Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    Tales of Phantom ตอนที่ 11 ณ อำเภอเล็กๆ ชายแดนกัณหกุมมะ

    ตอนที่ 1  http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5777540/W5777540.html

    ตอนที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5782663/W5782663.html

    ตอนที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5789691/W5789691.html

    ตอนที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5796119/W5796119.html

    ตอนที่ 5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5802128/W5802128.html

    ตอนที่ 6 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5808832/W5808832.html

    ตอนที่ 7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5816180/W5816180.html

    ตอนที่ 8 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5822560/W5822560.html

    ตอนที่ 9 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5831994/W5831994.html

    ตอนที่ 10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5842843/W5842843.html




    ตอนที่ 11

    ณ เมืองเล็กๆ ชายแดนกัณหกุมมะ



    สายลมเย็นยะเยียบหอบใบไม้ร่วงพัดผ่าน ผู้คนในเมืองต่างมองไปยังชายหนุ่มแปลกหน้าสี่คนซึ่งยืนจ้องหน้ากันเขม็งด้วยสายตาเป็นศัตรูอยู่ ณ ใจกลางของลานกว้าง แล้วต้องขนลุกเกรียว เนื่องจากกลิ่นอายแห่งการต่อสู้ซึ่งชายหนุ่มแปลกหน้าเหล่านี้แผ่ออกมาทำให้ทั่วทั้งเมืองถึงกับสั่นสะท้าน ทว่าแม้จะหวาดกลัวเพียงใด ชาวบ้านในเมืองก็ยังคงยืนดูชายหนุ่มแปลกหน้ากลุ่มนี้อยู่ไม่ห่างออกไปนักอยู่ดี และได้ยินชายหนุ่มผมเงินในกลุ่มชายหนุ่มแปลกหน้าเอ่ยขึ้นว่า

    “เจ้า...แน่ใจจริงๆ นะ ?” จากนั้นถลึงตาใส่ชายหนุ่มผมดำและเด็กน้อยรูปร่างคล้ายแมลงสาบ

    “หึ !” ชายหนุ่มผมดำแค่นเสียงอย่างเย็นชา “จนป่านนี้แล้วยังจะกล่าวคำพูดแบบนี้ออกมาอีก ไม่รู้สึกว่าสายเกินไปหรอกหรือ ?”

    “อู๋เฉิงกวง เจ้าน่าจะรู้ตัวตั้งแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ !” เด็กน้อยแมลงสาบตวาดก้อง

    “จะว่าไป เจ้าก็มีความเห็นไม่ตรงกับข้าเหมือนกันนี่ ?” หมิงหลุนหันไปถลึงตาใส่อาไท่

    “หึ ! รสนิยมของเจ้ามันก็มาได้แค่นี้เองแหละนะ !” น้ำเสียงอาไท่ดูแคลน

    “ไม่ว่าอย่างไร !” เฉิงกวงหันกายไปชี้ป้ายซึ่งเขียนเอาไว้ว่า “เนื้อวัวย่างทั้งตัว” แล้วเอ่ยเสียงหนัก “ข้าก็จะกินที่ร้านนี้ !”

    “ชิ ข้าถึงได้บอกไงว่ารสนิยมเจ้ามันก็แค่นี้เอง เนื้อวัวย่างทั้งตัวน่ะ ที่ไหนก็หากินได้ทั้งนั้นแหละ มาถึงอาณาจักรกัณหกุมมะทั้งที มันก็ต้องกินอาหารสมุนไพรที่ขึ้นชื่อของที่นี่สิ !” อาไท่ชี้ไปที่ร้านด้านหลังซึ่งมีป้ายเขียนเอาไว้ว่า “อาหารสมุนไพรอันดับหนึ่งในแผ่นดิน”

    “เจ้าสองคนนี่โง่จริง เลือกกินแต่ของที่ไม่สร้างสรรค์เอาเสียเลย ที่นี่มันจะไปมีอาหารสมุนไพรของแท้ให้กินได้อย่างไรกันเล่า มันต้องไปกินที่เมืองหลวงโน่น ! ส่วนเนื้อวัวย่างทั้งตัว ไม่ได้มีแค่ในอาณาจักรกัณหกุมมะเท่านั้น อาณาจักรของพวกเราก็มีให้กินเต็มไปหมด ดังนั้นเมื่อมาถึงเมืองชายแดนเล็กๆ แบบนี้ มันก็ต้องกินอาหารพิเศษเฉพาะของที่นี่ ‘ทั่วหล้าล้วนญาติมิตร’ สิ !” หมิงหลุนกำมือข้างหนึ่งแน่น ส่วนอีกมือชี้ไปที่ร้านอาหารใหญ่โตโอ่โถงที่ด้านหลังของตน

    เปรี้ยง !

    กลิ่นอายแห่งการต่อสู้ลุกโชนแผ่กระจายออกมาจากร่างของคนทั้งสาม งดงามน่าเกรงขามประหนึ่งชั่วพริบตาที่เกลียวคลื่นสาดกระแทกหินโสโครก

    “โง่เขลาสิ้นดี !” ฉานอวี้เห็นสามคนนี้แล้วพูดไม่ออกถึงขีดสุด จึงหันกายเดินผละจากไปเพียงลำพัง

    สายลมเย็นยะเยียบหอบใบไม้ร่วงพัดผ่าน ผู้คนในเมืองมองชายหนุ่มทั้งสามซึ่งต่างก็ชี้ไปยังร้านอาหารคนละร้าน แล้วต่างตกตะลึงอ้าปากค้าง ก่อนจะหันกายเดินจากไปอย่างเงียบงัน เลิกให้ความสนใจโดยสิ้นเชิง...

    “เมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นพวกเราก็ต่างคนต่างไปเถอะ” กล้ามเนื้อใบหน้าเฉิงกวงกระตุกอย่างโกรธจัด

    “ดีซี่ ข้าก็ไม่เคยคิดจะอยู่ร่วมกับพวกเจ้ามาตั้งแต่แรกแล้ว !” อาไท่หันหลังไป

    “เดี๋ยวก่อน !” หมิงหลุนตวาดลั่น “นี่พวกเจ้าไม่รู้สึกขายหน้าบ้างเลยหรือไร ?! ถึงได้มาเถียงกัน...เถียงกันในที่แบบนี้...” ชายหนุ่มเหมือนจะเพิ่งนึกขึ้นได้กะทันหันว่าตนเองเป็นถึงราชโอรส จึงให้รู้สึกอัปยศอดสูต่อพฤติกรรมไร้สาระนี้ของพวกเขาทั้งสามคนเป็นอย่างยิ่ง

    “นี่...คนที่เริ่มเปิดประเด็นเถียงเรื่องนี้อย่างเจ้ามีสิทธิ์พูดประโยคนี้ด้วยหรือ ?” เฉิงกวงกับอาไท่มองหน้าหมิงหลุนในอาการเหงื่อตก

    “พวกเจ้ามาว่าข้าแบบนี้ได้อย่างไรกัน !” หมิงหลุนทำหน้าตกใจสุดขีด “ในเมื่อพวกเราไม่อาจตกลงกันได้เช่นนี้ อย่างนั้น...” ชายหนุ่มแบมือออกตรงหน้าน้องชายกับอาไท่ “เอาเงินมาให้ข้าซะสิ !”

    “หา !” สองหน่อที่นึกว่าจะโดนหมิงหลุนดุด่าสั่งสอนเสียงเกรี้ยวเสียแล้วต่างอ้าปากค้าง แล้วอาไท่จึงถามขึ้นอย่างประหลาดใจว่า

    “เงินของเจ้าล่ะ ?”

