สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้มณีนาคาพาผีมาปล่อยอีกหนึ่งตัวแล้วค่ะ อ้อตอนนี้มณีนาคาจะใช้หัวข้อกระทู้เป็น "อยากเล่าเรื่อง 'ผี'" แทนนะคะ ก็มันเป็นเรื่องที่อยากเล่าจริงๆ ...555...
เรื่องที่จะมาเล่าวันนี้ เป็นเรื่องที่มณีนาคาเคยทิ้งบอม์มไว้บนรถน้องชมก่อนจะลงต่อรถแท็กซี่กลับบ้าน ก็วันนั้นล่ะค่ะ วันที่ทำให้เกิดเรื่องเล่าของ "แท็กซี่" ไงคะ แต่ก่อนจะเล่าเรื่อง ขออนุญาตตอบความคิดเห็นจากกระทู้ครั้งที่แล้วก่อนนะคะ
คุณดั่งก้อนกรวด : ทำใจไม่ได้ที่จะหันไปมอง เอ่อ...น้องคะ คือว่าแถวบ้านพี่นี่นะถ้าให้เลือกระหว่างยอมนั่งร่วมทางมากะผู้โดยสารที่มองไม่เห็น กับจอดรถลงเลยเนี่ย พี่ยังยืนยันค่ะว่าพี่ยอม แบบว่าถ้าลงจากรถเวลานั้นแถวบ้านพี่เนี่ย พี่อาจมีอะไรมาเล่าให้ฟังได้อีกหลายเลยค่ะ เหอ เหอ เหอ
คุณเชอร์เบต จี๊ดด ด : โอ้ว! ไม่นะ ทำใจไม่ได้ถ้าต้องเห็นกัน ฮือ...
คุณเม-ดา : อะนะหนูเมร์ ได้พล็อตนิยายซะงั้น
คุณScottie : เรื่องของแฟนน้องเนี่ยไว้มีโอกาสดีๆ จะเค้นออกมาให้นะคะ ส่วนเรื่องเฉลยเนี่ยขอติดไว้ก่อนเพราะตอนนี้กะลังมันส์มือกะเรื่องของตัวเองมากมาย เหอ เหอ เหอ
คุณPiN.VE : ขอบคุณค่ะ อย่าเศร้าไปเลย ตอนนี้มีที่เป็นโปรเจครวมเล่มกับนักเขียนหลายคนในถนนฯ นี่ล่ะค่ะ ออกกับ สนพ.มธุรดา เรื่องเล่า...จากเงามืด ค่ะ
คุณชมสิจ๊ะ : ก็อย่างนี้เลยสิจ๊ะน้องชม แต่รถน้องชมไม่มีอะดีแล้ว พี่จะได้ขออาศัยติดรถกลับบ้านด้วยได้บ่อยๆ เวลาเจอกัน แต่สงสัยพี่คงต้องเปลี่ยนสถานที่ต่อรถแล้วล่ะ ...555...
คุณแค่ก้อนหินที่อยากบินได้ : อะนะน้องปัต ก็เจอแว้บๆ อะนะมันไม่ได้เป็นเรื่องเป็นราวแบบตอน เรื่องเล่า...เผาผี นะจ๊ะจะได้เขียนได้ยาวๆ หน่อย นี่เหตุการณ์มันไม่มีอะไรมาก ที่มาที่ไปก็ไม่มี ถึงบอกว่าเป็นเรื่องเล่าเบาๆ ไม่เผาผีไงล่ะจ๊ะ ว่าแต่ตอนนี้พี่เปลี่ยนหัวเรื่องแล้วนะ เป็น อยากเล่าเรื่อง ผี แทน (ก็มันอยากเล่าจริงๆ อะ)
คุณโก้ : โห! คิดได้ไงเนี่ยคุณโก้ ส้มยังคิดไม่ทันเลย
คุณกลิ่นกาแฟ : อ้าวสงสัยคุณกลิ่นกาแฟโดนหลอกเข้ามาอ่านแน่เลย เหอ เหอ
คุณKTHc : ถูกต้องนะค้าบบบบบบ ถึงจะเจอบ่อยก็ใช่ว่าจะทำใจได้ เนอะ
คุณkannasan : ดีแล้วค่ะ ไม่มีน่ะดีแล้ว ไม่ต้องเจออะไรที่มันหยองๆ เหนือโลก
คุณoldword : ถ้าชินก็คงจะดีน่ะค่ะ แต่นี่มันไม่ชินซะทีสิคะ กลุ้มเลย
คุณดองกี้...ดองกี้ : โห น้ำหวานจะเอาน่ากลัวแค่ไหนอะ ไว้พี่ชวนน้ำหวานไปเจอด้วยกันเลยดีป่าว จะได้เป็นเพื่อนกัน เหอ เหอ เหอ
คุณGTW : เง้ออออ อาจารย์จี ไหงพูดอย่างนั้นอะคะ ถ้าหันไปแล้วเจอจะทำยังไงล่ะนี่ แต่ถ้ามาในฝันแบบอาจารย์จีแล้วพูดคุยกันรู้เรื่องอย่างนั้น ก็โอเคค่ะ แต่ถ้าเข้าฝันแล้วคุยกันไม่รู้เรื่องนี่ก็คงไม่ดีนะ น่ากลัว
คุณกุลธิดา (kdunagin) : คือว่า จากเส้นบางแคมาบ้าน มีรถเมล์สายเดียวเองอะค่ะที่ผ่าน ยังไงซะก็คงต้องพึ่งแท็กซี่ต่อไป แต่ถ้าเจออะไรแรงๆ กว่านี้ก็อาจจะยอมลงจากรถแล้วเปลี่ยนคันเหมือนกันค่ะ
คุณขุนเขา (ขุนเขาแมกไม้) : ดีใจจัง ได้พบคุณขุนเขาในกระทู้นี้อีก คาดว่าน่าจะมาแค่ดวงเดียวค่ะเพราะกลิ่นไม่แรงมาก แต่อาจเพราะต่างฝ่ายต่างสัมผัสซึ่งกันและกันได้น่ะค่ะ เหมือนๆ เขาจะรู้ว่ามณีนาคาอาจสัมผัสรับรู้ถึงการมีอยู่ของเขาได้มั้งคะ (เดาเอา)
คุณชานม...ชั้นกลัวตัวเอง (พายุสีเงิน) : แหะ แหะ อันนี้แชร์ประสบการณ์เฉยๆ ค่ะ คงไม่ได้มีทุกคันหรอกค่ะ แต่มณีนาคาซวยเองตะหาก
คุณข้าวต้มน้ำวุ้น : นั่นดิ พี่ก็สงสัยว่าหนูตาลจะแรงกว่าผีแน่ๆ เลย หุหุ
**************************************************************************
เอาล่ะค่ะเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลาเพื่อนๆ
*******************************ผีเอ๋ยจงออกมา (ซะดีๆ) ****************************
วิญญาณที่ปลายเตียง
เรื่องนี้เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณสองปีก่อน สมัยนั้นฉันทำงานในตำแหน่งโปรเจกต์โคออดิเนเตอร์ เป็นผู้ประสานงานและควบคุมการตกแต่งภายในของบริษัทที่ทำธุรกิจเอนเตอร์เทนเม้นต์ ระบบแฟรนไชส์ แห่งหนึ่ง มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ
จำได้ว่าประมาณช่วงเดือนพฤษภาคม ถึง มิถุนายน ฉันคนเดียวต้องวิ่งดูงานตรวจงานทั้งหมดประมาณห้า หกที่ ซึ่งอยู่กันคนละทิศ ทั้งสระบุรี พระประแดง บางบัวทอง บางใหญ่ สนามบินน้ำ บางกระบือ แถมยังต้องรับงานของพี่อีกคนหนึ่งมาช่วยดูแลชั่วคราวแต่ก็กินเวลาซะจนร้านใกล้เปิด เหตุเพราะเจ้าของไซด์งานต้องขึ้นไปคุมงานที่เชียงใหม่ แล้วไซด์งานของพี่เขาก็ดันอยู่แถววัดเขมาฯ ไม่ไกลกันกับไซด์งานที่ฉันรับผิดชอบ
วันที่เกิดเรื่อง จำได้ว่าวันนั้นต้องไปตรวจงานหลายไซด์มาก เริ่มจากที่แรกน้องอีกคนขอให้ไปเป็นเพื่อนที่ไซด์งานซอยเรวดีก่อน จากนั้นก็แยกกัน ฉันไปตรวจงานต่อที่ไซด์งานตรงตลาดเขมาฯ บางกระบือ บางใหญ่ บางบัวทอง และในซอยวัดลาดปลาดุก
แม้ว่าบางไซด์ฉันจะไม่ได้ใช้เวลาอยู่ตรวจงานนานนัก เพราะบรรยากาศมันไม่น่าอยู่ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เพราะมันเป็นเรื่องปกติของฉันไปแล้ว ที่ว่าไม่ว่าจะไปที่ไหน ตั้งแต่ขั้นตอนของการดูหน้างาน วัดพี้นที่ หรือจะเป็นการตรวจสอบควบคุมหน้างาน โดยส่วนมากเกือบเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์มักมีสัญญาณบ่งบอกถึงพลังแฝงบางอย่าง ทำให้ฉันไม่ค่อยอยากจะอยู่ให้นานนัก แต่ด้วยความที่วันนั้นต้องไปตรวจงานหลายที่เหลือเกิน กว่าจะกลับมาบ้านก็ค่ำพอดี
ด้วยความที่ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย หลังจากจัดการเรื่องส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย ก็เข้านอนตามปกติ คาดว่าน่าจะหลับเป็นตาย
ระหว่างที่หลับอยู่นั้น อยู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนตัวเองมองเห็นสภาพโดยรอบข้างตัว เหมือนกับคนที่ไม่ได้นอนหลับตา ทั้งๆ ที่นอนหลับตาอยู่แท้ๆ แต่เห็นอีกแล้ว ฉันนึกรู้ทันทีเลยว่าต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นแน่ๆ
ฉันลองพยายามขยับเปลือกตาดูก่อน เอาให้ชัวร์ว่าไม่ได้อุปปาทานแน่นอน แต่มันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นอีกแล้ว ทุกอย่างนิ่งมาก ฉันรู้สึกได้ว่าเปลือกตาของตัวเองยังคงปิดสนิททั้งที่ฉันยังคงมองเห็นสภาพโดยรอบตัวอยู่ ยังเห็นร่างกายตัวเองนอนราบอยู่บนเตียง เห็นพัดลมที่กำลังหมุดใบพัดทำงาน เห็นผนังห้อง เพดานห้อง หลอดนีออนที่ยังคงให้แสงสว่างจากบนเพดาน และตุ๊กตาที่นอนกองอยู่ข้างตัว
ฉันลองพยายามขยับตัวดูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เผื่อว่าตัวเองอาจจะฝันไปก็ได้ แต่มันก็ไร้ผล ทั้งตาทั้งตัวไม่สามารถขยับเขยื่อนได้เลย แต่ฉันยังคงเห็นทุกๆ อย่างโดยรอบตัว งานนี้โดนอีกแล้ว!!!
พลัน! แสงสว่างจากหลอดนีออนบนเพดานห้องก็วูบลง คงเหลือทิ้งไว้เพียงความสลัวมัวแสงเหมือนไฟแรงเทียนต่ำๆ และแล้วร่างๆ หนึ่งก็ปรากฎขึ้นตรงปลายเตียง จนแทบจะชิดติดขอบเตียงก็ว่าได้
ร่างนั้นสวมกระโปรงยาวคล้ายชุดนอนสีมอๆ ผมเผ้ายาวรุงรังปิดใบหน้า สภาพดูมอมแมมเหลือเกิน เธอยืนทื่อและนิ่งเฉย ในขณะที่ฉันได้แต่ลุ้น
"ผู.....ก.....ค.....อ.....ต....า.....ย" วลีเดียวจากน้ำเสียงแหบหวิวเย็นเยือกของเธอดังแผ่วผิวหวิดหวิวจนน่าขนลุก ก่อนที่ร่างของเธอจะเลือนหายไปต่อหน้าต่อตาฉัน
ทันทีที่ร่างของเธอหายไปแต่สติของฉันมันไม่ได้ขาดหายไปด้วย จะด้วยความตกใจหรืออะไรไม่รู้ ฉันลุกขึ้นมานั่งจ้องปลายเตียงตรงที่เธอผู้นั้นยืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ มันเหมือนกับว่าฉันนั่งอยู่อย่างนี้มานานแล้วทั้งที่ก่อนหน้านั้นฉันยังรู้สึกว่าฉันนอนมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ด้วยซ้ำไป ถึงจะรู้สึกงงๆ อยู่บ้างแต่ก็ไม่แปลกเพราะใช่ว่าเหตุการณ์อย่างนี้เพิ่งจะเคยเกิดขึ้น ฉันจึงล้มตัวลงนอนอีกครั้ง
ฉันไม่ได้ใส่ใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสักเท่าไหร่ เพียงแต่คิดว่าเธอคนนั้นเข้ามาในห้องฉันได้อย่างไร ตามมาจากที่ไหน นึกทบทวนไปมาจนพอจะเดาที่มาที่ไปของเธอได้ แล้วก็แล้วกันไปไม่ได้สนใจอะไรต่อ ขี้เกียจเก็บมาคิดให้รกสมอง เพราะงานที่มีอยู่ก็สุมหัวจะแย่แล้ว
ทั้งที่เรื่องราวมันควรจะจบลงแค่คืนนั้น แต่มันดันไม่จบเพราะเธอกลับมาหาฉันอีกในลักษณะเดียวกันติดๆ ถึงสองคืน จนฉันเริ่มเอะใจว่ามันเรื่องอะไรกัน? แถมยังคิดว่าถ้าคืนนี้มาอีกคงต้องคุยกันให้รู้เรื่องหน่อยแล้ว ผลปรากฏว่าเธอไม่มาและไม่เคยมาอีกเลย
ฉันมาถึงบางอ้อก็เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากคืนที่เธอหายไป ที่แท้เพราะเมื่อวานเป็นวันวิสาขบูชา ฉันกับแม่ไปทำบุญมาเธอคงได้รับส่วนบุญส่วนกุศลแล้วไปตามทางของเธอแล้ว ที่แท้เธอคงจะมาขอส่วนบุญนี่เอง ทำไมฉันคิดไม่ได้ซะตั้งแต่แรกเนี่ย ทรมานตัวเองอยู่ได้ตั้งสามคืน แถมยังทรมานดวงวิญญาณของเธอผู้นั้นด้วยเพราะความซื่อบื้อของตัวเองแท้ๆ
*******************************จบจ้า***********************************
ลิ้งค์ตอนเก่าจ้า
วิญญาณแอบแฝงที่เบาะหลัง
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5848435/W5848435.html
แท็กซี่
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5870606/W5870606.html
จากคุณ :
มณีนาคา
- [
วันเกิด PANTIP.COM 22:15:37
]