Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    มัจจุราช

    ผมกับนิวเป็นเพื่อนรักกัน เรารู้จักกันครั้งแรกที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง...
    นิวเป็นเด็กผู้ชาย อายุ 6 ขวบ ผิวขาวซีด ตัวผอม ป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากเชื้อไวรัส

    สองอาทิตย์ก่อน ผมพบนิวในขณะที่พยาบาลเข็นนิวไปยังห้องผู้ป่วย พยาบาลแนะนำผมให้นิวรู้จัก หลังจากนั้นเราก็แทบจะไม่ห่างกันเลย

    นิวเรียกผมว่าเขียวทั้งที่ความจริงแล้วผมชื่อหมีต่างหาก แต่ผมไม่ถือสาหรอก เรามักจะเล่นด้วยกันเสมอ พ่อของนิวดีใจที่เรารู้จักกันเพราะผมเป็นเพื่อนคนเดียวของนิว

    ผมได้ยินหมอพูดกับพ่อของนิวว่า โรคนี้เป็นโรคร้ายแรงไม่สามารถรักษาให้หายขาด เพราะกล้ามเนื้อหัวใจเมื่อเสียหายไปแล้วไม่สามารถแก้ไขให้เหมือนเดิมได้
    หนทางที่จะรักษาให้หายขาดคือต้องปลูกถ่ายหรือผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ แต่กรณีนี้ก็มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูงเช่นกัน โดยเฉพาะนิวยังเด็กเกินไปหมอจึงไม่แนะนำให้ผ่าตัดในตอนนี้

    เวลาที่เราอยู่กันสองคนในห้องผู้ป่วย นิวมักจะเล่าเรื่องตัวเองให้ผมฟัง พ่อกับแม่ของนิวเลิกกัน พ่อขอเป็นคนเลี้ยงนิวซึ่งแม่ก็ยินยอมแต่โดยดี
    นิวรู้ว่าตัวเองเป็นภาระให้พ่อ...
    พ่อทำงานเป็นพนักงานบริษัทเงินเดือนสองหมื่นบาท แม่ทำข้าวแกงขาย เราเคยอยู่กันอย่างมีความสุข จนกระทั่งวันนั้น...
    วันที่อาการของนิวแสดงออกมาให้เห็นเป็นครั้งแรก นิวมีอาการหายใจเร็ว แรง และมีเสียงดัง พ่อตกใจรีบเข้ามาถามพร้อมๆกับใช้หลังมือแตะ
    ที่หน้าผาก ตัวไม่ร้อนแต่พ่อก็รีบนำนิวไปโรงพยาบาลทันที นั่นเป็นช่วงหนึ่งเดือนก่อนที่นิวจะพบผม

    "หลังจากที่เข้าโรงพยาบาล และแพทย์ชี้ชัดว่านิวเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ พ่อกับแม่เริ่มทะเลาะกัน และด้วยเวลาอันรวดเร็วยิ่งกว่าที่โรคร้ายจะทันคร่าชีวิตนิว พ่อกับแม่ก็เลิกกัน" นิวคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุให้เป็นเช่นนั้น

    ขณะที่กำลังเล่า หัวใจของนิวเต้นเร็วและเเรงขึ้นเรื่อยๆจนผมสัมผัสได้ นิวมีอาการหอบจนน่ากลัว น้ำตาไหลพรากออกมาอย่างไม่รู้ตัว เสียงหัวใจเต้นราวกับกำลังประท้วงเพื่ออิสรภาพของมันในการออกมาชมโลกภายนอก ผมรู้สึกตื่นเต้นไปกับเสียงนั้นจนทำอะไรไม่ถูก
    ตอนนั้นผมคงจะหมดสติไปแล้วหากว่าพยาบาลไม่เปิดประตูเข้ามาซะก่อน นิวถูกนำตัวไปยังห้องฉุกเฉินอีกครั้ง

    ในห้องฉุกเฉินหมอกำลังให้ออกซิเจนและยาบางชนิด หลังจากนั้นนิวถูกนำตัวไปเอ็กซเรย์หัวใจ

    โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบนี้เกิดได้ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงเด็กโต สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งหลายชนิดก่อให้เกิดโรคนี้ได้ มีผลทำให้กล้ามเนื้อหัวใจเสียหายไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปรับออกซิเจนที่ปอดและนำไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้อย่างพอเพียง บางรายอาจมีอาการน้ำท่วมปอดและอาจรุนแรงถึงกับช็อคจากความล้มเหลวของกล้ามเนื้อหัวใจได้

    หมอบอกพ่อของนิวว่ากล้ามเนื้อหัวใจของนิวเสียหายหนักขึ้นเรื่อยๆ ขอให้พ่อของนิวทำใจไว้เสียแต่เนิ่นๆ แม้หมอจะให้ยาบางชนิดแก่นิวแต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่านิวจะรอดพ้นจากช่วงวิกฤตไปได้ ผมเห็นพ่อของนิวยกมือขึ้นปิดหน้า ทั่วทั้งร่างสั่นสะท้าน

    นิวกำลังหลับ... ผมเพ่งมองใบหน้าซูบและซีดของนิว 'ทำไมหนอเด็กคนนี้ทำความผิดอะไรกัน ถึงต้องเผชิญกับเรื่องราวเหล่านี้' ผมคิดในใจ

    ตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาล ผมเห็นแม่ของนิวมาเยี่ยมครั้งเดียว วันนั้นหล่อนมาเยี่ยมพร้อมกับผู้ชายอีกคนที่คาดว่าน่าจะเป็นแฟนใหม่
    แฟนใหม่ของหล่อนดูมีฐานะดีทีเดียว สังเกตได้จากการแต่งตัวและเครื่องประดับบนร่างกาย
    เขาเสนอว่าจะช่วยด้านเงินค่ารักษาแต่พ่อของนิวปฏิเสธแม้ทางฝ่ายแม่จะพยายามเกลี้ยกล่อมก็ไม่สำเร็จ ก่อนที่หล่อนและเขาจะกลับนิวอ้อนขอให้แม่มาเยี่ยมบ่อยๆ แต่ผมก็ไม่เห็นหล่อนกับแฟนของหล่อนมาที่นี่อีกเลย ผมรู้สึกสงสารนิวจับใจ...

    ทีวีในห้องผู้ป่วยเสนอข่าวเด็กหนุ่มวัยรุ่นฆ่าตัวตายเพราะผิดหวังจากความรัก และอีกคนฆ่าตัวตายจากการพลาดหวังในการสอบ
    ครั้งนึงนิวเองก็เคยบอกผมว่าอยากตายเหมือนกัน...

    ทำไม? ในขณะที่คนบางคนพร่ำบอกอยู่เสมอว่าการได้เกิดมาเป็นคนนั้นเป็นสิ่งประเสริฐสำหรับมนุษย์ และการฆ่าตัวตายเป็นบาป แต่ในขณะเดียวกันคนอีกกลุ่มหนึ่งกลับแสวงหาซึ่งความตายอย่างไม่เกรงกลัว นั่นหมายความว่าคนกลุ่มนี้เห็นว่าการมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ใช่เรื่องประเสริฐอีกแล้วกระนั้นหรือ?

    คนเหล่านี้คิดอะไรอยู่ในใจกันแน่ในขณะที่กำลังยืนอยู่บนตึกสูงก่อนจะทิ้งตัวลงมา หรือในขณะที่คอพาดอยู่บนห่วงเชือกก่อนลมหายใจเฮือกสุดท้ายจะสุดสิ้น
    ผมพยายามมองทะลุเข้าไปในจิตใจผู้คนเหล่านี้เพื่อหาคำตอบให้กับตัวเอง แต่ก็ไม่พบ

    ผมนึกถึงนิว... นิวเพิ่งจะอายุ 6 ขวบ เป็นวัยที่ควรจะได้ไปโรงเรียน ได้วิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ได้หัวเราะและร้องไห้โดยความรู้สึก แต่กลับต้องมานอนอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่ได้หัวเราะอย่างสนุกสนาน เวลาร้องไห้ก็มิใช่เศร้าเสียใจ แต่มันเป็นความเจ็บปวด
    บางที... ถ้านิวตายไปมันอาจจะดีกว่าจริงๆก็ได้ หากการตายนั้นจะทำให้นิวหลุดพ้นจากความเจ็บปวดทั้งหลายนี้ ทั้งกายและใจ

    ผมกำลังคิดเรื่องต่างๆเหล่านี้โดยหารู้ไม่ว่าในเวลาอันใกล้นี้ สิ่งที่ผมกำลังคิดมันจะกลายเป็นจริง

    นิวตื่นนอนขึ้นมา พบพ่อกำลังนอนอยู่บนโซฟาในห้องผู้ป่วยจึงไม่ได้รบกวน นิวรู้ว่าพ่อเหนื่อยมากแค่ไหน แต่ตัวเองกลับต้องมาเป็นภาระให้พ่ออีก

    ความที่ต้องประสบแต่เรื่องราวเลวร้าย ทำให้นิวมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่เกินตัว นิวอยากช่วยแบ่งเบาภาระให้พ่อแต่ก็ไม่มีโอกาส 'ไม่สิ ถ้าเราตายไปพ่อก็คงไม่ต้องเหนื่อยอย่างนี้ เราก็จะช่วยแบ่งเบาภาระให้พ่อได้' นิวคิด

    ในช่วงที่ผ่านมาพ่อของนิวยืมเงินญาติพี่น้องเพื่อใช้เป็นค่ารักษาโรคให้นิว จนญาติพี่น้องหลายคนเริ่มตีตัวออกห่างด้วยเกรงว่าจะมาเป็นภาระให้ตน บางรายบอกให้ทำใจและปล่อยให้ลูกไปสบายเถอะ เมื่อพ่อหาเงินไม่ได้ก็เริ่มเครียด ในขณะที่ค่ารักษาที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนยิ่งตอกย้ำความจนปัญญาของพ่อ แม่ก็ไม่เคยมาเยี่ยมอีกเลย

    นิวเคยสงสัยว่าทำไมตอนนั้นพ่อถึงไม่ยอมรับปากให้แฟนใหม่ของแม่ช่วยออกค่าใช้จ่าย แต่ตอนนี้นิวคิดว่านิวเข้าใจความรู้สึกของพ่อ ตลอดเวลาผู้หญิงคนที่นิวเรียกว่า"แม่" นั้น ไม่เคยเห็นว่านิวเป็นลูกเลย เพราะถ้าหล่อนเห็นว่านิวเป็นลูก การออกค่าใช้จ่ายในการรักษาลูกย่อมเป็นหน้าที่ของพ่อและแม่ ไม่ใช่เป็นการขอช่วยออกค่าใช้จ่ายให้เหมือนการให้ทานกันเช่นนั้น

    ตอนบ่ายในขณะที่พ่อของนิวออกไปหาเงินมาเป็นค่ารักษานั้น นิวรำพึงรำพันถึงปัญหาต่างๆที่ต้องประสบให้ผมฟัง น่าแปลกที่เรื่องอาการป่วยกลับไม่ค่อยหลุดจากปากของนิวเท่าไหร่ ในขณะที่ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่ดูจะพรั่งพรูออกมาไม่หยุดหย่อน ตามมาด้วยความเป็นภาระของตนเองต่อบิดาบังเกิดเกล้า

    ทุกปัญหานั้นนิวรับเป็นความผิดของตนเองทั้งหมด บ่าน้อยๆของนิวสั่นระริก
    โธ่! เด็กน้อยผู้แบกรับเอาความผิดทั้งหมดเป็นของตัวเอง ในขณะที่ผู้ใหญ่ต่างก็เกี่ยงกันในความรับผิด...น่าเวทนายิ่งนัก ผมคิด

    ยิ่งเล่า ความรู้สึกก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หัวใจของนิวเต้นถี่และแรงขึ้นตามความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมา น้ำตาหยาดหยดลงมาเป็นสาย เสียงหัวใจที่ดังราวกลับกลองตี
    คล้ายเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าใกล้ถึงตอนจบของบทเพลงที่แสนเศร้าแต่แฝงไว้ด้วยอารมณ์หนักหน่วงรุนแรง นิวเอื้อมมือไปหยิบกริ่งเรียกพยาบาลที่วางอยู่ข้างตัว
    ผมเห็นนิวหยิบมันไว้ด้วยมือสั่นเทา ผมภาวนาให้นิวกดมันเสียที แต่แล้วสิ่งที่ผมภาวนากลับไม่เป็นผล นิววางมันลง...

    นิวเลือกที่จะจบทุกอย่างด้วยมือของตัวเอง หัวใจของนิวเต้นช้าลงและกว่าที่พยาบาลจะเข้ามามันก็สงบนิ่งซะแล้ว สงบเหมือนใบหน้าของนิวในขณะนี้

    หลังจากที่นิวเสียชีวิต ผมเห็นแม่ของนิวมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง หล่อนไม่มีน้ำตาแม้สักหยด ในขณะที่พ่อของนิวร้องไห้คร่ำครวญราวกับจะสามารถเรียกเอาวิญญาณของนิวกลับมาได้ก็ปาน แต่ถึงอย่างนั้นทั้งเขาและหล่อนก็ยังทะเลาะกันไม่เลิก ต่อหน้าศพลูกชายวัย 6 ขวบ

    ให้ตายเหอะ ! ผมสงสัยจริงๆว่าแท้ที่จริงแล้วมัจจุราชที่คร่าชีวิตหนูน้อยผู้นี้ไปคือโรคร้ายหรือโลกร้ายกันแน่ ?


    ....................................................



    13 วันหลังจากนิวเสียชีวิต ผมนั่งอยู่บริเวณที่ที่เราพบกันครั้งแรก พลันพยาบาลสาวที่เคยเข็นนิวมาให้เราเจอกันวันนั้นก็เข็นเตียงเด็กสาวคนหนึ่งเข้ามา

    ผมกับเด็กสาว...เราสบตากัน "แม่...หนูอยากได้ตุ๊กตาหมีสีเขียวตัวนั้นจัง" เสียงของหนูน้อยร้องบอกผู้เป็นมารดา

    มารดาหันไปสบตาพยาบาลสาว ก่อนที่พยาบาลสาวจะยิ้มและเดินไปพาผมมาให้กับเด็กสาวรู้จัก หนูน้อยคนนี้มีชื่อว่า 'นุ่น'

    นุ่นอายุ 5 ขวบป่วยด้วยโรคลูคิเมีย (Leukemia) หรือมะเร็งเม็ดเลือดขาว...

    เธอเรียกผมว่า "หมีน้อย" ทั้งที่ความจริงแล้วผมชื่อ "เขียว" ต่างหาก แต่ผมไม่ถือสาหรอก




    ...เพียงไม่นานความทรงจำของผมเกี่ยวกับนิวก็ค่อยๆจางหายไป เหลือเพียงความทรงจำใหม่ๆของนุ่นที่เข้ามาแทน
    แต่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ความทรงจำ ความเจ็บปวดมักจะเหลือรอยทิ้งไว้ให้ผมอย่างไม่มีวันจางหาย ตราบเท่าที่โลกนี้ยังร้ายกับเด็กๆ
    มัจจุราชก็จะมาเยือนพวกเขาเสมอ

    จากคุณ : แมวลายคราม - [ 9 ต.ค. 50 16:22:52 A:58.9.13.109 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom