ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามานั่งฟังเงียบๆค่ะ.. จากคุณ : ขอแค่คิดถึง - [ 11 พ.ย. 50 08:27:49 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คุณ ณ กมล แสงสีแห่งแสงไฟ..........................ล้วนล่อใจให้ลุ่มหลง แมงเม่าบินเข้าตรง.........................จึงปลดปลงด้วยกองไฟ เริงร่ามาจากบ้าน...........................ไม่คิดการณ์จะหมองไหม้ เมืองกรุงศิวิไลซ์............................แค่ยางใยใช้มัดตน น้ำตาจึงหลั่งรด.............................ดั่งน้ำกรดกร่อนผู้คน เหลือกายคล้ายหุ่นยนต์..................เที่ยววิ่งวนตามโปรแกรม แปลกหน้า ณ เมืองใหญ่.................หน้ากากใส่คอยเหน็บแนม สาดสีจนมอมแมม.........................เติมแต่งแต้ม ศักดิ์ศรีจม ลาขาดในชาตินี้............................ไฟแสงสีที่ขื่นขม กลับบ้านอย่างซานซม...................แม้นทุกข์ตรม ไม่ขอคืน ................................................................................................. แสงสีมักหลอกตาเสมอนะคะ จากคุณ : ทิวลิปสีน้ำเงิน - [ 11 พ.ย. 50 09:41:34 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ฮึกเหิม  คิดกล้า  ลุยเมือง โตเขื่อง  ลำพอง  ใจหาญ คึกคัก  คนอง  เก่งการ คืนวัน  ล่วงผ่าน  เกรียงไกร นานปี  คืนวัน  ล่วงลา วิญญา  เริ่มล้า  หวั่นไหว คิดถึง  บ้านนอก  จากไกล ย้อนไป  อดึต  ก่อนลา วันนี้  กลางป่า  ปูนแท่ง ล้าแรง  จุดปลาย  ใฝ่คว้า เหม่อมอง  ฟ้ากว้าง  ไกลตา วิญญา  เพรียกคืน  ภูไพร สวัสดีครับ คุณ : ณ กมล  ..  คุณ : ขอแค่คิดถึง  ..  คุณ : ทิวลิปสีน้ำเงิน ขอมาต่อกลอนคลายเหงา ด้วยคน นะครับ จากคุณ : sarasiri - [ 11 พ.ย. 50 14:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ..เมืองกรุงเมืองใหญ่นี้..........น่ากลัว หลงตื่นเต้นตามัว.................บอดใบ้ แสงสีพร่างระรัว..................ระริก ระรื่น กลายกลับสะอื้นไห้.............พลาดพลั้งมายา.. จากคุณ : ณ กมล - [ 11 พ.ย. 50 16:44:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สวัสดีค่ะนู๋ขอฯ.. ยินดีต้อนรับเสมอนะจ๊ะ.. สวัสดีค่ะคุณทิวลิปฯ ...แสงสีล้วนลวงล่อ..........เข้าตีต่อตรงขั้วใจ ลุ่มหลงล้วนโยงใย............กับดักไซร้..มัดใจตน ...คำหวานออกจากปาก......ล้วนมีกากพิษปะปน หลอนลวงดวงกมล............น้ำคำคนข่มเชือดเฉือน ...กางกีดและปิดกั้น...........ล้วนฟาดฟันจนฝันเลือน แข่งขันดั่งเสมือน..............สนามประลองผองชีวี ...ผองชนบนเมืองใหญ่.......แปลกหน้าไปในวิถี ผู้คนหลากมากมี...............แต่เดียวดายดั่งอยู่เดียว ...มิเหมือนดั่งวัยเยาว์.........ใช่ซึมเซาเหงาแปลกเปลี่ยว อุ่นอ้อมห่วงแลเหลียว.........น้ำใจห้อมล้อมอาทร ...คืนกลับยังบ้านเกิด.........ยิ้มพรายเพริศห่วงอาวรณ์ แม่พ่อ..บ้านเคยนอน.........เถิดกลับบ้านเติมแรงใจ.. ......................................................................... สวัสดีค่ะคุณsarasiri วิญญาณ์ ตัวตน หล่นคว้าง หม่นหมาง อยู่กลาง เมืองใหญ่ สำนึก ตรึกชัด รำไร ก่อนห้วง ดวงใจ ปลิดลง หวนคืน กลับบ้าน เคยอยู่ พรั่งพรู ความฝัน ยังคง ต่อเชื้อ เติมใจ ดำรง ก่อนหวน มุ่งตรง สู่เมือง ...................................... จากคุณ : ณ กมล - [ 11 พ.ย. 50 17:48:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แมงเม่าบินโบกเข้า...................กองไฟ ด้วยประจักษ์ความไฉไล............ล่อเป้า หวังสมเจตนาไสว.....................สว่างชื่น ชีพนอ เหลือแต่กองขี้เถ้า.....................ถ่านทิ้งอนุสรณ์ มานุษห่อนไร้ซึ่ง......................ปัญญา จึ่งเปรียบบทพจนา....................แนะชี้ โหยหิวแต่เงินตรา.....................เต็มอิ่ม ไฉนฤๅ ร้อนอกร้อนใจจี้........................เจ็บช้ำระกำทรวง ชนแก้วกันหน่อย ^_^ จากคุณ : ปลิวตามลม - [ 11 พ.ย. 50 22:38:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ...รู้เปลวไฟว่าร้อน.........จรบิน แมงเม่าเข้าผกผิน..........เกลือกใกล้ หลงแสงส่องสว่างจินต์....ใสสด ยอมหมดชีพลงได้.........ก่อเกื้อจินตนา ...มนุษย์ใช่จักไร้...........ปัญญา เพียงกิเลสชักพา............บ่งชี้ รู้ห้วงหุบเหวผา...............ยังไต่ เหนื่อยอ่อนแรงโรยลี้......หล่นห้วงบ่วงกรรม ...เงินตราครองชีพเลี้ยง....ยังตน หากมิใฝ่สิ่งปรน..............ไขว่คว้า บำเรอจิตเทียมคน-..........ผู้อื่น ย่อมจักพอเพียงกล้า........หยัดยั้งชีพยืน ................................................... ดีจ้าสาวปลิวฯ จากคุณ : ณ กมล - [ 12 พ.ย. 50 00:22:53 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ^^ ตามมาอ่านครับ จากคุณ : KTH (KTHc) - [ 12 พ.ย. 50 12:36:57 ]

ความคิดเห็นที่ 9 หวัดดีค่ะคุณเคธี่..ยินดีที่แวะมาค่ะ.. นับเป็นหนึ่งแรงใจให้เดินต่อค่ะ..ขอบคุณ.. จากคุณ : ณ กมล - [ 12 พ.ย. 50 21:01:31 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มาช้ายังดีกว่าไม่มา อิ อิ ***************************** * ไหนเมื่อย...เรียมอกเจ้า...........เหนื่อยไหม พี่ไหน...เลยลืมใจ.....................ไฝ่นี้ คู่ชื่น...คืนเขาไป.......................คืนสู่  ใจแฮ เจิมติด...ไฟใหม่ครั้ง..................บ่อยครั้ง..จิตเติม * ตันเพิ่ม..ฤาไป่เพิ่ม..................เติมฝัน ตันบ่อย..รึโรมรัน.......................ต่อยสบั้น ตันจิต..ถ้าจิตตัน........................ติดจั่น ปั่นจิต..ไม่ปิดกั้น........................ปั่นปั้นจิตแถลง * แรงจิต..ใจสู่เจ้า.....................ฤทธิ์แจง ลี้นิด..ผิดสำแดง.......................ฤทธิ์หนี้ ร้อยนิด..ปล่อยฤทธิ์แรง..............ฤทธิ์หน่อย แรงใจ..ไล่แจ้ง จี้.......................สู่ห้วง..ใจแรง 23.15 จันทร์ราตรีแห่งห้วง.........เวหา จากคุณ : คนสาธารณะ - [ 12 พ.ย. 50 23:17:59 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ...มนต์มายาสาดต้อง........หลงใหล บังคับจิตบังคับใจ.............ยากแท้ ลองตรองตรึกกลใน..........กิเลส นั้นแล ลองยากยิ่งจริงแม้............ข่มห้วงดวงกมล ...หนทางธรรมซับซ้อน......ตรองตรึก เร่งปลุกสร้างสำนึก............สืบค้น วนเวิ้งว่ายกว้างลึก.............ชเล มานแล วุ่นวกวนทบท้น.................บ่พ้นทะเลใจ จากคุณ : ณ กมล - [ 15 พ.ย. 50 15:28:57 ]