วันดับสูญ บทที่ 11 การดิ้นรนที่สูญเปล่า
สองสัปดาห์แล้วที่คณะผู้อพยพดำรงชีวิตอยู่ในยานซึ่งภายนอกรายล้อมไปด้วยความมืดมิดของอวกาศ...ผู้ได้รับคัดเลือกบางคนยังคงฝึกการปรับตัวอยู่ในห้องควบคุมแรงโน้มถ่วง บางคนได้เข้าสู่ห้วงนิทราในเครื่องจำศีลอย่างไม่ใยดีรับรู้เรื่องราวในอนาคตและสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง
ในขณะนี้ยานโนอาห์อยู่ห่างจากระบบสุริยะเป็นระยะทางกว่าสองแสนล้านกิโลเมตรแล้ว
...สมชายนั่งนิ่งในห้องพักผ่อน สายตาจับจ้องมอนิเตอร์ทั้งสามตัวจากกล้องสังเกตการณ์เพื่อเฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงและภาพสุดท้ายของดาวเคราะห์สีน้ำเงิน...
ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วที่โลกเริ่มเกิดความแปรปรวน
...แผ่นดินไหว...พายุ...คลื่นยักษ์...
เมื่อรุ่งสางที่ผ่านมาความรุนแรงเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณและรุนแรงขึ้นอีกเรื่อยๆ อย่างไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดหรือลดน้อยลง
สมชายรู้อยู่แก่ใจ...มันจะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างหายไป...
...ภาพความโกลาหลบนพื้นโลกเริ่มมากขึ้น...
...ถนน...ตึกรามบ้านช่อง...ซึ่งบัดนี้เหลือแต่ซากปรักหักพัง...
...ผู้คน...สิ่งมีชีวิต...ถูกธรณีสูบ...
...หินละลายร้อนแดงพวยพุ่งขึ้นมาตามรอยแยกของแผ่นดินและปากปล่องภูเขาไฟพร้อมควันพิษสีขาวหนาซึ่งมีส่วนประกอบของก๊าซพิษซัลเฟอร์ไดออกไซด์ปกคลุมไปทั่วบริเวณและกลืนกินชีวิตของสิ่งมีชีวิตในอาณาบริเวณ...
...สภาพอากาศ...ชั้นบรรยากาศ...มหาสมุทรแปรปรวน...
หากนรกมีจริง ภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้าในขณะนี้ก็คงไม่ต่างกันมากนัก
ฝุ่บ...
กล้องสังเกตการณ์ตัวที่หนึ่งดับลงไปแล้ว ซึ่งนั่นก็อาจหมายรวมถึงจุบจบของสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่บนโลกได้เช่นกัน
ที่นั่งหน้ามอนิเตอร์ในห้องพักเริ่มมีผู้สังเกตการณ์มากขึ้น...บางคนถึงกับน้ำตาไหลต่อภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า...แน่นอน...ต่อให้เป็นคนใจหินขนาดไหน ก็ต้องอดที่จะหวั่นไหวไม่ได้หากเห็นภาพในขณะนี้
จากกล้องสังเกตการณ์ตัวที่สอง...บัดนี้...ภาพฉายให้เห็นถึงเปลือกโลกที่มีแต่หินละลายสีแดงพวยพุ่งขึ้นมาทุกหย่อมหญ้าจนสีแดงร้อนปกคลุมไปทั่วโลก
...และเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม...
แสงจ้าที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้กล้องสังเกตการณ์ตัวที่สองไม่อาจจับภาพอื่นได้อีกต่อไปนอกจากแสงสีขาวโพลน...และ...
บูมมมม.......!!!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวสุดท้ายที่กล้องสังเกตการณ์ตัวที่สองจับสัญญาณได้ก่อนที่จะดับลง
...ที่กล้องสังเกตการณ์ตัวที่สาม...
แสงสีขาวพุ่งกระจายจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินซึ่งบัดนี้ถูกแทนที่ด้วยสีแดงจากความร้อนและไอควันพิษของหินละลาย
...ดาวทั้งดวงกลายเป็นแสงสีขาว และระเบิดออกทุกทิศทุกทาง....
สมชายก้มหน้าลงและถอนหายใจ เขายังคงนั่งนิ่งในขณะที่คนอื่นๆ เริ่มทยอยกันออกจากห้อง...จบแล้ว...ทุกสิ่งทุกอย่าง...เขาลุกขึ้นและยืนสงบนิ่งหน้ามอนิเตอร์เสมือนเป็นการไว้อาลัยครั้งสุดท้ายต่อบ้านเกิดเมืองนอนก่อนที่จะหันหลังกลับ
...และ...ทันใดนั้นเอง...
ครืนนนน...บูมมมม...!!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างไม่คาดคิด สมชายหันกลับไปดูที่มอนิเตอร์อีกครั้ง...เขาตื่นตะลึงกับภาพที่คาดไม่ถึงที่ปรากฏอยู่บนมอนิเตอร์ตรงหน้า...
...ระบบสุริยะกำลังสั่นสะเทือน...
การระเบิดยังไม่จบ...ดวงจันทร์...ดาวศุกร์...ดาวอังคาร...และ...ต่อเนื่องกันไปเป็นลูกโซ่เหมือนกับจะไม่มีที่สิ้นสุด
...ซูเปอร์โนวา...
ไม่ใช่...มันไม่ใช่ซูเปอร์โนวา...หากแต่มัน...จะยิ่งใหญ่และรุนแรงกว่านั้นอย่างเทียบกันไม่ติด...
ดาวฤกษ์เช่นดวงอาทิตย์สร้างพลังงานความร้อนจากปฏิกิริยาฟิวชั่นโดยการหลอมรวมของไฮโดรเจนสองอะตอมเกิดเป็นฮีเลียมหนึ่งอะตอมและคายพลังงานจำนวนมหาศาลออกมาต่อเนื่องกันไปเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ และเมื่อดาวฤกษ์ใช้พลังงานในตัวเองจนหมด ใจกลางของดวงดาวจะเกิดแรงดันมหาศาลของธาตุเหล็กซึ่งเป็นผลิตผลสุดท้ายของปฏิกิริยาฟิวชั่นของดาวฤกษ์ดันออกมาภายนอกเกิดเป็นการระเบิดที่รุนแรงที่เรียกว่าซูเปอร์โนวา หรือ นวมหาดารา
หากแต่ในกรณีนี้...โลก...เกิดการระเบิดทั้งๆ ที่เป็นดาวเคราะห์หินที่ไม่มีโอกาสจะเกิดปรากฏการณ์เช่นนั้นได้...
หากมองถึงโครงสร้างของระบบสุริยะแล้ว โลกเป็นดาวที่อยู่กึ่งกลางระหว่างดวงอาทิตย์กับดาวเคราะห์ก๊าซ และหนึ่งในดาวเคราะห์ก๊าซที่มีทั้งมวลและความร้อนสูงก็คือดาวพฤหัสบดี
สมชายจ้องมอนิเตอร์นิ่ง...ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นมาด้วยความบังเอิญ หากแต่มันถูกกำหนดมาแล้วเป็นอย่างดีและมีแบบแผน...ไม่ใช่เฉพาะบนโลก...หากแต่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างต่างหาก...ทั้งดวงดาว กาแลคซี่ หรือแม้แต่จักรวาลเอง...
ใช่แล้ว...นี่เอง...สิ่งที่ติดอยู่ในความคิดของเขา...ความกังวลที่มีมาตลอดก่อนออกเดินทาง
วงโคจรของ ดาวพุธ...ดาวศุกร์...โลก...และดาวอังคาร ซึ่งเป็นดาวเคราะห์หินถูกนำมาคั่นระหว่างดวงอาทิตย์และดาวพฤหัสบดีรวมถึงดาวเคราะห์ก๊าซดวงอื่นๆ ถัดออกไป เพื่อไม่ให้ระบบสุริยะมีพลังงานสูงจนเกินไป...มันไม่ได้เป็นอยู่อย่างที่มันเป็นด้วยความบังเอิญ
หากแต่ในเวลานี้ ดาวซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างดาวพลังงานสูงทั้งสองกลับพบจุดจบ...ความสมดุลระหว่างแรงดึงดูดของดวงดาวแต่ละดวงที่ทำให้เกิดวงโคจรในระบบสุริยะได้สูญสลายไป
การระเบิดอย่างกว้างขวางและรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์จักรวาลได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
สมชายมองดาวแต่ละดวงค่อยๆ สูญสลายไปบนจอมอนิเตอร์
...ช่างเป็นการดิ้นรนที่สูญเปล่าเสียจริงๆ...
ฝุ่บ...
...กล้องสังเกตการณ์ตัวสุดท้ายดับลง...
แก้ไขเมื่อ 11 ต.ค. 50 23:15:08
จากคุณ :
KTHc
- [
11 ต.ค. 50 22:51:29
]