๐ ฟังเถิดฟัง-เสียงแว่วอันแจ้ว..เจื้อย
จะรี่เรื่อยแผ่วผ่านดั่งธารไหล
หวานย่อมพร้อมพร้องพร่ำความอำไพ
อุดมการณ์ย่อมใส่..อยู่ในคำ
๐ มีแนวทางวางไว้..วางให้เลือก
ทั้งแก่นเปลือก-จับจองทำนองคร่ำ-
ครวญบอกเจตนาเนือง, ปลดเปลื้องทำ-
นุใจผู้ชอกช้ำ..ช่วยบำเรอ
๐ หว่างมรรคาผ่านวันเคย-บรรจบ
หอมตระหลบความหวัง, ทุกพลั้งเผลอ
สุคนธาถ้วนภพ..ที่พบเจอ
จะเสมอพจนา..ฤๅว่ามี
๐ โดยสดับถ้อยฉาบเคลือบภาพพจน์
ล้วนแต่บทงามสง่าสูงราศี
โดยตรึกตรองคุณค่าแห่งวาที
ต่างฤๅ..ลมวาดวี..มาลีล้อม
๐ กาลจะฟายฟุ้งฟ่องละอองกลิ่น
โดยประทิ่นจะผสมเข้ากลมกล่อม
เกสรหวานลมร่ำให้ด่ำดอม
จะห่างห้อมหลบเร้นก็เข็ญใจ
๐ เมื่อทุกครั้งปี่กลองนั้นก้องเสียง
จะเรื่อยเรียงทำนองเสียงล่องไหล
ก็ทุกครั้ง..ลมแต่งไม้แกว่งไกว
และทุกครั้ง..หวั่นไหว.คือใจคน
๐ ชอบจะฟังทำนองการร้องร่ำ
ที่เขาคอยตอกย้ำ..ซ้ำซ้ำหน
ชอบเหลือเกินมหกรรมแห่งคำคน
ดูเถิด..ขวนขวายอยู่ไม่รู้แล้ว
๐ ขวนขวายความอยู่ดี..แห่งชีวิต
โดยลืมคิด..เขารอคอยต่อแถว-
เข้ากอบกินชาติอยู่...ไม่รู้แกว
กระไรแวว..ตาเอยไม่เคยจำ
๐ เริ่มแล้ว-มโหรี..การสีซอ
จะดังคลอทำนองการพร้องพร่ำ
ให้สังคมเชื่องเหลือ..ได้เชื่อคำ
ที่เวียนซ้ำ..แต่งหวังอีกครั้งคราว
๐ จะยินถ้อยสำราก...การลากไส้
ข้อมูลใหม่, ด่าประนาม, คำสามหาว
น้ำลายจะท่วมเมืองด้วยเรื่องราว-
ต่ำช้า, ฉาวโฉ่-วนให้คนยิน
๐ มัน-เปลี่ยนพรรคย้ายพวก..เหล่าปลวกหิว
หมายหอบหิ้วแห่ห้อมเข้าล้อมถิ่น
ดูเถิด-มากเหลือแสน...ทรัพย์แผ่นดิน-
ราวประทิ่นกลิ่นพะยอม...ที่หอมล้ำ
๐ จะมีหรือ..ภู่ภมรไม่ว่อนเวียน
หากกระเหี้ยนกระหือหน้า..นั้นคลาคล่ำ
แค่อ้าปาก..ลิ้นไก่..ก็ไหวนำ
เวียนเฝ้าย้ำความเย้า..ให้"เขลา"ยอม
๐ มีทั้ง"ซ้าย"-บัดซบ..ข้ามศพเพื่อน
"ขวา"-มือเปื้อนเลือดคน..มาปน-หลอม-
อุดมการณ์-รวม, แลก..ความแปลกปลอม
ฮึกเหิมพร้อมพล่านผยอง...จะครองไทย
๐ โอ..โอบกอดรักมั่น..เกินกั้นกีด
รักเกินขีดมาตรวัดจะวัดได้
หน้าปรุ, ตัวสั้น-เกลือก..กลางเมือกไคล
คนสูงวัยบทบาทเด็ดขาดนัก
๐ เมื่อปี่กลองเลือกตั้งเริ่มดังยั่ว
ก็โผล่หัวพาดหาง...กันอย่างหนัก
ผีนายเก่าหยิบฉวย..มาช่วยชัก
อัปลักษณ์..เหลือล้น..โอ้คนเอย
๐ เช่นระฆังกังวานเสียงหวานแว่ว
หมาก็หอนรับแล้ว..จากแผ่วเผย
โหยหวนเป็นลำดับ..ก่อนลับเลย
จึงเปรียบเปรยให้เห็น..ว่าเช่นกัน
แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 50 23:53:25
จากคุณ :
สดายุ...
- [
13 พ.ย. 50 05:58:07
]