ความคิดเห็นที่ 1 ตามที่เรามีงบน้อย ก็จะพิมพ์ประมาณ 1200 เล่ม หนังสือ เป็นขนาด ครึ่งเอสี่ นะคะ หน้าพิมพ์ ประมาณ 220-250 หน้า กำลัง จัดเรียง พร้อมรูป สำหรับ รูปสีเดิมของพระ อาจจะต้อง ทำระบบประหยัด สองสี หรือ อาจพิมพ์ สีเดียวทั้งเล่มเพื่อ ความประหยัด ให้ เหมาะสมกับ งบ พอเพียง ของเราทั้งหมด ยกเว้นว่า เกิดมีผุ้ร่วมบริจาคมาให้มากกว่าเดิม ก็จะ อาจทำสี ให้มากกว่านั้นหน่อย แต่ สำหรับขณะนี้ งบประมาณน้อยมาก ก็ทำเท่าที่จะทำได้เท่านั้นเองค่ะ (ยังไม่ทราบต้นทุนพิมพ์ ในขณะนี้ สัปดาห์หน้า อาจจะรู้ว่า ต้องจ่ายเท่าไหร่แน่ ก็ขอบอกบุญมายังทุกท่าน นะคะ แต่หากคิดว่าจะเรี่ยไร ก็ไม่ต้องคิดนะคะ เพราะเรามีผู้บริจาค ไว้เดิมอยู่บ้าง และ ส่วนเกินทีผ่านมา ข้าพเจ้าก็เป็นฝ่าย "เก็บ" คือ "จ่ายปิดงบ" ให้ทุกครั้งเป็นประจำ อยู่แล้ว แต่นี่เป็นการ ประชาสัมพันธ์ หากต้องการร่วมบุญเท่านั้นเองค่ะ         และไม่ได้เป็นการ"ขอ" นะคะ  โปรดทราบด้วย เจตนา ต้องการให้ทราบว่า กำลังพิมพ์หนังสือที่มีคุณค่า ในบวรพุทธศาสนาอีกเล่มหนึ่ง ในวาระพิเศษ หากทุกท่าน ต้องการร่วมบุญก็ หลังไมค์มาบอกกันได้ และ ตามเคยค่ะ 1200 เล่ม นี้ จะ นำส่ง หอสมุดแห่งชาติ 10-+20 เล่ม ส่วนหนึ่ง ก็ ส่งไปยังผู้ร่วมบริจาค และ เกือบ 200 เล่ม จะ นำถวาย พระภิกษุป่วย ณ โรงพยาบาลสงฆ์ และ จะ จัดส่ง ไป ถวายท่านพระครุอนุรักษ์ ประมาณ 900 เล่ม อีก เกือบ 100 เล่มที่เหลือ  อาจได้มีโอกาส ถวายพระภิกษุ ณ วัดอื่น ล ตลอดจน บางหน่วยงาน และ บางสถาบัน ค่ะ ตอนนี้ เร่งต้นฉบับ และ อื่น ๆ อยู่ค่ะ จะแจ้งให้ทราบโดยละเอียด ต่อไป จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 14 พ.ย. 50 22:32:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อันที่จริง จะต้อง แจ้งรายชื่อผุ้ร่วมบริจาค ทุนก่อตั้งพิมพ์หนังสือนี้ แต่เห็นทีจะไม่พิมพ์ให้ทราบดอกค่ะ เกรงจะหาว่ามา เรี่ยไร ค่าพิมพ์ เพราะ การตั้งงบพิมพ์หนังสือของข้าพเจ้าเล่มนี้ ได้ จัดงบประมาณไว้ แต่ ต้นปี แล้ว จึงมีรายชื่อ ผู้บริจาค ไว้แต่ต้นปีมาเลยค่ะ อยู่ในมือ พอสมควร  ส่วนที่เกินงบนั้นเป็นหน้าที่ข้าพเจ้า จัก ปิดงบจ่ายให้ลง ตัวมาเสมอ  เพราะ เราไม่ได้ทำอะไรแบบ ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ และ เราใช้หลักประหยัดในการจัดพิมพ์หนังสือทำบุญมาตลอด           อีกประการหนึ่ง โรงพิมพ์ที่เราคัดเลือกให้ร่วมบุญ แต่ละโรง ที่ผ่านมา ได้ แสดงให้เห็นถึงการร่วมทำงานด้วยศรัทธาไม่ใช่เพื่อเงิน กันมาทุกโรง รับรองได้ ว่า ล้วนแต่ ทำอะไร แบบ "ทุ่มให้เต็มที่ " ไม่มีกำไร มีแต่ชักเนื้อกันทั้งนั้น   ดังนั้น งานนี้ เราจึง ไม่ได้ ห่วง ค่าใช้จ่ายอะไรสักเท่าไหร่  มีแต่ อยากให้ มีงบมาก กว่าเดิมเพื่อจะ พิมพ์ให้ดี และ ให้มีจำนวนเพิ่มจากเดิมมากกว่า  สำหรับต้นทุน การพิมพ์ในช่วงนี้ อาจมีราคาสูงกว่าต้นปีอยู่มาก เพราะช่วงนี้เป็น ช่วงที่ทุกโรงพิมพ์เขาต้องพิมพ์ พวก ใบบอกบุญกฐิน หรือ ต้องทำ พวกใบโฆษณาประชาสัมพันธ์ แถมพวก ใบเลือกตั้งอะไรกันมาก ด้วย   เราก็ยังไม่ทราบว่า โรงพิมพ์ที่เราติดต่อไว้แต่ต้นปี จะ แทรก งานพิมพ์เราได้ทันไหม  คิดว่า หากเขาพิมพ์ให้ไม่ทันในปีนี้ จะ ไปโผล่เอา ต้นปีหน้า ก็คงไม่ได้ เป็นสาระสำคัญอะไรมากมาย          เพราะต้องแล้วแต่โรงพิมพ์เขา ค่ะ คร่าว ๆ เท่านี้ก่อนนะคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 14 พ.ย. 50 22:43:12 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รับทราบและขออนุโมทนาด้วยค่ะ แม่ฝากถามเกี่ยวกับหนังสือมานิดหน่อยค่ะว่า เป็นหนังสือเรื่องอะไร จากคุณ : ปิยะรักษ์ - [ 15 พ.ย. 50 23:12:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอขอบคุณที่คุณแม่สนใจนะคะ ฝากกราบขอบพระคุณด้วย หนังสือที่เลือกแล้วเลือกอีกในปีนี้ ตั้งใจเต็มที่ ได้เล่มนี้มาค่ะ "ตายแล้วไปเกิดใน ๓๑ ภูมิ , วิปัสสนากรรมฐาน และ มรรคผลนิพพาน อธิบายตามพระพุทธพจน์ โดย อาจารย์ พระมหาบุญศักดิ์ รัตนวงศ์ (ชินวํโสภิกขุ ) ปัจจุบัน ท่านเป็นเจ้าอาวาส วัดเขาสนามชัย หัวหิน ซึ่งเป็นสำนักปฏิบัติธรรม ที่ท่านอาจารย์ปรานี   ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ " คุ่มือปฎิบัติ วิปัสสนากัมมัฏฐาน" เล่มที่ พระทอง ฐิตธมฺโม สั่งข้าพเจ้าพิมพ์ในปีก่อน ได้ทราบว่า หนังสือเล่มนั้น ทาง จุฬามหาวิทยาลัย(พระ) ได้เลือกไว้ให้พระเณรไว้ปฏิบัติธรรม สำหรับ เล่มนี้ เนื้อความบางส่วน อาจดู เชยในสายตา คนยุคใหม่ แต่สำหรับ พระนักปฏิบัติที่ท่าน มุ่งทางนิพพาน รับรองได้ว่า มีคุณค่ามหาศาล ที่ผ่านมา พระอาจารย์ พระครูอนุรักษ์ชินวงศ์ ท่านได้พิมพ์ไว้ แต่ปี ๒๕๒๕ แค่ ๑๐๐๐ เล่ม เท่านั้น ในสภาพที่กระดาษเนื้อใน เหลืองคร่ำคร่า แต่ เนื้อหา รายละเอียดของ พระนิพพานและ การปฏิบัติ อ่านแล้ว ต้อง สาธุการ ดัง ๆ ว่า นับเป็นข้อมูลอันละเอียด ละออ เสมือน เมื่อครั้งที่ อ่าน คำแปล บทสวดพระพุทธคุณ รัตนตรัย  ฝีมือท่าน พระอุบาลีคุณณูปมาจารย์ในยุค รัชกาล ที่ สี่ ที่ห้า นั้น  ข้าพเจ้า อ่านแล้ว ซาบซึ้งในคำแปลเหล่านั้น เป็นอย่างยิ่ง และ หา พระสมัยใหม่ ที่เทศน์ลึกซึ้งละเอียด ละออ และ เมตตาต่อผู้ฟัง ผู้อ่าน ค่อนข้างยาก         เช่นกัน พระสมัยใหม่ ท่าน เขียนอาจไม่ละเอียดเท่า     แต่พระครุ ปีนี้ ท่านอายุ ก็ น่าจะ แปดสิบได้แล้ว ถึงมีโรคภัย ไข้เจ็บมาก แต่ ท่าน ยัง "เต็มที่" กับการปฏิบัติ วิปัสสนากรรมฐาน อยู่   ท่านมุ่งทางนิพพาน ทั้งชีวิตจิตใจ         เมื่อไปพบท่านในปลายเดือนที่ผ่านมา ท่านทวงถามด้วย ความเสียดายว่า  "อนุญาตให้ไปพิมพ์ เสียดายหนังสือดี ๆ ไม่ ไปถึงมือผู้คนในปีนี้ "         ข้าพเจ้าเลยรู้สึก ผิดเต็มที่ จึง ตั้งใจ ว่า ต้องพิมพ์ให้ได้ ทั้งตาก็ยังเจ็บ ๆ แต่ ก็พยายาม เพ่งตรวจต้นฉบับ ที่ จ้างเขาพิมพ์ มา วันนี้ ได้ประมาณ เกือบ 100 หน้าเอสี่             การตรวจ ภาษาบาลี และ ภาษาอภิธรรม ต้องละเอียดมาก ด้วยว่า ตัวเดียวก็ พลาดได้   พระครูอนุรักษ์ ท่าน มิใช่ แค่พระปฎิบัติ ธรรมดา แต่ ท่านเป็นระดับ คลังความรู้อักษรเคลื่อนที่ ท่านเป็นผู้แปล ภาษาบาลีเขมร ล้านนา ลาว พม่า เข้าสู่ บาลีไทยมาหลายยุคแล้ว           ท่านเป็นอาจารย์สอน หลายที่ หลายแห่ง          แต่ขณะนี้ ท่านชราและ มีโรคภัยหลายประการ จึงเห็นว่า มิได้ไปสอนใครที่ไหนมากนัก... ข้าพเจ้า โชคดีที่ได้หนังสือต้นฉบับ มาจากพระทอง จึงลิ่วไปกราบท่านพระครูขออนุญาตพิมพ์ แต่ เกิด การ ผิดคิว ในส่วนของข้าพเจ้าเองนิดหน่อย ที่ต้องพิมพ์ "ชีวิตพอเพียง" ต้นปีแล้ว เกิดการ พิมพ์ ถึงสามวาระในเดือนเดียวกัน และมีการ ผิดพลาดในการปฏิบัติหลายอย่าง จนมีหนังสือ อยุ่ที่ข้าพเจ้าที่ต้อง รับผิดชอยในการสั่งพิมพ์ไป และ จ่ายเงินให้โรงพิมพ์ทั้งหมด จึง เหลือแจกอยู่นับพันเล่มที่ผ่านมา ทำให้ ต้อง ระงับการจะพิมพ์ หนังสือ เล่มของพระครูท่านไว้ก่อน (ด้วยหมดกำลังใจพอสมควร)              แต่ขณะนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ภายในเดือนสองเดือนนี้ ข้าพเจ้าก็ต้องเร่งพิมพ์เล่มดังกล่าวให้เสร็จสิ้นให้ได้ เดี๋ยวไม่ได้อยู ประเทศไทยจะไม่ได้พิมพ์ดั่งใจ                 พรุ่งนี้ก็จะ นำ ส่วนแก้ไขต้นฉบับไปให้เขาพิมพ์ใหม่ค่ะ           มันผิดเล้กผิดน้อย จุกจิกมาก  ต้องเห็นใจคนพิมพ์ ต้องมีความรู้ มิใช่บาลี แต่ต้องเป็น บาลี อภิธรรม จึงจะพิมพ์ได้ถูกต้อง  งานนี้จึงต้อง ขอตรวจต้นฉบับอย่างละเอียดค่ะ จะปล่อยผ่านเหมือน หนังสือธรรมะ พื้น ๆ ทั่วไปมิได้    โดยเฉพาะคราวนี้  ความห่างระหว่าง วัดหัวหิน กับ กรุงเทพ ถ้าเป็น วัดอื่น อาจไม่ยาก แต่ วัดนี้ ท่านพระครู นอกจากจะ เป็นพระปฏิบัติ และ มีความรู้ด้านภาษาวรรณกรรมและ บาลีสูงยิ่งแล้ว           ท่านยังไม่ใช้โทรศัพท์ หรือ การติดต่อ อะไรทั้งสิ้นด้วย  !!!       งานนี้ ก็ ทดสอบ ความเร้วและ ความถูกต้องด้วยตัวข้าพเจ้าเอง อีกแล้ว จะไปโยนงานตรวจภาษาให้คนอื่นมิได้เลยค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 16 พ.ย. 50 02:45:24 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อนุโมทนา สาธุค่ะ จากคุณ : oreocream - [ 16 พ.ย. 50 20:21:36 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อนุโมทนาค่ะ :) จากคุณ : scottie - [ 17 พ.ย. 50 01:11:27 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ท่านผู้ใจบุญโปรดทราบ ในเวลาพิสูจน์อักษรพิมพ์ครั้งที่ ๑ นี้  ปรากฏว่า มี มาราธิราชผู้มีกำลังมหาศาลพร้อมด้วยเสนามารหมู่ใหญ่ได้ พยายามเบียดเบียนทำอันตรายต่อข้าพเจ้ารอบทิศ  จนไม่ สามารถ  จัดวรรคตอนและตัวหนังสือให้ถูกต้องสมบูรณ์ ได้  จึงขออภัยจากท่านทั้งหลายด้วย  ข้าพเจ้าปรารถนาจะ พิมพ์ครั้งที่ ๒ อีก  เพื่อมอบแด่ท่านทั้งหลาย  โดยพยายาม ทำให้ถูกที่สุด  ถ้าท่านผู้ใดมีใจศรัทธาโปรดส่งปัจจัยไป ร่วมทำบุญที่อาตมาภาพ  อาจารย์พระมหาบุญศักดิ์  รัตนวงศ์   วัดเขาสนามชัย  ตำบลหนองแก  อำเภอหัวหิน  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขออำนวยพรให้ท่านทั้งหลาย  จงมีความสุข บรรลุมรรคผลนิพพาน และจงช่วยกันเผยแพร่   พระพุทธพจน์ให้แพร่หลายไปทั่วโลก นั่นเป็นคำกล่าวของท่านพระครูท่านเขียนไว้ท้ายเล่มเมื่อปี 2525 ข้าพเจ้าก็กำลังโดนมาราธิราชเล่นงาน เอาให้เหนื่อยใจ เขียนตอบไว้ เกิดนำไฟล์ภาพมาลงใหญ่ไป ย้อนกลับไปดุ ข้อความที่ไม่ได้เซฟไว้หายไปหมด ขอบคุณ คุณ : oreocream     จากคุณ : scottie   ที่แวะมาอ่านนะคะ พรุ่งนี้ มะรืนนี้ คงยังต้อง ตรวจอักษร จัดหน้าลงไฟล์ .tst แล้วก็วันจันทร์คงจะไปขอ เลข ISBN วันพุธ นัด โรงพิมพ์จะไปปรึกษาเรื่องหนังสือ อย่างไร ก็ต้องพิมพ์ จะพร้อม ไม่พร้อม ว่ากันไปดาบหน้าค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 17 พ.ย. 50 21:56:55 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ภาพเต็ม ๆ ของ สภาพหนังสือเดิม ในปี 2525 ยังนึกไม่ออก ว่า ปี นี้ จะหน้าตาอย่างใด จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 17 พ.