    “วางอยู่ในสัมภาระโน่น เฉิงกวงนั่นแหละผิด ! ดันบังคับลากตัวข้ามาจนข้าลืมหยิบเงินมาด้วยเสียสนิท” เนื่องจากก่อนหน้านี้ต่างก็อยู่กันแต่ในป่าที่ไม่ต้องใช้เงิน ดังนั้นหมิงหลุนจึงเพิ่งจะมานึกขึ้นได้หลังออกจากป่าว่าตนไม่ได้พกเงินติดตัวมาด้วยแม้แต่แดงเดียว

    “ไปตายซะไป !” เฉิงกวงกับอาไท่บริภาษทิ้งท้าย ก่อนจะหันกายออกเดินไปยังร้านอาหารที่แต่ละคนเลือกพร้อมกัน

    หมิงหลุนรีบโถมเข้าไปกอดขาน้องชายสุดที่รักอย่างรวดเร็ว

    “อย่าทำกันแบบนี้สิ...เฉิงกวงน้องรัก ! เจ้าจะยอมปล่อยให้พี่ชายที่แสนจะน่ารักและรูปงามของเจ้าคนนี้ถูกคนเขาทุบตีบาดเจ็บสาหัสเจียนตายเพราะกินแล้วไม่จ่ายได้ลงคอเชียวหรือ ?”

    เฉิงกวงเหล่ลงมองพี่ชายที่เกาะขาตนไว้แน่น “ถ้าเจ้ารู้ตัวว่าไม่อยากโดนชาวบ้านทุบเพราะกินแล้วไม่จ่ายเงิน ก็มากินกับข้าเสียสิ”

    “เฉิงกวง !” หมิงหลุนมองหน้าน้องชายตาใส

    “ทำสายตาแบบนี้หมายความว่ายังไงหา ?” เฉิงกวงเหงื่อตก “ถึงอย่างไรข้าก็ไม่มีทางยอมทำตามที่เจ้าขอเด็ดขาด ! เฮอะ !” จบคำก็เมินหน้าหนีไปทางอื่นโดยไม่ยอมมองพี่ชายตัวดี


    <>::<>::<>


    ณ ร้านอาหารสมุนไพรอันดับหนึ่งในแผ่นดิน

    “เฮ้อ ! อร่อยเป็นบ้าเลย !” อาไท่ถอนหายใจยาวเหยียดอย่างแสนพอใจ “เจ้าโง่สองคนนั้นนี่โง่จริงๆ ที่ไม่ยอมตามเข้ามากินในร้านนี้ด้วย ! พวกนั้นคงไม่มีทางคิดฝันถึงแน่ว่าอาหารในร้านนี้จะอร่อยขนาดนี้ !”

    ฉานอวี้มองอาไท่ที่ยิ้มกว้างจนแก้มแทบปริแล้วคิดในใจ ...ได้อยู่กับพวกนั้นแล้ว อาไท่ดูจะไม่เหงาอย่างเมื่อก่อน...

    “ท่านชายอวี้ ท่านรู้สึกไหมพระเจ้าค่ะว่า อู๋หมิงหลุนดูจะต่างไปจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง ?” อาไท่ถาม นานๆ ทีจะมีโอกาสได้สนทนากับท่านชายอวี้เพียงลำพังแบบนี้สักครั้ง

    “อืมม์” ฉานอวี้เอ่ยรับสั้นๆ อย่างเย็นชา แม้จะรู้สึกดังที่อาไท่ว่าเช่นกัน แต่ปิศาจหนุ่มไม่มีทางบอกความคิดของตัวเองให้คนอื่นทราบเด็ดขาด

    “ประหลาดจริงๆ...ข้าได้ยินอู๋เฉิงกวงบอกว่าอู๋หมิงหลุนความจำเสื่อม แต่ความจำเสื่อมนี่มันทำให้แปลกไปจากเดิมได้มากขนาดนี้เลยเชียวหรือ ?” อาไท่ชินเสียแล้วกับนิสัยปากหนักของเจ้านายและพูดเองเออเองต่อไปว่า “จำอะไรเลยไม่ได้แบบนี้นี่น่าสงสารจริงๆ”

    ...น่าสงสารอย่างนั้นหรือ ?... ฉานอวี้คิดในใจอย่างเย็นชา

    “แต่ว่า...ถ้าให้เขานึกออกว่าเมื่อก่อนเขาเคยทำอะไรเอาไว้บ้างละก็ มันก็ออกจะน่าเวทนาเกินไปเหมือนกัน ให้เป็นอู๋หมิงหลุนแบบในตอนนี้นี่แหละดีแล้ว แต่หากวันหนึ่งเขาเกิดฟื้นความทรงจำได้ และกลายเป็นอู๋หมิงหลุนคนเก่าที่คนเทพล้วนคั่งแค้นละก็ อย่างนั้น...ท่านชายอวี้...ท่านจะฆ่าอู๋หมิงหลุนไหมพระเจ้าค่ะ ?” อาไท่นึกว่าที่เวลานี้ฉานอวี้ไม่สังหารอู๋หมิงหลุนเป็นเพราะอู๋หมิงหลุนความจำเสื่อม

    ...ตอนนี้ข้าต้องการทราบเพียงเหตุใดเขาจึงสามารถกางเขตแดนแบบเดียวกับ “คนผู้นั้น” ได้ ขอเพียงข้าสืบจนแน่ใจแล้วว่าอู๋หมิงหลุนไม่เกี่ยวข้องอะไรกับ “คนผู้นั้น” ถึงแม้อู๋หมิงหลุนจะยังไม่ฟื้นความทรงจำ ข้าก็จะฆ่าเขาอยู่ดี !... ฉานอวี้คิดในใจโดยไม่ได้เอ่ยตอบ

    “ตอนนี้ดูเหมือนอู๋เฉิงกวงจะเข้ากับอู๋หมิงหลุนได้ดีมากนะพระเจ้าค่ะ !” อาไท่เห็นฉานอวี้ไม่ตอบที่ตนถาม ก็ไม่ได้รบเร้าแต่อย่างใด “จะว่าไปก็ประหลาดจริงๆ ทั้งที่เห็นอยู่ชัดๆ ว่าอู๋เฉิงกวงแค้นอู๋หมิงหลุนจะตาย แล้วตอนนี้ก็เป็นโอกาสอันงามที่จะฆ่าอู๋หมิงหลุนด้วย แต่อู๋เฉิงกวงกลับลงมือฆ่าไม่ลงเสียได้ เป็นเพราะเขายังมีหัวใจของมนุษย์อยู่อย่างนั้นหรือพระเจ้าค่ะ ? อย่างนั้นหากต่อไปอู๋หมิงหลุนฟื้นความทรงจำได้ เขายังจะฆ่าอู๋หมิงหลุนอยู่อีกหรือเปล่า ? ถึงตอนนั้นเขาจะเจ็บปวดไหมพระเจ้าค่ะ ?”

    “เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว” ฉานอวี้เอ่ยเสียงเย็น

    “อื้ม ไม่รู้เหมือนกันว่าสองคนนั้นจะนึกเสียใจกันบ้างไหม ?” อาไท่เอามือประสานรองท้ายทอยแล้วแหงนหน้ามองเพดานร้าน

    ...อู๋หมิงหลุนในตอนนี้...แม้แต่อาไท่ก็เริ่มที่จะชอบขึ้นมาบ้างแล้วอย่างนั้นหรือ ?... ฉานอวี้คิดในใจเมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของอาไท่


    <>::<>::<>

    แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 50 06:02:43

    แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 50 05:03:02

    จากคุณ : ซีเรีย - [ 25 ต.ค. 50 04:59:14 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom