Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    Marry Me

    ก๊อก! ก๊อก!! ก๊อก!!!

    เสียงบางอย่างดังขึ้นจากหน้าประตู สร้างอารมณ์ขุ่นเคืองให้ผมเป็นอย่างมาก...ใครนะ รบกวนช่วงเวลาเช้าวันหยุดอันแสนสุขจริงๆ...

    ถึงจะแอบบ่นในใจ แต่ผมก็จำใจต้องลุกจากเตียงโปรดไปเปิดประตูต้อนรับผู้มาใหม่ตามมารยาท (ที่ไม่ดีนัก) หน้าตาเผ้าผมรุงรัง ฟันไม่แปรง น้ำไม่อาบ และที่สำคัญที่สุด...ผมไม่นิยมใส่เสื้อและกางเกงเวลานอน...

    หากก่อนออกไปเปิดประตู ผมก็ยังมีสติสัมปชัญญะพอที่จะหาผ้าเช็ดตัวมาปิดบังส่วนล่าง เดินงัวเงียงึมงำปลดล็อคประตูหน้าห้อง แล้วประตูบานนั้นก็ถูกผลักจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม้บานใหญ่ แถมแข็งสุดๆ ชนปั้งกับศีรษะที่มีความแข็งน้อยกว่า

    “โอ๊ย! ใครวะ!!!” ผมร้องขึ้นอย่างหงุดหงิด แค่มาเคาะประตูแต่เช้าก็อารมณ์เสียพอแล้ว...แล้วนี่อะไร จู่ๆ ก็มาโดนประตูตบหน้า โอย...ใครกันนะช่างชั่วร้ายนัก งานนี้สงสัยได้มีด่ากันสักหน่อยล่ะ

    “อ๊ายยย! พี่กิตติ์...รสขอโทษ”

    “อ่อ...เฮอะๆ ไม่เป็นไรครับ”

    จากตอนแรกที่กะจะด่าให้แหลก กลับเปลี่ยนเป็นต้อนรับขับสู้เธอเป็นอย่างดี...ก็ใครจะกล้าด่าคนรักของตัวเองล่ะ เธอยิ่งงอนเก่งอยู่ ขืนพลั้งปากไป มีหวังผมต้องไม่ได้เจอหน้าเธออีกแน่

    ผมเชิญรสรินเข้ามาให้ห้องเช่าสุดหรู (แต่รกสุดๆ) ของตัวเอง หาน้ำหาท่าให้เธอเป็นอย่างดี ก่อนจะรีบวิ่งปรื๋อไปหาเสื้อผ้าใส่ให้ดูสุภาพพอที่จะอยู่กับสาวตามลำพังสองต่อสอง

    “พี่กิตติ์...รสว่าพี่กิตติ์ไปอาบน้ำเลยดีกว่านะ”

    “รสจะไม่รอนานเหรอ”

    “ถ้าให้เลือกระหว่างรอกับคุยกับผู้ชายเหม็นๆ ล่ะก็...รสขอเลือกรอดีกว่า”

    น้ำคำของเธอทำให้ผมหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะเข้าไปในห้องน้ำ รีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อยอย่างเร่งรีบด้วยความที่ว่ากลัวคนรักจะรอนานและกลับไปเสียก่อน

    “พี่กิตติ์อาบน้ำเร็วเนอะ” เธอส่งเสียงเมื่อผมบิดลูกบิดจนได้ยินเสียงแกร๊ก ก่อนจะโผล่ตัวที่มีผ้าเช็ดตัวผืนเดิมออกไปพร้อมกับหยดน้ำพรายทั่วร่าง ทำเอาเธอร้องวี๊ดกับความไม่ระวังตัวของกระผมเอง (แหะๆ) “ทำไมออกมาอย่างนั้นเล่าพี่กิตติ์ น่าจะเอาเสื้อผ้าเข้าไปใส่ในห้องน้ำด้วย!”

    “อ่าว...ก็พี่ไม่เคยชินนี่นา พี่ไม่ผิดนะ รสมาเช้าเกินไปเอง” ผมแก้ตัวไปเรื่อย ความจริงก็อยากคุยกับเธอในสภาพนี้เหมือนกัน ดูเธอหน้าแดง ร้องโวยวายน่ารักดี

    “กวนประสาท อนาจาร ไม่รู้เป็นพระเอกหนังได้ไง น่าเกลียดที่สุด!!!” ดูเธอสิ...ใส่ผมไม่ยั้ง ถึงผมจะเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะทำแบบนี้ไม่ได้นี่นา...กฎหมายก็ไม่ได้มีห้ามสักหน่อย

    “มันคนละเรื่องกันเลยนะครับ ไม่ได้เกี่ยวกันสักนิด”

    “ไม่เกี่ยวกัน...แต่พี่ก็ต้องรักษาภาพพจน์ไม่ใช่เหรอ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น เดี๋ยวก็ได้คะแนนนิยมลดลงหรอก”

    “ก็มันไม่มีใครรู้นี่นา รสเนี่ย...ได้โอกาสรู้คนแรกเลยนะ” ผมตอบเสียงเจ้าเล่ห์ รอยยิ้มพรายผุดขึ้นบนดวงหน้าหล่อๆ ของผม (ไม่ค่อยหลงตัวเองอ่ะ) ทำเอาเธอค้อนใส่ผมวงใหญ่ ฮ่าๆ...แกล้งใครก็ไม่สนุกเท่าแกล้งผู้หญิงที่ตนรักหรอก...จริงไหมครับ

    “แหยะ...” เธอทำท่าเหมือนจะอาเจียน เฮ้อ...แฟนผม “รีบๆ ไปแต่งตัวเลยพี่กิตติ์ หึ! เผลอเถียงด้วยซะตั้งนาน” ประโยคหลังรสรินเหมือนพึมพำกับตัวเอง แต่ขอโทษนะ...เผอิญผมได้ยิน...


    ผมใช้เวลาไม่นานในการเลือกสรรเสื้อผ้าและแต่งตัว ใครๆ ต่างก็บอกว่าผมเป็นคนมีรสนิยมในการแต่งตัวดีเยี่ยมทั้งที่เสื้อผ้าที่ผมใส่ก็ออกจะสุดแสนธรรมดา หาซื้อได้ตามท้องถนนและตลาดเปิดท้ายมือสองทั่วไป ผมยิ้มให้ผู้ชายที่ทำหน้าหล่ออยู่ในกระจกตรงหน้า ก่อนเปิดประตูออกไปหาผู้หญิงที่อยากอยู่ด้วยทั้งวันไม่มีเบื่อ

    “วันนี้ไม่มีถ่ายละครเหรอ” รสรินถามทันทีที่เห็นผม สงสัยเป็นเพราะเสื้อยืดสีขาวค่อนข้างเก่าของผมล่ะมั้งที่ทำให้เธอรู้ได้

    “ใช่...ละครเรื่อง ‘ฟ้านำทางรัก’ ปิดกล้องไปแล้ว พี่กะว่าจะพักงานสักพัก” ผมหมายถึงละครเรื่องล่าสุดที่ผมเล่นคู่กับนางเอกสาววัยใสจนมีข่าว ‘คาว’ ออกมาทำผมปวดหัวจนต้องวิ่งแก้ข่าวอยู่เป็นเดือน เวลานั้นผมไม่กลัวใครเข้าใจผิดนอกจากผู้หญิงที่ชื่อรสรินคนนี้ โชคยังดีที่เธอยังพยายามทำความเข้าใจ แม้ว่าจะขาดความมั่นใจในตัวผมไปมากทีเดียว

    “ฮ้อ...ปิดกล้องไปแล้วก็ดี พี่จะได้อยู่ห่างๆ ยัยกระแต๊นนั่นซะที”

    ดูเธอพูดสิครับ นางเอกคนนั้นเขาชื่อ ‘กระแต’ คุณเธอดันเรียกจนชื่อเค้าเสียหายยับเยิน ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนทรุดตัวลงนั่งข้างๆ แขกผู้มาเยือน

    “อยากกอดรสจัง”

    เธอขมวดคิ้วใส่ผมเชิงดุทันทีตามคาด แต่ผมรู้ว่าเธอไม่ว่าอะไรหรอก ผมยิ้มกว้าง เธอยิ้มตอบ...เป็นยิ้มที่มองอย่างไรก็ไม่มีวันเบื่อ มองอย่างไรก็มีความสุข

    “ตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่รู้ว่าพี่ไม่ค่อยมีเวลาให้รสเท่าไหร่...รสไม่โกรธพี่นะ”

    “ไม่โกรธ แต่น้อยใจ...มากๆ” เธอย้ำคำสุดท้ายชัดเจน เล่นเอาความรู้สึกผิดแล่นปรี๊ดขึ้นมาในจิตใจ

    “พี่ขอโทษ” ผมตอบเสียงอ่อย

    “รสไม่ได้ว่าอะไรพี่สักหน่อย รสแค่บอกว่าน้อยใจ ไม่ต้องทำหน้าเศร้าเรียกคะแนนสงสารขนาดนั้นก็ได้” รสรินยิ้มหวาน ทำผมใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง ผมเอื้อมมือไปกุมมือเรียวของเธอไว้...มือเธอนุ่ม...หากไร้สิ่งใดประดับอยู่...

    …ความคิดหนึ่งบังเกิดขึ้นในสมองของผม...

    (มีต่อ)

    จากคุณ : kakok_riwkiw - [ วันเกิด PANTIP.COM 18:44:01 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom