สามอาทิตย์หลังจากที่ผมย้ายเข้ามา เริ่มเข้ากับเพื่อนๆที่ทำงานได้และชินกับการต่อรถไปทำงานจากป้ายรถเมล์หน้าอพาร์ตเม้นท์ สิ้นเดือนนี้ผมมีนัดไปดื่มกินกับพวกเขาเหมือนจะเลี้ยงต้อนรับน้องใหม่อย่างผม
อพาร์ตเม้นท์ที่นี่เป็นสามตึกเล็กๆเบียดกันบนที่ดินย่านออฟฟิสแห่งหนึ่งที่คนทำงานกระจุกตัวเข้ามาทำมาหากินกัน สำหรับคนเริ่มต้นชีวิตวัยทำงานก็สะดวกดี ใกล้ที่ทำงาน ใกล้ย่านของกิน ราคาห้องก็โอเค ที่ผมชอบมากคือที่นี่เงียบ คนไม่อยู่กันอึกทึก พอเลิกงานก็ตรงเข้าห้องใครห้องมัน เช้าก็แห่กันออกไปทำงานเหมือนมดออกจากรู วันหยุดก็อาจจะมีเสียงเพลงดังออกมาจากบางห้อง มีเสียงคนคุยกันเยอะหน่อย คนเห็นจะคึกคักมากที่สุดแถวร้านชำกับห้องซักผ้าใกล้ประตูทางเข้าอพาร์ตเม้นท์ ผมเองไม่ค่อยได้ออกไปเดินเตร่ข้างนอกห้อง เพื่อนบ้านร่วมชั้นก็สงบกันดี
วันอาทิตย์เที่ยงๆวันหนึ่ง ผมออกไปเที่ยวเล่นตามประสาคนโสด แต่งตัวเสียเต็มที่สมใจอยากหลังจากที่ต้องใส่ชุดทำงานมาหกวันเต็ม แดดจ้าที่ป้ายรถเมล์ทำให้ต้องไปยืนหลบแดดกันหน้าร้านแว่นร่วมกับชาวบ้านคนอื่นๆ คุ้นตากับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นเพื่อนบ้านร่วมชั้นของผม เธอผมสั้นจู๋ แต่งตัวไปเที่ยวเหมือนกันสินะ อายุคงไม่ห่างกันเท่าไร ผมสงสัยผู้หญิงที่ไม่ไว้ผมยาวอย่างที่ผู้ชายชอบๆกันว่า เขาคิดอะไรกับผู้ชายบ้างนะ เป็นพวกฉันไม่แคร์อะไรอย่างนั้นหรือเปล่า กำลังคิดเพลินๆเธอก็วิ่งขึ้นรถเมล์ไป ผมยังยืนรอรถสายของผมต่อไป
วันเงินเดือนออกกระเป๋าตุง แต่ก็พร้อมจะแฟ่บลงทุกเมื่อ หลังเลิกงานผมไปสังสรรค์กับเพื่อนที่ทำงานมา กว่าจะร่ำลาแยกย้าย ผมกลับมาถึงอพาร์ตเม้นท์ก็ตีสองเข้าไปแล้ว รู้สึกตัวเองเน่าเต็มที แต่อิ่มอกอิ่มใจกับวันที่ได้รับเงินเดือน มีเงินเก็บเข้าธนาคาร แถมยังได้ดื่มได้เฮ เหมือนชีวิตมีความสุข เหมือนสิ่งที่รอคอยจากชีวิตมหาวิทยาลัยมันปรากฎออกมาให้หัวใจพองโต โซซัดโซเซเข้าห้องพักเล็กๆ ควานหาชอคโกแลตแกะกิน กลบความขมทั่วคอของเหล้าที่สาดลงไป เศษห่อชอคโกแลตยัดแทบไม่ลงถุงขยะที่ซ้อนในถังขยะใบย่อมแล้ว ผมเปิดฝาขยะออกแล้วหิ้วทั้งถังลงไปทิ้งชั้นล่าง เดินสวนผู้หญิงผมสั้นจู๋ที่เพิ่งกลับมาถึง ท่าจะเมา เห็นเดินร้องเพลงตัวเซ เพลงอะไรไม่รู้เรื่อง ได้ยินแต่เสียงงุ้งงิ้งๆ ผมจับถุงขยะรวบมัดปาก โยนกองไว้ในช่องขยะ หิ้วถังเปล่าเดินขึ้นห้อง
แสงไฟหรี่ที่ระเบียงทางเดินสว่างพอให้มองเห็นผู้หญิงคนนั้น เธอนั่งลงกองตรงพื้นหน้าห้อง ก้มหน้าง่วนกับกระเป๋า พึมพำอะไรอยู่ เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม ดวงตาหรี่ปรือนั้นทำให้ผมตื่น นี่ผมเดินมาถึงตรงนี้เลยหรือ
อารายย
ช่วยไหม? มือผมถือถังขยะข้างหนึ่งอยู่ ยืนมองลงไปที่เธอ
เป็นครายอ่ะ? เธอหยุดเสียงกวนๆ แล้วมองหน้าผมใหม่ ห้องหนายยย?.. มือยังควานหาของในกระเป๋าแล้วก็ยกพวงกุญแจออกมาดังกรุ๊งกริ๊ง ชูให้ผมดู
หากุญแจ..มีอารายห้ายช่วยละจะบอก ผมเกาหัว เธอยันตัวโซเซลุกขึ้นพยายามไขเข้าห้อง
คร้าบ ผมหันหลังเดินเอียงซ้ายเอียงขวากลับห้องบ้าง
ผมพยายามคิดถึงบทสนทนาแรกระหว่างผมกับเพื่อนบ้านผู้หญิงคนนั้น ใช่ คนแรกของที่นี่ หนึ่งคนจากสามสิบวันแถมยังเมาอีก ผมว่าหลังจากคืนนั้น ผมเห็นเธอบ่อยขึ้น หรือว่าคิดไปเองก็ไม่รู้ เธอเป็นคนที่มีตุ้มหูแปลกๆ หรือว่าเพราะทรงผมสั้นๆเปิดหูทำให้ผมได้เห็นชัด ผิดกับผู้หญิงคนอื่นที่ผมยาวปิดตุ้มหูแต่ก็ยังใส่กัน เธอไปทำงานก่อนเวลาปกติของผม ผมเห็นเช้าวันหนึ่งตอนที่กลับจากไปวิ่ง เธอกำลังล้อคห้องจะออกไป จนเดี๋ยวนี้ผมจำเสียงรองเท้าส้นสูงที่เดินผ่านหน้าห้องผมได้แล้ว ตอนค่ำก็เห็นเธอบ้าง บางทีเราก็เจอกันที่ตลาดแถวนั้น ไปหาของกิน
วันนี้ผมเห็นเธออีกครั้ง มือถือถุงใส่ข้าวของจากซุปเปอร์มาเก็ตพะรุงพะรังจะเข้าห้อง ต้นเดือนคงไปซื้อพวกของใช้มา เพิ่งสังเกตเห็นว่าผมอยู่คนเดียวเหมือนเธอ หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมแกะซองซีดีเรื่องใหม่เข้าเครื่องเล่น หยิบเบียร์กระป๋องจากตู้เย็นมานั่งดื่มดูหนังครึ้มใจ ผมคิดถึงบทสนทนานั้น เมื่อไหร่เธอจะเอ่ยปากมาขอให้ผมช่วยอะไรบ้างนะ ...
สองทุ่มมีเสียงเคาะประตู ผมแปลกใจถ้าจะมีแขก อาจเป็นเธอ เพื่อนบ้านคนนั้น แต่เป็นคนอื่นเมื่อผมเปิดประตูออกไป ผู้ชายคนหนึ่งมาถามหาผู้หญิงชื่ออะไรไม่รู้ เขาบอกชื่อนามสกุลเต็มมาผมบอกเขาว่าไม่มี เขาเคาะห้องผิดแล้ว เขากล่าวคำขอโทษแล้วเดินไปเคาะห้องถัดไปอีก ผมชะโงกมองตามท่าทางของเขา ผมไม่ชอบให้คนแปลกหน้าเข้ามาในอพาร์ตเม้นท์ยามวิกาลแล้วทำแบบนี้ เขาเคาะไปจนถึงห้องผู้หญิงคนนั้น เธอเปิดออกมา เห็นคุยอะไรแล้วก็เข้าไปในห้องกัน ผู้ชายคนนั้นท่าทางตั้งใจจะหาเธอให้พบ คงเป็นคนสำคัญคนหนึ่ง ผมไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในห้องนั้น เขาอาจจะเป็นแฟนเก่า เป็นญาติจากต่างจังหวัดหรือเจ้าหนี้ เขาเป็นใคร?
สี่ทุ่มกว่าจริงๆผมควรจะเข้านอนแล้ว แต่มานั่งลงหมุนโทรศัพท์ภายในต่อสายไปห้องเธอ ไม่ได้คิดเอาไว้ว่าจะพูดอะไร เธอรับสาย
ผมห้อง 221 จำได้ไหม ชื่อไม้นะ..คุณ..สบายดีหรอ ? ผมเงี่ยหูฟังเสียงจากในห้องของเธอที่ลอดเข้ามาในสาย
อื่อ.. เธอหยุดเงียบไป เราเงียบ ซื้อเบียร์มาหน่อยสิ มากินที่นี่ล่ะ มาเลยนะ รออยู่
เธอพูดค่อยๆ คำเว้นคำ สั่งชัดเจน จับอารมณ์ไม่ถูก
เธอพูดแค่นั้น ผมวางสายงงๆแล้วหยิบเงินลงไปซื้อเบียร์ที่ร้านข้างล่างในชุดกางเกงเล่นบอล เสื้อกล้ามสบายๆ ก็มันชุดนอนผม
ผมเคาะประตูห้อง เธอเปิดรับ ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างในมองตาม เขาสำรวจผมทั้งตัว ผมเฉยๆ ถือว่าเราเป็นแขกของเธอเหมือนกัน เธอมองผู้ชายคนนั้นแต่ไม่พูดอะไร แล้วหันมาชวนผมให้วางถุงบนโต๊ะในครัวแคบๆนั่น
จะกินเบียร์ กินด้วยกันไหม?
เธอพูดเสียงดังถามเขาไป เขายังนั่งอยู่หน้าทีวีแต่คงไม่สนใจจะดูเท่าไร
ก็รู้อยู่ว่าผมไม่ดื่ม
เขาทำเสียงสลดปนน้อยใจ เธอหันมายิ้มหวานให้ผม มันมีแววของอะไรบางอย่างเจืออยู่ ก็ทำเอาผมจ้องเธอตาค้างด้วยความแปลกใจ นี่เธอกำลังคิดจะทำอะไร
นี่ค่ะ ที่เปิด
เธอยื่นที่เปิดขวดมาตรงหน้า ผมยิ่งแปลกใจเมื่อมืออีกข้างของเธอแตะที่เอวผม
นี่แก้ว....หยิบขนมในตู้สิ มีสองสามอย่าง
เธอพูดเบาเหมือนกระซิบกับตัวเอง ผมจัดแจงหยิบจับว่าตามกันอย่างง่ายๆ ผู้ชายคนนั้นยังคงนั่งมองอย่างไม่เป็นมิตร ความเงียบของเขาบอกผมว่าเขากำลังเศร้าเหลือเกิน
เธอมือสั่นน้อยๆขณะที่เทขนมรวมใส่จานอย่างละนิดละหน่อย แล้วยกออกไปพร้อมกับแก้วเบียร์ของตัวเอง ผมยกอีกใบตามไป เราไม่ได้เทเผื่อผู้ชายคนนั้น แต่เมื่อเธอวางจานบนโต๊ะหน้าทีวีแล้วนั่งลง เขากลับลุกขึ้น
เจี๊ยบ, ผม.. เธอยังคงนั่ง รอฟังคำพูดของเขา
ผมไปนะ
เขาเดินไปเปิดประตู ผมถือโอกาสนั่งแทนที่เขา พวกเขาคุยกันหลังบานประตูครู่หนึ่งเธอก็ปิดประตูเข้ามา เงียบ
เธอเดินเข้าไปห้องนอนแล้วออกมาพร้อมกับยื่นเงินให้ผมเป็นค่าเบียร์ ผมเห็นรอยน้ำตาชื้นๆที่ตาเธอตอนรับเงินนั้นไว้ เธอยกแก้ว เริ่มดื่ม
มีอะไรให้ช่วยอีกไหม?
ดูเหมือนเธอจะให้ผมช่วยเสร็จแล้ว ทุกอย่างจบลงด้วยดี ผมหวังอย่างนั้น
ฉันอยากได้เวลา..ถ้าคุณมี....ตอนนี้
เธอพูดเหมือนเดิม มีจังหวะ คำเว้นคำชัดเจนแต่นี่ไม่ใช่คำสั่ง
ได้
ผมขยับนั่งเอนหลังกับเก้าอี้นวม ไม่เกร็งอย่างเมื่อครู่แล้ว
ดื่มสิ ดื่มด้วยกัน
เราต่างคนยกแก้ว
แฟนหรอ?
เลิกแล้วล่ะ ..มันสายไปที่เขาจะมาตามหา มาบอกอะไร..สายจริงๆ เธอจับจ้องพร่ำกับกล่องใบเล็กๆกลางโต๊ะ
เขาดูเศร้านะ คงเสียใจมากเหมือนกัน เห็นเขาเคาะทุกห้องเลย มาเคาะห้องผมด้วย
เราดูทีวี ไม่ได้พูดอะไรกันอีก จนแก้วที่สอง
เล่นละครไม่เก่งหรอก แต่เขาก็ไป...เขาต้องไป ฉันรู้
งั้น, ทำไมผม?
ก็คุณเคยบอกจะช่วย คุณเป็นคนเดียวที่พูดว่าจะช่วย...ที่นี่
นี่เธอไม่มีใครคนอื่นเลย หรือว่าเพราะผมอยู่ใกล้ที่สุดในช่วงเวลานี้ นี่ถ้าผมไม่มาเธอจะทำอย่างไร จะเกิดอะไรขึ้น
เราดูทีวีก็ไม่รู้ว่ารายการโชว์บ้าอะไร ผมกำลังให้เวลากับเธอ แก้วที่สี่เธอก็เริ่มเล่า ลุกไปฉี่ ผมไปฉี่บ้างแล้วกลับมาต่อแก้วที่ห้า
เธอดูนาฬิกาบอกว่าพอแล้ว ต้องเข้านอนกันแล้ว เธอกดรีโมทปิดทีวี
มีอะไรให้ช่วยอีกไหม?
ไปนอนเถอะ ขอบคุณมากๆเลยนะ ไม้
ผมไปนะ
ผมพูดแล้วลุกขึ้น เธอได้ยินแค่นั้นก็ก้มหน้าเริ่มร้องไห้โฮออกมาจนผมตกใจ ต้องนั่งลงจับไหล่เธอไว้ คุณ!
ผู้หญิงร้องไห้นี่เป็นเรื่องยากมากอย่างหนึ่ง บางคนว่าอย่าไปถามซ้ำว่าร้องเรื่องอะไรเพราะหล่อนจะยิ่งร้องไม่หยุด ยิ่งเมาๆแบบนี้ บางคนว่าต้องปล่อยสักพักก็จะหมดก้อกเอง ผมเห็นเธอแล้วทำอะไรไม่ถูกไปเลย จนเธอเงยหน้ามาบอกว่า
ไปเถอะ เธอเอ่ยปากแล้ว ผมก็ไม่ควรจะอยู่ต่อ
คุณไหวนะ?
ค่ะ เธอพยายาม ทำให้ผมกลับห้องไป
ผมยังไม่หลับ เสียงร้องไห้ของเธอยังอยู่ในหัว กลิ่นเบียร์ในห้องของเธอยังอวลอยู่แถวนี้ ผมกลับมานอนห้องตัวเองในคืนอย่างนี้ได้อย่างไรกัน เธอเอาผมไปเป็นตัวประกอบในละครของเธอแค่นั้นเองหรือ?
อื้ม..อู้ว์... ... ซี้ด..... .....
อ่ะ อ่ะ .....อ้า... เสียงครางกระเส่าเร้ากระชั้นจนถึงขีดสุดปลายทาง ดังพอได้ยินอยู่บนเตียงเท่านั้น จบเสียงลงพร้อมกับลมหายใจหอบถี่ ใจเต้นรัว นิ้วทั้งห้าคลายออกวางข้างตัวในขณะที่มือข้างซ้ายลากเสื้อยืดรอซักตัวหนึ่งเช็ดคราบเหนียวข้นออกจากหน้าขาลวกๆ แล้วขยุมโยนไว้ข้างเตียง
เป็นอาทิตย์สองอาทิตย์แล้วที่ผมไม่ค่อยได้เห็นเธอ ไม่มีการสนทนาอะไรอีกเลยจากเพื่อนบ้านคนนั้น แต่ไม่เป็นไร มันก็คงเป็นแบบนั้นเอง ฮึๆ...
เสียงซ่าของฝักบัวเงียบลง
ผมเล่นกับร่างเปล่าเปลือยของตัวเองใต้ผ้าห่มบางๆรอ เธอเดินตัวเปล่าออกมาจากห้องน้ำหลังเช็ดตัวจนแห้ง
เธอสอดตัวเบียดเข้ามาใต้ผ้าห่มเดียวกัน กลิ่นแชมพูอ่อนๆฟุ้งจากพุ่มผมสั้นจู๋ของเธอที่เคลียอยู่กับอกผม เธอสัมผัสมือเย็นๆเข้ากับร่างกายส่วนล่างที่พร้อมจะระเบิดของผม แล้วเอ่ยกระซิบกระซาบด้วยอารมณ์เย้ายวนว่า
มีอะไรให้ช่วยไหม..? .
..............
แก้ไขคำผิดครับ
แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 50 14:13:59
จากคุณ :
podduang-pk
- [
10 ต.ค. 50 13:58:08
]