Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ความทรงจำครั้งสุดท้าย 2

    “คุณร้องไห้ทำไมหรอ” เสียงชายหนุ่มเอ่ยถาม

    “ไม่มีอะไรหรอกคะ คุณมางานนี้ด้วยหรอคะ”

    “ครับ ไม่ได้มานาน ทุกอย่างเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน” ชายหนุ่มตอบเสียงสบายๆ เขาลวงกระเป๋าเสื้อตัวเองเพื่อหยิบผ้าเช็ดหน้าให้กับหญิงสาว

    “ขอบคุณนะคะ แต่อย่าเข้ามาใกล้ฉันมากไปกว่านี้เลย” หญิงสาวพูดเพียงเท่านั้น ชายหนุ่มพยักหน้าตามความต้องการของเธอ ก่อนจะถอยออกห่างจากตัวเธอ ตอนนี้เขาและเธอห่างจากกันเพียงสามก้าวยาวๆ ของเขาเท่านั้น

    “ขอบคุณอีกครั้งคะ แต่ถ้าจะให้ดีคุณควรกลับไปงานเลี้ยงรุ่นดีกว่านะคะ”

    “ไปแน่ครับ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ตอนนี้ผมอยากเดินย้อนเวลากลับไปในอดีต...ที่ที่ผมเคยเรียนอยู่ที่นี่”

    “ที่นี่มีค่ามากสำหรับคุณหรอ” เสียงนั้นถามเงียบๆ

    “มีค่ามากครับ ผมไม่เคยลืมที่นี่ ถึงผมจะไม่ได้มางานเลี้ยงรุ่นสักปีเดียวหลังจากเรียนจบไป แต่ผมก็จำทุกอย่างในโรงเรียนนี้ได้ดี”

    “หรอคะ ฉันก็เหมือนกันคะ ที่นี่เป็นที่ๆ ฉันไม่เคยลืม ไม่ว่าจะอีกกี่ปี ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ฉันมางานเลี้ยงรุ่นทุกปี หลังจากเรียนจบ ทุกปีมันก็เหมือนเดิมจนมันทำให้ฉันเบื่อ...ไม่อยากมาในปีนี้ แต่สุดท้ายฉันก็มาจนได้…”

    “เพราะอะไรหรอครับ”

    “เพราะว่า...ฉันอยากเก็บความทรงจำไว้น่ะสิค่ะ”

    “ความทรงจำอย่างนั้นหรอ” เขาพูดอย่างสนใจ

    “ใช่ค่ะ ที่แห่งนี้ โรงเรียนนี้เป็นที่ฉันคิดว่า ฉันมีความสุข มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะมากที่สุด ได้เจอเพื่อนๆ ได้เจอคนที่ฉันชอบ และคนที่ฉันรัก แค่นี้มันก็เพียงพอแล้ว”

    “ครับ แปลกดีนะครับ...”

    “แปลกอะไรหรอคะ”

    “วันนี้ผมได้ยินคำพูดแปลกๆ คำพูดที่ผมไม่ได้ฟังมานานแล้วน่ะครับ ก็เลยรู้สึกแปลกขึ้นมา แต่ก็รู้สึกดีนะครับ ที่ได้ฟังมันอีกครั้ง ถึงแม้จะรู้ดีว่าคำพูดนั้นคงไม่ได้ยินจากปากคนนั้นอีกต่อไปแล้ว”

    “หรอคะ คุณมองโลกแง่ร้ายจังเลยนะคะ” หญิงสาวเงียบไปก่อนจะเอ่ยออกมา

    “ครับ ผมหรอมองโลกแง่ร้าย...”

    “ใช่คะ ทำไมคุณไม่คิดว่า คนๆ นั้นอาจจะเป็นคนเดียวกันก็ได้ล่ะ”

    “ผมคิดครับ แต่ก็รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้”

    “คุณนี่ขี้ขลาดจังเลยนะ แค่นี้ก็ยอมแพ้แล้ว”

    “ขี้ขลาดยังไงครับ ผมไม่เข้าใจ”

    “อย่ายอมแพ้อะไรก่อนที่ยังไม่ได้ลงมือทำและอย่าเอาความคิดตัวเองมาตัดสินว่าถูกหรือผิด ดีหรือไม่ดี เพราะบางเรื่องความคิดก็ตัดสินไม่ได้ แต่ความรู้สึกต่างหากที่จะตัดสินได้...”

    “มันก็จริงครับ...คุณต้องการบอกอะไรกับผมแน่”

    “สักวันคุณจะรู้เอง” เธอตอบกลับมาเท่านั้น ชายหนุ่มเงียบไปและมองท้องฟ้ายามราตรีด้วยหลากหลายความรู้สึก

    “ความทรงจำของคุณสวยไหมครับ” เขาเอ่ยถาม ขณะนั่งลงกับก้อนหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง ก่อนจะพิงหลังไปยังต้นไม้ที่ให้ร่มเงา

    “สวยมากค่ะ ถึงปีที่ผ่านมานี้จะไม่ค่อยสวยเท่าไรนัก แต่ปีนี้...ปีที่สิบมันสวยที่สุดคะ”

    “เพราะอะไรหรอครับ พอจะบอกผมได้ไหม”

    “เพราะว่า...ฉันได้เดินย้อนเวลากลับไปอีกครั้งไงล่ะค่ะ...ได้เดินไปกับ...” เสียงนั้นเบาจนชายหนุ่มไม่ได้ยิน

    “กับใครนะครับ”

    “กับความรู้สึกเดิมๆ น่ะค่ะ”

    “อ๋อครับ”

    “แล้วทำไมคุณถึงอยากเดินย้อนไปในอดีตล่ะ”

    “เพราะผมอยากให้วันนี้เหมือนกับวันวานในอดีต”

    “แปลว่าอดีตของคุณคงสวยงามมากสินะ”

    “ครับ มากที่สุดเลยก็ว่าได้ คุณเชื่อหรือเปล่าว่า สิบปีที่ผ่านมาผมไม่เคยมีความสุขเลย ทุกคนอาจเห็นผมยิ้ม เห็นผมหัวเราะ แต่มันก็แค่เปลือกนอกเท่านั้น แท้จริงแล้วผมยังรอใครบ้างคนอยู่” ชายหนุ่มไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องเล่าเรื่องส่วนตัวและเรื่องน่าอายแบบนี้ให้หญิงสาวปริศนาคนนี้ฟัง

    “ใครกันคะที่คุณรออยู่” เธอถามออกไป เสียงของเธอมันช่างเบา เบาจนชายหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่า เธอจะหมดแรงหรืออย่างไรกัน ถึงได้พูดเบาเสียอย่างนั้น

    ชายหนุ่มเงียบไปสักพัก เพราะกำลังตัดสินใจว่าจะบอกกับหญิงสาวปริศนานี้ดีหรือไม่ แต่จากการคุยกับเธอแล้ว เธอทำให้เขาคนที่เคยห่อเหี่ยวใจได้สบายใจ ได้ระบายเรื่องไม่ดีออกมามากขึ้น ถ้าบอกไปว่ารอใครอยู่ก็คงไม่เป็นไร เพราะเธอก็คงไม่รู้หรอกว่า คนที่เขารออยู่นั้นชื่ออะไร เมื่อคิดอย่างนั้น เขาก็บอกตอบออกไปว่า

    “รอคนที่ผมรักมากที่สุดครับ”

    “หรอค่ะ รอมานานเท่าไหร่ บอกได้หรือเปล่าคะ” หญิงสาวเอ่ยถามเสียงเบาลงเรื่อยๆ

    “ตั้งแต่ตอนที่ผมเรียนอยู่ม.5 จนถึงตอนนี้น่ะครับ นับแล้วก็สิบปีครับ”

    “เหมือนกับฉันเลยนะคะ ฉันก็รอเขาเหมือนกัน ฉันมารอเขาที่นี่ทุกปี สิบปีแล้วที่ไม่ได้เจอกับเขา ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาสบายดีหรือเปล่า”

    “คุณก็เลยร้องไห้ใช่ไหมครับ” เขาพูดออกไปโดยไม่ตั้งใจที่จะทำให้เธอเสียน้ำตาอีกครั้ง

    “ก็คงเป็นอย่างนั้น”

    “ถ้าคุณได้เจอเขา คุณคงจะยิ้มมีความสุขใช่ไหมครับ”

    “ก็คงเป็นอย่างนั้น” เธอตอบคำเดิม

    “คำตอบของคุณเหมือนจะไม่แน่ใจเลยนะครับ”

    “ฉันอาจจะมีความสุขที่เจอเขา แต่ฉันก็ไม่อยากให้เขาเศร้า...เสียใจไปตลอดเหมือนกัน” เสียงของเธอเศร้าเหลือเกิน เศร้าเหมือนเสียร้องไห้ของเธอที่เขาได้ยินในครั้งแรกที่เจอเธอนั่งอยู่ตรงนี้

    “ผมไม่เข้าใจ”

    “อีกไม่นานคุณก็จะเข้าใจเอง” เธอบอกเพียงเท่านั้น แต่ชายหนุ่มก็ยังคงทำหน้างงงวยอยู่อย่างนั้น

    “ว่าแต่คุณชื่ออะไรล่ะ คุยมาตั้งนานยังไม่รู้จักกันเลย” ชายหนุ่มเอ่ยถาม เพราะคิดว่าผู้หญิงคนนี้คงอยู่รุ่นเดียวกับเขา ถ้าเขากลับไปเปิดหนังสือรุ่นดูก็คงจะเห็นหน้าตาเธอ เพราะถึงเวลานี้เขายังไม่ได้เห็นหน้าเธอเลยสักนิด ได้ยินแต่เพียงเสียงเท่านั้น เสียงที่เบาจนบางครั้งเขาแทบไม่ได้ยิน แต่ก็เป็นเสียงที่เขาคุ้นหูมาก

    “ไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อของดิฉันหรอกคะ เพราะถึงคุณรู้ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น...มีแต่จะแย่ลงมากกว่า”