ย. 50 22:14:13 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาบอกกล่าวเรื่อง รายละเอียด ที่ กระทู้ในบ ก นะคะ เชิญท่านที่สนใจ เรื่องร่วมบุญกุศล เข้าไปดูที่นั้นได้ค่ะ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tiki&month=18-11-2007&group=1&gblog=8 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 18 พ.ย. 50 04:47:33 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ........วันนี้ ยังยุ่งกับการ จัดหน้า เพื่อจะได้รู้ว่า หนังสือที่กำลัง จะพิมพ์นี้ จะมีกี่หน้ากันแน่ เพราะทางโรงพิมพ์ จะนับจำนวนหน้า ในการคิดคำนวณต้นทุนพิมพ์ พร้อมกับ จำนวน ภาพสี ที่จะต้อง พิมพ์ ซึ่งต้องใช้กระดาษอาร์ตจะมันหรือด้าน  กระดาษจะบาง-หนา แค่ไหน ยังไม่ได้ไปสอบถามให้ได้ความในรายละเอียด กระดาษ อาร์ตมันสำหรับพิมพ์ส่วนภาพ ราคาต่างกันมาก กับกระดาษปอนด์ ที่เราใช้พิมพ์ข้อความ  กระดาษปอนด์ จะเป็นปอนด์ 70 กรัม หรือ ปอนด์ 80 กรัม จะอย่างถูกหรืออย่างดี ?หรืออย่างเล่มเดิมพิมพ์ด้วย กระดาษปรู๊ฟ ส่วนปกจะใช้กระดาษอย่างไร จะพิมพ์อาบพลาสติก หรือไม่อย่างใด  เล่มจะต้องเย็บกี่หรือ เข้าเล่มไสสันทากาวธรรมดา ก็จะต้องคิดคำนวณเรื่องการทำอย่างละเอียดในวันสองวันนี้ คงจะ ยังไม่ไปขอเลข ISBN เพราะเรื่องนั้นขอตอนไหนก็ได้ ก่อนที่จะขึ้น แท่นพิมพ์ ให้ได้เลขอนุญาตการพิมพ์นานาชาติเท่านั้นก็จบ       ส่วน เรื่องทุนนั้น วันเสาร์นี้ ก็จะเข้าไปพบกับท่านประธาน มูลนิธิ อภิธรรม มูลนิธิ ซึ่งเคยได้เปรยไว้แต่ต้นปีว่า จะมีหนังสือ อันเกี่ยวเนื่องด้วยการปฏิบัติ วิปัสสนากรรมฐาน ของทางหัวหิน ซึ่งใคร่จะได้ทุนร่วมพิมพ์จากทางท่านประธานมูลนิธิ  ได้เคย แจ้งให้ท่าน ได้รับทราบไว้แต่ต้นปี  วันนี้ ได้ ทำการนัดแนะ กัน ท่านก็ว่าวันเสาร์จะเป็น วัน ครบ ๑๐๐ ปี พระอาจารย์ บุญมี เมธางกูร ซึ่งข้าพเจ้า ถือว่า เป็น พระอาจารย์ผู้มีเมตตา อบรมสั่งสอนทางธรรมแก่ข้าพเจ้า สมัยเมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ด้วยเช่นกันแม้นท่านล่วงลับไปแล้ว ข้อธรรมของท่าน ซึ่งอภิธรรมมูลนิธิ ได้ รับในการเผยแพร่ต่อ ก็ยังมีอีกมาก ซึ่ง ข้าพเจ้าได้รับการบอกกล่าว ให้เข้าไปร่วม งานพิธีในวันเสาร์ ที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ นี้ ที่ อภิธรรม มูลนิธิ พุทธมณฑลสายสี่  โดยงานจะเริ่ม ตั้งแต่ ๑๐:๐๐ นาฬิกา เป็นต้นไป       ดังนั้น ข้าพเจ้า จึงมิค่อยได้ กังวลเริ่อง ปัจจัยที่จะนำ มาพิมพ์เท่าใดนัก เนื่องจาก มีการยกยอด มาแต่หนังสือที่ พิมพ์ไว้แต่ต้นปี ที่ได้ ทำการ จัดสรร แบ่งงบไว้สำหรับพิมพ์ เล่มพระอาจารย์ อนุรักษ์ชินวงศ์ ศาสนบัณฑิต นี้ไว้ก่อนหน้า ส่วนหนึ่งแล้ว เช่นกัน  แต่กระนั้นก็ดี ไม่อาจเสี่ยงกับความหนา แน่นของหน้าหนังสือ ที่เราไม่สามารถบอกได้ว่ามันจะ หนาขึ้น อีกเท่าใด โดยเฉพาะขนาดตัวหนังสือ ซึ่งปัจจุบันนี้ ยังดูเล็ก ไม่เหมาะสมกับสายตาคนสูงอายุ ซึ่งมักจะต้องขนาด 18 point ขึ้นไป ถึงเราจะ พิมพ์มาด้วยขนาด 16 point แล้วก็ตาม แต่ เวลา print หน้าออกมาดูที่ผ่านมา ยังเป็นขนาดเล็กไม่ค่อยดี กับสายตาท่านผู้สูงอายุ  เลยทำให้กังวลพอสมควร เพราะเรื่อง ขนาดตัวหนังสือนี้ เคยเป็นปัญหาใหญ่ระหว่างทำหนังสือให้ พระทอง ฐิตธมฺโม วัดศรีประวัติมาแล้ว ด้วยเราจัด ความลึกหน้า ด้านในไว้ให้ ผู้อ่านอ่านง่าย ท่านไปสั่งเปลี่ยนตัว ตัวมันยืดออก ไปจนเกือบเหลือหน้ากระดาษด้านขวาหน้า แค่หนึ่งเซ็น โดยที่ ข้าพเจ้าไม่ทราบ เพราะโอนงานสุดท้ายให้โรงพิมพ์นั้นไปใน ช่วงสุดท้ายแล้ว ก็ ทำให้ หน้ากระดาษออกมา ทำให้ "ใจหาย" ไปเลย เพราะ มันเกือบ หลุดด้านขวา หน้าขวา และ หลุดด้าน ซ้ายหน้าซ้าย เรียกว่า เกือบตกหน้า หากมีการ ตัดหน้าพลาด ไปนิดเดียว เรื่องถึงกับต้องพิมพ์ใหม่ทั้งยก ทุกยก ทุกเล่มไป เลยก็ยังได้  ดังนั้น เรื่องขนาดตัวหนังสือ ก็ยังเป็นเรื่องที่ต้อง ครุ่นคิดไประหว่างลองทำจัดหน้าเพื่อหาตัวเลขหน้าให้ได้นี้อยู่ หากยังจัดหน้าไม่เสร็จ ก็คงจะอีกหลายขั้นตอนทีเดียว        และ สำหรับ ต้นทุนพิมพ์นั้น ยังจะต้องนับรวมไปถึง ค่า สั่งพิมพ์ต้นฉบับ ที่เสร็จสิ้นไปแล้ว จำนวน ๒,๐๙๐.-บาท ที่ ข้าพเจ้าได้จ่ายไปแล้วนั้น ส่วนหนึ่ง แต่ยังจะต้องรวมไปถึง ค่าใช้จ่ายที่จะต้องนำหนังสือไป ส่ง ที่หัวหินในขบวนการนี้อีก เพราะทางโรงพิมพ์ที่ข้าพเจ้าจะให้จัดพิมพ์ในราคาถูกมากนี้ เขาไม่รวมค่าส่งหนังสือต่างจังหวัดไว้ให้   หากจะเสียเงินให้ ค่าจัดส่งเขาอีก สู้ข้าพเจ้าหาทางนำไปถวายให้เองเสียมิดี กว่าหรือ ? ข้าพเจ้าจึง ปรารภ กับ ลูกน้อง หรือ หุ้นส่วนของ บริษัทที่คุณสามี ข้าพเจ้า กำลังทำงานร่วมด้วย เห็นเขามีรถ โตโยต้ามีที่นั้งสองตอน หน้าหลังเหมือนรถเก๋งทั่วไป มีบรรทุก ขนาดใหญ่ท้ายด้วยเหมือนรถกระบะทั่วไปธรรมดา อันข้าพเจ้า และครอบครัว ก็เคยมีใช้อยู่คันหนึ่ง ยี่ห้ออีซูซุ เมื่อลูกยังเล็ก ได้นั่งกับเขาเมื่อวานที่ไปงานวันเกิดท่านอาจารย์ ส. จึงได้ กล่าวกับเขา ช่วงที่เขาออกตัวว่า จะให้นำรถเขาไปใช้อะไร ที่ไหนก็บอกเขามา จึงว่า จะไปหัวหินส่งหนังสือได้หรือไม่ สามารถไปพัก บ้านน้องชายข้าพเจ้าที่ ชะอำ ได้ฟรี จะขอ น้องชายไปพักอยู่เมื่อไหร่ก็ได้  เขาก็เห็นดีว่าจะจัดการเรื่อง ไปกันได้ ซึ่งก็หมายความว่า ข้าพเจ้าจะต้อง ช่วยค่าน้ำมันรถ ในการเดินทางไปกลับ ซึ่งอาจเป็นประมาณ สักสอง-สามพัน บาท น่าจะได้  ก็เลย เบาใจไปอีกเปลาะหนึ่ง ว่าเราน่าจะมี พาหนะ ที่สามารถ ขนหนังสือ หนักใกล้ร้อยกิโลขึ้นไปด้วย ในงานนี้แล้ว          บางคนอาจจะบอกว่า ไม่เห็นจะยาก ก็ให้ ขนส่งไป ทางขนส่งสิ แต่สำหรับข้าพเจ้าเห็นว่ายาก เพราะจะกลาย เป็นภาระ ให้แก่ทางวัดเป็นอันมากเพราะวัดไม่ได้มีรถไว้ขน จากท่ารถขนส่งเองหรือเช่น ให้รถขนส่งไปส่งทิ้งไว้ที่ หน้า วัด ใครจะ เข็นหนังสือ ๙๐๐ เล่มนั้น เข้าไปส่งถึงกุฏิ ท่านเล่า นั่นเพราะมิใช่ วัดที่มีคนพลุกพล่าน แต่เป็น สถานปฎิบัติธรรม            นึกสภาพแล้ว ก็กำหนด เรื่องที่จะต้องทำไว้ เป็น การ วางแผนในใจ สำเร็จไปส่วนหนึ่ง           ส่วน การพิมพ์ จะเริ่มเมื่อไหร่อย่างใด น่าจะหลัง จากที่ไปคุย ก้บ  มูลนิธิ ไปแล้ว เพราะ เมื่อวานแต่ เช้าจรดดึก ข้าพเจ้าไปร่วมงาน วันเกิด ท่านอาจารย์ ส.ผู้เป็น ที่เคารพบูชา ของบ้านเรามายี่สิบหกปีได้ ได้พบหลายท่าน ได้แจ้งความจำนง ทั้ง ให้ดูตัวอย่างหนังสือ " ไตรโลกทีปนี " ของท่านพระครู ฯ ว่าเป็นตัวอย่างที่จะพิมพ์ เพราะเป็นแบบ ปกสีเดียว หน้าใน กว่า 300 หน้า และ มีรูปสีคล้ายกับที่เรา จะพิมพ์ในเล่ม " ตายแล้วไปเกิดใน ๓๑ ภูมิ ฯ "เขาเห็นเนื้อ หาภายในที่ แน่นหนัก ด้วยการปฏิบัติ วิปัสสนากรรมฐาน ต่างก็พากันส่ายหน้า กันว่า เป็นเรื่องยากที่คนธรรมดาสามัญ ที่มิได้เรียนรู้อภิธรรม จะเข้าใจได้ง่าย ๆ มิใช่ เป็นเรื่องธรรมะ อันสนุกสนานเฮฮา เห็นโลกเป็นสีสันอย่างที่เป็นอยู่ในภาวะ ปกติ ธรรมชาติของชีวิต โลกีย์ชน ทั่วไป เห็นจะยาก ที่จะ หาคนมาร่วมพิมพ์ด้วย            ข้าพเจ้าจะหมดหวังก็หาไม่  เพราะ งานนี้ ข้าพเจ้า ไม่สามารถที่จะทำเองได้สำเร็จแน่นอน ต้องอาศัยบารมีหลาย ท่านที่เห็นแก่พระธรรมคำสั่งสอนเพื่อการปฎิบัติของพระพุทธ ศาสนา หาก "ปริยัติ" คือ คำสั่งสอนดังกล่าวหายไปจากโลก นี้ เราก็จะมิได้เห็น การปฏิบัติถูก ปฏิบัติจริง ปฎิบัติ ตรง ต่อ พระพุทธพจน์ คือ คำสั่งสอนของพระพุทธองค์ อันยากแก่ที่ มวลมนุษย์ทั่วไป ชั้นแต่ในศาสนาพุทธ ด้วยกันเอง ยังส่าย หน้า สัมมหา อะไร กับศาสนา คือ คำสั่งสอนอื่น จะมาเข้า ใจลึกซึ้ง ดังนั้น ท่านที่มาร่วมคิด ร่วมพิมพ์ ถือเป็นบารมีธรรม อันสร้างสมไว้แต่อดีตชาติ ชาติปัจจุบันนี้จึงได้มาพบกัน จึง ได้มาร่วมบุญกัน หนังสือธรรมะ เล่มหนึ่ง ในท้ายปีนี้ ปี "ฉลอง ๘๐ พระพรรษามหาราช" นี้  จึงจะทำสำเร็จได้           ทั้งนี้ ก็ต้องขอบคุณในอดีตของตัวเอง ที่ได้ สละเวลา อย่างเต็มที่ไปคลุกคลีกับโรงพิมพ์ที่จะต้องพิมพ์หนังสือ มานับ แต่ปี 2547 ซึ่งช่วงนั้น โรงพิมพ์ที่พิมพ์หนังสือ "แม่จ๋า" ให้นั้น เจ้าหน้าที่เขาส่ายหน้าว่า ข้าพเจ้านั้น "ไม่รู้เรื่องพิมพ์อะไรเลย สักอย่าง สักแต่ว่า สั่ง เท่านั้น " ซึ่งก็จริงของเขา  นับจากวันนั้น ยันวันนี้ จึงทำให้ข้าพเจ้า "พอรู้" ขึ้นมาอีกนิดละ ว่า กว่าจะพิมพ์ หนังสือกับเขาสักเล่ม มันยากเย็นแสนเข็ญ ราวเข็นครกขึ้นภูเขา ปานใด   แต่หากคนมีเงิน มันง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก แค่ ดีดนิ้วสั่ง อีกสามวันคงได้เห็นหนังสือในมือแล้วกระมัง ?            วันนี้จึงขอฝากข้อความไว้เท่านี้ก่อน แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 50 10:12:50 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 19 พ.ย. 50 11:45:42 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนนี้ ขอบคุณ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม (หางดง-เชียงใหม่) ที่ส่งข้อมูลว่าจะร่วมบุญ 1000 บาท มาแล้วนะคะ ได้ส่งข้อมุลบัญชีธนาคารไปให้หลังไมค์ แล้วค่ะ โดย: tiki_ทิกิ IP: 125.25.70.161 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:47:46 น. จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 19 พ.ย. 50 20:38:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 วันนี้ ทางโรงพิมพ์โทรฯมาขอเลื่อนเวลา ให้เร็วขึ้นจากบ่ายเป็นเช้านี้ ก็เลย ตอบไปว่า งานจัดหน้ายังไม่เสร็จดี และ ว่าจะไปพบท่านประธานมูลนิธิ ในวันเสาร์นี้  จึงคิดว่า น่าจะ พบกับโรงพิมพ์อาทิตย์หน้าดีกว่า อีกอย่างหน้า กระดาษมันเยอะเหลือเกิน จะต้องหาคิดวิธีทำอย่างไร ให้หดลง แม้นว่า Font ตอนนี้ จะจัด point ไว้ที่ 16 แต่หากมัน ทำให้หน้ากระดาษหนาเกิน งบมากไป ซึ่งคนจะมองว่า เราไม่ทำอะไรให้ประหยัดให้สมเงินท่านที่บริจาค มา เพราะเราต้องการให้ได้ จำนวนเล่ม ถึง 1200 เล่ม ดังที่ว่า จึงจะต้องใน การพิมพ์ครั้งแรก ที่งบน้อย นี้ อาจจะ อัดตัวลงเป็น pont 14 แต่เลือก font ตัวอ่านง่ายกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้            คุยคร่าว ๆ แล้ว ก็เลย บอกท่านเจ้าของโรงพิมพ์ไปว่า ขอเป็นใน สัปดาห์หน้าดีกว่า จะได้ให้ทุกอย่าง เสร็จสิ้นไป          อนึ่ง เมื่อวานหลังจากได้ โทรศัพท์ไปหาหลาน ๆ เพื่อน ๆ ตลอด จนท่านผู้ใหญ่บางท่าน ก็ได้ ความเมตตาปรานี พร้อมจะช่วยสนับสนุน ทำบุญค่าพิมพ์ กันมาอีกพอสมควร จึงอุ่นใจว่า การพิมพ์หนังสือ ธรรมะ ให้ทันเดือน ธันวาคม ๒๕๕๐ นี้ น่าจะสำเร็จได้แน่นอน คิดแล้วก็ สบาย ใจ โล่งใจ ไม่หนักอก               คือ คงจะต้องดำเนินสายกลางกันไว้ก่อน คือ มีงบน้อย แต่ กระดาษมันเยอะไป ก็พยายาม หดขนาดอักษร พ้อยนท์ นี้ลงให้เล็กลง เพื่อจะได้ ประหยัดหน้ากระดาษ คุณภาพสีสัน ก็ไม่ต้องถึง เกรดเอ อะไร ลด ๆ หา วิธี ประหยัด เรื่องหมึกสี ลงหน่อย ที่คาดว่า น่าจะถึง เล่มละ 50 บาท อาจจะลดลง เหลือสัก สี่สิบบาทก็ได้          คือ เมื่อต้นปี ได้ สอบถามไปยังโรงพิมพ์ที่พิมพ์หนังสือ "ครูบา ดวงดี ครบ ๑๐๐ ปี จนมาถึง " ครบ ๑๐๑ ขึ้น ๑๐๒ ปี" อย่างปีนี้ เขาได้ยิน เรื่องจำนวนหน้ากระดาษพิมพ์ เรื่องปก และ เรื่องจำนวน ภาพสี ในเล่ม เขาก็เคาะราคา เท่ากับหนังสือพระที่เขาเคยพิมพ์ให้พระวัดต่าง ๆทั่วไป มาว่า น่าจะอยู่ที่ประมาณ 50 บาทต่อเล๋ม บวก ลบ 20% เขาว่าอย่างนั้น ฟังแล้วก็กลุ้มพอสมควร เพราะมันเงินหลายหมื่นอยู่  ดีไม่ดี เป็นแสน ๆ อย่างที่ ทำให้เล่มพระทองฯ นั้น เห็นท่าจะเดือดร้อนกันเป็นแถบ ๆ ก็เลย ต้องพยายาม หาวิธีประหยัดดังว่า           ทั้งนี้ กราบขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านในห้องนี้ เด๊ยวจะ ค้อปี้ไว้ที่ บก   สวัสดีค่ะ (ว่าจะหอบหนังสือ "พระยรมสารีริกธาตุ" และ " ชีวิตพอเพียง" ตลอดจน ครูบาดวงดี-หากนำไปได้ ไปแจกญาติโยมที่ไปงาน ครบ ๑๐๐ปี พระอาจารย์บุญมีเมธังกุโร ด้วย ) จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 21 พ.ย. 50 10:10:48 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พอพูดถึง หนังสือ พระทองฯ เลยนึกถึงวันที่ท่านบอกว่าจะพิมพ์สัก 500-1000 เล่มได้ ก็นำหนังสือเก่า ไป สั่งจัดพิมพ์หน้ามา พร้อมให้ โรงพิมพ์คิดราคา  ต่อมาท่านก็ไป นำหนังสือวัด ขนาด เอสี่มาอีกเล่ม คัดเลือกเรื่องในนั้น ให้ไปพิมพ์ลงร่วมอีก หลายเรื่อง หนังสือก็หนา ขึ้นเกือบเท่าตัวแถมการพิมพ์ครั้งนั้น ปัญหาที่ ต้นฉบับเก่าพิมพ์ผิด ไว้ทุกหน้า เป็นปัญหาอย่างแรงกล้า เพราะไม่มีใครช่วยตรวจปรู๊ฟ ข้าพเจ้าต้องลุยเองเหมือนเล่มนี้ที่กำลังทำกันอยู่ แต่ การตรวจครั้ง นั้น ปัญหามันหนัก เพราะไม่ได้ตรวจกันตรงการพิมพ์ต้นฉบับที่ เวิร์ดโพรเซสเซอร์ แต่ไปตรวจกันตรงที่โปรแกรมจัดรูปเล่มของ ทางโรงพิมพ์ มันจึงทำให้ โรงพิมพ์บ่นอู้เพราะ ค่าพริ้นท์หน้ากระ ดาษ ตรวจแล้วตรวจเล่า เป็นสิบ ๆ ครั้งนั้น เขาต้องซื้อตลับหมึก เปลี่ยน ไป สองหน เอาเลย        ที่ให้โรงพิมพ์โค้ต QUOTE ราคาไปให้  โดยเขา จัด กระดาษ 80กรัม อย่างดีให้ท่าน ปกก็เป็นอาร์ตแข็ง250 มันสองด้าน ของเก่า ใช้มันหน้าเดียว  ซึ่งราคาเขาต้องสองเท่าของเดิมหลายขุม แต่เขา กลับคิดให้เกือบเท่าราคาที่ท่านพิมพ์ครั้งก่อนในอดีต      ต่อมา ท่านเปลี่ยนโน่น เปลี่ยนนี่แถมจะเอาจำนวน ขึ้นไปถึง 3000 เล่ม  ราคามันก็โดดแรงขึ้นไปอีก หน้าปก เราจัด สีเดียวไว้ให้ ท่านก็ไปทำเป็น สี่สี เอาเข้าไป  ราคาก็โดดไปอีกหลายเท่าตัว คราว นี้ พอจะพิมพ์ขึ้นมา ท่านก็ งบไม่พอละซี  ต้องเข้าประชุมคณะกรรม การฯ วัดของท่านของบช่วย    แถม ตอนนั้น ทาง การขอเลข ISBN ก็มีปัญหาว่า จะไม่ให้พระขอเป็นการส่วนตัว ยกเว้น ท่านเจ้าอาวาส ทำหนังสือมอบอำนาจและให้ใบต่าง ๆ ของกรมการศาสนา มาให้ พร้อมมูล ทาง หอสมุดแห่งชาติ จึงจะให้ หมายเลข ISBN ในนาม วัดได้      ก็เดือดร้อนข้าพเจ้าพอสมควร ที่ต้อง ประสาน งา(น) กับทาง วัด อันมีคณะกรรมการที่จัดมาคุยกับข้าพเจ้า เรื่องทั่วไปทั้งหมด กับ ทาง หอสมุดแห่งชาติ ข้าพเจ้าก็ไปขอกราบเขาว่า อนุโลมให้เป็นชื่อ วัดสักครั้งหนึ่งเถิด เจ้าหน้าที่ก็อนุญาตตามใจทำให้ไปสักครั้ง             ที่ไหนได้ พอถึงเวลาที่ต้องให้ท่าน Approve คือผ่าน ต้นฉบับพิมพ์  ท่านก็ไปเปลี่ยน font point  ขนาดพิมพ์ใหญ่โด่ง ขึ้นไป ทางโรงพิมพ์ก็จัดไว้ที่ จำนวนหน้าเดิม ...หน้าก็ถ่างออกจน เกือบตกหน้ากระดาษ        และ ...ท่านก็ไปใส่ ชื่อผู้จัดพิมพ์เป็น ห้างฯ ของข้าพเจ้าไป อีก เลยผิดเรื่องผิดราว โดยที่ข้าพเจ้าเดิมก็เปลี่ยน ให้ ทางวัดเป็น ผู้ดำเนินการจัดพิมพ์ไปแล้วในหน้า เรื่อง              พอหนังสือพิมพ์ออกมา สวยสดงดงามดี สีในหน้าที่ ท่านเปลี่ยนเป็นฟ้าอมเขียว ก็งามดีอีก แต่ ติดที่มัน ถ่างหน้าตก ขอบตกมุม อย่างน่าหวาดเสียวอย่างยิ่ง อีกทั้ง หมายเลข ISBN ที่ขอไว้แทบตายว่าให้เป็นชื่อวัดก็กลับเป็นชื่อ หจก ข้าพเจ้าไป อีก ก็เลย กลายเป็นข้าพเจ้าได้หน้าใหญ่ไปอีกรอบ ดีที่พิมพ์ไว้ แล้ว  ว่า พิมพ์เพื่อแจกเป็นธรรมทาน และ ร่วมมือพิมพ์ โดยไม่ ได้คิดค่าใช้จ่าย ไม่งั้น สรรพากรเห็น จะกลายเป็นข้าพเจ้ามีส่วน ได้ รายได้ อะไรไป จะยุ่งกันอีกหลายสิบเท่า              แต่ ทางวัด ท่านก็ ดำเนินการ ใส่ชื่อเสียงเรียงนามใน แผ่นอนุโมทนามาให้ข้าพเจ้าเรียบร้อยดี  ยังส่งไปไม่ถึงมือผู้บริ จาคก็ไม่เป็นไร แต่มันเป็นสิ่งที่บอกได้ว่า ข้าพเจ้าไม่ได้ไปได้ อะไรจากท่านทั้งหลายทีร่วมบริจาคไป จะมีก็แต่ พระทอง ฯ ท่านให้ค่ารถที่วิ่งไปวิ่งมาหลายสิบครั้งจากบ้านเมืองนนท์ไป โผล่ พุทธมณฑลสายสอง ย้อนไปบางลำพู ก้นเรื่อย ๆอย่างนั้น เจอรถเสียรถพังไปหลายรอบ ก็ไม่เป็นไร ท่านใจดีให้ข้าพเจ้า มา 2500 บาท ก็ขอบพระคุณท่านเป็นอย่างยิ่งแล้ว   ครั้นพิมพ์ เสร็จแล้วท่านก็มาถามอีกว่า คุณโยมจะเอาค่าใช้จ่ายอะไรอีก ไหม ก็ตอบท่านว่า ไม่ดอกค่ะท่านให้ค่ารถมาก็บุญแล้ว  แล้ว ก็เลย ต่างเป็นสุขด้วยกันทั้งคู่ ที่ว่าพิมพ์ 3000 เล่มในครั้งกระ นั้น ได้งานสวยงามดี  แถม หนังสือท่าน เห็นว่า ทางสำนักพระ พุทธศาสนา ของท่าน โทรฯมาหาท่าน ขอนำหนังสือท่านไป เป็นแบบฉบับในการให้พระ - เณะ ปฏิบัติธรรม สายตรง ไม่ ต้องไปอ้อมไปอ้อมมา อย่างที่เป็นอยู่            ทั้งนี้ ที่เล่ามาให้ฟัง ก็เพราะว่า ทำหนังสือให้พระแต่ละที แทบจะถูก"มาราธิราช" เล่นงานปางตาย มาแล้วทุกครั้ง  ก็ ถือว่า เล่มปัจจุบัน ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไว้ รอให้ ท่านเหล่านั้น ลืมหันมาเล่น งานข้าพเจ้า ก็บุญไปอย่าง        ทั้ง ก็มิใช่กุศลใหญ่อะไรมากมาย ไม่ได้ไปสร้างกุฏิ ศาลา โบสถ์ วิหาร อะไรที่ใช้งบสูงลิบลิ่วหลายล้านอย่างชาวบ้านชาว ช่องเขา ก็เลย เบาใจว่า ที่ ติด ๆ ขัด ๆ มาตลอด ทั้งปี น่าจะ ถูก พระบารมีพระรัตนตรัย เป่าทิ้งไปเสียบ้าง           ได้เขียนแจกแจง เรื่องอดีตให้ฟัง แล้ว ท่านทั้งหลาย คงจะพอทราบว่า  การพิมพ์หนังสือให้พระศาสนาไม่ใช่เรื่องง่าย ดังปอกกล้วยเข้าปาก    อีกทั้ง ข้าพเจ้าก้ไม่ใช่ ท่าน ดังตฤณ หรือ คุณอะไร นารถ นารถ อะไรที่เขียน  "เข็มทิศชีวิต" ข่ายเล่มละเป็น ร้อย ๆ ดังสนั่นเมืองพิมพ์หนังสือทีเดียวใช้หนี้ได้หลายล้านบาท ก็หามิได้ แค่งบทีละไม่กี่หมื่น ยังกระเสือกกระสนหากันแทบตาย   อาศัย ใจแข็งแกร่ง สู้งาน ไม่งั้น ตัวเองคงฟุบป่วยไปแล้ว              ได้เขียนบรรยาย สบายใจพอสมควรแล้ว คราวนี้ก็จะ หันไปจัดหน้าต่อในเครื่องนี้แหละ บุญที่ทำ กรรมที่สร้าง ก็ขอให้ ท่านเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายโปรดได้เงี่ยโสตร สดับตรับฟัง และ ร่วมอนุโมทนาบุญด้วย ครั้นได้อนุโมทนาบุญแล้ว ก็ขอให้ท่านทั้ง หลาย ได้ เลื่อนภพภูมิให้สูงยิ่งขึ้น สู่วาสนาบารมี เพื่อทางพ้น ทุกข์ด้วยเทอญ บันทึกไว้ ณ วันพระพุธ ที่  ๒๑ พฤศจิกายน พระพุทธศักราช ๒๕๕๐ เวลา  ๑๐:๔๒ นาฬิกา เรือนนนทบุรี  สยาม ราชอาณาจักรไทย แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 50 11:02:42 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 21 พ.ย. 50 10:44:15 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขออนุโมธนาด้วยคนค่ะ  และอยากร่วมทำบุญด้วย รบกวนพี่ทิกิช่วยส่งเลขที่บัญชีที่หลังไมค์ด้วยค่ะ   ขอบคุณนะคะ จากคุณ : ข้าวต้มน้ำวุ้น - [ 21 พ.ย. 50 12:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อคืนนี้ เข้ามาดูหนหนึ่ง ยังไม่เห็นมีความเคลื่อนไหวอะไรด้านนี้ เลยไป ดูกลอนที่ลงไว้ ด้านบทกวี และ  เมื่อเข้าจอ ไม่ค่อยมีสมาธิใน การตรวจอะไร อีกประการหนึ่ง คุณ ลูกชาย ไปซื้อเมนบอร์ดใหม่ของเขา มา แล้ว ใส่เครื่องเขามิได้ ก็มาขอเปลี่ยนเอา Tower เครื่องแม่ ไปใส่ เมนบอร์ดใหม่ สลับเครื่องกันยุ่งไปหมด ยกเอาเครื่องที่มีเมนบอร์ด AMD ของเก่าเขามาแทน แล้วก็จับ เอา Harddisk แม่ใส่เข้าแทนของเขา แล้ว ก็กว่าจะยกมาตั้งให้ได้ก็ ตีสองกว่าเข้าไป         ทั้งยังทำงานกันไม่ได้ ก็ต้องลง โปรแกรมเครื่อง รันกันใหม่ที่เซฟ ๆ อะไรไว้ ยังไม่ได้เช็คดู ว่ายังอยู่หรือไม่ สรุปว่า มี "มาราธิราช" ไปลงที่ ลูกชายอีก ซะแล้ว 555         ทั้งคืน ข้าพเจ้าก็เลยง่วนอยู่กับการ "กรอกยาหม่องน้ำ" ที่พระทองฯ ท่านให้สูตรทำไว้เป็นเดือนแล้ว ใส่ขวดแก้วเล็ก ๆ  กับ ที่เหลือ ทำยาดม ใส่ขวดพลาสติคเล็ก ๆ อุปกรณ์นี้ไปหามาจากแถวสำเพ็งเมื่อเดือนก่อน ตอนเริ่มเจ็บตาขนานหนัก  เป็นบารมี พระทอง ฐิตธมฺโม ท่านให้สูตรมา ทำ เพราะปกติไปหาท่านทีไร ท่านก็มัก แจก ยาหม่องน้ำสมุนไพรท่าน มาให้ทุกที แล้วท่านก็บอกมานานแล้ว ว่าให้ไปทำเองดู ทำง่าย สอนให้ ไปซื้อของที่ร้าน เจ้ากรมเป๋อ เยาวราช ก็ลองทำดู ทิ้งไว้หนึ่งเดือน ผลก็ คือ ได้ ยาหม่องน้ำหอมมาก และ มีคุณค่ามาก ที่ผ่านมา ใช้ ดมใช้ทา เวลา จะเป็นลมเป็นแล้ง ได้ดี  นี่ก็อานิสงส์การเข้าหาพระหาเจ้า ท่านก็ทำให้ ข้าพเจ้ามีงานอดิเรกทำ เมื่อคืนนี้ นั่ง กรอกยาลงขวดจนเช้า เลยได้ เกือบร้อยขวด        สรุปว่าไม่ได้ทำงานหนังสือประการใด พอเช้า ทำต่อจนถึง สิบเอ็ด โมง สังขารก็เตือนว่า นอนเสียทีสิ เพราะไม่ได้นอนมาทั้งคืนกับตลอดเช้า จะเที่ยงอยู่แล้ว จึงได้ไปนอนตอนนั้น ตื่นเอาสี่โมงเย็น (ดูเป็นคุณนายดี แท้ นะเจ้าคะ )           แต่ เมื่อคืน ก็ ได้ นั่งตรวจปรู๊ฟในกระดาษเพิ่มอีก ยังมี ตัวอักษร ที่จ้างเขาพิมพ์มายังผิดอีกมาก ดีที่ไม่เร่งงานส่งโรงพิมพ์ไป ยังมีเวลาได้ ตรวจคำผิดอีกเยอะแยะเหมือนกัน             สรุปว่า ยังใจเย็นอยู่   ทางที่บ้านเขาก็กำลังไปประชุมกับทาง ว่าที่หุ้นส่วนอะไรของเขาเรื่องจะไปทำงานด้านตกแต่งของเขาทางประเทศ ทางอาหรับกันอยู่ ข้าพเจ้าก็เลยยิ่ง วางใจว่า อะไร ๆ ก็ ปล่อย ๆ ไปเสียบ้าง หลายอย่าง "ข้างบน" เขาจัดไว้ให้แล้วเป็นอย่างดี จะไปคัดง้างไปอย่างโน้น อย่างนี้ ตามใจเราคงไม่ได้  เราก็มี "งานอดิเรก" ของเราหลายอย่างนอก เหนือไปจากงานเร่งด่วนประจำวัน เช่นเรื่องบัญชีอะไรเขาจะต้องตรวจงบ ฯลฯ   อะไรพวกนั้น ก็ยุ่งเช่นกัน แต่ข้าพเจ้า กำลังฝึกตัวเอง ให้ เดินช้า ๆ ทำอะไร ช้า ๆ เสียบ้าง อย่างหนักแน่น ไม่กลัวอะไรเสียบ้าง                หลายครั้งที่เราทำงาน "ลุกลี้ลุกลน" ราวไฟลนก้น แล้วเกิดความ ผิดพลาด ซึ่งก่อให้เกิดผลตามมา ย่อยยับไปหลายครั้ง  การทำงานครั้งนี้ เรื่องงานหนังสือนี้ ดูเหมือน ไม่สนใจ แต่ที่จริง ร้อนรนในใจพอสมควร ทว่า ดูเหมือน ชีวิต ก็รอ " จังหวะชีวิต" ของเราเช่นกัน             อย่างเมื่อวันอาทิตย์ที่ไปร่วมงาน ทำบุญวันเกิดท่านอาจารย์ ส. ได้ไป "ถามปู่ทรงฯ " อะไรเจ้าหนึ่งที่ไปนั่งร่วมงานพวกเข้าทรง กันอยู่ตรงนั้น ได้ยินท่านแนะนำ ให้ไปทำ "หนังสือสวดมนต์ ไปถวายวัด 108 เล่มแล้วจะ ได้สำเร็จลุล่วงไม่ติดขัด "  ก็ตอบท่านไปว่า ทำหนังสือพระมาทั้งปีแล้วละ เจ้าค่ะ ไม่ได้ ทำหนังสือส่วนตัวเลย  แล้วที่กำลังทำอยู่ ..ก็บอกชื่อท่านไป ท่านก็ ร้องยินดีว่า ดี ดี ไปจัดการทำเลย ต้องสำเร็จแน่นอน        ชีวิตก็แค่นั้น จริง ๆ               บางครั้ง ท่านที่เราเคารพ ท่านก็มี สำนัก ปฏิบัติ ของท่านไปตาม "วาสนาบารมี " อย่างของท่าน เช่น สร้างพระใหญ่ พระโต ไปทั่ว  อย่างมี ลูกศิษย์ลูกหา โด่งดัง ดารา นักหนังสือพิมพ์ นักการเมือง ฯลฯ แต่ข้าพเจ้า ก็อยู่ของข้าพเจ้า นิ่ง ๆ เฉย ๆ อย่างนี้มานับ 26 ปี ที่ได้รู้จักท่านอาจารย์ เหล่านั้น เพราะ ชอบอยู่ห่าง ๆ ไปไหว้ท่านปีละ หน สองหน พอ ไม่ได้ไป คลุกคลีตีโมงแห่แหน ท่านอาจารย์ทั้งหลายกันอย่างที่คนอื่นเขาแห่กันไป เวลา มหาเทพฯ มหาพรหมฯ ท่านลงทรง เรียกข้าพเจ้าไปนั่งเฝ้า แหน ให้ ข้าพเจ้าอธิษฐานขอพร  ก็มัก ไปขอ "ให้มีปัญญาพาตนให้พ้นทุกข์ภัย " ท่านก็ว่า ไม่ขอ รวย ไม่ขอ ให้ครอบครัว แฟนรัก บ้างเหรอ ข้าพเจ้าก็ ตอบ ปลง ๆ ไปว่า ขอ ให้มีสติปัญญาพาตนให้เห็นธรรม บ้างเถิด  อย่างนั้นอยู่ เสมอ           บางครั้ง อาจได้ไปปฎิบัติวิปัสสนากรรมฐานกํบ สำนักอื่น ก็ ไป ปลงชีวิตว่า เรายังมี "ภาระผูกพัน" กับทางโลกมากมายมหาศาล เรายังเป็น "แม่คน " ยังต้องมี "ภาระการสร้างคน ให้ดี แก่โลกนี้ " อันนับเป็นภาระยิ่ง ใหญ่กว่า การจะต้องสร้างตัวให้รวยเลิศสะแมนแตนเหมือนเหล่าญาติของ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ที่นิยมวัตถุกันเสมือนบ้าคลั่ง  ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ การขึ้น ๆ ลง ๆ ของชีวิต มาพอสมควร ตลอดชีวิตที่ผ่านมา จนเห็นอะไร ๆ ก็เหมือน ละครของโลก     ต้องมี บทนั่น บทนี่ มาให้เล่น           แต่บทเฉพาะหน้าขณะนี้ ... เห็นแต่หน้าท่าน พระครูฯ พร้อมคำว่า "เสียดายที่หนังสือดี ๆ ไม่ถึงมือผู้คนในปีนี้ "            รู้ว่าผิดเต็มประตู แต่ ก็ นิ่งเฉย ปลง ๆ เสียบ้าง แม่จำเนียร อยู่ อย่างนั้น   คนเราต้องอยู่เนื่องด้วยผู้อื่น ต้องมีชีวิต เนื่องด้วยผู้อื่น ต้องอยู่ กับสิ่งที่เราไม่ได้คิด ไม่ได้ฝันว่าอยากจะอยู่ ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาอยู่อาศัย ในสภาพที่ ไม่พร้อม รอบกายสักอย่าง              แต่ถ้าจะเอาพร้อมรอบกาย เหมือนอดีตที่ผ่านไป ข้าพเจ้าจะมานั่ง เฉย ๆ ปลง ๆ อย่างนี้ เห็นทีจะไม่ได้ ป่านนี้คงจะต้อง"ถือดาบ ตีฟัน" กับชาว บ้านเขาเรื่อง งานการ เรื่องเงิน ทอง ตำแหน่ง ยศ ฐา บรรดาศักดิ์ อะไรดั่งที่ เคยเป็นมาก่อนมาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านไป          ครั้นชีวิตเดินมาถึงจุดหนึ่ง ซึ่ง "เยือกเย็นพอจะรับมือ" กับความผัน แปรที่พรวดพราดโครมครามถล่มใส่ได้  ก็ นั่งมองดูความเป็นไปของสิ่งเหล่า นั้น ประดุจละครแต่ละฉาก   นึกถ้อยคำ "หลวงพ่อเสือ-พระพิรุณหผล วัด ไผ่สามกอ " ท่านเพียรสอนเสมอ              "ที่ได้รับคือ วิบาก -ที่กำลังทำอยู่นี้เป็นกรรม "            วิบาก ม้นคือ ผล ของ กรรม คือ การกระทำ ทำดี ทำชั่ว ของเราที่ ได้ทำไว้ ในอดีต ในเมื่อวาน ในเดือนก่อน ปีก่อน ปีเก่า ๆ ชาติ เก่าก่อน อะไร ของเรา ที่ไร้ประโยชน์จะตามไปแคะคุ้ยดูว่ามันอะไรกันบ้างที่ความโง่ -โมหะ อันครอบคลุมเราไว้ ให้หลงตามไป กับ ความโมโห คือ โทสะ อาการ ประทุษร้าย อาฆาตมาดร้าย ทำใคร ตอบแทนใครเขาไว้ให้สาสมกันในกาล ก่อน ที่เรา ก็จำไม่ได้     หลงตามไปกับ ความรักใคร่ ราคะ กาม ทั้งหลายที่ ไม่อาจจะตามไปส่องดูว่าชาติใด ได้โง่เขลาขนาดหนักมาสักเท่าใด  และ คง จะได้ เที่ยวไปแก้แค้นรักสลายเหล่านั้นด้วยอาการขนานใหญ่จนโลกสวรรค์ สะท้านสะเทือนกันมานักต่อนักแล้ว ชาตินี้ เขาถึงได้ เอามา "เทโครมใส่ ขนานใหญ่ " ให้ ล้มลุกคลุกคลานปางตายถึงอาการฉะนี้             คิดแล้วเลย วางเฉย คือ วางอุเบกขาปัญญาไว้บนกระหม่อมเหนือ หัวตัวเองเสียบ้าง คือ ไม่ไป ตามรู้ตามดูไอ้ที่ผ่าน ๆ ไปแล้ว ที่มันเป็นชะนัก ปักหลังทำให้ ทำการทำงานอะไร ติดขัด ติดข้องมาตลอดกาลนาน             ดังนั้น ในวันนี้ ประสาคน มีวิบาก-ผลของกรรม ตามไล่มาไม่รู้จบ ก็เลยทำใจอารมณ์ดี ๆ ทำหน้าที่ตรงหน้าตรงนี้ อย่าง สบายใจ เสียที              คือ ปล่อยวางเสียบ้าง รอเวลาเสียบ้าง รอนิด รอหน่อย ไม่ต้องไป บีบคั้นใครต่อใครให้เขาทุกข์ร้อน เพราะ "กิเลส-ความอยากที่มัน ลนเผาให้ ใจร้อนรน "              เลยสงบเย็นได้ในเย็นนี้-ดมยาดม ที่เกิดมาจากการผสม เมนธอล พิมเสน การบูร กับ ไพลสดกองใหญ่ มาทั้งเดือน แล้วนึกถึงข้อธรรมที่พระ ทุกองค์ อาจารย์ทุกคน ตักเตือนมานานแสนนาน           " นับ 1-100-1000 " ปล่อยมันไปเสียบ้าง เป็นสุขหรือยังคะท่าน  ?ข้าพเจ้า สงบแล้วพอสมควร ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ คุณ : ข้าวต้มน้ำวุ้น    คะ ขอบคุณที่แวะมาส่งข่าวค่ะ เดี๋ยวจะเข้าไป ดูส่งให้นะคะ จะเข้าไปเช็คเมล์ที่จะส่งให้ หลาน ๆ ทั้งหลายด้วยค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 22 พ.ย. 50 18:47:42 ]

ความคิดเห็นที่ 16 From : เจียวต้าย [23 พฤศจิกายน 2550 19:16]     ผมจะร่วมในการพิมพ์หนังสือ ๕๐๐ บาท กรุณาส่งชื่อบัญชีให้ด้วยครับ.   ขอขอบคุณ ท่านเจียวต้าย ที่ให้กำลังใจมาแล้วค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 23 พ.ย. 50 22:15:44 ]

ความคิดเห็นที่ 17 [23 พฤศจิกายน 2550 22:19]         พี่คะ ขอบคุณพี่มากนะคะที่กรุณาให้หนูได้มีโอกาสช่วยด้วย หนูขอช่วยพิมพ์1000บาทนะคะ แต่ไม่ต้องการออกนามนะคะ กรุณาส่งเลขบัญชีธนาคารให้หนูทางหลังไมค์ด้วยนะคะ   (อีกท่านหนึ่งได้หลังไมค์มาเมื่อสักครู่ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ กำลังส่ง บัญชีให้นะคะ ) จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 23 พ.ย. 50 23:59:18 ]

ความคิดเห็นที่ 18 Sorry that I can't type Thai today จากคุณ : tiki - [ 25 พ.ย. 50 11:31:07 A:203.113.35.7 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 [24 พฤศจิกายน 2550 14:32]     ขอร่วมทำบุญด้วยค่ะ ห้าพันบาท (คุณส..... โรจน.....)  กลับมาที่เครื่องของเราแล้ว เลยเปิดหลังไมค์มา นำลงได้ค่ะ ขอบพระคุณ น้ำใจชาวพันทิปเป็นอย่างยิ่งค่ะ (ภาพนี้เป็นภาพกุฎิท่านเจ้าอาวาส วัดเขาสนามชัย หัวหิน พระอาจารย์ พระอนุรักษ์ชินวงศ์ ศาสนบัณฑิต ผู้ได้มอบหมายให้มาพิมพ์หนังสือตามที่ไป เรียนขอท่านไว้ - ในห้องท่านยิ่งไม่มีสมบัติอะไรเลย นอกจาก เสื่อ และ กองหนังสือหนังหา  . ) ป.ล. แวะมาแก้ไขชื่อท่านผู้ร่วมบริจาคหลังไมค์ ออกก่อน ค่ะ ลืมไปว่ามิใช่ ชื่อ log in แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 50 21:24:55 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 25 พ.ย. 50 18:22:27 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาบันทึก ความคืบหน้า ของหนังสือ ที่คืบไปที่ต้นฉบับอีกแค่สอง สามหน้า ในการตรวจ บาลีเพิ่มอีกเท่านั้นค่ะ       เมื่อวานได้ไปร่วมงาน ครบ ๑๐๐ ปี ท่านอาจารย์บุญมี เมธังกุโร แต่ มิได้ เอ่ยปากเรื่องหนังสือหรือ เงินอะไรกับ ท่านประธานมูลนิธิ เพราะเห็นยุ่งกับงานแต่เช้ายันดึก ก็เรียนว่า ไว้วันหน้า มีเวลาค่อยคุยกัน            แต่ที่ดี คือ ว่า มีกรรมการมูลนิธิฯ ท่านหนึ่ง ได้ แนะนำให้ เข้าไปพบ ท่าน พระเมธีวรญาณ ผู้ช่วยวัดราชโอรสารามที่มาในงาน แจ้งให้ท่านทราบเรื่องจะพิมพ์หนังสือนี้ แต่ หาผู้ใดมาช่วย ตรวจทานบาลี รอบสุดท้ายนี้ อีกรอบมิได้   ท่าน เมธี ฯ ท่านฟังแล้ว ก็ ให้เบอร์โทรศัพท์ที่อยู่ วัดท่านให้ติดต่อไป  ว่าอาจช่วยได้บ้าง แต่มิใช่ทั้งหมด เพราะท่านก็ยุ่งเรื่อง หนังสือท่านหลายเล่มอยู่              ได้ มีโอกาสพบนมัสการ พระทอง ฯ ท่านมาในงานช่วงบ่าย ก็เรียนให้ท่านทราบว่า กำลังเขียนเรื่องนี้ ลงเว็บอยู่ คิดว่าท่านจะไม่ ถือสา ภาษาของข้าพเจ้า  ท่านก็ ติงเรื่องหนังสือ ให้ข้าพเจ้า "สบายใจ" "ปลงใจ" ว่า              " ทำอะไรก็ให้มันดีจริง ให้เราปลื้มใจ ชื่นใจไปนาน ๆ เพราะหนังสือ นั้นอยู่นาน หากรีบร้อน เอาวันเวลามากำหนด แต่ผลงานออกไปไม่ดี ทำให้ เป็นทุกขืร้อนในอนาคตมากกว่า "            เมื่อได้ "วาทะตัดสิน" จากท่านพระทองฯ เช่นนี้ แล้ว ข้าพเจ้าก็ "โล่งอกขึ้น" อย่างมากทีเดียว เพราะ ความหนักใจเรื่อง การพิมพ์พระอภิธรรม อ้นเป็น ธรรมะระดับที่ พระพุทธองค์ เทศน์โปรด พระมารดาบนสวรรค์นั้น หากข้าพเจ้า ปล่อยผิด ไปด้วย เร่งรีบขนานหนัก ย่อมไม่ดีอย่างยิ่ง จึง กราบท่านว่า หาก มีเวลาก็จะขอ ท่านช่วยให้ พระมหาฯ อีกรูปที่จบ เปรียญ ๙ ในวัดท่าน ได้มีโอกาส สอบทานบาลี ฯ ให้อีกนิด จะเป็นพระคุณ เมื่อคืน ข้าพเจ้าจึงกลับไป ตรวจต่ออีกหน่อย แล้ว ก็ อ่าน หนังสือ บาลีที่ ซื้อมาจากมูลนิธิ แทน และ เลิกกังวลกับเรื่อง ร้อนรนทั้งหลายไป                  อนึ่ง เมื่อวาน ก็นำหนังสือฝรั่ง ที่คิดว่าจะทำเป็น " แบบอย่าง" ในการ จัดรูปเล่ม ไปให้พระและ ฆราวาส หลายท่านที่นั่นดู ก็ไม่เห็นข้อขัด แย้งอันใด จึง สบายใจยิ่งว่า  ที่หนักใจ คงผ่อนคลายแล้ว            เรื่องจัดหน้านี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา คนร้อนใจ มิใช่ข้าพเจ้าดอก แต่เป็น นายลูกชาย ที่ โว้กว้ากว่า "แม่ ทำหนังสือพระให้มันดูน่าอ่าน น่าสนใจมั่งสิ ที่ผ่านมาแต่ละเล่มน่ะ ไม่ชอบเลย ดูไม่ได้ "             ข้าพเจ้าก็ทำตาปริบ ๆ ว่า เอ้า แล้วจะไปเสียเงินค่าจัดหน้าเป็น หลายพัน เป็นหมื่น ๆ ให้พวกจัดหน้า เขาได้อย่างไร ?  ก็ ทำเอง แล้วไป ให้ โรงพิมพ์เขาช่วย ๆ ทำตอนจบให้แล้วกัน              เขาก็ ฮึดฮัด หายไป พอเมื่อสองวันก่อน ก็โผล่หน้ามาบอกว่า ได้ "ไปขอให้เพื่อนที่เป็นนักจัดหน้าหนังสือ ให้มาช่วยแม่จัดให้พระ -ฟรี แล้วละแม่ ผมบอกว่า จะให้แม่จ่ายให้สักพันสองพัน เขาบอกไม่ต้องจะ ทำให้แม่ ฟรี "               ดังนั้น เรื่องที่จะนั่ง หลังขดหลังแข็งจัดหน้าเอง ก็เลย วางไว้ เพียงแต่ห่วงว่า ขืน ส่ง กันไป ส่งกันมา จะไม่ทัน เดือนหน้า ขึ้นแท่น ก็ พอดี ท่านอาจารย์พระทองฯ ท่านมา "ตัดสิน" ให้แล้ว จึง ผ่อนคลายลง แล้ว ในวันนี้ ค่ะ (หนักอกมาหลายวันทีเดียว ) ทั้งนี้ กราบ ขอบพระคุณ ทุกท่านที่กรุณา ทั้ง โทรฯ และ หลังไมค์มาให้ กำลังใจ คนเล็ก ๆ คนหนึ่ง ซึ่ง ไป "สัญญากับพระไว้ แล้ว ไม่ได้ทำตาม สัญญา " ได้ หายเหนื่อยหัวใจไปเยอะเชียวค่ะ ขอบคุณมาก แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 50 00:43:48 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 25 พ.ย. 50 21:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 Paypal เป็นการรับจ่ายเงินกันทาง e-bay ค่ะ เท่าที่ทราบ แต่ไม่ทราบรายละเอียดการส่ง-ถอนเงินจากบัญชีนี้ค่ะ จากคุณ : ข้าวต้มน้ำวุ้น - [ 27 พ.ย. 50 09:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ : ข้าวต้มน้ำวุ้น  คะ ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจ และ ให้ข้อมูลค่ะ จะพยายามเรียนรู้เรื่องพวกนี้ไว้ นะคะ วันนี้ เข้ามาตอนค่ำนี้ ได้รับข่าวดี สองข่าว คือ มีท่านที่ตั้งใจจะบริจาคมาจาก หางดง-เชียง ใหม่ ได้ แจ้งข่าวมาดังนี้ [28 พฤศจิกายน 2550 16:14]         คุณ tiki_ทิกิ คะ มาแจ้งให้ทราบว่าโอนเงินร่วมทำบุญพิมพ์หนังสือจำนวน 1000 บาท เข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ   และเมื่อประมาณ ห้าโมงกว่าที่ผ่านมา 24 พฤศจิกายน 2550 14:32]    ขอร่วมทำบุญด้วยค่ะ ห้าพันบาท (คุณส..... โรจน.....)  ก็ได้ แจ้งให้ทราบว่า ได้ส่งเงินเข้าบัญชีมาแล้วเช่นกัน ตอนนั้น ข้าพเจ้ากำลัง ตรวจ ปรู๊ฟ ขั้นก่อนสุดท้ายกันอยู่ที่ร้านจ้างพิมพ์ เพราะ ไม่อาจนั่งแก้ไขอยู่คนเดียวได้ จึงต้องไป แก้ในกระดาษและให้ เขาช่วยแก้ตัวพิมพ์ในเครื่อง ลงซีดีให้ใหม่ อีกหน  ก็นับว่า เป้นกำลังใจ อย่างยิ่ง จาก ชาวพันทิป นะคะ ขอขอบพระคุณทุกท่านมา ณ ที่นี่ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 28 พ.ย. 50 20:04:45 ]

ความคิดเห็นที่ 25 สำหรับตนเอง ก็มี เรื่องประวัติศาสตร์ และ ภาพประวัติศาสตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยุ่หัว น่าลงอยู่เหมือนก้น ขอเวลาหน่อย กำลังยุ่งเรื่องหนังสือพระ จะต้องผลักขึ้นแท่นให้ทันถวายพระพร ในหลวงปีนี้นะคะ จะทันไหม ไม่ทราบ กลุ้มใจ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 29 พ.ย. 50 01:47:06 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ถึงวันนี้ สิ่งที่ทำได้ คือ ตัดสินใจขนาดหนังสือใหม่ คือ เป็นน้องเล็กของขนาด เอสี่ ไปแล้วค่ะ   เพราะ หากปล่อย ไปเป็น ครึ่งเอสี่ หรือเอห้า ก็จะหนามากเกิน ไป อีกอย่าง เล่มตัวอย่างที่น่าจะจัดตาม เป็นขนาด ใหญ่กว่า เอ ห้า หรือ ที่เรียกภาษาโรงพิมพ์ว่า ขนาด 16 หน้ายก นั้น มันจะเล็กเกินไป สำหรับการที่จะลงเรื่อง ทั้ง กลอน โคลง เรื่องบรรยาย นิพพาน หลายอย่าง       วันนี้ หลังจาก นำแผ่นซีดีที่แก้ไข เกือบหมดแล้ว เหลือไว้แต่ ชื่อ ผู้บริจาคที่ยังไม่ครบตามจำนวน และ เหลือไว้ แต่ หมายเลข isbn นำเข้าไป พบ เจ้าของโรงพิมพ์ ที่ได้ติดต่อไว้  ก็ได้ "สิทธิพิเศษ" ขึ้นไป ถึงห้องอาร์ท ห้องจัดหน้าหนังสือของโรงพิมพ์เลย ซึ่ง ต้องตัดขั้นตอน ที่ว่าจะให้เพื่อนลุกชายจัดให้ ไป  ด้วยเวลาไม่ท้นแน่ ๆ แล้ว  ไม่ทัน อย่างยิ่ง หาก ปล่อยไปอีก เดือนหน้าคือมะรืนนี้ก็ถึงเดือนใหม่แล้วอาจจะ ยังไม่ได้พิมพ์เลย  จึง ถือโอกาสสองวันให้ เขาจัดหน้าให้ ส่วนเรื่องจุกจิก อื่น ข้าพเจ้าได้ นำ ทั้งภาพที่สะสมไว้หลายอย่าง ทั้งภาพสี และ ภาพถ่าย ในกล้องจิ๋วๆ ของข้าพเจ้า รวมไปให้ ฝ่ายห้องอาร์ท ทั้งหมด             และ ไม่ลืม จะนำ "ยาหม่องน้ำสีเหลืองใสแจ๋ว" ผลผลิตของ ข้าพเจ้าไปอนุนันทนาการกันคนละขวด ให้ฮือ ฮา กันด้วย อีกเช่นเคย (ปลื้ม ปลื้ม ที่ได้ยินคำชมว่า หอมดี )              ค่ำนี้ ข้าพเจ้าว่าจะรีบกลับบ้าน แต่ ไปแวะกดเอทีเอ็มดูยอด เงินเข้าแล้วก็แวะบอก คนรู้จักบางท่านให้ร่วมทำบุญ แล้วจึงไป นั่งอยู่ แถว ทางเดินเข้าเดินออกของห้างขนาดกว้างใหญ่ แต่ติดดิน เพื่อชาว นนท์    นั่งตรงหน้า ร้านขนม และ ของกินจุกจิก นึกถึง คุณ สีน้ำฟ้า ที่ เคยแวะมาเดือนก่อน มานั่งแวะกินขนมกันตรงนี้กับข้าพเจ้าด้วย ไม่รู้วันนี้ จะเป็นอย่างไร สบายดีหรือเปล่า          แล้วเลยนึกย้อนไปถึงเรื่อง " ชีวิตพอเพียง" ที่ให้ชาวพันทิป ร่วม กันเขียนมาแจมกันต้นปี ที่ไม่ได้ นำทั้งหมดมาร่วมลงกับหนังสือเล่มนี้ ที่กำลังพิมพ์ ยกเว้น บางกลอน ของข้าพเจ้า เท่านั้น... อยากจะนำลงให้ แต่ติดว่า หนังสือ เป็น เรื่องที่ เกี่ยวแก่การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ที่ ท่านจะแจก แก่พระ แก่เจ้าเป็นส่วนใหญ่ รวมถึง โยคีบุคคล ที่จะเข้าปฎิบัติ ที่นั่น     ......กระนั้นก็ดี ได้ข่าวดีว่า ทางโรงพิมพ์ที่พิมพ์ไว้ให้ เขาอยากจะ พิมพ์ หนังสือ ชุดเก่านั้น ไว้แจกเหมือนกัน เพราะมี บทส่วนมนต์ต่าง ๆ หลาย แบบ อยู่ในเล่มนั้นด้วย ก็พูดไว้ว่า  ใครอยากพิมพ์ ก็เชิญเถิด ถ้าพิมพ์แจก ไม่ว่ากันหรอก...                นั่งอยู่ที่นั่นนานพอสมควร จน รู้สึกว่า ถนนคงว่างแล้ว ก็ออก มา กลับบ้านกลับช่อง นึกถึงเมื่อคืน นั่งตรวจปรู๊ฟ ไปถึงตีสามกว่า ก็ ไป อาบน้ำอุ่นตอนดึก เข้านอน อากาศเย็นเจี๊ยบ...             ข้าพเจ้าเลยคิดว่า ช่วงนี้ เป็นช่วงที่อยากจะ "คัดลอกเรื่องประวัติ ศาสตร์บางเรื่อง" ลงหน้า เน็ตนี้จังเลย แต่คิดแล้ว ก็เฉย ๆ อยู่ เพราะ ความ กังวลเรื่องหนังสือนี้มีสูงมาก           น้องที่ทำการจัดหน้าให้ ถามว่า            " พี่ งบไม่ อั้นใช่ไหม ไม่ห่วงหน้าเยอะใช่ไหม "             " ห่วงเหมือนกัน แต่ถ้า งบที่มีอยู่ ไม่พอ ก็ต้องไปหาเพิ่ม หาก หาเพิ่มไม่ได้   พี่ก้ต้อง รับเหมาให้ทั้งหมด "  ข้าพเจ้า ตอบยิ้ม ๆ แล้วนึก ถึง ความรู้สึกเดียวกันนี้ ที่รับพิมพ์หนังสือถวาย หลวงปู่ ครูบาดวงดี วัด ท่าจำปี สันป่าตอง เชียงใหม่ ในสองปีที่ผ่านมา   เป็นความรู้สึกเดียวกัน กับที่กำลัง เบ่งบานในใจ คือ ไม่ได้ กังวลเรื่องเงินเลย เพราะปาฏิหาริย์ มักมีจริง เวลาเราตั้งใจทำบุญจริง              นึกถึง ต้นปีนั้น ถูกล็อตเตอร๊ เกือบทุกงวด สามสี่เดือนติด ๆ กัน และ ยืด ไปถึงปลายปี อีก หน สองหน ด้วย เพราะ เพียงต้องการ เงินมา พิมพ์หนังสือให้หลวงปู่ให้พอ ...  จนมีบางคน ค่อนแคะเอาว่า ทำไม ได้เงิน ไม่เอาไป .....อย่างอื่น ล่ะ             ข้าพเจ้า ตอบไปว่า ข้าพเจ้าเป็นคน ไม่ห่วงเรื่อง กิน เรื่อง อยู่ เหมือนชาวบ้านเขาหรอก    เพราะ อายุผ่านมาขนาดนี้ กินดี กินเด่น กิน อะไร ก็กินมาแล้วทั้งนั้น  ทุกวันนี้ มีข้าว ถ้วยแกงชาม กับอย่างสองอย่าง มีน้ำ กิน ก็อยุ่ได้ วันไหน ใครเขาซื้ออาหารดี ๆ มาฝาก หรือ ออกไปกิน อะไรดี ดี นอกบ้าน ก็ กิน พอประมาณ ยิ่งเมื่อวาน ไปตรวจเบาหวาน มา พยายาลเจ้าหน้าที่ ที่โรงพยาบาล สั่งควบคุมอาหาร หลายอย่าง แต่ยัง ไม่บอกผลเลือดว่าเป็นหรือไม่ ก็ คิดว่า อยู่ได้ ไม่มีปัญหา ตัวเอง ชอบ กินผัก กินผลไม้ อยู่แล้ว ทำได้...  แต่ บางเรื่องเท่านั้น ยัง "ควบคุฒ" ไม่ค่อยได้ ก็เวลา เห็นเสื้อผ้า อาภรณ์งาม ๆ แหะ แหะ เพราะ ยังติดนิสัย ชอบแต่งตัวสวย ๆ ดี ๆ แบบ สบาย ๆ มาก               วันนี้ ทำใจสบายแล้ว เพราะมีคนจัดหน้าหนังสือให้แล้ว เลย มาแวะเคาะบอกทุกท่านที่มาแวะอ่านเรื่อย ๆ (แบบไม่ลงถ้อยความต่อ ) ไว้ ณ ที่นี่ อีกทีค่ะ               คาดว่า หนังสือเรา จะออกมา สวย และ น่าอ่านมาก จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 29 พ.ย. 50 20:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ด้วยความห่วงหนังสือ ก็โทรฯ ไปโรงพิมพ์ แต่ สายๆ หนึ่งรอบ และ ตอนเย็น ก็ โทรฯ ไป สอบถามอีกรอบ แต่ เจ้าหน้าที่ ยัง ตอบว่า เพิ่งขยับไปได้ อีกนิดเดียว พร้อมบ่น นิดหน่อย ว่า "พี่จ๋า หนังสือพี่ไม่ได้บางเลยนะ หน้าก็มาก ข้อมูลก็มาก ขอเวลาหนุหน่อยนะคะ "           อย่างไร ก็ไม่ทันวันที่ ๕ เป็นที่แน่นอนแล้ว ทำใจ แล้วค่ะ ไม่ใช่ความผิดของใคร ต้องโทษความไม่ เอาไหนของตัวเองที่ปล่อยเวลาผ่านไปอย่างน่าเสียดาย        แต่ใครจะคิดว่า จะมีอุปสรรคเล็ก  อุปสรรคน้อย มาตลอด ทำให้ นึกถึงนิทานอีสป เรื่อง เต่ากับกระต่าย อาจเพราะเรามันคนใจเย็น เกินไปมังคะ           สำหรับวันนี้ ก็นับเป็นวันดี คือ โทรศัพท์ไปหาเพื่อน สมัยเรียนบ้าง ทำงานบ้าง เพื่อนฝูงในวงการต่างๆ บ้าง บางคน ก็โทรฯมาหา ก็ ได้ ความร่วมมือในการร่วมทำบุญ กันทุกคน (อย่างเต็มอกเต็มใจมาก ๆ กันด้วย ) ทำให้ ชื่นใจ            เพราะ เคยเจอมานานแล้ว ในสมัยยี่สิบกว่าปีที่แล้วมา เคยไป บอกบุญ เอาใบบอกบุญไปให้ญาติ ว่าจะทำเรื่อง ศาลาฯ สิ่งก่อสร้าง ของวัด ทางอุบล ถูกคุณญาติ คุณอาสะไภ้ภรรยานายพล น้องชายแท้ๆ คุณพ่อ ท่านสวดมายับเยิบ แถมด้วย คำ นินทาว่าร้าย ในหมุ่ญาติ ตามมาอีก ทำเอาไม่ยอมบอกบุญใครไปหลายปี  คิดใน ใจนับแต่นั้นมาว่า ทำบุญจะไม่บอกใครอีกแล้ว             ต่อมาก บุญ ก็ส่งให้ได้ มีโอกาสฟังธรรมร่ำเรียนวิชาพุทธศาสนา หลายแหล่ง ท่านแจงไว้ว่า วิธีแก้บริวารไม่ดี ไม่เชื่อฟัง คือให้หมั่นบอกบุญ ไปยัง เหล่าเพื่อนฝุงมิตรสหาย บริวารทั้งหลายจักได้ เปลี่ยนนิสัยมาเชื่อฟัง นับถือ   ก็ ลองทำดูมาสักสี่ห้าปีนี่แล้ว ผลก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ คือ บริวารในบ้าน อันได้แก่ คนคู่เคียง ลูกเต้า บริวารทั้งหลาย ก็มีมุมมอง ใหม่ ให้แก่ ตนเอง เปลี่ยนไปในทางเชื่อฟัง และ นับถือมากขึ้น ตามคำ สั่งสอนของพระหลายองค์            จริง ๆ แล้ว ข้าพเจ้าก็ไม่ชอบบอกบุญใคร เพราะรู้สึกเหมือนไป แคะไค้รบกวนเขา แต่ พอทำหนังสือ หลายปีนี้เข้า ผลการพิมพ์หนังสือมา เรื่อย ๆ และ ให้ ผู้ร่วมบริจาค บริจาค จำนวน ตามใจ และ หนังสือข้าพเจ้า เรียบเรียงผู้บริจาค ตามวันเวลาที่บริจาค ไม่ได้ เรียงตาม " จำนวนเงินบริจาค มาก น้อย "     ทำให้ เกิด "กระแสจิตอ้นดีงาม " ก่อเป็นกุศลใน การบอกกล่าวทุกครั้ง สัมผัสได้ ว่า ผู้ร่วมบริจาค มีใจยินดี มี ความสุข ในการ ร่วมบริจาค มาตลอด หลายปีที่ผ่านมา                ทำให้ เชื่อในคำสั่งสอนขององค์พระศาสดาของเราว่า การทำบุญ ที่สูงสุดในพุทธศาสนา คือ การได้ เผยแพร่คำสั่งสอนขององค์พระสัมมา สัมพุทธเจ้า  และ ด้วย ความพร้อมในการทำบุญ คือ ผู้ได้ทำบุญ มีปัจจัย เพียงพอที่จะทำบุญ  ผู้ร่วมทำบุญ มีความยินดีที่จะทำบุญ  ผู้ร่วมทำบุญ มีใจผ่องใสที่จะ ได้ ร่วมเผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอน และ สุดท้าย ผู้ร่วม ทำบุญเชื่อใจว่า ผู้จัดการพิมพ์ทั้งหมดนี้ ทำด้วย ใจอันบริสุทธิ์ ร่วมกัน ดังนี้ บุญนี้ จึง เป็นบุญเย็น บุญนี้ จึงเป็นบุญสะอาด ด้วยประการทั้งปวง               อีกประการหนึ่ง ผลบุญที่เกิดขึ้นมาในการนี้ ข้าพเจ้าต้องขอ ขอยคุณเว็บนี้เป็นอย่างมาก ที่ให้เวลา และ ให้ "หน้าช่องแปะกระทุ้" นี้ไว้ นับว่าเป็นบุญของข้าพเจ้าที่มีกัลยาณมิตรทางเว็บไซต์ดี ๆ ด้วย                          พอ เย็นๆ วันนี้ คุณ " ข้าวต้มน้ำวุ้น " ก็ส่งข่าวมาว่า ได้นำเงิน ๕๐๐ .-บาท ข้าบัญชีแล้ว ขอให้ลงชื่อบริจาคในนามคุณแม่ด้วย ก็ ยินดี และอนุโมทนาบุญมาก ๆ เลยค่ะ             ทั้งนี้ ได้ คุยกันว่า หากอยากจะไปร่วม "ถวายหนังสือ " สองวาระ คือ หนึ่ง ไป โรงพยาบาลสงฆ์ และ สอง ไป ส่งหนังสือที่ วัดเขาสนามชัย หัวหิน ถ้าว่างก็เชิญไปด้วย ดูเหมือน ท่านสมาชิก พันทิป ท่านนี้ จะยินดีที่ ได้ยินคำเชิ้อเชิญนี้ เพราะข้าพเจ้าก็บอกว่า ได้เชิญ ผู้ร่วมบุญไป ถวายหนัง สือที่โรงพยาบาลสงฆ์ ด้วยกัน มาหลายครั้งแต่ไม่มีใครไป             วันนี้ ก็ขอ ส่งข่าวไว้เท่านี้ก่อนค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 30 พ.ย. 50 19:35:24 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ในระหว่างรอจัดหน้าพิมพ์ พอมีเวลาตรวจต้นฉบับอย่างละเอียดอีกครั้ง รู้สึกอยากหาอะไรไปเบิ๊ดกระโหลกกะลา คนรับจ้างพิมพ์มาให้ พอ ๆ กับ อยากเขกหัวตัวเองแรง ๆ เพราะ มันมีผิด อีก เป็นตัน เจ้าค่ะ            ก็ แต่แรกว่า วันนี้ จะนำ ต้นฉบับรอบแก้ใหม่ ไปให้คนจัดหน้า ร้องเฮ้ย ก็ เปลี่ยนใจไม่ไปดีกว่า รู้สึกมึนแสน        แต่ สองวันที่ผ่านไป ก็พอมี ผู้ร่วมบริจาคมาอีกสองสามท่าน ส่วนใหญ่เป็น เพื่อนของญาติ และ บางท่านทางเว็บอื่นที่กรุณาแจ้ง ให้ทราบถึงการเข้าบัญชีผ่านมา ซึ่งถึงวันนี้ ยังไม่ได้ตรวจสอบยอด จำนวนเข้าว่ามาอีกแค่ไหนอย่างไร            แต่ เมื่อวาน ได้ ปรึกษากับ พี่  และ น้องที่บ้านคุณแม่ ด้วย เด็กกะเหรี่ยงที่บ้านเขาว่าจะกลับบ้านปีใหม่ ไม่มีคนดูแลคุณแม่ ข้าพเจ่า เลย ออกความเห็นว่า งั้นย้าย การจัดงานปีใหม่ ทุกปี ไป หัวหินกันดีไหม พาคุณแม่ไปทำบุญด้วยเลย เพราะ หน้าที่ดูแล จะต้องเป็นข้าพเจ้าแล้ว นี่นา ?  ก็ มีเสียงเห็นด้วย ว่า น่าจะ นำหนังสือ(จะพิมพ์ทันไหมนี่ ) ไป ถวายพระที่ห้วหิน ปีใหม่ เสียเลย ก็ต้องฟังความเห็น ส่วนใหญ่อีกที           วันนี้ ยังไม่มี รายนามในเว็บเพิ่มนะคะ แต่นอกเว็บขออนุญาต ไม่นำมาแจงค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 3 ธ.ค. 50 14:40:53 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ่อ อ่อ ลืมสนิทค่ะ คุณ สีน้ำฟ้า แจ้งมา ร่วมยินดี ทำบุญด้วย ๔๐๐ บาท แล้วจะ นำเข้าบัญชีตาม ขอให้กุศลส่งให้ทุกอย่างราบรื่นไร้แมลงรบกวน นะคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 3 ธ.ค. 50 20:43:45 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขออภัยที่งดการส่งข่าวด้านนี้ไปหลายวัน                  เนื่องด้วยเคร่งเครียด กับการตรวจต้นฉบับ ทานก้บ หนังสือ "ไตรโลกทีปนี" ของพระอาจารย์ พระครูอนุรักษ์ชินวงศ์ โดยการ เทียบบาลี และ ความหมาย ตลอดจน ข้อความและ ตัวสะกด กับบทเดิม ของหนังสือ  "ตายแล้วไปเกิดใน ๓๑ ภูมิ , วิปัสสนากรรมฐาน และ มรรคผลนิพพาน อธิบายตามพระพุทธพจน์            อย่างเอาเป็นเอาตาย   วันนี้ ถึงแม้จะนัดกับทางโรงพิมพ์ไว้ ว่าจะ เข้าไป สอบทาน การจัดหน้าและแก้ข้อมูลตามที่ตรวจแก้ใหม่ แต่เปลี่ยนใจ ใช้มือถือ พูด สั่งงาน การตรวจปรู๊ฟ ไปได้ กว่าครึ่งเล่ม แล้ว  เพราะบ่ายนี้ มีภาระ ต้องพาสุนัขที่บ้านไปผ่าตัดหูที่มันอักเสบอยู่   เกรงว่าจะมาไม่ทัน หมอนัดไว้  จึงใข้วิธี ตรวจปรู๊ฟกันทางมือถือ Mobile phone นี้ไปก่อน             อนึ่ง เมื่อ วันที่ ๕ ที่ผ่านมา ก็ได้ไปร่วมงานมุทิตาจิต ท่าน เจ้าคุณเมธี วัดราชโอรสาราม  ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น " พระราชปฏิภาณโสภณ " ทาง อภิธรรมมุลนิธิ เอ่ยปากชักชวนไปเมื่อ สัปดาห์ก่อน ก็เลย เดินทางไปร่วมงานที่วัด ก็ นำภาพงาม ๆ ในวัด มาเสนอ ให้ชมสักมุม ขัดตาทัพเรื่อง หนังสือ ย้งไม่สามารถขึ้นแท่นได้นี้ไปก่อน                อย่างไรก็ตาม ก็มีเหตุอันควรยินดีว่า ครอบครัวเขยของข้าพเจ้าคือคุณแม่สามีของลูกสาวนั้น แม้จะเป็นคริสก็ตามแต่ แต่พอได้ยินว่าข้าพเจ้า กำลัง หารถจะขนหนังสือไปถวายพระหัวหิน ตอนสิ้นปี ปีใหม่ ก็ ยินดีจะให้ ยืมรถขนสินค้าของบริษัทฯ เขา แล้วก็ว่า จะจัดการดูแลสภาพให้ดีพร้อมเพื่อ การนำหนังสือไปส่ง  ทั้งนี้ ข้าพเจ้าก็ยืนยันว่า ขับเองได้ เพราะเคยใช้ทั้ง รถ กระบะสองตอน อีซูซุ มาเก่า และ ก็เคย มีรถตู้ toyota hiace เคยขับเอง มาแล้วทั้งนั้น ... เหตุการณ์ ก็ ดูจะเรียบร้อย ดี สำหรับ พาหนะที่จะนำหนัง สือไป หัวหิน สิ้นปี จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 6 ธ.ค. 50 22:43:55 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คืนนี้ แวะมา ส่งข่าวสักหน่อย        แวะ ไปโรงพิมพ์เอา เย็นแล้ว เริ่ม ดู การจ้ดหน้า ขนาดพิมพ์ เอสี่แล้ว ยังปาเข้าไป สองร้อยกว่าหน้า ที่จะหาภาพไปใส่เพิ่ม จึง ชะงัก อยู่        แต่ เปลี่ยนรูปบางรูป ในหน้าหนึ่ง หน้าใน และ กำลัง เตรียมรูปประกอบปกให้ โดย (ถ่ายเองอีกแล้ว ) ตามเคย             ครั้น เจ้าหน้าที่ print ให้ตรวจ ตั้งแต่ สองทุ่มกว่า ถึงสามทุ่มกว่า ก็ต้อง ร้องจ๊าก อีก เพราะ ความ " เกรงใจ" คนรับจ้างพิมพ์ดีด จึงไม่ได้ สั่งเขา print มาให้ดูครั้งที่แล้ว แต่ให้เขา Save ใส่ แผ่นเก่า มา        ถึงได้รุ้ว่า เขาพิมพ์ผิด อย่างมโหฬาร รู้สึก เสียดายเงินค่าจ้างพิมพ์ ดีด เสียจริง  ทำอย่างไรได้  ที่ว่าจะ ร่น วันจบอาร์ตเวิร์ค วันจันทร์ นี้ก็ ยัง มึนไม่หาย..ว่าจะต้อง แก้ต่อ วันนี้ ตรวจ อีกรอบที่หก ได้แล้ว ไปแค่ ๖๒ หน้า คนพิมพ์แก้ให้ในเครื่องระหว่างจัดหน้า ก็ยิ่งมึนกว่า   (ไหนจะต้องอยู่ โอ ที ให้ เป็นพิเศษ ไหน จะต้องแก้ ข้อความให้อีก กระบุงใหญ่  ซึ่งมัน ไม่ใช่ หน้าที่ของการจัดหน้าของเขา เลยสักนิด !!! ~)         คืนนี้ เจ้าหน้าที่ ร้องงอแง ขออนุญาตกลับบ้าน เลย ว่าจะ ขับรถ ไปส่งบ้านให้ทุกคน แต่ " หัวหน้าส่วน" ของพวกเขา ก็ แอบดอดนั่งแท็กซี่ กลับไปก่อน ตอน ข้าพเจ้าขอตัวเข้าห้องน้ำ ออกไป เธอก็หายไปแล้ว จึง  พา พนักงาน หนึ่งท่าน กับ ลูก และ สามี เขา ไปส่งให้จนถึงบ้าน แม้นว่า เขาจะบอกว่าไม่ต้อง จะกลับ รถแอร์ (สี่ทุ่มกว่าแล้ว)  ก็ไม่ยอม เด็ดขาด   ขอ ไปส่งให้ได้ ให้ ใกล้บ้านที่สุด คือ พวกเธอ ลงกันที่วัด ในซอยบ้าน ต่อจากนั้น พวก เธอ และเขา ต้อง เดินผ่านวัดเข้าไปอีกกว่า จะถึงบ้าน  ช่างน่าลำบากกันเหลือเกิน พนักงานคนดีเหล่านี้           ขับรถย้อนกลับมาทางเดิม คุณที่บ้านก็โทรฯ กันยุ่งว่าให้แวะไปซื้อ ยาพ่น กันหอบ ให้คุณลูกชายด้วย ก็ ว่า เอา เอา จะไปแวะหาให้ พอถึงสี่ แยก แคราย ก็ไม่เห็นร้านไหน เปิด โทรฯ ไปบอกเขากันอีกที่ ก็ว่าให้ไป วนอ้อม พันทิพย์งามวงศ์วานดูหน่อย เผื่อมี ก็ย้อนไปให้อีกรอบ ผ่านเทสโก้ สี่แยกพงศ์เพชร ห้าทุ่ม เขาปิดแล้ว  เลยมาหน่อยพอดี มีร้านยา ตรงข้าม พันทิพย์ฯ ยังเปิดอยู่ ก็วิ่งแน่บลงไปซื้อให้  ครั้นถึง สี่แยก แคราย เขาห้าม วนรถกลับ ตำรวจ เขา ขึ้นป้ายไว้ ว่ามี "กล้องวงจรปิด " เลย เลี้ยวไป "หา อะไรกิน "  ไป แวะ หน้าร้าน the Pizza ตรงนั้น ลงไปสั่ง สองถาด เฮ้อ            นั่งรอ อยู่หน้าร้าน เปิดไฟกระพริบ ที่ไหน ไม่เห็นมันกระพริบ ลงไปดู เพิ่งรู้ว่า ไฟกระพริบหลังไม่ทำงาน แถม ไฟเลี้ยวหลัง ทั้งสองข้าง ก็ไม่ทำงานอีก ถึงว่า ตอนเลี้ยวเทสโก้พงศ์เพชร แท็กซี่ จอด ขวางเหมือน จะให้ศีลให้พรยามดึก  ที่แท้ ก็ไฟเลี้ยว ด้านหลังไม่ทำงาน นี่เอง ใครเขา จะไปรู้ว่า จะแฉลบเข้าซ้าย               เลยนึกไปถึงหลายวันที่ผ่านมา ว่า มีคน ให้ศีลให้พร กลางถนน ตอนข้าพเจ้า เฉเข้าชิดขอบทาง  หร้อ เฉออกเลนกลาง ออกบ่อย  มันอย่าง นี้นี่เอง              สรุป ว่ากลับบ้าน ก็ มา ชักชวน คนมากินพิซซ่าเป็นเพื่อน ตอน เที่ยงคืนกว่า   แล้ว ก็ไปอาบน้ำอาบท่า แล้วก็มา "ถ่ายรูป " ภาพสำคัญ สำหรับปก        งานนี้ "คุย" มาหลายวัน ว่า เป็นหนังสือพิเศษมาก ๆ จึง ได้ "อะไร" ที่พิเศษ น่าชื่นใจมาก ๆ ด้วย ลองดู ตัวอย่างภาพ (แบบเบลอ ๆ ไปก่อนนะคะ -แหะ แหะ ภาพ ชัด ๆ ขนาด 1.9* 2.6 mg เอาไว้ ส่งไฟล์ไปโรงพิมพ์ ด่วนค่ะ ไว้เขาจัดหน้าเสร็จแล้วจะ มา " ฉายให้ดู "               วันนี้ ก็ขอขอบคุณ ท่านผู้ ร่วมใจบริจาค มาทุกท่าน ณ ที่นี้ บางท่าน ที่จะไม่มีชื่อ เพราะ อาจไม่ทัน ด้วย ท่านไม่ได้ ส่งเงินมาบ้าง ท่านไม่ได้ส่งชื่อมาบ้าง  ท่านไม่ได้ บอกจำนวนเงินที่จะบริจาคบ้าง ข้าพเจ้าเลย รวมไว้ ว่า " ท่านที่ไม่มีชื่อเพราะไม่ทันกับ การปิดเล่มนี้ " ก็อย่าถือสาหาความเลยนะคะ  คิดว่า เอาบุญ ไว้ก่อนแล้วกัน               อย่างน้อย ดึกดื่นป่านนี้ ข้าพเจ้าก็ยังอิ่มบุญไม่หาย ชื่นใจกับ หนังสือที่จัดหน้าได้ดีทีเดียว..