ผมมาแล้วคร้าบบบบบ
หลังจากที่ก็ออดอ้อนหม่าม้ามาหลายอาทิตย์ว่า ขอผมเหอะ...ขอผมออกโรงมั่ง ก็โดนเสียงเขียวดุกลับมาว่า...เดี๋ยวก่อน...อารมณ์ไม่ดี ผมล่ะหน่ายยยยยย แม่ผมนี่เอาอารมณ์ยากจริงๆครับ นี่ขนาดอายุแค่สามสิบก่าๆนะ ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าพอเข้าใกล้วัยทองแล้วจะน่าอะเฟรดแค่ไหน หรือผมจะชิ่งตายไปก่อนดี
ว่าแต่ว่าคุณรู้เปล่าว่าผมเป็นใคร? คาดว่าคงจะมีมิตรรักแฟนเพลงของหม่าม้าที่(เค้นคอ)เข้ามาอ่านรู้จักผมบ้างแล้ว ด้วยว่าผมเองก็มักจะเสนอหน้าไปไหนๆกับหม่าม้าเท่าที่สถานที่จะอำนวย (และเธอพร้อมจะอุ้มผมไป) แต่ถ้าคุณไม่รู้จัก ก็มาๆรู้จักกันซะ เดี๋ยวผมดังแล้วจะยุ่งนะ ไม่มีเวลามาแจกลายเซ็นหรอก
ผมเป็นหมูครับ เห็นหน้าก็รู้แล้ว จะให้เป็นยีราฟก็ใช่ที่ ตัวกลมๆ สีชมพูหวาน (ผู้ชายก็หวานได้) ผมมาเป็นลูกหม่าม้าได้ยังไงหรือครับ เรื่องมันมีอยู่ว่า.......กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.......
ในปี 1996 ณ กรุงลอนดอน วันที่ 3 มีนาคม เราสองคนก็ได้พบกันด้วยความช่วยเหลือของนกกระสาตัวอวบที่หอบผมขึ้นรถไฟมาจากเมืองเคนท์ (Kent) มามอบให้กับผู้หญิงร่างผอมสูง (ณ ขณะนั้น ย้ำ ณ เวลานั้น) เธอรับผมมากอดๆแล้วก็วางบนโซฟา ตอนค่ำๆของสองวันถัดมา เธอก็มองหน้าผม มองอยู่นั่นแหละ จนผมชักจะเขิน สักพักก็พึมพำๆอะไรไม่รู้ (แอบเล่นของใส่ผมเปล่าหว่า) แล้วก็หันมาทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่ผมแล้วก็พูดขึ้นว่า...ชื่อถ้วยฟูละกัน เหมือนขนมถ้วยฟูดี อร่อยๆ (ผมมาพบว่าแม่ผมนี่ชอบตั้งชื่อทุกสิ่งรอบกาย แล้วก็นิยมอะไรที่รับประทานได้)
หลังจากวันนั้นเราก็สบตากันทุกวัน เธอไปเรียนกลับมาหน้าตาดูเหนื่อยๆ เห็นท่องอะไรไม่รู้ เขียนตัวยึกยือๆ ผมก็ส่งกระแสจิตไปหา....มองผมสิ...มองผมสิ....ผมอยู่ตรงนี้.... ได้ผลครับ เธอเดินมาหาผมแล้ว แล้วก็เอามือทั้งสองมากุมแก้มอวบนิ่มของผมบีบเล่นแล้วพูดอย่างถูกใจว่า...ว่า....เออ เหมือนนมเลย นิ่มดี.....
ลูกผู้ชายอย่างผมแอบน้ำตาตกใน....ทำไมนะ...ทำไมเราต้องมาตกอยู่ในเงื้อมมือของผู้หญิงโรคจิตอย่างนี้ด้วย.......ดูสิ...ดูสายตาที่มองมาที่ผม ประหนึ่งว่าจะกินผมงั้นแหละ ลืมไป...ก็ผมชื่อถ้วยฟูนี่นา แหะๆ
เราเริ่มตกลงปลงใจเป็นแม่ลูกกันเมื่อไหร่เหรอครับ....ผมจำไม่ได้ ก็มันนานแล้วนี่ รู้แต่มองกันไปมองกันมา แฟลตก็แค่นั้น เธอเองก็ไม่สามารถจะคุยกับที่รักได้ทุกวัน (ก็เล่นคุยทีเป็นชั่วโมง ข้ามประเทศนะครับ ไม่ใช่ข้ามเมือง บิลมาก็หน้ามืดล่ะครับ) หันซ้ายหันขวาสบตากันปิ๊งๆๆ ก็ตัดสินใจร่วมหอลงโรง...เอ้ยยยยย....เวรแล้ว เธอก็เริ่มมากอดผมมากขึ้น โดยเฉพาะแก้มสองข้างที่เป็นที่ถูกใจเธอนัก แล้ววันนึงเธอก็พูดประโยคแห่งประวัติศาสตร์ (ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์มากมายตามมา)
ถ้วยฟูหล่อจังเลยลูก หม่าม้ารักหนูจัง
แม้จะหงุดหงิดกับคำว่า หนู แต่ผมก็ปลาบปลื้มเหลือเกินที่ตัวเองเริ่มมีตัวตนและที่สำคัญ เธอ....ไม่ใช่สิหม่าม้าของผมเธอดูออกครับ เธอรู้ว่าผมหน่ะมัน....เป็นผู้ชาย.....แม้จะแบบว่า....ไม่มีสัญลักษณ์อะไรเป็นรูปธรรมก็เหอะ (ชอบมีเพื่อนๆหม่าม้ามาถามเรื่อยว่ารู้ได้ไงว่าเป็นผู้ชาย) ผมมมมมมม....ชื่อถ้วยฟู....เป็นลูกชายหม่าม้าคับ....ผมแหกปากประกาศก้องไปทั่วเกาะอังกฤษ รออีกหน่อยเถอะ...ผมจะไปในทุกที่ (ที่หม่าม้าไป) 5555555 ผมไม่สงสัยแล้วว่าทำไมเราถึงได้เป็นแม่ลูกกัน.....มันคือพรหมลิขิต...ฟ้าบันดาล....โลกจะต้องจารึกเราสองแม่ลูก......
เริ่มบ้าแล้ว (หม่าม้าหันมาตบหัวผมเข้าให้) แล้วพบกันตอนหน้า....อย่าปฏิเสธนะว่าคุณหน่ะเริ่มปิ๊งผมแล้ว
**********************************
ลูกชายชาราบูน
ในนี้ไม่มีรูป อยากเห็นผมต้องเข้า blog (อันนี้ต้องโทษหม่าม้า ที่กะเอาผมเป็นเครื่องมือ โปรโมท blog)
จากคุณ :
ลั่นทมขาว
- [
17 ต.ค. 50 13:55:48
]