    “ทำไมถึงแย่ลงล่ะครับ”

    “ไม่มีอะไรหรอกคะ”

    “คุณจะไม่บอกชื่อของคุณจริงหรอครับ”

    เธอพยักหน้าแทนคำตอบ

    “ไม่เป็นไรครับ แต่ผมจะบอกกับคุณล่ะกันครับว่าผมชื่ออะไร คุณอยากรู้จักชื่อผมหรือเปล่าล่ะ”

    เธอไม่ตอบ สายลมโชยพัดผ่านมาอีกครั้ง มันเป็นลมหนาวที่กัดกินหัวใจของเขาไปชั่วขณะ เขาสังเกตเห็นว่าเธอตัวสั่นเล็กน้อย โชคดีที่เขาพกใส่เสื้อแจ๊กเก็ตมาด้วย ชายหนุ่มถอดเสื้อนั้นออก ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปคลุมผิวซีดขาวของเธอให้อบอุ่นขึ้น

    “ไม่ต้องหรอกคะ อากาศไม่ได้หนาวจัดจนตัวฉันจะแข็งตายหรอกค่ะ”

    “ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี”

    “ขอบคุณนะค่ะ” เธอขอบคุณเขาอีกครั้ง มุมปากมีรอยยิ้มปรากฏเล็กน้อย

    “ครับ” เขาพูดก่อนจะเดินออกมานั่งที่เดิม

    “ผมยังไม่รู้เลยว่าคุณอยากรู้จักชื่อผมหรือเปล่า”

    หญิงสาวนิ่งเงียบ ทำให้เขาคิดว่า เธอคงไม่อยากรู้ เขาแหงนหน้าท้องฟ้ายามราตรีอีกครั้ง ก่อนจะตั้งคำถามใหม่กับเธอ

    “คุณชอบท้องฟ้าไหม”

    “ชอบคะ”

    “คุณชอบเพราะอะไร”

    “เคยมีคนๆ หนึ่งเคยบอกกับฉันว่า ถ้าคิดถึงเขาให้มองท้องฟ้า และถ้าเหงา ท้อแท้ หรือหมดหวัง ให้คุยกับท้องฟ้า เขาเปรียบตัวเองเหมือนท้องฟ้า ท้องฟ้าที่มีอยู่ทุกช่วงเวลา ไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหนบนโลกนี้ก็ตาม”

    ชายหนุ่มเงียบไป...ไม่พูดอะไรต่อ หัวใจเริ่มเต้นแรง เขาหันไปมองหญิงสาวที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ไม่เปลี่ยนไป...เขาอยากเรียกชื่อคนที่เขารักเสียเหลือเกิน เพราะครั้งหนึ่งเขาก็เคยพูดประโยคนี้กับหญิงสาวตัวเล็กในอดีต แต่ก็ไม่ได้เรียกชื่อนั้นออกไป เพราะรู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้

    “แปลกนะครับ...คนที่ผมรักมากที่สุดเขาก็บอกกับผมว่า ถ้าผมคิดถึงเธอก็ให้มองท้องฟ้า ถ้ารู้สึกอ้างว้างไม่มีใครให้คุยกับท้องฟ้า เธอบอกกับผมว่า เธอจะอยู่ข้างๆ ผมเสมอ ไม่ว่าผมและเธอจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”

    “คล้ายกันเลยนะค่ะ” เธอเอ่ยออกมา หลังเงียบไปนาน

    “ครับ คล้ายกันมาก” หลังคำพูดนั้น ทุกอย่างก็เงียบลง ไม่มีเสียงสนทนาใดๆ มีเพียงเสียงเครื่องดนตรีจากงานเลี้ยงรุ่นที่ดังแว่วมาบ้าง

    “คุณ....นั่งอยู่ตรงนี้นานหรือยังครับ”

    “ก็ตั้งแต่มาถึง” หญิงสาวตอบ ตอนนี้เสียงสะอื้นได้หายไปแล้ว

    “คงนานใช่ไหม”

    เธอพยักหน้าแทนคำตอบ

    “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมไปหาของกินมาให้ล่ะกันนะ คุณคงยังไม่ทานอะไร”

    เธอพยักหน้าอีกครั้ง

    “แล้วผมจะรีบมาครับ” จบคำพูดของชายหนุ่ม เขาก็ออกเดินจากไปอย่างรวดเร็ว แทบจะเรียกได้ว่าวิ่งก็ได้ เพราะเขากลัวว่ากลับมาแล้วจะไม่เจอเธอนั่งอยู่ที่เดิมอีก มีหลายคำถามที่เขาอยากถามเธอ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี
    ..........................................................................
    ติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ ตอนจบรับรองว่าสนุกแน่ๆ อิอิ เรื่องนี้อาจจะออกแนวน่าเบื่อไปหน่อยนะ แต่ขอบคุณทุกคนนะคะที่เข้ามาอ่านและติชมกัน

    จากคุณ : memory_sky - [ วันเกิด PANTIP.COM 21:31:33 A:203.113.80.136 X: TicketID:127260 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom