Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    คนช่างคุย

    ฉากชีวิต

                                       คนช่างคุย

                                                                                " เพทาย "

                       วันนั้นผมไปที่แผนกเบี้ยหวัดและบำเหน็จบำนาญในเวลาเที่ยงครึ่ง  ซึ่งเป็นเวลาพัก เจ้าหน้าที่ประจำยังไม่มีใครกลับมา จากการออกไปรับประทานอาหารกลางวันนอกสำนักงาน คงเหลือเจ้าหน้าที่ซึ่งรับประทานอาหารในสำนักงาน เพียงสองสามคน
       
                    ผมยื่นแบบฟอร์มขอเบิกเงินค่ารักษาพยาบาล ให้เจ้าหน้าที่คนหนึ่งในจำนวนนั้น  พร้อมกับเอ่ยปากขออภัย ที่ต้องรบกวนเวลาพักของเขา ก็ได้ยินคำตอบที่ไม่คาดคิดว่า

                       " ไม่เป็นไรหรอกครับ หัวหน้า....พวกผมยินดีบริการให้เต็มที่อยู่แล้ว  กรุณานั่งรอสักพัก เดี๋ยวบ่ายโมงนิดหน่อยก็เรียบร้อยครับ หัวหน้าเหน็ดเหนื่อยมามากแล้ว คราวนี้ให้ลูกหลานได้รับใช้บ้าง "

                       ผมถอยออกมานั่งที่ม้ายาวหน้าโต๊ะทำงานของเจ้าหน้าที่  ด้วยความอิ่มเอิบใจ ใน  คำพูดอันเสนาะหูของเจ้าหน้าที่ผู้นั้น พลางก็นึกในใจว่า ถ้าสถานที่ราชการซึ่งให้บริการแก่ประชาชนทุกแห่ง มีเจ้าหน้าที่แบบนี้มาก ๆ ประชาชนก็คงจะมีความสุขขึ้นอีกไม่น้อยเลยทีเดียว

                       พอถึงเวลาเกือบจะบ่ายโมง สมศักดิ์ข้าราชการบำนาญผู้สูงอายุกว่าผม  ซึ่งเคย      ทำงานในหน่วยเดียวกัน ก็โผล่เข้ามาและทักทายผมด้วยเสียงอันดังตามนิสสัย ผมก็รับคำ          ปฏิสันฐานของเขาตามมารยาท เพราะไม่ได้สนิทสนมคุ้นเคยกันเท่าใดนัก  แล้วก็เปลี่ยนไปนั่งทางท้ายสุดของม้ายาวตัวที่สอง

                   สมศักดิ์หยิบแผ่นแบบฟอร์มค่ารักษาพยาบาล มานั่งเขียนที่โต๊ะซึ่งเขาจัดไว้ให้ ขณะที่กรอกข้อความลงในแบบพิมพ์ ก็ต้องหัน ไปถามคนข้างเคียงถึงวิธีกรอก ทั้ง ๆ ที่เจ้าหน้าที่ได้ทำตัวอย่างแปะกระดาษแผ่นใหญ่ วางไว้ให้ดูบนโต๊ะแล้ว เมื่อยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ ก็ได้รับตอบที่สุภาพว่าให้รอสักครู่หนึ่ง คนทำเรื่องนี้ออกไปรับประทานอาหารกลางวันยังไม่กลับ สมศักดิ์ก็สำนองด้วยเสียอันดังว่า

                    " แน่นอนละครับ จะให้รอนานเท่าไรก็ต้องรอจนเสร็จเรียบร้อยไหน ๆ  ก็ถ่อมาแล้วนี่ "        

    เจ้าหน้าที่ผู้นั้นก็ยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี

                       สมศักดิ์ถอยกลับมานั่งรอที่ม้ายาว ตรงข้ามกับที่ยื่นเรื่องราว เคียงข้างกับชายผู้หนึ่งแล้วก็ถามขึ้นว่า

                       " คุณมารับค่ารักษาพยาบาลเหมือนกันหรือ ? "

                       ก็ได้คำตอบรับว่าใช่

                       " แย่หน่อยนะ....เกษียณแล้วมันก็ไม่มีดีอะไรเลย  ตาก็ฟางหูก็ตึงฟันก็โยก หลุดทีละซี่สองซี่ กระเพาะก็ไม่ไหวกินอะไรก็ไม่ย่อย ท้องอืดท้องเฟ้อ ข้อเข่าก็เสื่อม แข้งขาไม่แข็งแรงเดินย่องแย่ง แถมยังเป็นความดันสูง โรคหัวใจ เบาหวาน เข้าให้อีกละก้อ แย่ที่สุดละ "

                       สมศักดิ์บรรยายยาวแล้วก็ถามว่า

                           "....แล้วคุณล่ะเป็นโรคอะไร "

                       ก็ได้รับคำตอบว่ายังแข็งแรงดีอยู่ แต่มาเบิกค่ายาให้ภรรยาซึ่งเป็นโรคภูมิแพ้

                          "น่านน่ะซี ดูหน้าตาแจ่มใสไม่แก่เลยนี่.... เกษียณตั้งแต่เมื่อไรล่ะ "

                       ชายผู้นั้นตอบว่าเพิ่งเกษียณอายุปีนี้เองยังทำอะไรไม่ค่อยถูก สมศักดิ์ก็ชมว่า            

    " เออ...เดี๋ยวนี้เขาเกษียณกันแต่หนุ่ม ๆ เชียวนะ.."

                       ผู้ได้รับคำชมก็ยิ้มอย่างภาคภูมิ แต่ไม่ตอบว่ากระไร สมศักดิ์ก็เลยหันไปถามหญิง     วัยดึกข้างซ้ายของเขาต่อไปว่า

                       " ไม่สบายเป็นอะไรหรือครับ "

                       หญิงผู้นั้นปฏิเสธว่าเธอเบิกค่าเล่าเรียนบุตร ไม่ใช่ค่ารักษาพยาบาล

                       " โอ...." สมศักดิ์อุทานด้วยเสียงดังระดับเดิม

                       " ยังมีบุตรที่เรียนหนังสืออยู่อีกหรือครับ "

                       หญิงวัยปลายตอบอย่างราบเรียบว่าบุตรสาวเรียนอุดมศึกษาปี ๔ แล้ว สมศักดิ์ก็ปรารภต่อไปว่า

                      " ยังดีนะครับ เพื่อนผมคนหนึ่งเมื่อเกษียณอายุ มีบุตรเพียง ๙ ขวบเท่านั้น เลี้ยงยังไม่ทันจะโต ตัวเองก็ตายภรรยาลำบากแย่เลย "

                       ขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่เดินเข้ามาในห้องคนหนึ่ง บอกกับผู้ที่นั่งรออยู่ว่า ข้างหน้าประตูมีระเบียบใหม่ติดไว้ให้อ่าน เดี๋ยวนี้บำนาญตกทอดนั้น บุตรสามารถรับได้โดยไม่ต้องจำกัดอายุว่าบรรลุนิติภาวะหรือยัง ถ้าไม่มีบุตรก็สามารถใส่ชื่อคนอื่น ให้รับเงินได้อีกไม่เกินสามคน              

                       " จริงหรือครับ " สมศักดิ์ร้องขึ้น

                       " วิเศษเลยผมจะได้ไม่ต้องหาเมียน้อยมาคอยรับเงินนั่น "  

                   ว่าแล้วก็หันไปยังชายกลางคนอีกผู้หนึ่ง ซึ่งนั่งอยู่ทางด้านขวามือ บ่นว่า

                       "คุณได้ยินที่เจ้าหน้าที่เขาบอกไหมครับ  เป็นข่าวดีมากเลย ระเบียบเก่านี่ไม่ยุติธรรมจริง ๆ นะครับ ลูกก็โตหมดแล้ว พอเมียแก่ตายไปก็ไม่มีผู้ที่จะรับบำนาญตกทอด นอกจากผู้อยู่ในอุปการะ  ก็ต้องหาบุตรบุญธรรมมาคอยรับ จะขอหลานมาเลี้ยง พ่อแม่เขาก็เป็นข้าราชการ ได้รับการช่วยเหลืออยู่แล้ว พอมาเป็นบุตรบุญธรรมของเรา เขาก็ตัดความช่วยเหลือหมด ต้องคอยจนกว่าเราจะตายจึงจะได้เงิน ครั้นจะไปเที่ยวหาเด็ก ที่เราไม่รู้หัวนอนปลายตีนมาเลี้ยงก็ไม่แน่ใจว่ามันจะรักเราจริงหรือเปล่า จะช่วยดูแลเราเมื่อเจ็บป่วยหรือเปล่า "

                       สมศักดิ์หยุดถอยหายใจ ชายผู้นั้นเพียงแต่ยิ้มไม่เสริมว่ากระไร

                       " เพราะฉะนั้น เมื่อใกล้จะตายก็เลยไม่สงบ  ต้องเที่ยวหาผู้มารับเงินบำเหน็จตกทอดให้ได้  บางคนมีน้องเมียเป็นสาวแก่  ก็จะไปขอให้เขาจดทะเบียนสมรสด้วยใครเขาจะยอม อุตส่าห์อยู่มาตั้งนานสองนาน  เมื่อถึงเวลาเข้าจริงก็ต้องหาคนมาให้เจ้าหน้าที่สอบสวนว่าเป็นผู้อยู่ในอุปการะจริง ก็โกหกกันทั้งเพ ใครซื่อก็อด "

                       สมศักดิ์กลืนน้ำลายอีกหนึ่ง แล้วก็อภิปรายต่อ

                       "ความจริงเงินนี้ก็ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เงินมรดก  หลวงท่านจะให้แก่ทายาท แต่เมื่อไม่มีผู้รับก็คงอยู่ในคลังไม่ต้องจ่าย ท่านเลี้ยงเรามาตั้งแต่รับราชการ จนถึงเกษียณอายุแล้ว ยังตามมาเลี้ยงต่อจนตาย ก็น่าจะพอ  แต่……ถ้าจะให้ก็ให้แก่ทายาทที่ยังอยู่ โดยไม่ต้องคำนึงถึงอายุ อย่างระเบียบฉบับใหม่นี้ ก็ดีเหมือนกันนะครับ "

                       ชายคนที่นั่งข้างขวาของเขา ยังไม่ทันจะตอบ  ก็ถูกเจ้าหน้าที่เรียกไปรับเอกสาร ทำให้มีที่ว่างเหลืออยู่มาก เขาจึงเขยิบตัวเลื่อนเข้าไปใกล้ชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งนั่งอ่านหนังสือเล่มเล็กอยู่อย่างใจจดใจจ่อ และไม่ยอมละ
    สายตามามองเขา

                       สมศักดิ์ขยับจะอ้าปากเจรจา ก็พอดีเจ้าหน้าที่เรียกชื่อ เขาจึงเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ ถามว่า

                       " เรียบร้อยแล้วหรือครับ "

                       เจ้าหน้าตอบอย่างเกรงใจว่า เดี๋ยวนี้การเบิกค่ารักษาพยาบาล  ของโรงพยาบาลเอกชนนั้น จะต้องให้นายแพทย์ผู้ทำการรักษา ออกใบรับรองให้ชัดเจนว่าได้รักษาโรคอะไร จากเมื่อไรถึงเมื่อไร

                       " อ้าว...ใบเสร็จก็บอกแล้วไงว่ารักษากี่วัน เป็นเงินเท่าใด ค่าอะไรบ้าง ไม่เห็นหรือ ? "

                       เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่ง อธิบายเพิ่มเติมว่ามีระเบียบออกมาใหม่เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๑ นี่เอง และได้ขยายปิดประกาศไว้แล้วที่ข้างฝา ขอเชิญอ่านดูได้

                       ผมเองก็ยังไม่ทราบเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ตั้งใจว่าเดี๋ยวก่อนกลับจะแวะไปดูบ้าง ส่วนสมศักดิ์เมื่ออ่านแล้ว ก็ร้องออกมาด้วยระดับเสียงที่ดังเท่าเดิมว่า

                       " แพทย์ต้องรับรองว่า คนไข้ผู้นั้นถ้าไม่ได้รักษาที่โรงพยาบาลเอกชนนั้นทันที จะต้องเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต...ว้า...แล้วใครเขาจะกล้ารับรอง "

                       เขาหันกลับมาหาเจ้าหน้าที่ แล้วถามว่า

                       "งั้นถ้ารักษาไปสามสี่เดือนแล้วไม่ตาย แต่ก็ไม่หายกลายเป็นอัมพาต ก็เบิกไม่ได้      น่ะซี....ใช่ไหม ? "

                       เจ้าหน้าที่ผู้นั้นยิ้มอย่างใจเย็น แล้วบอกตามตรงว่า เขาเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ระเบียบว่าไว้อย่างนั้น

                       สมศักดิ์เก็บเอกสารเข้ากระเป๋าถือ แล้วก็หันรีหันขวางเหมือนอยากจะระบายความผิดหวัง พอหันมาสบตากับชายผู้อ่านหนังสือ ที่เพิ่งเงยหน้าขึ้น เขาจึงติงว่า

                       " คุณก็มัวแต่อ่านหนังสืออยู่ได้ ไม่เห็นสนใจอะไรเสียบ้างเลย "

                       เขาผู้นั้นยิ้มแล้วบอกกับสมศักดิ์ด้วยเสียงเบา ๆ ว่า

                       " ขอโทษครับ ผมยังไม่ได้เกษียณ ผมมาเป็นเพื่อนแม่ผมที่นั่งอยู่โน่นแน่ะ "

                       ยังไม่ทันที่สมศักดิ์จะว่ากระไร เขาก็บอกต่อไปว่า  

                     ” คุณก็ควรจะหาหนังสือมาอ่านเสียบ้าง เสียงของคุณจะได้ไม่รบกวนคนที่เขาต้องการจะอ่านหนังสือ อย่างเดี๋ยวนี้ไงครับ ”

                       สมศักดิ์อ้าปากค้าง เขาหันกลับเดินออกประตูห้องไป โดยไม่มีคำพูดใดลอดออกมาอีกเลย แม้แต่คำเดียว.

                                                              #########

    จาก นิตยสารทหารปืนใหญ่
    กรกฎาคม ๒๕๔๔

    จากคุณ : เจียวต้าย - [ 30 ต.ค. 50 09:33:12 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom