หมายเหตุ:
คดีที่กล่าวถึงในงานเขียนเรื่องนี้ แปล และเรียบเรียงใหม่มาจาก
The Stolen Perfume Mystery โดย Edmund De Castro และ บางส่วนจาก
Meet Buffalo Police Detective Sergeant William E. Burns โดย Jack Meddoff
จาก www.bpdthenandnow.com
*******************************************************************************
ถ้าหากกล่าวถึงชื่อหน่วยงานตำรวจที่อยู่ในรัฐนิวยอร์ก... NYPD (New York Police Department)
น่าจะเป็นชื่อที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบเรื่องเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน
แล้วถ้าเป็น BPD ล่ะ... มีใครพอจะนึกออกบ้างไหมว่า เป็นสำนักงานตำรวจของเมืองไหน
คำตอบของ BPD คือ Buffalo Police Department... สำนักงานตำรวจแห่งเมืองบัฟฟาโล
เมืองใหญ่เมืองหนึ่งในรัฐนิวยอร์ก ซึ่งมีชายแดนติดกับเมืองออนตาริโอ ประเทศแคนาดา
เป็นที่ตั้งของน้ำตกไนแอการา และทะเลสาบอีรี่ที่ใหญ่เป็นอันดับห้าของทวีปอเมริกาเหนือ
และเป็นเมืองที่มีอาชญากรรมเกิดขึ้นชุกชุมพอสมควรทีเดียว
แน่นอนว่า เมื่อมีอาชญากรรม ก็ต้องมีคนปราบปราอาชญากรรม คือ ตำรวจ เป็นของคู่กัน
แม้จะไม่โด่งดังเป็นที่รู้จัก หรือมีใครจับเอาชีวิตของตำรวจเมืองบัฟฟาโลมาทำละครสักเท่าไหร่
แต่วีรกรรมของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ประจำเมืองริมทะเลสาบอีรี่ ซึ่งเป็นอดีตศูนย์กลางการค้าแห่งนี้
ก็น่าตื่นเต้นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าปฏิบัติการของตำรวจ หรือหน่วยปราบอาชญากรรมที่อื่นเลย
เรื่องที่เก็บเอามาเล่าสู่กันฟัง เป็นคดีที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1920 - 1930
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีอาชญากรรมเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาบ่อยครั้งที่สุดช่วงเวลาหนึ่ง
คดีดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นจากคดีขโมยน้ำหอมราคาถูกจำนวน 35 ขวดจากร้ายขายยา
แต่ทว่าความใจร้อนของทั้งฝ่ายตำรวจและฝ่ายคนร้ายทำให้คดีบานปลายออกไป
กลายเป็นสถานการณ์คับขันที่ทำให้ตำรวจ 6 นายตกต้องอยู่ในอันตรายเกือบถึงชีวิต
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทั้งหมดอาจเลวร้ายยิ่งกว่า และไม่ได้ลงเอยด้วยดีอย่างที่เป็น
ถ้าไม่มีชายชื่อ วิลเลียม อี. เบิร์นส์ ซึ่งอยู่นอกแผนการของคนร้ายอยู่ร่วมในเหตุการณ์ด้วย
คดีนี้เกิดขึ้นใน ค.ศ. 1928 ณ ช่วงเวลาที่ตำรวจเมืองบัฟฟาโลถูกรุมเร้าด้วยสารพัดคดีลักทรัพย์
หนึ่งในคดีเหล่านั้น คือ คดีชิงทรัพย์ในร้านขายยาของวิลเลียม ฮอฟฟ์แมน ที่ถนนเอลค์
โดยคนร้ายเอาไปเพียงตาชั่งคู่หนึ่งและน้ำหอมราคาถูกอีก 35 ขวดเท่านั้น
นักสืบวิลเลียม ไยเซอร์จากสถานีตำรวจแบ็บค็อกสตรีทซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลคดีดังกล่าว
มีลางสังหรณ์บางอย่าง และลางสังหรณ์นั้นก็นำเขาไปยังโรงภาพยนตร์ที่ถนนคลินตันใกล้ถนนบุชเนลล์
ถ้ามีผู้ชมคนไหนเข้ามาพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมละก็ โทรหาผมด้วย เขาบอกผู้จัดการ
ผมสังหรณ์ใจว่าน้ำหอมที่ถูกขโมยยังอยู่ภายในละแวกนี้
แล้วลางสังหรณ์ดังกล่าวของเขาก็เป็นจริง ในวันปีใหม่ของปี 1929
เมื่อผู้จัดการโรงภาพยนตร์โทรศัพท์ไปยังสถานีตำรวจแบ็บค็อกสตรีท แจ้งข่าวด่วนแก่เขาว่า
หนึ่งในเด็กสาวสองคนที่เข้ามาชมภาพยนตร์ในโรง มีกลิ่นเหมือนร้านตัดผม
เขาไปยังโรงภาพยนตร์ นั่งอยู่หลังเด็กสาวทั้งสอง และสะกดรอยตามเด็กสาวที่มีกลิ่นน้ำหอมไปที่บ้าน
เมื่อทราบที่อยู่แล้ว เขาและนักสืบจอห์น ชเมลเซอร์ คู่หู ก็ไปที่บ้านดังกล่าวในเช้าวันรุ่งขึ้น
จากการตรวจค้น พวกเขาได้พบตาชั่งที่หายไป และขวดน้ำหอมจำนวนมาก
และได้ทำการจับกุม จอร์จ ซีย์ชูว์ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของเด็กสาวไว้
อย่างไรก็ตาม คดีลักเล็กขโมยน้อยคดีนี้ไม่ได้จบลงตรงที่คนร้ายถูกจับได้เท่านั้น
เพราะระหว่างการตรวจค้น ชเมลเซอร์เห็นสมาชิกหญิงคนหนึ่งของบ้านตรงไปยังลิ้นชักโต๊ะทำงาน
เขาจึงตรงเข้าไปหาเธอด้วยเกรงว่าเธออาจนำพยานหลักฐานไปซุกซ่อนไว้
แต่สิ่งที่เขาเห็น คือ เธอกำลังถือปืนรีวอลเวอร์ .38 คาลิเบอร์ที่บรรจุกระสุนเอาไว้แล้วอยู่ในมือ
ในขณะที่พยายามแย่งปืนออกจากมือของเธอ เขาก็ทำให้เธอล้มลงไปกับพื้น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ครอบครัวซีย์ชูว์ไม่พอใจ และมองชเมลเซอร์ด้วยความเคียดแค้น
และสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของไยเซอร์และชเมลเซอร์ดังกล่าว
ได้กลายเป็นชนวนเหตุของการล้างแค้น และจุดเริ่มต้นของแผนการร้ายที่ชักนำตำรวจ 6 นายไปสู่กับดัก
ในช่วงบ่ายวันเดียวกันกับวันที่ทางตำรวจจับกุมจอร์จ ซีย์ชูว์ในข้อหาลักทรัพย์
สมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวซีย์ชูว์ได้เข้าพบ ร.ต.อ. เจมส์ อี. ชอร์ต ยังสถานีตำรวจแบ็บค็อกสตรีท
บอกไยเซอร์กับชเมลเซอร์ให้ไปที่ 715 เฟิร์สท์อเวนิว เมืองลักกาวานา ตอน 6 โมงตรง ค่ำวันนี้...
เขาเอ่ยฝากข้อความที่จะให้ผู้กองนำไปบอกแก่นักสืบทั้งสอง จะพบกับคนชื่อ วิลเลียม วุนเดอร์ลิคที่นั่น
เขากำลังจะไปจากเมืองนี้เพราะจอร์จถูกจับ และเขารู้ว่าตัวเองก็เป็นที่ต้องการตัวเหมือนกัน
ส่งข่าวแล้ว ชายหนุ่มก็ออกไปจากสถานีตำรวจ
และเกือบชนกับชายวัยกลางคนคนหนึ่งซึ่งหลบอากาศหนาวเข้ามาข้างใน
ชายวัยกลางคน สวมแว่นสายตา กิริยาท่าทางสุภาพ บุคลิกคล้ายเสมียนในธนาคารผู้นี้
ก็คือ จ่าสิบตำรวจวิลเลียม อี. เบิร์นส์ อดีตสายตรวจซึ่งกลายมาเป็นนักสืบมือฉมังแห่ง BPD
เขาและชายหนุ่มผู้นั้นไม่มีใครรู้เลยว่า ต่างฝ่ายต่างจะต้องโคจรกลับมาพบกันอีกครั้งด้วยเหตุบังเอิญ
เพราะบ่ายวันดังกล่าว ผู้กองชอร์ตไม่สามารถติดต่อนักสืบชเมลเซอร์ซึ่งออกไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นได้เลย
เขาจึงขอให้เบิร์นส์ไปกับไยเซอร์แทน ซึ่งเบิร์นส์ก็ตอบรับด้วยความยินดี
เนื่องจากในช่วงค่ำ อากาศภายนอกมีอุณหภูมิ 2 องศา และมีแนวโน้มว่าจะเย็นลงเรื่อย ๆ
ร.ต.อ. ชอร์ตจึงให้ใช้รถของสถานีตำรวจเป็นพาหนะไปยังสถานที่ที่ได้รับแจ้งตามเวลานัดหมาย
โดยมีสายตรวจโจเซฟ อี. รีนาวเด็นเป็นคนขับ และสายตรวจเฟรเดอริก เอ. สมิธ เป็นผู้ช่วยขับ
และเนื่องจากเป็นการจับกุมผู้ต้องหาในเมืองลักกาวานา ซึ่งอยู่นอกเขตเมืองบัฟฟาโล
ตำรวจบัฟฟาโลจึงได้แจ้งไปยังสถานีตำรวจลักกาวานาตามธรรมเนียมการจับกุมคนร้ายต่างท้องที่
ซึ่งตำรวจท้องที่ลักกาวานาสองนายซึ่งรู้จักวุนเดอร์ลิคได้อาสาเข้าช่วยเหลือในการจับกุมครั้งนี้ด้วย
เมื่อรถตำรวจสองคันไปถึง หน้าบ้านเลขที่ 715 ถนนเฟิร์สท์อเวนิว
ตำรวจลักกาวานาได้เสนอว่าจะ เป็นผู้เข้าจับกุมและส่งตัวผู้ต้องหาต่อให้เบิร์นส์และไยเซอร์
จากนั้น พวกเขาก็เข้าไปในบ้านเป้าหมาย ซึ่งมืดสนิท ไม่มีแสงไฟใดเล็ดลอดออกมาให้เห็น
เวลาผ่านไปนานถึงสี่สิบห้านาทีโดยไม่มีความเคลื่อนไหว ๆ ใด ๆ เกิดขึ้นภายในบ้าน
ไยเซอร์ซึ่งยืนหนาวสั่นอยู่ข้างรถรอมานานเช่นเดียวกับเพื่อนตำรวจบัฟฟาโลอีกสามนาย
จึงเข้าไปในบ้านเพื่อดูสอบถามสถานการณ์ และเร่งการปฏิบัติงานของตำรวจท้องที่ลักกาวานา
แต่แล้ว เขาก็กลายเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งไม่ได้กลับออกมาจากบ้านหลังนั้นอีก
เหตุการณ์ไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้น ทำให้เบิร์นส์ตัดสินใจที่จะเข้าตรวจสอบ
เขาส่งสายตรวจสองนายอ้อมไปด้านหลังบ้าน ส่วนตนเองค่อย ๆ ย่องเข้าไปทางประตูหน้า
เขาถือปืนรีวอลเวอร์อยู่ในมือ มุ่งตรงไปตามทางเดินสู่ห้องรับแขกซึ่งเป็นห้องเดียวที่มีไฟเปิดสว่างอยู่
ภายในห้อง เขาเห็นไยเซอร์และตำรวจลักกาวานาสองนายยืน เรียงแถวอยู่ชิดผนัง ยกมือทั้งสองขึ้น
ปืนของพวกเขาอยู่บนโต๊ะด้านหน้า คนที่ถือปืนสองกระบอกขู่พวกเขาอยู่นั้นคือ วิลเลียม วุนเดอร์ลิค
เขามีเวลาเพียงเสี้ยววินาทีสำหรับการตัดสินใจ แต่เวลาเสี้ยววินาทีก็อาจจะช้าเกินไป
เพราะในยามนี้ อเล็กซานเดอร์ ซีย์ชูว์ ชายหนุ่มที่เขาพบที่สถานีตำรวจแบ็บค็อกสตรีทในตอนบ่าย
ยืนอยู่ด้านหลังของเขา และกำลังเล็งปืนลูกซองมายังเขา
(มีต่อนะคะ)
จากคุณ :
ปิยะรักษ์
- [
13 ต.ค. 50 14:57:56
]