Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ผีข้างถนน

    ผีข้างถนน..                  โดย..ราส์ส.....
           ประมาณ ปี พ.ศ. 2539 กรมที่ดินมีนโยบายเกลี่ยอัตรากำลังเจ้าหน้าที่  จากสำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสาขาที่มีปริมาณงานน้อย  โดยวิธีเกณฑ์ข้าราชการบางส่วน   ส่งไปช่วยราชการ ณ จังหวัดห่างไกล ที่อัตรากำลังเจ้าหน้าที่มีน้อย  แต่มีปริมาณงานเกิดขึ้นมาก...โดยใช้วิธีผลัดเปลี่ยนกันไปปฏิบัติงาน  ช่วงละประมาณ 10 เดือน ชุดหนึ่งๆประมาณ 100 คน โดยแยกไปช่วยงานตามจังหวัดต่างๆ..ซึ่งส่วนมากจะเป็นภาคอีสานหรือภาคเหนือตอนบน   พวกที่โดนเกลี่ยไป  ส่วนมากตำแหน่งเดิมจะประจำอยู่ในกรมที่ดิน หรือไม่ก็จังหวัดในภาคกลาง...
           คำสั่งของกรมที่ดิน...ประกาศอย่างสายฟ้าแลบ    เพราะไม่เคยมีนโยบายแบบนี้มาก่อน  บางคนตั้งตัวไม่ติด เพราะจู่ๆคำสั่งออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย สำหรับผู้เขียนโดนเกลี่ยเป็นชุดแรก  และเป็นคนเดียวของจังหวัดสระบุรี โดยถูกสั่งให้ไปช่วยงานที่จังหวัดกาฬสินธุ์   ได้ยินแต่ชื่อไปก็ไม่เคยไปไม่รู้อยู่ตรงไหนของประเทศ ต้องหาแผนที่เปิดดูเป็นการใหญ่  ดูรายชื่อในคำสั่ง 100 กว่าคน  บางคนเดิมประจำอยู่ปทุมธานี  โดนไปช่วยที่มุกดาหาร  บางคนประจำอยู่สาขาห้วยขวาง ก็โดนไป สาขาบึงกาฬ จังหวัดหนองคาย  พวกคุณชายและเด็กเส้นทั้งหลายเคยอยู่แต่ที่สบาย  ร้องระงมกันเป็นทิวแถว กลับตัววิ่งเต้นไม่ทัน   เพราะเป็นคำสั่งที่ลับมากจริงๆ เนื่องจากอธิบดีไม่ต้องการให้มีการวิ่งเต้น  ในการคัดเลือกรายชื่อไปช่วยราชการ อาศัยหลักเกณฑ์ง่ายๆคือเลือกเอาคนที่ประจำอยู่จังหวัดนั้นๆนานที่สุดและไม่เคยโยกย้ายไปไหน  เขาเรียกว่าอยู่จนเป็นมาเฟีย หรือเป็น ปู่ ผู้เขียนโดนไปเพราะอยู่ประจำที่สระบุรีนานกว่าใคร นับได้ ณ วันที่ออกคำสั่ง ประมาณ 17 ปีเลยโดนเชือดเป็นรุ่นแรก
          ดูคำสั่งแรกๆยังดูไม่ออกว่าให้ไปช่วยเป็นการชั่วคราวหรือให้ไปช่วยเป็นการประจำ หากช่วยเป็นการประจำก็เหมือนย้ายขาดจากที่เดิม ถ้าช่วยเป็นการชั่วคราวก็มีกำหนดกลับที่เดิม   ตรวจสอบระยะทางจากพรรคพวกที่รับราชการประจำอยู่แถวนั้น ระยะทางน่าจะประมาณ เกือบ 400 กิโลเมตร ตอนรับทราบคำสั่งใหม่ๆผู้เขียนถอดใจเหมือนกัน อีกทั้งยังได้ทราบข่าวว่ามีหลายคนพอได้รับคำสั่ง ยื่นหนังสือขอลาออกทันที ไม่ออกไหวหรือ ??อย่างที่บอกไว้เขาเลือกคนที่อยู่ที่เดิมนานๆเป็นหลัก ฉะนั้นพวกที่อยู่ในกรุงเทพฯตามเขตต่างๆ  พวกนี้อยู่แหล่งเงินแหล่งทองจน รวยแล้ว เล่นสั่งให้ไปช่วยราชการ แม่ฮ่องสอน อย่างงี้ ,  เชียงรายอย่างงี้  แล้วไม่ใช่อยู่จังหวัดนะ ให้ไปอยู่สาขา ห่างไกลออกไปอีก สาขาก็อำเภอเราดีๆนี่เอง  ใครจะไปไหว  ก็ลาออกสถานเดียว มีลาออกไป 10 กว่าคน ต้องหาคนไปแทนกันวุ่นวาย    พวกที่โดนสั่งไปแทนคนที่ลาออก ด่ากันระงม ...เพราะโดนความซวยมาเยือนแบบไม่รู้ตัว....ใหม่ๆอาจหัวเราะพรรคพวก..โดนเข้าไปหัวเราะไม่ออก  
           ตอนนั้นข้าราชการเสีย ขวัญมาก เพราะไม่รู้จะมีคำสั่ง 2 หรือ 3 ตามมาอีกหรือเปล่า  ต่างวิ่งเต้นกันวุ่นวาย  งานการไม่เป็นอันทำกัน ใครมีเส้นสายหรือรู้จักผู้ใหญ่ในกรมฯก็ซื้อเหล้ายา ของขวัญ ไปหากัน ...เหล่าเจ้านายทั้งหลาย ส้มหล่นอิ่มไปหลายมื้อ...นี่แหละระบบข้าราชการไทย....
          ผู้เขียนตรวจสอบจากเจ้านายเก่า..และพรรคพวกที่อยู่หน้าห้อง อธิบดี..พอทราบว่าเป็นการไปช่วยชั่วคราว ไม่เกินปีงบประมาณนั้นๆก็ค่อยโล่งอกหน่อย...คงประมาณ 10 เดือน..
          เส้นทางไปจังหวัดกาฬสินธุ์...ไปตามถนนมิตรภาพ  จากสระบุรี – นครราชสีมา – ขอนแก่น – มหาสารคาม – และก็ กาฬสินธุ์..
    การเดินทาง  ผู้เขียนไปและกลับทุกอาทิตย์ พาหนะที่ใช้เป็นรถ ปิ๊คอัพแวน 5 ประตู ไม่ได้ขับเองจ้างคนงานรังวัดไว้ 1 คนโดยจ้างเป็นรายเดือนเอาไปทำงานด้วยและอาศัยให้ขับรถให้ด้วย   ผู้เขียนชอบเดินทางตอนกลางคืน  เนื่องจากอากาศเย็นสบายและไม่จอแจ ออกจากบ้านประมาณ 2 ทุ่ม ขับไปเรื่อยๆ  เส้นทางบนถนนมิตรภาพมีไหล่ทางกว้าง ขับสบายๆไม่มีปัญหารถรามีวิ่งกันตลอดทางไม่เปลี่ยวมากนัก  พอเลยโคราชออกไปมีเงียบบ้างเป็นบางช่วง เพราะถึงช่วงนี้จะเป็นเวลาประมาณ 4 ทุ่มเศษๆ  ขับไปเรื่อยๆแวะปั๊มน้ำมันกลางทางให้คนขับ สูบบุหรี่และเข้าห้องน้ำบ้าง  เส้นทางจะไปจังหวัดกาฬสินธุ์นั้น ต้อง เลี้ยวแยกขวาช่วงที่ก่อนจะถึงตัวเมืองขอนแก่น  เป็นถนนบายพาส  สายอ้อมเมือง
         ตอนขับรถเลี้ยวแยกจากถนนมิตรภาพ เข้าสู่ถนนอ้อมเมืองขอนแก่น  เวลาน่าจะประมาณ เที่ยงคืนกว่าๆ บ้านช่องของชาวบ้านข้างทางปิดหมดแล้วรถวิ่งไปมองดูข้างทาง นานๆจะเห็นแสงไฟบ้างประปราย  พอสุดถนนบายพาส เลี้ยวขวา เข้าเส้นทางที่จะต้อง ผ่านจังหวัดมหาสารคาม ตอนนี้แหละข้างทางเริ่มไม่ค่อยมีบ้านคน  นานๆจะมีรถสวนมาซักคัน  หรือนานๆจะมีรถขับแซงไปบ้าง ผู้เขียนนึกในใจว่าคงประมาณ ตี 1ยิ่งขับมานานเท่าไหร่ สองข้างทางก็ไม่มีบ้านคนเลยมันเหมือนขับรถเข้าไปในความมืด เหมือนในโลกนี้มีกันแค่ผู้เขียนกับลูกน้องเท่านั้น  ยังนึกเสียวๆว่าหากเกิดรถยางแตก หรือเครื่องเสียตอนนี้  คงจะบ้าตายแน่ๆ  อากาศเดือนนี้เย็นฉ่ำๆ เพราะเป็นหน้าทำนา  มองตามแสงไฟของรถ ภาพบนถนนมองเห็น  แมลงบ้างกบเขียดบ้าง กระโดดอยู่บนถนน บางช่วงที่ถนนโค้งแสงไฟสาดเลยถนนออกไปเห็นต้นข้าวในนา  ปลิวเขียวเต็มทั้งทุ่ง บางที่ก็เห็นพุ่มไม้ใหญ่ๆดำทมึน เป็นรูปร่างต่างๆ  เสียงยางรถบดถนนกรีดๆๆเป็นเพียงเสียงเดียวที่ได้ยิน เพราะไม่มีเสียงอย่างอื่นเลยมันเงียบสนิท   เสียงกรีดๆของล้อรถ ชวนให้ง่วงนอน ผู้เขียนเลยปีนข้ามไปเบาะหลังเพื่อจะนอนเสียหน่อยง่วงเต็มที เอนตัวนอนบนเบาะ..เคลิ้มจนไม่รู้หลับไปตอนไหน
           เปรี้ยงๆๆโครมๆๆ..ปลื้นๆๆๆเสียงดังสนั่น....ผู้เขียน สะดุ้งตื่นขึ้นมาทันทีมองไปหน้ารถ  ไม่มีอะไรและคนขับก็ไม่หยุดรถ
    เฮ้ย  !!! ยุทธ   ผู้เขียนตะโกนบอกลูกน้อง  รถชนอะไรวะ....ชนคนหรือเปล่า ???  เป็นอะไรบ้างหรือเปล่า ตายหรือเปล่า วะ  ผู้เขียนพูดเร็ว ปรื๋อ...
          “ยุทธ” ไม่พูดอะไร มันรีบเร่งเครื่องเร็วขึ้น    ผู้เขียนใจไม่ดี  ตาย ห่ะ!!  มันชนคนแล้วหนีหรือ นี่  แต่ไม่รู้ทำไง  ตกใจมือไม้สั่นไปหมด...        สักพัก  อ้ายยุทธ หันมาบอกว่า “ พี่ไม่ต้องพูดอะไรเดี๋ยว จะเล่าให้ฟัง”  แล้วมันก็ขับรถต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
           แต่ผู้เขียน ซิ ไม่สบายใจเลย  ขับรถชนคนมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆๆ  แต่ทำไม่มันไม่ตื่นเต้นซักนิด...หาเรื่องเดือดร้อนให้หรือเปล่า  วะ!! นี่   จากนั้น เราไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลย  ผู้เขียนเอนหลังนอน ที่เบาะหลังต่อ  แต่นอนไม่ค่อยหลับ คิดไปต่างๆๆนาๆๆ สารพัด  จนถึงอำเภอยางตลาด เลี้ยวซ้ายไปจังหวัดกาฬสินธุ์ …
           รถถึงที่พักที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ประมาณ เกือบ ตี 3 พอเข้าบ้าน    ลงจากรถ ยุทธ จุดบุหรีสูบ อย่างสบายอารมย์ ก่อนเล่าให้ ฟังว่า  ช่วงที่รถจะถึงจุดที่ชนประมาณซัก 200 เมตร   เนื่องจากไม่มีรถวิ่งสวนจึงเปิดไฟสูงวิ่งมาตลอด มันเห็นมีเงาตะคุ่มอยู่ข้างทาง เป็นเหมือนคนแต่ไม่แน่ใจจนเข้ามาใกล้ จึงเห็นเป็นคนนั่งริมถนนหันหลังให้ถนน  มันยังคิดว่าใครมานั่งทำอะไรดึกดื่นป่านนี้  และแถวนี้ไม่มีบ้านคนมาตลอดทาง   แต่ บนถนนมองเห็นเศษไฟแตก เศษบังโกลนรถมอเตอร์ไซค์ กระเด็นเกลื่อนถนน  
          สิ่งที่ทำให้ ยุทธ ตกใจ  ขนลุกซู่ไปทั้งตัว อากาศรอบตัวเย็นยะเยือกไปทั่วรูขุมขน  คือภาพถนนเลนซ้าย คือเลนที่รถวิ่งอยู่นี่แหละ กลางถนน มีรอยสี  สีขาว  พ่นทับอยู่กลางถนนเป็นรูปตัวคน และมีสีแดง เลอะๆอยู่ด้วย  ตอนนี้ยุทธ คิดว่าโดนอะไรเข้าแล้ว  อีกทั้งไอ้คนที่เห็นนั่งหันหลังอยู่ข้างทาง กำลังทำท่าจะหันหน้ามา   เหมือนจะยื่นมือออกมาโบก   มันไม่หลบแล้วขับรถตรงไปอย่างเดียว ชนเป็นชน มันบอกว่าถ้าตกใจขับหลบ รถอาจเสียหลักคว่ำได้  วิ่งชนแหลก เลย จนเกิดเสียงดังนั่นแหละ  มันเล่าไปอัดบุหรี่ไปด้วย  และมันยืนยันด้วยว่าที่นั่งอยู่ข้างทางเป็นคนร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นรูปร่างชัดเจน แต่เห็นหน้าไม่ชัด มัวแต่ตกใจ ผู้เขียนถามมันว่า แล้วรู้สึกรถชนอะไรหรือเปล่า มันบอกว่ารู้สึกว่าชนแต่ไม่มีแรงกระแทกอะไรมาก  เสียงน่าจะเกิดจากชนทับเศษบังโกลนรถมอเตอร์ไซค์ที่ตกอยู่กลางถนนก็ได้   ผู้เขียนได้เดินไปดูหน้ารถทางด้านซ้ายก็ไม่เห็นมีรอยที่ผิดสังเกต อะไร ไม่มีรอยบุบ
    อะไรเลย  แต่ในความรู้สึกของผู้เขียนคิดว่ามันเหมือนรถวิ่งชนอะไรซักอย่างไม่ใช่เสียงรถวิ่งทับสิ่งของแน่  เสียงมันดังขนาดหลับสนิทยังสะดุ้งตื่นสุดตัว.....ผู้เขียนยังสงสัยอยู่ว่า “ยุทธ” มันโกหกหรือเปล่า?วันต่อๆมาพยายามหาข่าวเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุ ในพื้นที่บริเวณดังกล่าว  จึงแกล้งโทรไปที่ สน. ยางตลาด เพื่อสอบถามตำรวจว่าตามวันเวลาดังกล่าวมีอุบัติเหตุรถชนกันหรือไม่ ได้รับคำตอบว่า ไม่มี ??...ก็โล่งใจไป..    
          ถึงวันศุกร์ เราจะต้องเดินทางกลับสระบุรี   ซึ่งเป็นการเดินทางประจำตามปรกติ  คือวันศุกร์ประมาณ บ่ายสามโมงก็กลับสระบุรี และวันอาทิตย์กลางคืนก็เดินทางไปกาฬสินธุ์ จะเป็นอย่างนี้  ....
           ขากลับ  ผ่านมาถึงบริเวณจุดที่มีเหตุการณ์คืนนั้น ประมาณ เกือบ สี่โมงเย็น ด้วยความสงสัยแน่น อก  ผู้เขียนบอกให้ ยุทธ  จอดรถ  ฝั่งตรงกันข้ามแล้วชวนกัน ลงไปเดินดู   พบว่า  บริเวณผิวจราจร ซีกด้านขาไปจังหวัดกาฬสินธุ์  มองเห็นเป็นรอยสี สีขาว พ่นทับเป็นรูปคน   และรอยเลือดพร้อมทราย    ที่โรยทับเอาไว้ มี เศษ ไฟแตกและ บังโกลนรถมอเตอร์ไซค์ เป็นเศษเล็กๆให้เห็นอยู่บ้าง  แต่เลือดแห้งเกอะกรังแล้ว  จนออกเป็นสีดำๆ
          สรุป ก็คือจุดนี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น รถชนกันจนมีคนตาย ตำรวจก็เอาสีมาพ่น ตำแหน่งที่คนนอนตายไว้
          ผู้เขียนยังนึกสงสัยว่าแล้วเสียงที่ชน ล่ะ ดังจนผู้เขียนตื่น มันดังจากไหน  แล้วมันไปชนอะไร ก็ไม่มีรอยชน หรือผู้เขียนหูฝาดไป แต่ถาม ยุทธ แล้ว มันก็บอกว่า มันชนจริง แล้วสำคัญ เสียงดัง จริงด้วย........ โอ๊ย  เจ้าประคู๊ณ  ดุ จริงๆๆๆ...  
    หมายเหตุ  : ผู้เขียนไปช่วยราชการสำนักงานที่ดินจังหวัดกาฬสินธุ์ ประมาณ 10 เดือนพบประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องผี ถึง 3 ครั้ง   ครั้งสุดท้ายก่อนมีคำสั่งเดินทางกลับ โดนผีหลอก บนบ้านพักเลย (เป็นบ้านพักของหลวง  บ้านประจำตำแหน่งของข้าราชการ เป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่  สร้างแบบสมัยโบราณทั่วไปอายุคิดว่าเกือบๆ 100 ปี  บริเวณรอบบ้านร่มเย็นจากต้นไม้ใหญ่  เป็นบ้านพัก สำหรับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายรังวัด  แต่ตัวหัวหน้าฝ่ายรังวัดไม่ได้เดินทางมาปฏิบัติงาน คือมีแต่ชื่อ แต่ตัวจริงไปปฏิบัติหน้าที่ยังหน่วยงานอื่นผู้เขียนไปช่วยงานในตำแหน่งหัวหน้างานรังวัด จึงได้ถือโอกาสเข้าพักอาศัยแทน) วันหน้าจะเล่าให้ฟังอีก.....

    จากคุณ : ออนชอร์ - [ 4 ต.ค. 50 16:50:20 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom