เห็นแล้วไม่ต้องตกใจนะคะ เป็นภาคสุดท้ายของเซทมาเฟียแล้วค่ะ(ตอนแรกว่าจะไม่มีภาคนี้ด้วยซ้ำ แต่เพราะมีคนอ่านขอให้เขียนภาคนี้ เลยต้องเขียน)
แล้วก็อย่าถามฟางถึงภาคของลูกของคู่นี้นะคะ ไม่มีแล้ว ไม่เอาแล้ว ปล่อยฟางไปดีเถิด สาธุ)))))
ก็ติชมได้เหมือนเดิมนะคะ ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ
ส่วนเรื่อง "สูตรรักรหัสใจ" ยังเขียนอยู่นะคะไม่ได้ทิ้ง แต่จะส่งสลับกับ ปฏิบัติการรักฯ ค่ะ แฮะๆ ไม่ทิ้งหรอกค่ะ คุณลุงผีน้อยทั้งตัว555
**************
ปฏิบัติการรักลวงใจ
บทนำ
ซานฟรานซิลโก เมืองใหญ่ที่อยู่ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ในมุมหนึ่ง บนถนนแอล คามิโน เดล มาร์ ที่อยู่ใกล้ชายฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ตรงโค้งถนนแอล คามิโนฯ ยามนี้กำลังครึกครื้นและสนุกสนาน เมื่อเหล่าพ้องเพื่อนนาวิกโยธินวัยเกษียรและเพื่อนบ้านที่มาร่วมอวยพรวันเกิดให้กับบาร์ม น๊อกซ์ สไตล์เดอร์ อดีตนาวิกโยธินรุ่นเก๋าที่ปลดประจำการเข้าสู่วัยเกษียร และคงไม่มีอะไรน่าดีใจไปกว่าการที่บุตรชายแสนรักทั้งสองคนได้กลับมาหาเขาพร้อมกันในวันนี้
ภายในห้องหนังสือที่ตกแต่งด้วยโทนสีเนื้อไม้อย่างเรียบง่าย โดยรอบห้องมีแต่ชั้นหนังสือติดผนัง ยกเว้นผนังด้านหนึ่งที่ทำเป็นโต๊ะโชว์รูป มีทั้งรูปถ่ายในวัยหนุ่ม รูปที่ถ่ายกับเพื่อนฝูงบนเรือรบที่ตนเคยประจำการอยู่ และตรงมุมห้องด้านหนึ่งก็ยังมีโต๊ะทำงานหนึ่งชุดวางอยู่ บนโต๊ะยังมีหนังสือหลายเล่ม รวมทั้งหนังสือที่อ่านแล้ววางกองไว้
ประตูไม้เปิดออกและปิดลง ชายวัยสูงอายุใส่ชุดลำลองสีน้ำตาลหม่นเดินเข้ามาในห้อง เขาตรงไปยังโต๊ะทำงานแล้วจึงยกหนังสือสองสามเล่มที่วางทับสิ่งที่เขาต้องการอยู่ออก ที่ใต้ล่างสุดนั้นมีหนังสือเล่มหนาสีแดงเลือดหมูดูเก่าคร่ำครา เขาเปิดปกแข็งๆ ของมันออกก่อนจะเผยให้เห็นปุ่มกดที่อยู่ภายใน หนังสือหลอกตา ของเขา
ฉับพลันนั้นที่ชั้นหนังสือติดผนังเลื่อนออกจากกัน เผยให้เห็นห้องลับที่อยู่ด้านใน ชายสูงวัยก้าวเข้าสู่ห้องด้านในแล้วจึงเผยยิ้มออกมา เมื่อเห็นชายหนุ่มสองคนอยู่ภายในห้องลับแห่งนี้ คนหนึ่งยืนพิงหน้าต่างเหม่อมองออกไปเบื้องนอก อีกคนหนึ่งนั่งอ่านหนังสืออ่านเล่นอยู่ หากทั้งสองคนก็หันมองมาทางบาร์มพร้อมกันและเรียกเขาด้วยน้ำเสียงอันแสนจะคุ้นเคย
แด๊ด
ชายหนุ่มสองคนเดินเข้ามาหาบาร์มพร้อมกับผลัดกันเข้ามาโอบกอดบิดา ซึ่งเป็นการทักทายที่เคยชิน แต่ทว่าทั้งสองกลับเป็นพี่น้องที่ใครหลายคนคงแยกทั้งคู่ไม่ออก ไม่ว่าจะสีผม สีตา และท่าทางที่เหมือนกันราวกับพิมพ์เดียวกัน รวมทั้งอุปนิสัยใจคอที่เหมือนกันไปหมด แต่คงจะมีแค่บาร์มและภรรยาชาวไทยของเขาที่ล่วงลับไปแล้วเท่านั้นที่รู้ว่า ฝาแฝดคู่นี้ อลันและอเล็กซ์ สไตล์เดอร์ มีส่วนไหนกันแน่ที่แตกต่างกัน!
บาร์มนั่งคุยกับลูกชายทั้งสองคน แล้วจึงแลเลยไปยังหน้ากากยางสำหรับการปลอมตัวที่ถูกถอดวางไว้บนโต๊ะเล็กๆ ข้างโซฟาตัวยาว เขามองมายังบุตรชายคนเล็กแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ งาน ของอเล็กซ์ทำให้เขาต้องลบทิ้งตัวตนไปจากสังคมและรายชื่อของประชากรแคลิฟอร์เนีย หากอลันยังคงมีตัวตนอยู่ในฐานะตำรวจสากลและรายชื่อประชากรของมลรัฐนี้
คนเป็นพ่อย่อมเข้าใจดีถึงสิ่งที่ลูกชายกำลังทำอยู่ แต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้ถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อลันและอเล็กซ์ ทำงานเสี่ยงตายด้วยกันทั้งคู่ แต่ทว่านั้นคือหน้าที่ ที่ทั้งสองคนเลือกแล้วที่จะทำ เขาจึงทำได้แต่เพียงส่งใจให้บุตรชายทั้งสอง ส่วนคนรอบข้างนั้น รับรู้แต่เพียงว่า อเล็กซ์ตายไปเมื่อหลายปีก่อนในอุบัติเหตุ แต่ไม่มีใครที่รู้เลยว่า นั้นคือสถานการณ์ที่สร้างขึ้นเท่านั้น
การส่งอเล็กซ์เข้า หน่วยพิเศษ ของอินเตอร์โพล* จำเป็นต้องให้เขาสูญหายไปจากสังคม มันเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำเพื่อให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยทุกคนปลอดภัยและครอบครัวของพวกเขาก็ต้องปลอดภัยเช่นกัน เพราะบางครั้ง ครอบครัวก็คือจุดตายที่คนร้ายมักหยิบยื่นมาให้ ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องตัดขาดครอบครัวออกไป
แต่ทุกๆ ปีของวันนี้ ก็จะเป็นวันที่อเล็กซ์มีตัวตนกลับมาบ้านหลังนี้โดยการปลอมตัวเข้ามา เพื่อที่จะมาอวยพรวันเกิดให้กับบิดาของตนเองและได้เจอหน้าพี่ชายร่วมสายเลือดได้ และมันจะเป็นวันที่สองพี่น้องได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองและเล่าเรื่องราวของตัวเองให้บิดาฝาแฝดของตนฟังด้วย
บาร์มนั่งคุยกับบุตรชายทั้งสองอยู่สักพักจนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปมาก เห็นไม่สมควรที่เจ้าภาพของงานจะหายตัวมานานๆ แบบนี้ เขาจึงบอกให้อลันและอเล็กซ์คุยกันก่อนจะออกไปจากห้องลับ เพื่อรับหน้าแขกเหรื่อที่มาในงาน แต่กระนั้นบาร์มก็ยังไม่วายหันมาบอกบุตรชายแสนรักของเขาทั้งสองว่า
พ่อลืมบอกอะไรไปหรือเปล่า ว่าพ่อภูมิใจในตัวแกสองคนมากมายนัก
อเล็กซ์และอลันยิ้มออกมาพร้อมกันก่อนจะหลิ่วตาให้กันนิดๆ และเอ่ยออกมาแทบจะพร้อมกันว่า
พ่อบอกคำนี้ทุกครั้งแหละ เมื่อถึงเวลาที่เราได้กลับมาเจอกัน
งั้นพ่อจะบอกต่อไปเรื่อยๆ ทุกครั้งอย่างนี้เสมอ แต่อย่างว่านะ แกสองคนมักคิดอะไรเหมือนๆกัน และน่าจะเบื่อเหมือนกันละมั้งที่พ่อพูดแบบนี้บ่อยๆ
ไม่หรอกครับ เราไม่เบื่อ อลันบอก
อเล็กซ์เสริม ใช่ เราไม่เบื่อแม้แต่นิดเดียว
งั้นก็ดีแล้วพ่อจะได้พูดมันต่อไปและต่อไป แต่อย่างแกสองคน คงคิดอะไรเหมือนๆ กัน และคงจะรู้ใจกันดีอยู่แล้วว่าพ่อคงจะเป็นอย่างนี้เสมอไป แต่อีกอย่างนะ เขาว่ากันว่า ฝาแฝดมักชอบอะไรเหมือนๆ กัน โดยเฉพาะสเปคผู้หญิง
บาร์มแกล้งวางระเบิดไว้นิดหน่อยก่อนจะเดินออกจากห้องไป แต่นั้นก็มาพอที่จะทำให้บุตรชายทั้งสองถึงกับหัวเราะร่วน เพราะรู้ดีว่าบิดาอยากได้สะใภ้และหลานเต็มแก่ แต่ลูกชายกลับยังไม่ยอมร่วมมือด้วยเอาเสียเลย
หากเมื่อคล้อยหลังบิดาออกไป บรรยากาศในห้องก็ดูจะเครียดขึ้นถนัดตา เมื่อเรื่องงานวิ่งเข้ามาในหัวสมอง สิ่งที่ต้องทำในอนาคตดันมาเกี่ยวพันกันเสียนี่
อลันและอเล็กซ์มีเป้าหมายเดียวกันใน เมื่องานที่ถูก หน่วยเหนือ สั่งลงมาเร็วๆ นี้ กลับเป็นงานชิ้นแรกที่สองพี่น้องต้องร่วมมือกัน
ต่างหน่วยงานและการทำงานแตกต่างกัน อลันใช้สมองและกฎเป็นหลัก แต่อเล็กซ์ปฏิบัติการและปิดบัญชีเป้าหมาย!
อเล็กซ์หยิบหน้ากากปลอมที่เป็นรูปลักษณ์ของชายแก่ขึ้นมาสวมใส่ก่อนจะมันให้เข้าที่เข้าทางพร้อมกับบอกพี่ชายฝาแฝดของตนด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดว่า
ฉันต้องกลับแล้ว แล้วเจอกันในปฏิบัติการนะพี่ชาย
อลันยิ้มนิดๆ ก่อนจะตบไหล่น้องชายฝาแฝดเบาๆ
นายเองก็ระวังตัวไว้บ้างนะ งานนะมันอันตรายและถึงตายได้ทุกเมื่อ
อเล็กซ์เลิกคิ้วสูงพลางยักไหล่น้อยๆ ไม่อนาทรร้อนใจกับคำเตือนนั้นสักเท่าไหร่ ทำเป็นพูดดีไป นายเองต่างหากที่ควรระวัง ฉันจำได้นะว่าแม่สาวน้องมาเฟียที่ชื่อชิคกี้อะไรนั้นนะ ก็ร้ายไม่เบานี่
อย่างน้อยเธอก็ร้ายน้อยกว่าที่นายคิดแล้วกัน
แล้วฉันจะคอยดู
แฝดคนน้องบอกแค่นั้นก่อนจะหมุนกายออกจากห้องไป แต่ก็ยังไม่วายทิ้งรอยยิ้มบางๆ ยั่วเย้าประสาทคนเป็นพี่ที่อายุห่างกันไม่ถึงชั่วโมงไว้อยู่ดี
**************
บทที่ 1 เริ่มต้นของเดิมพัน
ความมืดมิดด้านนอกบ่งบอกได้ถึงเวลาที่ดึกสงัด มีเพียงแสงไฟจากท้องถนน กับแสงของไฟหน้ารถที่แล่นยั่วเย้าราตรีกาลในคำคื่นนี้ ที่นี่คือซานฟรานซิสโก และที่นี่คืออพาร์ทเม้นท์ซึ่งอยู่ในย่านเสื่อมโทรมที่ผู้คนมักมองว่าไม่น่าอยู่อาศัย แต่กับใครคนหนึ่งนั้น กลับมองว่ามันเป็นสถานที่ๆ ปลอดภัยที่สุดสำหรับเขา
ภายในห้องที่ดูจะรกและไม่ค่อยเป็นระเบียบ ข้าวของวางกระจัดกระจายเต็มไปหมด หนังสือพิมพ์ที่อ่านทิ้งไว้ ยามนี้ถูกพับลวกๆ วางไว้บนโต๊ะไม้เก่าคร่ำคร่า หากบนเตียงไม้เก่าๆ ร่างสูงนอนเหยียดยาวอยู่บนนั้น นัยน์ตายังคงหลับสนิท แต่ใบหน้าคร้ามบ่งบอกได้ดีถึงสภาวะเข้าสู่ความฝันที่เจ้าตัวคงไม่พึงอยากจะฝันถึงมันนัก
ความฝันที่ทวงถามและรบกวนจิตใจของเขาตลอดมา ในความฝันนั้นเขาเห็นตัวเองอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงของลังไม้ที่ถูกระเบิดจนแตกกระจายออกเป็นเศษซากไหม้ไฟ เสียงปืนที่รัวยิงโต้ตอบกันยังคงแล่นเข้าสู่โสตประสาทของเขา มันยังย้ำเตือนได้ดีถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนก่อน
เสียงตะโกนร้องเรียกใส่ไมค์สวมหัวที่ไว้สื่อสารในการปฏิบัติการยังคงแจ่มชัด เสียงพูดและสบถด่ายามเมื่อภารกิจล้มเหลวและต้องล่าถอยยังคงย้ำเตือนอยู่ไม่สร่าง และเสียงตะโกนที่ย้ำชื่อนั้นไว้ตลอดกาล
อเล็กซ์!
ร่างสูงลืมตาโพลงขึ้นพลางถลึงพรวดขึ้นนั่ง ใบหน้าคร้ามคมมีเหงื่อผุดผาดขึ้นเต็มไปหมด ลมหายใจถี่แรงกับความฝันที่ย้ำเตือนอยู่ตลอดเวลา ฝันร้ายที่ไม่อาจจางหายไปได้ แม้เวลาจะล่วงเลยมาแล้วก็ตาม
ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตนเองก่อนจะตวัดผ้าห่มออกพ้นตัว เขาลุกขึ้นยืนพลางคว้ากางเกงที่วางพาดอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียงมาสวมก่อนจะเดินเลยไปยังห้องน้ำที่อยู่ถัดไป เขาเปิดก๊อกน้ำและลงมือล้างหน้าเพื่อให้ความฝันที่ตามหลอกหลอนนั้นได้จากหายไป แต่มันกลับไม่เป็นผลเอาเสียเลย ความสูญเสียที่ได้รับ เกินกว่าที่จะลบเลือนมันได้
เขายังจำได้ดีถึงภารกิจครั้งนั้น มันคือการล่าล้างอาวุธเถื่อน แต่ทว่าภารกิจนั้นมิได้ชัยชนะเสมอไป สายที่ส่งไปกลับถูกจับได้ ภารกิจเดิมถูกยกเลิกและแทนที่ด้วยภารกิจใหม่ มันเป็นการช่วยเหลือคนในหน่วยออกมา
แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 50 13:54:37
จากคุณ :
ฟองฟาง_FONGFANG
- [
19 ต.ค. 50 02:56:02
]