หวัดดี วันนี้...คุณสบายดีไหม
คำทักสั้นๆ กับคำถามง่ายๆ ถูกถามออกไป ภายใต้ความมืดมิดของท้องฟ้า และความเงียบของราตรี
ไม่มีเสียงใดตอบรับกลับมา มีเพียงสายลมอันหนาวเหน็บพัดผ่านร่างสูงไปเท่านั้น คงเพราะฤดูหนาวใกล้มาถึงแล้ว....อีกไม่นาน
วันนี้...ก็เหมือนทุกวันๆ
เสียงนุ่มๆ ยังคงเอื้อนเอ่ยต่อไป บนดาดฟ้านี้เงียบสงบ มองไปยังพื้นล่างของใจกลางเมืองกรุงมันช่างกว้างใหญ่เสียเหลือเกินในความคิดของเขา
คุณคงสบายดีใช่หรือเปล่า...ผมอยากให้เป็นอย่างนั้น ยังไม่ได้จากผมไปใช่หรือเปล่า
ถึงจะร้องถามกี่พันร้อยรอบ ก็คงไม่มีเสียงใดตอบรับกลับมา เพราะว่าทุกอย่างได้เปลี่ยนไปหมดแล้ว เปลี่ยนไปตั้งแต่วันนั้น วันที่เธอและเขาเดินออกจากชีวิตกันและกัน
มือของชายหนุ่มเอื้อมไปหยิบรูปถ่ายใบหนึ่งขึ้นมาจากกระเป๋าที่พกติดตัวเป็นประจำ มันเป็นรูปที่เก่าแล้ว เป็นรูปของเด็กผู้ชายตัวโตคนหนึ่งกับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ยิ้มให้กันและกันด้วยใบหน้าแห่งความสุข เพียงแต่วันนี้รอยยิ้มนั้นได้จางหายไปกับวันวานที่ผ่านมา
ความทรงจำ...สวยงามเสมอไม่ว่าจะเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน ก็ยังทำให้คนที่มองกลับไปยิ้มได้ทุกครั้ง...เพราะอะไรหรอ คุณรู้หรือเปล่า
เสียงพ่นลมหายใจดังออกมาอย่างแผ่วเบา...เมื่อเงียบไปนาน กำลังที่จะเก็บรูปถ่ายใบเก่าอันล่ำค่าที่สุดในช่วงชีวิตเขา โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมาเสียก่อน นิ้วเรียวยาวกดรับพร้อมทักทายผู้ที่โทรมาด้วยเสียงปกติทั่วไป
ฮัลโล
อยู่ไหนเนี่ย วันนี้มีงานเลี้ยงรุ่นแกจะไม่มาหรือไง หรือว่าลืม เสียงนนท์เพื่อนสมัยมัธยมปลายที่ชายหนุ่มรู้สึกว่าสนิทที่สุดในสมัยนั้นถามขึ้น
ไม่ได้ลืม แต่ไม่อยากไป
ทำไมวะ
มีงานน่ะ เขาตอบออกไป ทั้งที่วันนี้เขาเคลียร์งานเสร็จหมดทุกอย่างแล้ว เพื่อเตรียมพร้อมจะไปงานเลี้ยงรุ่น หลังจากที่เขาจบจากโรงเรียนนั้น เขาก็ยังไม่เคยไปงานเลี้ยงรุ่นสักปีเดียว เพราะกลัวอะไรบางอย่าง
พรุ่งนี้ค่อยทำก็ได้ เพื่อนๆ เรามากันเยอะเลยนะโว๊ย เมื่อปีที่แล้วแกก็ไม่ได้มานี่ แล้วปีนี้จะไม่มาอีกหรอ อย่างนี้ข้าไม่ยอมนะโว๊ย เพื่อนแต่ละคนก็อยากเห็นแกในฐานะเจ้าของประธานบริษัทใหญ่ แกก็กลับหลบหน้าซะอย่างนั้น ไม่รู้ล่ะยังไงแกก็ต้องมาให้ได้ล่ะ ไม่งั้นเลิกคบเป็นเพื่อนโว๊ย พูดจบนนท์ก็ตัดสายไป ทำให้ชายหนุ่มที่ฟังอยู่ไม่มีโอกาสได้ปฏิเสธได้...
สุดท้ายชายหนุ่มก็ต้องออกเดินทางไปโรงเรียนมัธยมเก่า ระหว่างทางเขาฟังเพลงของศิลปินนักร้องจากคลื่นวิทยุในตัวเครื่องรถตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ทุกอย่างในรถเงียบจนผิดปกติไป เมื่อเพลงจบไปก็มีโทรศัพท์จากผู้ฟังโทรมาขอเพลงตามปกติของคลื่นทั่วๆ ไป เขาฟังเสียงของผู้ที่โทรมาขอเพลงด้วยความรู้สึกคุ้นหู...แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะถนนในช่วงเวลานั้นรถวิ่งผ่านสวนทางกันตลอด ถ้าเผลอเพียงนาทีเดียว อาจจะไม่มีลมหายใจในวันพรุ่งนี้ให้ใช้
เพลงที่ทางบ้านขอเป็นเพลงเก่ามาก เก่าซะจน ชายหนุ่มแอบคิดไม่ได้ว่า คลื่นวิทยุนี้จะมีหรือเปล่า มันเป็นเพลงหนึ่งที่เขาไม่เคยลืม เป็นเพลงที่ทำให้เขาและเธอรู้จักกันและกัน และก็เป็นเพลงที่เขาร้องได้ดีที่สุด ชายหนุ่มรู้สึกดีใจเล็กน้อยเมื่อได้รู้ว่า คลื่นวิทยุมีเพลงนั้นอยู่ ชายหนุ่มเริ่มจะชะลอความเร็วรถลง และแวะเข้าปั๊มน้ำมันข้างทางเพื่อจะฟังเพลงนี้ให้เต็มอิ่ม...
ไม่ทราบว่าจะมอบให้ใครหรือเปล่าครับ เสียงดีเจหนุ่มถาม
สายทางบ้านเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับมาด้วยเสียงไม่ค่อยชัดเจนว่า
ฉันอยากให้ผู้ชายคนหนึ่ง...ที่ไม่ได้เจอมานานคะ
มีอะไรอยากจะบอกกับคนๆนั้นหรือเปล่าครับ ดีเจหนุ่มยังคงถาม ตามหน้าที่ของตัวเองที่ต้องทำเป็นประจำกับทุกสายที่โทรมาขอเพลง จนเป็นนิสัยเคยชินไปเสียแล้ว
อยากบอกกับเขาว่า...ตอนนี้อยากเจอเขามากที่สุด
เพราะอะไรหรอครับ พอจะบอกกันได้รึเปล่าเอย หนุ่มดีเจเริ่มถาม ตามความอยากรู้ของตัวเอง
เพราะว่า...พรุ่งนี้อาจไม่มีเวลาสำหรับให้คนเราได้ใช้อีกต่อไป
คำตอบนั้นทำเอาดีเจและผู้ฟังคลื่นวิทยุอยู่ตอนนี้กลั้นหายใจไปชั่วขณะ ร่วมถึงชายหนุ่มในรถคันงามด้วย
โอ้โห พูดซะจนพี่ซึ้งเลยนะครับน้อง ดีเจพูดเสียงสดใสหลังจากนิ่งเงียบไปนาน
ยังไงพี่ก็ขอให้น้องได้เจอกับผู้ชายคนนั้นเร็วๆ ล่ะกันนะครับ ขอบคุณครับ แล้วพี่จะเปิดเพลงที่น้องขอให้ล่ะกันนะ ไม่แน่นะครับ...ผู้ชายคนนั้นอาจจะฟังอยู่ก็ได้
ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงดี เสียงหญิงสาวตอบกลับมาเบาๆ ก่อนจะตัดสายทิ้งไป
แล้วเพลงที่ชายหนุ่มรอคอยที่จะฟังก็ถูกเอื้อนเอ่ยออกมา...จากลำโพงวิทยุ มันยังคงความไพเราะเหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิด เขาหลับตานึกไปถึงเรื่องอดีตที่ผ่านมาระหว่างเขากับเธอ หญิงสาวตัวเล็กที่เขายังรักอยู่จนถึงวันนี้ วันที่เขาคิดถึงเธอ...เขาจะต้องไปยืนคุยกับท้องฟ้าบนดาดฟ้าบ้านของตัวเอง
เขารู้ว่าตัวเองคงบ้าหรือเพ้อไปแล้วถึงไปพูดคุยกับท้องฟ้า แต่ว่า...เพราะคำพูดหนึ่งของเธอ คำพูดที่เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะพูดกับเขา คำพูดที่เขาไม่เคยคิดว่าเธออยากให้เขาทำ แต่มันก็เป็นคำพูดที่เขาจดจำได้จนถึงวินาทีนี้ ไม่เคยลืมแม้เสี้ยววินาทีเดียว
มองท้องฟ้านะ เมื่อคิดถึงฉัน ประโยคสั้นๆ แต่ได้ใจความดังก้องออกมาในหัวใจของเขา ราวกับว่ามันไม่เคยได้หายไป แต่ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี...ในหัวใจ
บทเพลงอันอบอุ่น... เขาพึมพำเบาๆ
เขานั่งหายใจอยู่ในรถพักหนึ่งหลังจากเพลงจบไป ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในสมองทันที เขากำลังนึกถึง หญิงสาวที่โทรมาขอเพลงที่เขาชื่นชอบจากดีเจ นึกแปลกใจหลายๆ อย่างในตัวผู้หญิงคนนี้ ทั้งคำพูด เสียงที่คุ้นเคย และประโยคแปลกๆ ที่เขาไม่ได้ยินมานาน หลังจากที่เลิกรากับเธอไปในวันนั้น
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง หน้าจอนั้นโชว์เบอร์ของนนท์ เขารี่ตามองมันสักพัก ปล่อยความคิดเมื่อครู่ไว้เท่านั้น ก่อนจะขับรถออกจากปั๊มน้ำมัน มุ่งหน้าตรงไปยังโรงเรียนที่เขาเคยใช้เรียนร่วมกับเธอ...เพียงวันวานเท่านั้น
งานเลี้ยงรุ่นปีนี้ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่กว่าทุกๆ ปี คงเป็นเพราะเป็นปีเดียวกับที่โรงเรียนครบรอบวันสถาปนาครบห้าสิบปี จึงทำให้ผู้อำนวยการคนใหม่ที่ชายหนุ่มรู้สึกไม่คุ้นหน้าเลยสักนิดจัดงานยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา...เขามองไปบริเวณรอบๆ ของบริเวณที่จัดงานด้วยสายตาที่หม่นหมองเล็กน้อย
ไม่มีเธออีกแล้วสินะ จบคำพูด เขาก็ก้าวเท้าเข้าไปในบริเวณงาน แต่มือหนึ่งก็เข้ามาคว้าไว้เสียก่อน เขาหันไปมองด้วยความแปลกใจและตกใจในเวลาเดียวกัน
ร่างที่เขาเห็นนั้นเป็นร่างที่สูงพอๆ กับเขา ใบหน้านั้นยิ้มแย้มบ่งบอกถึงความสุข เขายืนมองเธออยู่นาน เพราะกำลังใช้ความคิดอยู่ว่า เธอคือใคร...แล้วเขาก็ยอมแพ้ความพยายามของตัวเอง เขาเอ่ยถามด้วยเสียงสุภาพกับหญิงสาวตรงหน้าว่า
ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือเปล่าครับ
คนตรงหน้าหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า
นี่จำเราไม่ได้หรอ เรา วัน ไง
วันไหนหรอครับ
วันที่นายลืมล่ะมั้งเนี่ย...วันน่ะ วันที่เคยอยู่ห้องเดียวกับนายไง วันที่เคยเป็นหัวหน้าตอนม.6น่ะ จำไม่ได้หรือไงกัน
อ๋อๆ จำได้แล้ว วันนี่เอง ไม่เจอกันนาน เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ชายหนุ่มพูด หลังจากมองเธออยู่นาน เพราะเธอได้เปลี่ยนจากเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ผิวคล้ำๆ ในสมัยเรียนด้วยกันไปเป็นหญิงสาวที่ดูมีทีท่าสง่างาม ผิวขาว และที่สำคัญตัวเธอสูงกว่าเดิมมาก
นายก็เหมือนกันนั่นแหละ หล่อขึ้นนะเนี่ย ได้ข่าวว่าเป็นประธานบริษัทหรอจ๊ะ เก่งเหมือนกันนะเนี่ย เธอพูดเสียงใสตามความคิดของตัวเธอเอง
..... ชายหนุ่มเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรดี
เงียบทำไม...ไม่เป็นไรๆ ว่าแต่นายสบายดีไหมล่ะ
ก็เรื่อยๆน่ะ
แล้วคิดไงล่ะมางานเลี้ยงรุ่นปีนี้ล่ะ ปกติฉันไม่เคยเห็นนายมาเลย
ไอ้นนท์มันโทรให้เรามาให้ได้น่ะสิ
เสียงหัวเราะดังออกมา
นายก็ยังขี้เกรงใจเพื่อนเหมือนเดิมเลยนะ ดูไปแล้วนายก็ยังไม่ได้เปลี่ยนไป มีแต่หน้าตา ความสูงและ ความสุขุมที่เพิ่มขึ้น...ก็โตแล้วนี่เนอะ จะเอาแต่ใจเหมือนตอนเป็นเด็กได้ยังไงจริงไหม...เรื่องเก่าๆนายคงยังไม่ลืมมันไปสินะ คำถามนั้นถูกถามออกไป ตามความอยากรู้ของหญิงสาว และอาจร่วมถึงเพื่อนๆ ในกลุ่มด้วย
อื้อ เขาตอบสั้นๆ ก่อนจะตัดบทสนทนา โดยชวนเธอเข้าไปในงานเลี้ยง
เข้าไปในงานกันเถอะ ป่านนี้เพื่อนๆ คงรอพวกเราอยู่
อื้อ ก็ได้ เธอรับคำชวนและไม่อยากทำร้ายใจเขามากไปกว่านี้ ที่ผ่านมาเขาก็คงทุกข์ทรมานกับอดีตมากพอแล้ว
แล้วสองร่างนั้นก็เดินเข้าไปในงานเลี้ยงรุ่นด้วยใบหน้าเริงร่า แต่คงมีเพียงใจของชายหนุ่มเพียงคนเดียวเท่านั้นในงานนี้ที่ยังคงหม่นหมองกับเรื่องเก่าๆ
ไงว่ะ ฉันนึกว่าแกจะไม่มาแล้วอีก
ต้องมาสิ แกอุตส่าห์โทรมาชวน
ดี ไม่เจอกันนาน แกดูดีขึ้นนะเนี่ย นนท์พูดมองเขาอย่างชื่นชม
อย่างนั้นหรอ เขาตอบรับสั้นๆ ก่อนจะขอตัวไปเดินสำรวจโรงเรียน หลังจากไม่ได้มาที่นี่เป็นเวลาหลายปี
ระหว่างทางที่ชายหนุ่มเดินไป...เขาคิดถึงแต่เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น บนทางเล็กๆ ที่เธอและเขาเคยใช้เดินไปด้วยกันในทุกที่ แล้วร่างของเขาก็หยุดลงเมื่อเดินมาถึงม้าหินอ่อนตัวหนึ่งที่อยู่ไกลจากงานเลี้ยงพอสมควร บนม้านั้นมีร่างของผู้หญิงผมยาวปะบ่าคนหนึ่งในชุดขาวนั่งอยู่ ที่เขาหยุดไม่ใช่ว่าสนใจในตัวหญิงสาวคนนั้นขึ้นมา แต่เพราะว่าม้านั่งนั้นมันเป็นที่เขาและเธอใช้นั่งด้วยกันทุกวันหลังเลิกเรียน แปลกใจที่เห็นผู้หญิงมานั่งในที่เปลี่ยวๆ และเงียบเชียบแบบนี้ กำลังที่จะเอ่ยถามว่า เพราะอะไรถึงมานั่งอยู่ตรงนี้ แต่หูก็ได้ยินเสียงสะอื้นของหญิงสาวขึ้นเสียก่อน เขาเงียบไปนาน กำลังลังเลอยู่ว่าจะถามดีไหมว่าเธอเป็นอะไร หรือว่าจะเดินจากไปดี สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกถามเธอไปว่า
เป็นอะไรไปครับ ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ
ผู้หญิงปริศนาคนนั้นเงียบไปพร้อมกับเสียงสะอื้น ชายหนุ่มค่อยๆ เข้าไปใกล้ตัวเธออย่างช้าๆ แต่กลับได้ยินเสียงของเธอตอบกลับมาว่า
ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องเดินเข้ามานะค่ะ
เสียงที่ตอบกลับมา ชายหนุ่มรู้สึกคุ้นเคยอีกแล้ว ราวกับว่าเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน เพียงแต่ไม่แน่ใจเท่านั้นว่าใช่หรือเปล่า...
..........................................................................
แล้วจะมาลงตอนต่อไปคะ ขอบคุณทุกคำติชมและขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านคะ
จากคุณ :
memory_sky
- [
2 ต.ค. 50 17:01:54
A:203.113.80.16 X: TicketID:127260
]