจะดึงคนที่นี่ไปฟังเพลงเว็บอื่นเสียหมด เอาเป็นว่า ฝากไว้ก่อนอีก  ตอบหลายกระทู้ ชักงง จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 5 ต.ค. 50 21:20:49 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณพี่ ทิกิ มากค่ะ หนูเพิ่งทราบจริงๆค่ะเป็นความรู้ใหม่มากๆเลยค่ะ ตื่นเต้นจริงค่ะพี่  เรื่อง.. "ถึงม้วยดิน สิ้นฟ้า มหาสมุทร ...ไม่สิ้นสุด ความรัก สมัครสมาน " ******************************** และเรื่องเพลงกล่อมเด็กนี่หนูชอบเพลง วัดเอย วัดโบสถ์ ปลูกข้าวโพด.......สาลี แม่กาเหว่งแอมมาไขให้แม่กาฟัก.. ชอบมากจริงแต่หาฟังอีกไม่ไดเลยค่ะพี่ คุณแม่หนูก็บอกว่าแม่จำไม่ได้แล้วค่ะ..เสียดายจริงๆค่ะพี่.. ............................................................................... จากคุณ : ดั่งก้อนกรวด - [ 6 ต.ค. 50 14:05:09 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อืม มาสารภาพครับ ว่ารู้จักเพลง วัดเอ๋ย วัดโบสถ์ ...ตอนที่อ่านนิยาย ของคุณไม้ เมืองเดิม นี่เอง แหะๆ จากคุณ : กลิ่นกาแฟ (กลิ่นกาแฟครับ) - [ 6 ต.ค. 50 15:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 14 .....วันนี้ ระหว่าง ขนหนังสือ ไป ถวายพระที่ โรงพยาบาลสงฆ์ Unload หนังสือในกระเป๋าลากใบย่อมไป แล้ว กระเป๋าก็เบากลับมา นั่งคิดว่า เราเคย บริจาคหนังสือไปมากมาย คนเขารู้ค่าหรือไม่...นึกเสียดาย           แต่ หากเราต้องเสียเงิน หลายล้าน เพียงเพื่อจะหาที่เก็บหนังสือไว้เท่านั้น จนเป็นหนี้ตามมาอีก ทั้งๆที่เขายึดตึกเราไปกลบหนี้ ก็ยังไม่หมดนั้น          นึกถึง อดีตว่า หนังสือ สารพัดนั้น มีคุณค่ามหาศาล กว่าราคาตึกนันอีก       ซึ่ง ณ วันนี้ เราก็ เข้าไป เอาของออกมาไม่ได้ เจ้าหนี้ เขามายึดตึกไปแล้ว ยังมีหนังสือดีๆ ของเราอีกมากมายในนั้น ยังมีสินทรัพย์กระจัดกระจายทิ้งขว้าง เพราะขนมาไม่ไหว อีก ซึ่ง            ต้องทำใจ  หากเราตายไปวันนี้ เราก็ขนไปไหนไม่ได้ เหมือนกัน             แต่สิ่งที่เรา สั่งสมไว้ เหมือน อย่างความรู้ที่น้องดั่งก้อนกรวด ตาโตนั้น แค่หนังสือเล่มเล็กๆ เล่มเดียว ที่ไม่อาจไปตามหามาได้ เราจะบอกใคร คนอื่น อย่างไร ?           วันนี้ ไปค้นหา "สมุด โทรศัพท์ เล่มปกหลุดกระจุย " มาได้ น่าจะมี เบอร์ เล็ก แล้วจะโทรฯไปถาม สักครั้งว่า กวีคนนั้น ของฝรั่งคือ ใคร  Byron  หรือ Keith  หรือ ใคร ...คงจะถามมาให้ น้องๆ ทั้งหลาย อย่าเป็นลมไปเสียก่อน              ส่วนพวกที่  "บูชาคลั่งไคล้" จับจิต           ก็อย่าโกรธ ข้าพเจ้าเลย       ถ้ามันเป็นความจริง อย่างเห็นได้ชัด จาก วันเดือนปีที่เขาเขียนไว้ก่อน เราก็ต้อง เปิดหมวก ให้เขาเหมือนกัน ใช่ไหม ? เท่านี้ก่อนคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 6 ต.ค. 50 22:59:25 ]

ความคิดเห็นที่ 15 พี่คะข้อมูลที่ได้รับทราบนี้ หนูเล่าให้ป๊าฟังป๊าหนูยังตกใจถามว่าจริงเหรอลูกป๊าก็เพิ่งทราบค่ะพี่ ตื่นเต้นมากๆเลยค่ะ.. จากคุณ : ดั่งก้อนกรวด - [ วันเกิด PANTIP.COM 07:53:57 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คิดไปคิดมา ท่าจะไม่ใช่เรื่องจ้อย เรื่องจิ๊บ เสียแล้ว น้อง ดั่งก้อนกรวด        แล้วเราก็ไม่ได้เกิดยุคเดียวกับท่านเสียด้วย      แต่จะพยายาม เรียบเรียง จินตนาการ ถึง "ขั้นตอนที่บทกวีนั้นเกิดขึ้น" ตาม ประวัติศาสตร์ประเทศสักครั้ง ฝากไว้ก่อนนะคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 9 ต.ค. 50 10:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 50 11:44:41 จากคุณ : เมฆวายุ - [ 9 ต.ค. 50 11:35:45 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สามวันก่อน ได้โทรฯหาคุณ เล็กแล้ว และ อย่างน้อยได้ชื่อหนังสือมาแล้วค่ะ ชื่อ หนังสือ AD&Art  ไม่ใช่ คลังสมองนะคะ คุณเล็กให้อีเมล์มากำลังอีเมล์ส่งกระทู้นี้ไป ให้อ่าน และหวังว่า เธอจะมาตอบให้ทุกคนเข้าใจ ในสิ่งที่เธอพบ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ สำหรับคุณเมฆวายุ อย่ากังวลกับความคิดเห็นอันแตกต่าง อย่างน้อยก็น่าจะทิ้งไว้ให้เห็นบ้าง เพราะ ความคิดของคนเราอาจไม่เหมือนกัน แต่ เราก็คุยกันได้ค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ วันออกพรรษา 02:00:22 ]