Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ขอโทษที่หนึ่งเดียวในใจ...ไม่ใช่เธอ

    ครั้งแรกที่ตัดสินใจโพสต์ที่นี่  ขอคำแนะนำด้วยนะครับ


    (แนะนำติชมวิจารณ์เรื่องสั้นเรื่องอื่นๆ ของผมได้ที่ บล๊อกแก๊งค์ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=no-comment&group=2  ขอบคุณครับ)



    ------------------------------------------------------


    ผมนั่งมองทะเลสีครามตรงหน้า พระอาทิตย์ทอแสงจัดจ้าร้อนแรงลงมาสู่พื้นทรายถึงกระนั้นก็ไม่อา จทำให้กลุ่มคนที่สนุกสนานอยู่ตรงหน้าท้อถอย เล่นตั้งแต่เช้าตรู่จนเกือบบ่ายสองไม่รู้ว่าจะสนุกอะไรกันนักหน า หิวก็ขึ้นมาสั่งอาหารริมหาดกินแล้วก็ลงไปเล่นต่อ ผมหยิบดินสอและสมุดสเก็ตภาพเล่มโตที่ถือติดมือมาด้วยขึ้นมา และทั้งๆ ที่สมองว่างเปล่าแต่มือกลับขีดเส้นเป็นรูปร่าง
    “พี่ชงค์ค๊า นั่งๆ นอนๆ อยู่นั่นแหละมาทะเลทั้งทีลงมาเล่นด้วยกันเร้วววว” คนตัวเล็กบอบบาง ในชุดว่ายน้ำสีส้มสดใสที่ถูกบดบังทัศนียภาพโดยเสื้อยืดสีขาวตัว โคร่งที่ผู้เป็นพี่ยัดเยียดให้ใส่ด้วยความหวงน้องสาว หารู้ไม่ว่าพอเจ้าตัวจับน้องสาวโยนลงน้ำเสื้อยืดสีขาวนั่นกลับย ิ่งทำให้คนที่หวงนักหวงหนาเซ็กซี่ยิ่งกว่าเดิมอีก ตะโกนเรียกให้ผมลงไปสมทบ ผมโบกมือตอบคนตัวเล็กที่ทั้งน่ารักและเซ็กซี่



    “ช่างพี่ชงค์เหอะน่า สงสัยเป็นโรคกลัวน้ำ ปล่อยให้นั่งพยายามหล่ออยู่นั่นเหอะ” คนตัวสูงโปร่งที่คงจะรู้ตัวแล้วล่ะว่าเสื้อตัวโคร่งไม่อาจช่วยป กปิดรูปร่างน้องสาวจากสายตาหนุ่มๆ ได้ เดินขึ้นมาลากน้องสาวลงทะเลอีกรอบ และเจ้าตัวก็คงจะไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตา ของผู้คนเหมือนกัน ร่างสูงโปร่ง ผมสีน้ำตาลยาวสลวยถูกมัดไว้ด้วยยางรัดผมเส้นเล็ก คิ้วเรียวเข้ม ตาสีทะเลที่ถูกบดบังด้วยแว่นกันแดดอันโตรวมกับจมูกโด่งที่บ่งบอ กว่าไม่ใช่คนไทยแท้ๆ แต่กลับบอกว่ามีพ่อกับแม่เป็นคนไทย 100% และริมฝีปากบางที่กำลังปล่อยเสียงหัวเราะอย่างถูกอกถูกใจที่แกล ้งน้องสาวตัวเองสำเร็จ นี่จะรู้ตัวรึเปล่านะว่าตัวเองน่าสนใจขนาดไหน ผมกลับมาสนใจกระดาษที่ขีดร่างภาพเมื่อครู่ ภาพของบางคนยังชัดเจนไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน ในอิริยาบถแบบใด ผมถอนหายใจนึกหงุดหงิดตัวเองขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ วางสมุดสเก็ตภาพลงอย่างยอมแพ้ตัวเอง นี่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผลเลยให้ตายสิ คนที่ผมควรจะเก็บทุกรายละเอียดไว้ในหัวใจคือสาวน้อยในชุดว่ายน้ ำสีส้มนั่น ไม่ควรเลยที่จะเป็นคนอื่น!



    “เฮ้ พี่ชงค์ พวกนั้นยังไม่ยอมขึ้นจากน้ำอีกเหรอ ให้ตายสิยังกะเกิดมาไม่เคยเห็นทะเล” เดี่ยวทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ผ้าใบข้างๆ ผมที่ตายังคงจดจ้องอยู่ที่ร่างบางคนอย่างยากจะถอนสายตา ไรวินทร์เดินใกล้เข้ามาหยิบผ้าขนหนูสีฟ้าสดที่ผมยื่นให้ เอ่ยขอบคุณเบาๆ ก่อนจะตะโกนบอกน้องสาวให้ขึ้นจากน้ำได้แล้ว วารินทร์ตะโกนรับแล้วบรรดาเงือกสาวฉลามหนุ่มก็ยอมขึ้นจากทะเลซะที



    “โอ๊ย สนุก เล่นเอาเบื่อน้ำทะเลไปเลยล่ะ พี่ชงค์น่าจะไปเล่นน้ำด้วยกัน” วารินทร์เอ่ยด้วยเสียงสดใสทั้งที่หน้าออกจะเริ่มแดงๆ ผมยิ้มรับ ความรู้สึกผิดที่เริ่มก่อตัวขึ้นทำให้ผมอยากจะถอยห่างไปจากเธอเ หลือเกิน แต่ก็ทำไม่ได้เพราะ...ผมตัดใจจากคนข้างๆ เธอไม่ได้



    “เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอกเล่นขนาดนั้นน่ะ เข้าบ้านเหอะ” ผมใช้ผ้าขนหนูผืนใหญ่ห่มให้วารินทร์แล้วจูงมือเข้าบ้าน คนตัวเล็กยินยอมเดินตามโดยดีทั้งๆ ที่ใบหน้าแดงก่ำไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แดดรึว่าเพราะอาย แน่ล่ะเธอน่ารักแต่ไม่รู้ทำไมผมกลับไม่มีความสุขเลยที่ทำแบบนี้ อาจจะเพราะผมรู้อยู่เต็มอกก็ได้ว่าคนที่ผมอยากเดินจูงมือคือคนอ ื่นที่ไม่ใช่เธอ





    “พี่ชงค์มานั่งอะไรอยู่แถวนี้ ยัยวาเทียวตามหาซะทั่ว ไม่ตามคุมเดี๋ยวก็มีหนุ่มๆ มาจีบหรอก” ผมเหลือบมองคนที่เดินมาทรุดตัวลงข้างๆ แล้วหันกลับไปมองทิวทัศน์เบื้องหน้าต่อ

    “เบื่อๆ อยากนั่งเงียบๆ สักพัก” คนที่เข้ามารบกวนช่วงเวลาสงบสุขของผมหัวเราะเบาๆ กับคำตอบ

    “แย่หน่อยนะที่มีแฟนพูดมาก แล้วก็...แย่หน่อยนะที่ผมไม่พูดมากแต่ไม่ชอบความเงียบ ขอรบกวนหน่อยละกันนะ” ไรวินทร์ยักคิ้วให้อย่างกวนๆ แล้วยกเฮอร์โมนีการ์ที่ติดตัวมาด้วยแตะริมฝีปาก เป่าด้วยท่วงทำนองที่ชวนผ่อนคลายผมหลับตาเอนนอนลงบนพื้นหญ้าอย่ างสบายอารมณ์ ผมเผลอหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้เพียงเมื่อผมลืมตาฟ้าก็เปลี่ยนจากสีครามสดใสเป็นสีแดงอมส้ม กลิ่นหอมอ่อนๆ กรุ่นอยู่ใกล้จมูกผมกระพริบตาปริบเมื่อสำเนียกได้ว่ามีใครบางคน นอนหนุนต้นแขนผมอยู่ ผมก้มหน้ามองก็พบคนตัวเล็กน่ารักหลับตาพริ้มอยู่ใกล้ๆ มองหาไรวินทร์แต่ก็ไม่พบใครในบริเวณนั้น ผมเอื้อมมือหมายจะยกหัวคนตัวเล็กออกจากต้นแขน แต่ก็ต้องสบตากับคนที่เพิ่งงัวเงียตื่นขึ้น วารินทร์หน้าซีดแล้วก็เปลี่ยนเป็นแดงเมื่อเห็นผมทำท่าคล้ายจะกอ ดเธอ ผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนหน้ามืดล้มลง ดีที่ผมช่วยรับไว้ทันแต่นั่นก็ทำให้วารินทร์หน้าแดงมากยิ่งขึ้น เมื่อนั่งลงบนตักของผม

    “ขอโทษค่ะพี่ชงค์ วาแค่เห็นพี่ชงค์นอนหลับท่าทางน่าสบายเลยเผลอหลับไปด้วย” คนตัวเล็กที่ตอนนี้แดงไปทั้งตัวเอ่ยตะกุกตะกัก น่ารัก แต่...ทำไมผมไม่รักก็ไม่รู้

    “ไม่เป็นไรจ๊ะอยู่นิ่งๆ สักพักเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง” วารินทร์พยักหน้าหงึกหงักขณะที่ซุกหน้ากับอ้อมกอดของผม ทั้งๆ ที่ร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นอยู่ในอ้อมแขนอย่างนี้หัวใจของผมกลับเต ้นปกติ ไม่เต้นแรงเหมือนตอนที่สบตากับ....ผมสะบัดหน้าเพื่อไล่ภาพใครบา งคนออกจากความคิดคำนึงทั้งๆ ที่รู้ว่า ไม่เคยทำสำเร็จเลยสักครั้ง
















    “พี่ชงค์ทำกับวาได้ยังไง ทำได้ยังไง พี่ชงค์ไม่รักวาแล้วใช่ไหม ไม่สิต้องบอกว่าไม่เคยรักวาเลยต่างหาก ใช่ไหมคะ?” น้ำใสๆ ที่รินไหล ดวงตาที่แดงช้ำ ผมไม่อยากจะทำร้ายเธอให้เสียใจ แต่ผมก็หลอกตัวเองไม่ได้อีกต่อไปแล้ว... ผมได้แต่นิ่งเงียบปล่อยให้เธอทำร้ายทุบตีตามใจ ถ้าหากว่านั่นจะทำให้เธอเจ็บปวดน้อยลงบ้าง วารินทร์เม้มปากแน่นฉีกทึ้งภาพสเก็ตและทำลายทุกอย่างที่อยู่ในห ้อง ทุกภาพ...ของใครคนนั้นที่อยู่ในใจผมตลอดมา ผมนั่งเงียบไม่คิดจะห้ามเพราะผมเองก็ไม่อยากจะวาดภาพเหล่านั้น อยากจะทิ้งความรู้สึกเหล่านั้นออกไปจากใจถ้าหากทำได้ ผมอยากจะให้ใครก็ได้ทำลายภาพของคนที่ไม่ควรจะอยู่ในหัวใจผมเหลื อเ กิน ผมกำหมัดแน่นปล่อยให้น้ำตาแห่งความพ่ายแพ้รินไหล ผมรู้ว่าวารินทร์เจ็บปวดมากแค่ไหน เพราะผมก็เป็นเช่นนั้น









    “พี่ชงค์ มาโรงพยาบาลด่วนเลยนะ ยัยวากรีดข้อมือฆ่าตัวตาย” เสียงห้าวห้วนของไรวินทร์ดังมาตามสาย ผมรู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ ฆ่าตัวตาย.... ผมไปถึงโรงพยาบาลในชั่วเวลาไม่นานนักพบไรวินทร์นั่งคอตกอยู่หน้ าห้องฉุกเฉิน เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของผมไรวินทร์ก็เข้ามากระชากคอเสื้อผมดันไปจนติดผนัง ผมไม่ดีใจกับความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นหรอกนะ ดวงตาวาวโรจน์ใบหน้าเครียดขึ้งที่ยื่นเข้ามาใกล้ ริมฝีปากที่เอ่ยถามเสียงต่ำอยู่ใกล้แค่นี้เอง

    “พี่ชงค์ทำอะไรยัยวา เสียแรงที่ผมไว้ใจพี่ วางใจให้ดูแลน้องสาวผม พี่ทำร้ายยัยวาได้ยังไง พี่ทำอะไรลงไป” ผมหลับตาหลีกหนีจากแววตานั้นเสีย อ่อนล้าและอยากบอกกับคนตรงหน้าเหลือเกินว่าผมไม่ได้รักวารินทร์

    “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร พูดสิ ผู้หญิงคนใหม่ของพี่เป็นใคร พี่รักผู้หญิงคนนั้นมากถึงขนาดทำร้ายยัยวาได้เชียวเหรอ” ผม ส่ายหน้าปฏิเสธผมไม่เคยมีใครในหัวใจ นอกจาก... โดยที่ไม่รู้ตัว ผมชะโงกหน้าเข้าไปแตะแต้มริมฝีปากกับริมฝีปากบางของคนตรงหน้า ไรวินทร์กระโดดถอยทิ้งผมลงมากองอยู่กับพื้นด้วยความตกใจ ก่อนที่ใบหน้าจะเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ แน่นอนผมรู้ว่ามันไม่ใช่ด้วยความเอียงอาย

    “เชี่ยเอ๊ย ไอ้...” ผมยิ้มมองไรวินทร์ที่กำลังใช้ท่อนแขนเช็ดปากด้วยความขยะแขยง หัวเราะเมื่อถ้อยคำสบถนั่นถูกพ่นออกมาจากปากที่ผมคิดว่าน่าจูบ

    “เมิงเป็นบ้า’ไรวะ หัวเราะอยู่ได้ เชี่ย ไปไหนก็ไปเลยนะเมิงอย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก” สรรพนามเรียกขานผมเปลี่ยนไปจากพี่ชงค์กลายเป็นสัตว์เลื้อยคลานไ ปซะแล้ว น่าสมเพชตัวเองนัก คนที่พร้อมไปทุกอย่างทั้งหน้าตา หน้าที่การงานและชาติตระกูล ต้องมาอยู่ในสภาพนี้ ไรวินทร์ไม่ แม้แต่จะเข้าใกล้ผมอีก มีเพียงสายตารังเกียจเหยียดหยามขยะแขยงเท่านั้นที่ส่งมา











    ณ คอนโดมิเนี่ยมใจกลางกรุงที่ๆ ผมใช้เก็บภาพคนที่ผมรัก ผมนั่งมองภาพที่บัดนี้กระจัดกระจายเสียหายด้วยฝีมือของวารินทร์ ผมมองประกายไฟที่กำลังเผาไหม้ภาพรอยยิ้มกว้างของไวรินทร์พร้อมๆ กับเผาไหม้หัวใจที่แหลกสลายของผม ขอโทษนะวา พี่ขอโทษ ขอโทษที่ทำลายความสดใส ขอโทษที่ทำลายแววตาแห่งความหวัง พี่ขอโทษที่หนึ่งเดียวในใจ...ไม่ใช่เธอ

    จากคุณ : No.06 - [ 9 ต.ค. 50 14:29:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom