มองหาใคร ? ผมถาม หลังจากเริ่มรู้สึกว่า หญิงสาวที่เดินอยู่ด้วยกันเกลียดการมองไปข้างหน้า
เปล่า ตอบสั้นๆ เหมือนทุกที แล้วกลั้นอกกลั้นใจเดินไปข้างหน้่า
กลิ่นตัวของผม ไม่ได้แรงจัด อาบน้ำเช้า-เย็น แม้ไม่ค่อยจะเป็นเวลาแต่รับรองว่าครบ ยิ่งต้องออกมาหาเพื่อน ย่อมต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ ถูสบู่สามครั้ง
ไม่ใช่ว่าเธอรังเกียจผม แต่เหมือนกำลังหนี แบ่งรับแบ่งสู้กับความรู้สึกของตน เหมือนตัดสินใจว่าจะเคาะประตูบ้านของญาติที่ไม่ได้ติดต่อกันมานานหลายปีดีหรือไม่
บอกว่าลืมแล้วไม่ใช่หรือ ?
ถามเธอลอยๆ เมื่อเดินตามทัน
ใช่ ฉันลืมเขาแล้ว
ตอบด้วยใจความเดิมกับเมื่อสองปีก่อน รายละเอียดเชิงภาษาผิดไปนิด แต่น้ำเสียงและอารมณ์ยังคงเดิม สัญญากับตัวเองว่าจะลืมความรักที่ไม่มีทางสมหวัง ในคืนวันหนึ่งกลางฤดูร้อน ราวๆเดือนเมษายน อากาศกำลังอบอ้าว ผมกำลังกินไอศกรีมรสถั่วแดง จดจ่อกับเกมส์วอร์คราฟ มีโทรศัพท์สายหนึ่งเข้ามาขัดจังหวะ
ฉันจะลืมเขาแล้ว
ข้อสรุปชัดเจน สั้น และ ง่ายดาย หลังจากฟูมฟายเพราะผู้ชายคนหนึ่งราวๆหนึ่งปี คบกันแล้ว หัวเราะน้อยกว่าร้องไห้ ผิดนัดมากกว่าตรงตามนัด ฝ่ายหนึ่งทุ่มเทให้ทุกสิ่งแต่ฝ่ายหนึ่งละลายทิ้งหมดเสียทุกอย่าง มองในเหลี่ยมมุมไหน ไม่น่าจะมีความสุขได้ทั้งสองฝ่าย
ฉันสัญญา เธอพูดต่อ
ดีแล้ว ผมรับคำ แล้วหลังจากนั้นก็ชวนคุยเรื่องอื่น เบี่ยงประเด็น เรื่องที่สัญญาว่าจะลืมก็ไม่ควรถูกนำมาพูดถึงอีก นับจากวันนั้น เธอรักษาสัญญาเป็นอย่างดี
ใครบางคนหายไปจากชีวิต ไม่ใช่ด้วยความยินยอมพร้อมใจ แต่เป็นการทำสัญญากับความรู้สึก วางหัวใจไว้ในข้อตกลงประการหนึ่ง ยิ่งข้อตกลงกับตัวเอง ยิ่งต้องรักษา ไม่เช่นนั้นอาจถูกหาว่ามีความโลเลทางจิต
ไม่พูดถึง ไม่คิดถึง แต่ยังมองหา
ความรู้สึกบางอย่างยังตกค้าง หัวใจเป็นอวัยวะที่ลึกยิ่งกว่าหุบเหวและมหาสมุทร บางครั้ง เมื่อจมลงไปในหัวใจของใครบางคนแล้วก็ยากที่จะปีนป่ายผุดว่ายขึ้นมาอีกครั้ง
เพียงด้านหลังที่คุ้นเคย วูบหนึ่งแถวมุมถนน วาบหนึ่งที่เดินสวนทาง คลับคล้ายคลับคลาเพียงบางส่วน พ้องต้องกันเพียงเศษเสี้ยว ย่อมอดไม่ได้ที่จะเหลียวกลับไปมองหา มองตามจนลับสายตา วิ่งออกไปเพื่อดูชัดๆอีกที
เพียงต้องการให้เป็นใครบางคนในความทรงจำที่ทำสัญญาไว้ว่าจะลืม
หลังจากคืนนั้น ผมมาพบเธอบางครั้งคราว นัดกินข้าว ดูหนัง ตามประสาเพื่อน แววตาของเธอไม่ได้อยู่ตรงนั้น ลอยอยู่ในความว่างเปล่า หงอยเหงา เดียวดาย ถอนหายใจในบางหน
ไม่ทราบรายละเอียดวินาทีที่ตัดใจในความสัมพันธ์
เขาหายไปจากชีวิตของเธอจริงๆ
ไม่มาอีก และ ไม่สนใจอีกเลย
ระหว่างสับสนในใจที่ไม่ควรด่วนได้คือคำสัญญา บอกกล่าวออกมาแล้ว ย่อมกลายเป็นข้อผูกมัด ทั้งๆที่ชีวิตคนเราเปลี่ยนแปลงแทบทุกวัน พ้นจากวินาทีที่ทำข้อตกลง แทบจะมีความน่าจะเป็นหลายหมื่นล้านครั้งถาโถมเข้าใส่
สัญญาของเธอไม่เคยเปลี่ยนและหัวใจของเธอก็ยังไม่ไปไหน
เงาลางๆของชายคนรักที่ไม่อยู่แล้วยังหลงเหลือเพียงพอจะทำให้เธอเมื่อยคอแทบทุกขณะ พร้อมจะวิ่งข้ามถนนโดยไม่สนใจสัญญาณจราจร ผละจากคู่สนทนาโดยไม่สนใจจะหารค่ากาแฟ ใจหายใจคว่ำกับเธอหลายหน
เธอไล่เขาออกไปจากชีวิต แต่ก็ยังพยายามวิ่งตามหาเขา เหมือนเตะฟุตบอลลอยโด่งไกลถึงมุมสนามอีกฟาก แล้ววิ่งตามไปเก็บ
จากปากคำของเธอ เขาเป็นผู้ชายที่หาคำว่าได้เรื่องได้ราวค่อนข้างน้อย
รักแล้วลืมยาก
ใครๆก็รู้ แต่ยังพยายามพร่ำบอกให้่คนอื่นลืมๆไปเสีย
ภาพยนตร์้เรื่องหนึ่ง มีประโยคที่ผมไม่เคยลืม
ทนายที่ดีต้องบอกว่า ข้อตกลงหรือสัญญามีไว้ให้ยกเลิก
ผมบอกกล่าวกับเธอแบบนั้น เพราะที่นี่ไม่ใช่แนวรบด้านตะวันตกที่สถานการณ์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง หลายสิ่งเปลี่ยนไปได้ทุกวัน
มีคนที่เหลียวมองใครบางคนตลอดเวลา
มีคนที่แอบมองใครบางคนตลอดเวลา
หัวใจและความรู้สึก ไม่ควรผูกติดไว้กับคำสัญญาที่ไม่เป็นธรรมและทำร้ายหััวใจตนเอง หัวใจ ความคิดและความรู้สึก เป็นสิ่งที่มีอิสระที่สุดของชีวิต แม้ในยามที่ทุกส่วนของร่างกายแทบจะขยับไม่ได้ หัวใจของคนเหล่านั้นยังติดปีกโบยบิน
ไม่ครบห้่า ผีเสื้อและนักประดาน้ำ หนังสือน่าอ่าน
ยังพอเคลื่อนไหว สองเท้าน่าจะเดินให้ตรงกับหัวใจ อาจจะรวดร้าว เจ็บปวดอีกที แต่น่าจะยอมรับได้มากกว่ายื่นคำสัญญาไว้ก่อน
ข้อสรุปของหัวใจน่าจะมาจากตนเอง
ไม่ต้องอาย ผมบอกเธอ สัญญาที่บอกเอาไว้ ผมลืมหมดแล้ว
จะมีสิ่งใดน่าตามหายิ่งกว่าความรัก อาจจะไม่พบคนที่ต้องการ อาจพบเพียงคนที่ให้ความรู้สึกคล้ายๆ ด้านหลังคุ้นๆ แต่รายละเอียดอื่นๆอาจจะดีกว่า
รักและผิดหวังไปจนกว่า หัวใจ จะยอมรับ
น่าจะดีกว่า สัญญาว่าจะไม่รัก แล้วยังมองหาตลอดชีวิต
จากคุณ :
กาแฟสอง
- [
14 พ.ย. 50 12:27:55
]