ความคิดเห็นที่ 1 To dear Moonlight of My Heart- ++++++++++++ If you've got no one but you've got me V R friend! Together we walk through darkness V R friend! ++++++++++++ take care- จากคุณ : Patient Zero - [ 13 ต.ค. 50 00:17:07 A:222.123.163.40 X: TicketID:067592 ]

ความคิดเห็นที่ 2 If I were Moonlight for anyone I shall have THE ONE in my heart I shall be there, having the best one I ever have, not matter time pasts. No need to identify No more else, No more try All I want...just you, truely you By My side And, then I could have smilely face and EYES. I could have real happiness, For knowing you're still be mine. Oh, My dear Blue Sky Have I ever told you that I called you.."SKY"? I've just waited here, hopeless since we're aparted I'd failed down, and dived in deeply dark. Never smiled from heart. Sun's always ignore me, Surrounding by deadly cold, and the world's so empty. My sadness's always begins the new start, Never relieved, but more sharpen by time pasts. If I were, If I've knew, You have just a bit care some, In your hiding from my view. If you had told your truely heart If I did not spend too much time for healing, And step out from broken. Not waiting till, Is it another too late end? If.., Oh!, and more and more WHAT IF? Time's not matter, For a gliff that we're together Does it worth forever? We'd lose on precious moment too much. Could it be enough? ++++++++++++++ I have too many one, would like to be here. And I've knew, you're not different, my dear. Please ask yourself, why you're still... And me? Without any chance and hope, I had thought, Instead of start the new. I'll always be here, And shall always be gald with you in any fields. Shall be happy even you will take the pathway new. I'll be there, In everywhere, only we knew Even without you, I shall be. Keep going, My dear Blue Sky, Let's left me and my memory behind. I might be familiar with the old blue world, Waiting, Only having hurt souvenir with me. I won't beg you, not to be free, Anything you want, I do happy. Take Care More, My Blue Sky dear. ++++++++++++++++++++++++++++++++++ IF I WERE MOONLIGHT FOR ANYONE. แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 50 20:14:23 แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 50 06:33:29 จากคุณ : StarDust (รอยคำ) - [ 13 ต.ค. 50 06:17:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 By My Side Kiss me, goodbye, gone too soon I did give you my heart can't deny Hold on, let go, never sure Only can make believe all this time Coffee, cigarettes, not my style Pretty faces around but not right Don't cry, won't cry, I won't cry Be with you I just close my eyes So far away I can hardly make you mine So long the day you were always on my mind But in my dreams never try to hold you tight Don't want awake find you ain't here by my side DA... So far away I can hardly make you mine So long the day you were always on my mind But in my dreams never try to hold you tight Don't want awake find you ain't here by my side So far away I can hardly make you mine So long the day you were always on my mind But in my dreams never try to hold you tight Don't want awake find you ain't here by my side When I wake up hope you were here by my side..... May this song could explain for YOUR MOONLIGHTbetter ... http://www.musicwebtown.com/bluerum/playlists/38933/343183.mp3 จากคุณ : รอยคำ - [ 13 ต.ค. 50 20:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 4 Sooner or later I will have to get it over Donnt wanna get suffer All must over at once Turing back or forth It's all only my broken part Scatter over my grave Where my yesterday weakness buried Just a matter of time I'll be back on track. I'll be strongest ever. I am wiser and recover. My dear friend, Do cheer me again I will not longer in pain Never again in fear ------------------------------------- จากคุณ : Moonlight of my heart - [ 14 ต.ค. 50 00:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 5 รอดูบูเช็คเทียน ช่องสามคืนนี้ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 16 ต.ค. 50 01:12:44 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หืมม์......???? สวัสดีค่ะคุณทิกิ วันนี้เข้ามาอ่านกระทู้บทกวี เห็น ความเห็นกรอบนี้ขยับจำนวน เลยเข้ามาอ่าน อดแปลกใจไม่ได้ และ..อดทักขึ้นไม่ได้จริงๆ ว่ากันว่า คนเขียนบทกวี และ คนที่มีความรู้ จากการอ่านมากพอควร มักมีแง่มุม เหลี่ยมความคิดที่ได้รับการเหลา และ ลับให้แหลมคมกว่าคนทั่วไป สุดแต่ "พื้นฐาน"ของแต่ละบุคคล รวมถึง ทัศนคติ ความคิดอ่านที่เป็น รากฐานที่แท้จริงในใจ ของคนๆนั้น ส่วนตัว เชื่อว่า คุณทิกิ เป็นหนึ่งในผู้มีวัยวุฒิมากเกินกว่าจะหาญเรียก แม้คำว่า "พี่" ตามที่สายตาได้เคยเห็น และ พบกันในบางงานน่ะค่ะ คาดอีกว่า คุณทิกิ น่าจะมีประสบการณ์ในถนนตัวหนังสือมากพอควรท่านหนึ่ง จึงเลยเชื่อไปด้วยว่า ความคิดอ่านและการแสดงความเห็นใดๆ คงต้องสอดแทรกแง่มุม ความคิด และ นัยยะที่เกี่ยวเนื่องต่อเรื่องที่ต้องการสื่อ แต่พออ่านกรอบความเห็นด้านบนแล้ว ความด้อย..น่าจะทางใดหนึ่งของรอยคำเอง ทำให้ไม่สามารถอ่านเอานัยยะ ของการ รอดู "บูเช็คเทียน ในคืนนี้ของคุณทิกิได้จริงๆค่ะ พระนางบูเช็คเทียน เป็นสตรีเพียงคนเดียว ที่ได้ก้าวขึ้นครองบัลลังค์จีน ในฐานะ "ฮ่องเต้" ตามคำเล่าลือว่า นางก้าวขึ้นมาบนหนทางแห่งอำนาจนี้ด้วยความงามอย่างยิ่ง ความฉาดล้ำ และเหนืออื่นใด คือความเหี้ยม เด็ดขาด มากเล่ห์ ที่สามารถกำหนดระบบ ราชการในราชสำนัก ให้มีการคัดสรร ขุนนางจากการสอบเป็นครั้งแรก แสดงถึงแต่ ปัญญา อันหาที่เปรียบยากในการกุมบังเหียนทั้งอำนาจ และราชบัลลังค์มังกร คนที่รักนาง ตั้งแต่พ่อ จนมาลูกชาย ที่เป็นทาส ความงามและความรักต่อนางทั้งคู่ นางมีอัจฉริยะภาพในการเขียนร้อยกรองจนเป็นที่กล่าวขาน มีความรู้เชิงปรัชญาอย่างลึกซึ้ง แปลว่า เก่ง ทั้งบุ๋น ทั้งบู๊(ในแง่ของความรู้ในสมองทั่งซีกซ้ายและขวาของนาง) เห็นชัดมากว่า ผู้คนต่างเล่าลือถึงพระนางในด้านความเหี้ยมโหด ในการก้าวไปถึงจุดหมาย มากกว่าความดีงามอื่นใด แล้ว... การรอดู ซีรี่ หรือ ละคร หรืออะไรก็ตามในเรื่อง บูเช็คเทียนของคุณทิกิ ต้องการสื่ออะไรในบทกวีที่ปรากฎด้านบน และ บทไหนคะ? อ้อ ในเมื่อ บูเช็คเทียนเป็นผู้หญิง การจำกัดบทกวีที่ว่าจึงแคบลงมา หากก็ยังยากสำหรับ รอยคำคนนี้ค่ะ ว่าคุณทิกิจะสื่ออะไร หวังว่า คุณทิกิ จะสละเวลา เล่าให้ฟังถึงแง่คิดนี้ อย่างกระจ่างนะคะ มีอีกเรื่องที่อยากพูดถึงคือ ยังคงเป็นเรื่องของพระนางบูเช็คเทียนนี้ ว่า..ในส่วนที่เป็นหนัง ละคร และ "เรื่องราวเล่าต่อ" ที่ถูกถ่ายทอด และจดบันทึก "ลับหลัง" เจ้าของเรื่องนี้ มีความเป็นจริง และ ยุติธรรม ต่อผู้ถูกกล่าวถึงแค่ไหน และ อย่างไร เพราะมีอีกมากมาย ทั้งที่ประวัติศาสตร์ที่แท้จริงบางส่วนที่ไม่ได้ถูกนำมาเล่า เพราะไม่ "สนุก" ชวนวิพากษ์วิจารณ์ และ หรรษาในชีวิตอันไม่ปรกติของผู้อื่น ตามวิถีของ ผู้ชื่นชมเรื่องบันเทิงในแง่การตลาด  แบบที่เราทราบดีว่า หนัง / ละคร จะขายดีก็ต่อเมื่อ มีเรื่องราว แง่มุม อันสนุกปากให้วิพากษ์ ไม่ใช่เรื่องราวอันเต็มไปด้วย ปรัชญา ความดี ถ้าจะ "สร้างเพื่อความบันเทิง" จึงต้องกล่าวถึง และมีความจำเป็น ในการ "ใส่" เรื่องที่ถูกแต่งเติมเกินจริงอีกมากมายในประวัติของพระนาง (ที่เรียกว่า "เกร็ดประวัติศาสตร์"??) ที่หากจะมอง และตั้งคำถามอย่างผู้มีวุฒิภาวะในการศึกษาพอจะตั้งแล้ว ก็คงจะถามว่า หากความเลวร้าย และ ความเหี้ยมโหดของพระนางกดผู้คนไว้ มากมายถึงเพียงนั้น ทำไม บาปกรรม หรือความขัดเคืองต่อสภาพไร้สุขของอาณาประชาราษฎร์ หรือเหล่าขุนนางน้อยใหญ่ จึงไม่มีผล หรือ ประสิทธิภาพมากพอ ในการโค่นล้มพระนางลง พระนางทรงครองราชย์ไปจนมีพระชนม์ ๘๐ ปี และ ถวายราชบัลลังค์คืนแก่ พระราชบุตร (ไทจือ) ที่ควรจะเป็นฮ่องเต้เสียแต่เมื่อสิ้นพระราชบิดา และสิ้นพระชนม์เมื่อายุ ๘๑ ปีด้วยพระโรคชรา ทรงมีความสงบสุข มาตลอดพระชนม์ชีพ แม้แต่สุสานสวยงาม ที่ยังเหลืออยู่ ก็ไม่ได้รับการทำลายล้างลงตามควร (หากว่าถูกจงชัง และมีผู้ได้รับผลจากความเหี้ยมโหดเสียนักจากพระองค์) แผ่นป้ายหน้าหลุมศพ ก็เป็นพระนางเอง ที่มีพระราชประสงค์ไม่ให้จารึกอะไร เป็นเพียงแผ่นศิลาว่างเปล่า ?? เหล่านี้บอก นัยยะ อะไร แก่ผู้อยู่เบื้องหลัง ผู้เป็นนักปรัชญา หรือ จะฉุกคิดบ้างหรือเปล่า?.....ก็ไม่ทราบหรอกค่ะ แค่คิดไปตามประสาคนช่างวิเคราะห์ (ที่ไม่ได้แปลว่า เก่ง) ทั้งหมดที่พอทราบเกี่ยวกับ พระนางบูเช็คเทียน คร่าวๆก็เขียนถึงได้เท่านี้น่ะค่ะ ยังนึกไม่ออกมาจนถึงบรรทัดนี้ว่า คุณทิกิ มา"เล่า หรือ รำพึง" อะไรหนอ..ในกระทู้นี้?? ปล. ขอโทษ จขกท ด้วยนะคะ ที่ชักนำกระทู้ออกมา แต่ก็..ชักออกมาตามทางที่ปูไว้น่ะค่ะ จากคุณ : รอยคำ - [ 17 ต.ค. 50 00:53:59 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณสำหรับทุกๆความเห็นครับ อย่าลืมไปอ่านกลอนบทใหม่ของผมด้วยนะครับ "Talk To Me" cya soon+++ จากคุณ : Patient Zero - [ 19 ต.ค. 50 00:42:31 A:222.123.165.57 X: TicketID:067592 ]

ความคิดเห็นที่ 8 -ขอบคุณ คุณ รอยคำ ที่นำ ลิงก์ไว้ให้ และ ขอตอบที่กระทู้โน้นแทนนะคะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5932235/W5932235.html#4 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 19 ต.ค. 50 04:37:52 ]