เพียงวูบเดียว
เอ้าพวกเรามาดื่มฉลองให้กับที่พวกเราต่อมหาลัยสำเร็จกันหน่อย เสียงชายคนหนึ่งเอ่ยนำพร้อมกับยกแก้วเหล้าชูขึ้นต่อหน้าเพื่อนสนิทมิตรสหายที่นั่งรายล้อมกันอยู่
เฮ! เฮ! เสียงน้ำแข็งในแก้วกระทบกันเกิดเสียงรื่นรมย์อยู่ไม่นานก็ค่อยๆเงียบหายไปทีละน้อย เพราะต่างคนก็ต่างก็ตั้งหน้าตั้งตาร่ำสุราตรงหน้าอย่างหิวกระหาย จากหนึ่งขวดไปสองขวดจากสองขวดไปสามขวด โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงโดยง่ายดื่มกันอย่างไม่ลืมหูลืมตาจนเมามายกันไปตามๆกัน
แต่แล้ววงสังสรรค์ก็มีอันต้องร่ำลาเพื่อนร่วมวงคนหนึ่งที่แม่ของมันโทรมาบอกว่า พ่อไม่สบายให้กลับมาที่บ้านด่วน
ใช่ เขาเป็นคนที่รักพ่อมากจึงรับปากจะกลับบ้านตามคำขอของแม่
หลังอำลาเพื่อนฝูงก็รีบควบมอเตอร์ไซค์คู่กายบึ่งกลับบ้านทั้งๆที่สมองกำลังมึนงงด้วยฤทธิ์เหล้า
เมาไม่ขับดูจะเป็นคำเตือนที่ใช้ไม่ได้ผลสำหรับวัยรุ่นอย่างเขา...
ความเร็วของรถที่เหยียบเกือบร้อยยี่ ผนวกกับความมืดมิดระหว่างเส้นทางกลับบ้าน ด้วยความเร็วและความประมาท ทำให้รถมอเตอร์ไซค์ประสานงาเข้ากับรถกระบะอย่างจัง! ร่างชายผู้เคราะห์ร้ายเกลือกกลิ้งครูดไปตามพื้นถนน ดีที่สวมหมวกกันน็อคเอาไว้ทำให้ชะตาชีวิตยังไม่ถึงฆาต แต่เลือดที่ไหลเจิ่งนองออกจากบาดแผลเหวอะหวะที่บริเวณขาก็ทำให้เขาหมดสติในทันใด
3 วันต่อมา...
เขารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่บนฟูกสีขาวสะอาดพื้นห้องปูด้วยกระเบื้องสีขาวโพลน ชุดเที่ยวตัวเก่งถูกเปลี่ยนเป็นชุดสีฟ้าของทางโรงพยาบาล ผ้าพันแผลพันรอบขาซ้ายและขาขวาของเขาอธิบายว่าชีวิตของเขายังคงอยู่ ห่างออกไปจากเตียงคนไข้ไม่ใกล้ไม่ไกลมีร่างของผู้เป็นแม่นอนทอดกายอยู่บนโซฟาพร้อมกับคราบน้ำตาที่แห้งเกรอะกรัง
น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาตรงนั้นไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องปิดบังมันเอาไว้เหมือนตอนที่เลิกกับแฟนหรือตอนที่เผชิญกับปัญหาชีวิตในวัยมัธยม แม่ ไม่ใช่คนอื่นไกลที่เราจำจะต้องปกปิดความรู้สึก
และด้วยสายใยแห่งความเอื้ออาทร นี้เองที่ทำให้เขาอยากจะตรงเข้าไปโอบกอดแม่ผู้อ่อนล้าและสิ้นเรี่ยวแรง ร่างของเขาค่อยๆถูกพยุงขึ้นด้วยสองมืออันแข็งแกร่งอาการเจ็บแปลบๆยังมีอยู่บ้างแต่นั่นไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการที่อยากจะเข้าไปขอโทษแม่โทษฐานที่ตนทำให้แม่ต้องเป็นห่วง
หากแต่ขาของเขาไร้สิ้นซึ่งการตอบสนอง
มันแน่นิ่งราวกับว่านี่ไม่ใช่ขาของเขา
แม้ว่าจะพยายามรั้นมันขึ้นมายังไง มันก็ยังแน่นิ่งราวกับถูกรั้งเอาไว้ด้วยเครื่องพันธนาการอยู่ดี...
บัดนี้เขาสูญสิ้นแล้วซึ่งชีวิตเฉกเช่นคนปกติ สองมือทุบขาทรพีที่ไม่มีความรู้สึกใดๆตอบสนองกลับมาอย่างคลุ้มคลั่ง จนผู้เป็นแม่ตกใจตื่นขึ้นมาโอบกอดร่างของเขาไว้พร้อมกับหยาดน้ำตา ไม่นานบุรุษพยาบาลก็เข้ามาช่วยปรามเขาเอาไว้เพื่อให้สงบสติลง
หมอเรียกหญิงผู้เป็นแม่ออกมาจากห้องผู้ป่วย แล้วบอกฝันร้ายในโลกแห่งความจริงว่า
เสียใจด้วยเขาคงจะต้องกลายเป็นเด็กพิการ บาดแผลบริเวณขาของเขานั้นเกิดการติดเชื้อหากเราไม่ป้องกันด้วยการตัดขาออกเกรงว่ามันจะลุกลามไปมากกว่านี้ คุณแม่ทำใจดีๆไว้นะครับผมรู้ว่ามันยากแต่นี่เป็นทางเดียวที่จะรักษาเนื้อดีไว้ให้ได้มากที่สุด...
เธอทรุดลงกับพื้นด้วยความวิงเวียน สับสน ท้อแท้ และสิ้นหวัง
พ่อป่วยเป็นมะเร็ง ส่วนลูกชายกลายเป็นคนพิการ
คำตอบของการมีชีวิตอยู่ต่อไปกลับกลายเป็นความว่างเปล่า
ความสุขที่เคยมีมาสูญสลายมลายไปต่อหน้าทุกอย่างมันเกิดขึ้นระหว่างที่เธอหลับตาพริ้มลงเมื่อคืนก่อนเพียงวูบเดียว
เพียงวูบเดียวเมื่อคืนได้เปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตของเธอไปในทางที่ไม่เคยคิดว่าจะเจอมาก่อน
ชีวิตของคนเราล้วนอนิจจังไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้แน่นอน มันเป็นสมการที่คำตอบในแต่ละวันนั้นไม่เหมือนกันและต้องคอยพลิกแพลงหาคำตอบในโจทย์สมการชีวิตตลอดเวลา บางโจทย์ง่าย ส่วนบางโจทย์นั้นซับซ้อนจนคิดวิธีแก้สมการนั้นออกมาไม่ไหวจนต้องข้ามไปทำข้ออื่นก่อน
จริงอยู่ว่าบางข้อนั้นอาจข้ามได้
แต่ก็มีบางข้อที่บังคับให้เราต้องทำ
เพราะคะแนนของมันเพียงพอที่จะตัดสินได้ว่า
เราจะสอบวิชาแก้โจทย์สมการชีวิตตกหรือผ่าน
จะข้อ.ก ข้อ.ข ข้อ.ค ข้อ.ง ก็ล้วนแล้วแต่เปลี่ยนชีวิตเราได้ทั้งนั้น ส่วนข้อไหนจะดีที่สุดนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ไม่มีใครบอกได้ว่าตอบ ข้อ.ก จะดีกว่า ข้อ.ข หรือ ตอบข้อ.ค จะดีกว่า ข้อ.ง
ในห้องสอบชีวิตเราไม่มีสิทธิถามใครนอกจากหัวใจตัวเองว่าจะเลือกตอบข้อไหน
บางครั้งคำตอบที่เราเลือกอาจจะไม่ใช่ข้อที่ดีที่สุด
แต่มันก็ยังเป็นข้อที่เราเลือกเองและหัวใจเราก็พร้อมที่จะยอมรับผลที่ตามมาได้เป็นอย่างดี
อีกครั้งเพียงวูบหนึ่งผู้เป็นแม่ตัดสินใจเลือกตอบโจทย์สมการชีวิตอันแสนขมขื่นนี้ว่า เธอจะยืนหยัดสู้ต่อไปเพราะว่าคนสองคนนี้ คือความสุขทั้งชีวิตของเธอ..
เลิศสุนทร
จากคุณ :
พริ้ว พรรณนา
- [
10 ต.ค. 50 11:52:47
]