แต่ คนจัด นั้น บ้านไกลน่าสงสารมาก เฮ้อ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 8 ธ.ค. 50 03:59:07 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อะไร ๆ มันก็ไม่เที่ยงจริง ๆ ราคา ที่เคย ประมาณไว้ว่า เล่มละ 50 บาท (เฉพาะค่าพิมพ์ ) วันนี้ บ่าย ๆ คุณ น้องที่ดูแลเรื่องจัดหน้า แจ้งมาว่า ได้คุย กับทางเจ้าของโรงพิมพ์แล้ว เคาะราคาให้ เล่มละ 70 บาท ได้ยินแค่นั้น ข้าพเจ้าก็ใจหายวาบ ร้องโวยวายว่า อะไร กันจ๊ะ คุณ สีก็พิมพ์สีเดียวทั้งเล่ม หน้าก็ลดลงกว่าเดิมไปมาก เพียงแต่ขยายขนาด จาก เอ 5 เป็น เอ  4 ทำไม มันจะแพงมากขนาดนั้น   หลังจากที่ ต่างยืนกรานเหตุผลของแต่ละฝ่าย   ข้าพเจ้าก็ ขอให้ จัด กลับไปเป็น 16 หน้ายก หรือ เอ 5 ครึ่งเอสี่ ซึ่งทาง คุณน้องที่จัดหน้าก็ไปคุยกับหัวหน้าเขาว่า จะ ใช้วิธี ย่อหน้าทั้งหมดให้ลงหน้า ที่เราจะพิมพ์ แต่จะไม่จัดหน้าใหม่                   ราคาก็ยังไม่ทราบว่าจะลงหรือ ไม่ อย่างใด ต้องไป พบเจ้าของ โรงพิมพ์เองใน วันจันทร์          ข้าพเจ้า ก็บอกเขาไปว่า ตามเดิมที่ว่าจะมีท่านโน้นท่านนี้ เข้าร่วม ช่วยค่าพิมพ แต่ดูสถานะการณ์ ที่ไม่ลงตัวมาตลอด เห็นได้ว่า คงปิดได้ แต่ไม่กี่เงิน เพิ่มจากยอดเก่ามาเล็กน้อยเท่านั้น และ ก็ อาจจะต้อง มีสอง กรณี ที่จะพิมพ์ครั้งนี้คือ           1 หากราคาไม่ลดลงกว่านี้  ยังสูงอยู่  ก็จะต้อง หดจำนวนพิมพ์ลง จาก 1200 เล่ม อาจจะเป็น 500 -600 เล่มเท่านั้นก่อน          2. หากราคาลดลง ก็จะพิมพ์ดังเดิม แต่ หน้าจะต้องลดขนาดลง ตามที่ขอไป        เราทุกคนก็ทราบกันดีอยู่ ว่า ราคาเสนอเก่านั้น มันตั้งแต่ ต้นปี มีนาคม 2550 นั่น ตอนนี้ ธันวาคม  ซึ่งงานทุกโรงพิมพ์ล้นมือ แค่เขาจะ "แอบ" ขึ้น แท่นให้ ก็บุญหนักหนา มิฉะนั้น ก็ต้องไปพิมพ์ปีหน้ากันเลย แต่ การจะเปลี่ยนโรงพิมพ์ คงไม่ทำ เพราะ โรงพิมพ์ก็ไม่ได้ผิด อะไร ผิดที่เรา ต้อง ใช้หนังสือ หนา และ ขนาดใหญ่ไปหน่อย กระดาษและ ค่าพิมฟ์จึงเปลือง ครั้นจะไปลดขนาด ลดข้อความ พระครูท่านก็ไม่เหมาะ เพราะ ข้าพเจ้ามิได้ เก่งฉกาจเรื่อง พุทธธรรมหรือ บาลี จึง ต้องถือว่า ที่ท่านเขียนมานั้นดีเยี่ยม แล้ว การที่น้ำพระพุทธพจน์ตามบาลี และ พระไตรปิฎก เป็นเรื่องถูกต้องที่ ควร สนับสนุน ส่งเสริม   แต่ เสียอย่างเดียวที่ "มาราธิราช " หัวเราะเยาะ ข้าพเจ้าได้ ที่อาจไม่ได้พิมพ์ เพราะ งบไม่พอ ดังนั้น จึงจะ ต้องทำตาม ข้อ 1 หรือ ข้อ 2 ข้างต้น ดังที่ พิมพ์ด้านบนนี้ ...................ข้าพเจ้าก็ รู้สึก ชาเย็น นิดหน่อย แต่ธรรมดาเสียแล้ว เวลา จะพิมพ์หนังสือ ถวายครูบาอาจารย์ นั้น มักต้องเจอ "ลองของ " อย่างนี้ จนจะชินแล้ว                  ก็ต้อง นั่งตรวจข้อความไปอีก สักวันสองวัน วันจันทร์ โรงพิมพ์ จะไม่ปิด ข้าพเจ้าจะ เข้าไปตรวจปรู๊ฟ อีกครั้ง และ ดูการจัดรูป เล่มรอบสุด ท้าย ก่อนขึ้นแท่น               ขอเพียงราคาอย่าโด่ง มหาโหด กับข้าพเจ้าอีกเลย รู้สึกแสยง มาก   ไม่ ไม่ เราจะไม่ สลดใจ ใด ๆ  เราต้องทน ต้องสู้ให้ได้ บอกตัวเอง ขณะ ยืนกราน กับ ทาง พนักงานจัดหน้าว่า อย่างไร ก็ต้อง หดขนาด ลง ให้ลงหนังสือ ขนาด ครึ่งเอสี่ให้ได้ ... จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 8 ธ.ค. 50 17:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 33 มนุษย์เรานั้น เวลาถูก กดดัน มาก ๆ ก็ต้องหาทางออก บางคน ใช้วิธี นั่งสมาธิ สวดมนต์ บางคนไปเที่ยวเล่น บางคน เล่นกีฬา บางคน หาเวลาไปงีบนอนหลับ เพื่อตื่นขึ้น จะได้ มีสมองแจ่มใส แต่เวลานี้ ข้าพเจ้า เลือกมานั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ และ ทบทวน วิบาก หรือ ผลแห่งกรรม ที่กำลังเกิดกับข้าพเจ้าใน เวลานี้...ในเวลาที่เรา มีศรัทธาเต็มเปี่ยมที่จะทำบุญ ที่จะทำทาน ที่จะ ทำหนังสือพุทธธรรม ปริยัติ ของ ข้อปฏิบัติ ... ถึงจะเป็น แค่เรื่อง เล็ก ๆ จิ๊บจ้อย ในสายตาของใครหลายคน แต่สำหรับข้าพเจ้า มันอาจเป็นเรื่องใหญ่ และ ใหญ่พอจะ ต้อง คิดหน้าคิดหลังให้ดี ก่อนจะทำลงไป ข้าพเจ้ายอมให้ พนักงาน โรงพิมพ์ วิพากย์วิจารณ์ ข้าพเจ้า ได้ หาก จำเป็นจะต้อง ถอนตัวออก จากการพิมพ์ อาจจะต้อง จ่ายค่าเสียเวลา ค่าแรงงานที่เขาได้ "จัดหน้า" หนังสือให้เราแล้ว แต่ ที่จะ ตกบันไดพลอยโจน พิมพ์งาน เกินงบบานเบอะ เพียงเพราะ เกรงเสียหน้า ที่ประกาศทางเว็บ ว่าจะพิมพ์ เท่านั้นเท่านี้เล่ม แล้ว งบม้นโดด มันโลด เลย จะเลยตามเลย เห็นจะไม่ใช่ข้าพเจ้า เพราะ เงิน เป็นสิ่งมีค่า อย่างที่ข้าพเจ้า เกริ่นไว้แต่แรกว่า เราจะไม่ทำอะไรอย่าง ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ดังนั้น แม้นว่า จะไม่ได้พิมพ์ในปีนี้จะ ไม่ได้ นำ หนังสือไปถวายพระครูฯท่านในปลายปี ขึ้นปีใหม่ ตามที่หวังตั้งใจไว้ แต่ หาก จะ ขยับเวลาขึ้นแท่น แล้ว เปลี่ยนโรงพิมพ์ ยอมเสียค่า เสียเวลาจัดหน้า ก็คงจะต้องทำ เรื่องเสียหน้า เล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนั้น ข้าพเจ้า ไม่สนใจดอก แต่สนใจความรู้สึกของทุกคนที่ร่วมหวัง ร่วมบริจาค ร่วมลงมือลงแรงช่วยเหลือ อย่างเต็มอกเต็มใจ ว่าเราทุกคน ทำเพื่อบุญ แต่ หาก จะกลายเป็น ความหนัก อกหนักใจขนาดหนัก ก็ คงจะ ปล่อยให้เวลาคลี่คลายเพื่อจะ ทำอะไรได้ถูกลง ปิดงบได้ .... ข้าพเจ้าขอยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 9 ธ.ค. 50 01:07:29 ]

ความคิดเห็นที่ 34 หลังจากครุ่นคิดทั้งคืน และ เคร่งเครียดพอสมควร วันนี้ พอเสร็จธุระที่บ้านแล้ว ข้าพเจ้าก็รีบขึ้นรถไปยังโรงพิมพ์ เกือบ สิบเอ็ดโมงเช้าแล้ว          อย่างแรก คือ เข้าไปหาเจ้าของโรงพิมพ์ นำหนังสือที่เขาพิมพ์ให้ พระครูธรรมธรสัมฤทธิ์ วัดชนะสงคราม เมื่อต้นปี สองเล่ม ว่า เขาคิดเล่มละ เท่าไหร่ให้ข้าพเจ้า จากนั้น ก็ หยิบ เล่มที่ โรงพิมพ์ทางบางลำพู พิมพ์ให้ งานพระทอง ฯ วัดศรีประวัติ เมื่อปีก่อน เพื่อเปรียบเทียบความเป็นไปได้ ในราคาที่ควรจะ ลดลง  และ ก็ ขอให้ ลดขนาดลงเป็น เอ ห้า หรือ ครึ่งเอสี่ เจ้าของโรงพิมพ์ ก็ เรียก พนักงานที่ดูแลเรื่องนี้ ลงมาคุยในห้อง  ซึ่งเธอก็ ได้ ทำการ ย่อส่วน หน้าให้ดูว่า หาก หดลง 90 %  แล้ว ก็สามารถ เข้าหน้า ได้ โดยไม่ต้องจัดหน้าใหม่   ในที่สุดก็ตกลงกันตามนั้น เพื่อให้ผ่านได้ แต่ เรื่องราคา ทางเจ้าของโรงพิมพ์ ก็ยังไม่เคาะลงมาว่าเท่าไหร่ เพียง แต่ขอ ให้ไปจัดก้นให้เสร็จ และ ตกลงว่า ข้าพเจ้า จะต้ดบทกลอนส่วนที่ แทรกไป ท้ายหน้า ลง และ ตัดรายชื่อผู้บริจาคในการพิมพ์ ครั้งที่ ๑ ปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ออกไป  ซึ่ง สามารถลดลงไปได้อีก ประมาณ 8 หน้า ทำให้ หน้าลงอยู่ที่ ตัวเลข 208 หน้า หรือ 13 ยก  ก็ คาดว่าจะ ลดราคาลงจากเดิมพอสมควร                        ตอนเที่ยงก็ " ไล่" ให้น้องคนนั้น ลงไปหาอะไรรับประทานเสีย เธอก็มี  แก่ใจ มาถามว่าข้าพเจ้าจะ กิน อะไรดี เป็น ข้าวผัด ดีไหม ก็พยัก หน้า ส่งๆ ไป (อะไร ๆ ก็แก้หิวได้ เอามาเถอะ ) พร้อมฝากเงินไป 40 บาท           พอบ่ายเธอก็กลับขึ้นมาพร้อม ข้าวผัด มีกุ้งสองตัวขนาดอวบอ้วน ผัดมาด้วย นับว่า เป็นข้าวผัดทีเอร่อยกว่าที่ข้าพเจ้าเคยกินมา - อย่างน่า แปลกใจ         ต่างคน ต่างแก้งานกันไป หลายยก  ดังภาพที่จะแสดงให้ชม จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ วันรัฐธรรมนูญ 23:19:02 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คิด ๆ ไป ก็แปลกดี ในการที่ ไปสั่งพิมพ์ขนาด  ๘ หน้ายกพิเศษ ไว้ ทำให้ หน้าหนังสือ หด จากที่เป็น 300 หน้า ลงไปเหลือ 216 หน้าในครั้งแรก และ เมื่อข้าพเจ้า ทำการ ย่อลง ซึ่ง อาจจะทำให้ตัวหนังสือ ลดลง แต่ ก็ กลับทำให้ ขณะนี้ เหลือ เพียง 208 หน้า นับว่า กลับช่วยให้ ประหยัดงบ ลงอีก อย่างน่าแปลกใจ            ดังนั้น เหตุการณ์ครั้งนี้ คิด ๆ ไป ก็ไม่ใช่ ทุกข์ กลับกลายเป็น "ทำให้สบายใจขึ้น" ไปอีก            แต่เมื่อราคายังไม่กำหนด ลงมา ก็ทำใจแล้ว เพราะอย่างไร ก็พบกันครึ่งทาง และ เป็นครึ่งทางที่เราน่าจะได้ ราคาส่วนลดลงจาก 50 บาท เพราะหน้ามันลดลงด้วย..ดังนั้น ข้าพเจ้าจึง นั่งอยู่ที่ชั้นบน ตึกโรงพิมพ์   ร่วมกับพนักงานท่านอื่นๆ แต่คนละโต๊ะ  ตรวจอักษร การจัดหน้า การทำตัวเข้ม ตัวเอียง ฯลฯ การพิสูจน์อักษรในตัวเสร็จ สรรพ  เรียกว่า งานนี้ ทำให้พระ เต็มที่เหมือนเก่า แต่ น่าจะดีขึ้นตรงที่ ก็ได้ สถานที่นั่งทำงานที่โรงพิมพ์นี้ ดีกว่า มุมเล็กๆ แคบๆ ของโรงพิมพ์ ที่บางลำพู  และ เพราะที่นี่เขารับพิมพ์ให้ ทั้งหน่วยราชการใหญ่ ๆ และ นักการเมือง ในภาคบ่ายนั้นจึงเห็นท่านนักการเมืองเข้าไปสั่งงานด่วน นอกเหนือไปจาก งานโปสเตอร์ ลีฟเล็ทแผ่นปลิวอะไรที่เขาขะมักเขม้น พิมพ์กันอยู่รงพิมพ์ด้านล่างกัน จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ วันรัฐธรรมนูญ 23:41:07 ]

ความคิดเห็นที่ 36 แวะมาติดตามดู และเป็นกำลังใจให้ค่ะ :) จากคุณ : ปิยะรักษ์ - [ วันรัฐธรรมนูญ 23:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 37 จากนั้นก็เป็นการไล่ตรวจปรู๊ฟอย่างละเอียดอีกสองสามรอบ เพื่อ ให้มั่นใจว่า การสะกดและ สระต่างๆ ตลอดจนถ้อยความถูกต้องที่สุด เท่าที่จะทำได้ในเวลาที่จะทำได้      แล้วก็ถึงเวลาปรับแต่งรูปแบบการ วางภาพ ของบางหน้าที่ภาพ เข้าไปข้องเกี่ยว มิใช่เฉพาะ เรื่อง เนื้อหาสาระ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ วันรัฐธรรมนูญ 23:47:10 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ในช่วงเช้า จากที่วันก่อน ทิ้ง "คำสั่ง"  เรื่องภาพปกไว้ว่าจะอัญเชิญภาพ พระสุนทรีวาณี ผู้ที่ ชาว" อภิธรรม" เขาเคารพบูชา ขึ้นปก แต่ พอดูเข้าจริง ๆ ภาพที่เขานำมาวาง ไม่สวยงาม ประทับใจ ถึงแม้ว่าภาพ จะคมชัดมาก แต่ ความรู้สึก นั้น สมควรเพียงเป็นภาพเล็กๆ หรือ ภาพ ด้านปกหลังด้านในมาก กว่าจะขึ้นปก ข้าพเจ้าจึง ขอ ภาพ "พระพุทธรูปยืน ๒๕ ศตวรรษพุทธมณฑล"  แทน และ ขอให้จัดตามแบบที่กำหนดไว้แต่แรก  ซึ่งในที่สุด เราได้ ปก ที่งดงาม ขล้ง อย่างยิ่ง จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ วันรัฐธรรมนูญ 23:53:17 ]

ความคิดเห็นที่ 39 การกำหนด สี ปก และ สี เนื้อเรื่องด้านใน ข้าพเจ้า ก็ไปเป็น "ผู้กำหนดสี" ตามพอใจ ของตน โดยเทียบสีของเล่ม เก่า ๆ ที่เรา เคยได้พิมพ์ไว้ กับ สีใหม่ ที่เราจะได้ ตกลงกันได้ สีปก อย่างหนึ่ง และ สีเนื้อในอย่างหนึ่ง   จริงๆ แล้ว อยากได้ โทนสีเขียวขี้ม้าในเล่มนี้ แต่ ทางฝ่ายศิลป์โรงพิมพ์ ขอไว้ ว่า ใช้โทนน้ำตาลซีเพีย อย่างที่เคยพิมพ์ เล่มเก่าก่อน น่าจะดีกว่า ก็เลยสรุปไปตามนั้น         ในระหว่าง พึงพอใจกับงานที่ออกมา อยู่นั้น ก็มีบางอย่างน่าขำ ที่ข้าพเจ้า สงสัยว่า พระพุทธรูปยืนที่พุทธมณฑลนั้น ท่านยกมือซ้าย หรือ ยกมือขวา เพราะ ในแบบข้าพเจ้าต้องการให้ท่านยืนด้านซ้ายของ ปก แต่ ความที่รูปเป็นยกมือซ้าย ท่านจึงต้องเสด็จยืนประทับณ ด้านขวา ของปกแทน  ก็เกิดการโกลาหลกันเล็กน้อย จึงต้องโทรศัพท์ ไปถาม ตามเบอร์ทั้ง พระอาจารย์ มหาสำอาง วัดเลียบราษฎร์บำรุง แต่ท่านไม่ อยู่รับสาย คนที่รับสาย ตอบอย่างแข็งขันว่า ยกมือขวา       ครั้นแล้ว ก็ไม่แน่ใจ โทรฯ ไป ติดที่เบอร์ท่านอาจารย์วัฒนา ณ วัดศรีประวัติ คราวนี้ ท่านบอกว่า มือซ้าย แต่ ให้ ไป เปิดเน็ตดูสิว่า ที่พุทธมณฑล ยืนยกมืออะไร            ทางโรงพิมพ์ก็ต้องเปิดเน็ตขึ้นมาดู แล้วต้องร้อง เหวออออ กันเป็นแถว ด้วย ท่านยืน ยกมือซ้าย คราวนี้ เราทุกคน ต้อง ยอมรับ ว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ที่เรา คิดแต่ว่า ท่านยืนยกมือขวา  แง ม  แงม               เมื่อ สรุปจบ เนื้อหาได้ทั้งหมด รูปก็ลงตัว สีก็ลงตัว เหลือ เรื่องราคา ที่ถึงแม้ยังไม่รู้ แต่ก็ วางใจว่า การ "เปิดฉากคุยตรงตัว" ครั้งนี้ จะ ทำให้ เกิดสิ่งดี ขึ้น แต่ก็ยัง สำทับกับหัวหน้าส่วนฝ่ายศิลป์ ตรงนั้นว่า ...อยากให้ลด เยอะ ๆ  เอาละ ขอให้เขา ได้ ผ่านงาน ขึ้น แท่นในวันสองวันนี้ ให้ได้ อย่างน้อยให้ผ่านเพลทไปก่อน            หายใจขึ้นได้อีกนิด ขอบคุณ คุณ ปิยะรักษ์ ที่มาให้กำลังใจค่ะ แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 50 10:13:44 จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 11 ธ.ค. 50 00:04:33 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เช้านี้ เข้ามาแก้ไขข้อความพาดพิงบางส่วน   อันที่จริงเมื่อคืนดึกพอสมควร(เกือบเช้า )     แต่ มีโทรศัพท์มาหลายหนในช่วง เก้าโมง กว่า จึงรับสาย ได้ความว่า ทางโรงพิมพ์ กำลัง วุ่นๆ กับการจะ ส่ง ทำเพลท แต่ ติด กับ พระนาม ในหลวงฯ บนปก ข้าพเจ้า ก็ อนุโลมตาม ที่เขาขอ ไปสักพัก ก็ไปเปิดหนังสือสวดมนต์ พระวัดหนึ่งขึ้นมาเป็น แบบ อย่าง แต่ เสร็จแล้ว ก็ต้องโทรฯ กลับไป ระงับอีก ด้วยมีบางอย่างที่บ่งบอก ว่า ทางวัด ใช้ผิด ไม่ถูกต้อง  หากด้วยภาษาพูด เราจะ เอ่ยพระนามท่าน อย่างเคารพ สั้น ๆ นั้นได้ แต่ในภาษาเขียน สมควรจะ ใช้ ภาษาราชการ โดยเฉพาะบนปก จึง เปิด หนังสือกรมศิลปากร สองเล่มที่มีอยู่ เมื่อพระราช พิธีเฉลิม ฯ ๕ รอบ ปี ๒๕๓๐ ซึ่งพิมพ์ใน กันยายน พ.ศ.๒๕๓๑ เล่มหนึ่ง กับอีก เล่มหนึ่ง เป็นคำฉันท์เฉลิมพระเกียรติฯ ฉบับชนะการประกวด พิมพ์ในวโรกาสพระราชพิธีมังคลาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๓๑  เป็นหลัก แทน แม้นพระนามท่านจะยาวออกไปอีกหน่อย แต่ ก็ สมบูรณ์ตามราชการ ที่ ถวายพระนาม "มหาราช" ไว้ข้างท้าย          ในฐานะที่ จุดประสงค์หลักของพระครูฯ ท่านก็ดี กับทั้งด้วย ความ ประสงค์จะตอบแทนคุณชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ของข้าพเจ้าในปีนี้ ด้วยก็ดี  หากจะกล่าวพระนามท่านให้สมพระเกียรติ ตามราชการ ก็น่าจะ ถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด  เพื่อมิให้มีการโต้แย้งอิหลักอิเหลื่อ กัน บนหน้าปก ในที่สุด ก็ผ่านไปอีกขั้นตอนหนึ่ง          ข้าพเจ้าจึงนำมาบันทึกไว้ ทั้งด้วยเห็นข้อความในหนังสือเก่าเหล่านั้น ที่น่าจะนำลงมาพิมพ์เผยแพร่ ซึ่งนับเป็นเรื่องดีน่ารู้อีกเช่นกัน จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 11 ธ.ค. 50 10:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 41 แต่แล้วในที่สุด วันนี้ ก็ ขึ้นเพลทแล้ว....งานของเรา ลงตัวที่ ครึ่งราคาของขนาด เอสี่ ยกภูเขาออกจากอกได้เหมือนกัน ยกเว้นที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำ คือ การขอ หมายเลข isbn เพราะ ไม่ อยาก นำชื่อ หจก ของข้าพเจ้าไปพัวพันกับหนังสือพระอีก เดี๋ยว จะประวัติศาสตร์ซ้ำรอย จึง จะ ปล่อยการพิมพ์ไปตามธรรมชาติ คือ ใครจัดเรื่อง จัดหน้า พิมพ์ที่โรงพิมพ์ ไปอย่างที่ควรเป็น และ  หวังให้งานเสร็จด้วยดี          จากนั้น ก็ โทรศัพท์ไปทางวัด มีแม่ชีท่านหนึ่งมารับสาย ได้ ฝากเรื่องท่านไว้ ว่า ไม่เกินปลายเดือน หนังสือจะเสร็จ ข้าพเจ้า ก็จะ พยายามลงไปพบท่านพระครูฯ ให้ได้           พอ บ่ายๆ ก็ โทรฯ ไปหาเจ้าของโรงพิมพ์อีกรอบ เพื่อจะ ถามว่า จะมีทางส่งหนังสือไปแทนข้าพเจ้านำไปเองไหม ทางเจ้า ของโรงพิมพ์ ก็ ยินดีที่จะจัดการแทนให้ บอกไม่ต้องห่วง อันนี้ ข้าพเจ้า จำเป็นต้องเปลี่ยนแผน เพราะ สมาชิก บ้านคุณแม่ ปฏิเสธที่จะไปหัวหิน ประการหนึ่ง  และ อีกประการหนึ่ง สมาชิก ทาง ครอบครัวคุณที่บ้าน ว่าจะไป บ้านโป่ง ช่วงปีใหม่ ถึงจะลงใต้เหมือนกัน แต่ เจตนาคนละ อย่าง เลย ต้องขอตั้งสติ ก่อนว่าจะทำอะไร อย่างไร              ก็นับว่า ทุกอย่าง สำเร็จ ไป กึ่งหนึ่ง แล้ว เหลือ แต่ รอดูหนังสือที่จะพิมพ์ออกมาในไม่ช้านี้ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 11 ธ.ค. 50 17:18:37 ]

ความคิดเห็นที่ 42 แล้ววันนี้ สาย แล้ว ทางโรงพิมพ์ก็แจ้งว่า พรู้ฟสีมาแต่เมื่อวานเย็น แต่ไม่ได้ดูก่อน เพราะ ลูกน้องของเธอ สั่งแก้สีใหม่ไป จากนั้น เช้านี้ ทุกคนก็ได้เห็นหนังสือ แล้ว ว่าดีมาก แต่ ขอให้ พี่ ช่วยไปตรวจดูอีกที          เที่ยงกว่า เรียกว่า เกือบบ่าย ข้าพเจ้าก็ ขับรถฝ่าการจราจรจากเมืองหลวง ออกไปยังเขตชานเมือง ถึงโรงพิมพ์นั้นจนได้ จอดรถแล้ว ขึ้นลิฟท์พิเศษที่เขา ทำไว้ให้เฉพาะ เจ้านาย กับลูกค้าเท่านั้นถึงจะขึ้นได้ ไปยังชั้นสาม ตรงไปยัง ห้องที่เขา เปิดไว้ให้อีก กรุ๊ปหนึ่งกำลังตรวจปรู๊ฟ หนังสือของพวกเขากันอยู่ หนังสือของเรา วางอยู่บนโต๊ะหน้า  ขนาดอาจย่อส่วนลงทำให้ดู ขาดอลังการน้อยไปนิด แต่กระนั้น ก็เรียกว่า  เมื่อดูภาพทั้งหมด ก็เป็นที่ น่าพอใจอยู่ไม่น้อย ลองดูปกหน้า และ ปกหลัง  รวม ปกด้านใน ทั้งหมด ก่อน ****** ขอแค่คิดถึง [9 ธันวาคม 2550 09:24]         สวัสดีค่ะพี่.. แวะเข้าไปอ่านกระทู้ของพี่ที่ห้องกระทู้นอกเรื่องมา เห็นมีอะไรให้หนักใจ หลายอย่าง หนูเลยแวะมาส่งกำลังใจให้นะคะ.. ขอขอบคุณ คุณ ขอแค่คิดถึง ที่มีแก่ใจห่วงใยเกรงเงินค่าพิมพ์จะไม่พอ ได้ ร่วมบริจาคเพิ่มมาอีก ๑๐๐๐ บาท เข้าบัญชีมาให้เมื่อวานนี้ และแจ้งมาให้ ทราบ ขออนุโมทนาอย่างยิ่งค่ะ  ถึงแม้จะไม่มีชื่อเพิ่มรายการในหนังสือ แต่ก็หวังว่า จะได้บุญเต็มที่นะคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 13 ธ.ค. 50 22:35:18 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สีที่ถ่ายออกมาดูน้ำตาลเข้ม แต่ สีจริง อมส้มมาก ๆ ค่ะ เพราะ พิมพ์ปกสีน้ำตาลเข้มมาหลายปี ปีนี้ จึง ลดโทนให้ ออกส้มขึ้นอีกนิด แต่กระนั้น ก็ นับว่า ดูดีมากเมื่อเทียบกับ เล่มเก่าเดิม  ที่ทำไว้       วันนี้ ก็ ได้ นำเงินจำนวน หนึ่ง ไป ให้ทางโรงพิมพ์เป็นค่ามัดจำ การพิมพ์ไว้ก่อน  และ เมื่อพิมพ์เสร็จ จะจ่ายงวดสอง  และ อีกประมาณ เกือบเดือน หรือ กว่านั้นนิดหน่อย จะจ่ายงวดที่สาม ซึ่งทางโรงพิมพ์ เขาพิมพ์งานกันเป็นล้าน ๆ งบเรากระจิดริด แถมมาแซงคิวพวกล้าน ๆ ของชาวบ้านกันเสียด้วย ได้ยินเสียงบ่นอุบว่า สงสัยเส้นใหญ่ ต้องหัว เราะแหะ ๆ ว่า เห็นเจ้าของโรงพิมพ์ก็ตัวนิดเดียว ไม่ทราบว่าเส้นหมี่ หรืออย่างไร  ทางพนักงานโรงพิมพ์ จะเขียนใบเสร็จรับเงินเป็นชื่อ ข้าพเจ้า ก็รีบปฎิเสธทันควันให้เขียนในนามวัดไว้ก่อน ต่อเมื่องาน ส่งให้ท่านแล้ว ข้าพเจ้าจะ นำ รายชื่อผู้บริจาคเทียบกันในหนังสือ ไปให้ท่านเซ็นประทับตราวัด ในใบอนุโมทนามา ส่วนที่เกินอัตรา ไป ก็คงจะจัดการมาเท่าที่จะทำได้ค่ะ เพราะ ถึงเวลาเงินไปเที่ยวเดี๋ยว ก็มา ประมาณนั้น ก็หามาจ่ายได้  คงไม่ต้องกังวลมาก ซึ่งการทำงาน ให้วัดนี้ ข้าพเจ้าระมัดระวังตัวมากกว่าเดิม ถึงแม้ว่าท่านจะระบุให้ ข้าพเจ้าพิมพ์ได้ แต่ก็มิได้แปลว่า เป็นหนังสือของข้าพเจ้า อย่างไรก็ ยังเป็น ท่านเจ้าอาวาสท่านเป็นผู้เขียนผู้เรียบเรียงเทียบจากพระไตร ปิฎก และ จากที่มาต่างๆ ข้าพเจ้าเพียงผู้คัดลอก และ ผู้ปรับแต่ง หน้าตาหนังสือให้น่าดูขึ้น เท่านั้น แต่ จัดทำโดยความประหยัดเป็น ที่ตั้ง เพื่อ ที่ว่า ในอนาคต หากจะพิมพ์ใหม่ ก็ยิ่งประหยัดลงกว่านี้ เพราะคราวต่อไป จะไม่ต้องเสียค่าเพลท หรือ หากเสีย เพราะจะแก้ไข เพลท ก็ ไม่หนักเท่าครั้งแรก   ยังมีความหวังว่า จะได้พิมพ์เพิ่มอีกใน อนาคต   เสียดายที่ครั้งนี้ เรางบน้อย เราพลาด การพิมพ์สีพิเศษไป อย่างจัง เสียดายยิ่ง จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 13 ธ.ค. 50 22:57:37 ]

ความคิดเห็นที่ 44 แต่ ความที่เวลาก็น้อยมาก แซงคิวชาวบ้านมาได้ขนาดนี้ แถม "ปาดหน้ามารา" มาด้วย ความงง ๆ ว่า อ้าวจะได้หนังสือกับเขา ได้จริงๆ หรือ  เพราะ เทียบกับ หนังสือพระหลายเล่ม ท่านปรารภ ไว้ในหนังสือท่านเหมือนกับที่ข้าพเจ้าบ่นไว้ในกระทู้นี้ คือท่านบ่น เรื่อง การ จัดพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ มีความผิดพลาดมากมาย อีกทั้ง การพิมพ์บาลี ตกหล่นเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ คิดว่า เราคงจะต้องเคร่ง กับการพิมพ์ และ ตรวจปรู๊ฟ งานบาลีให้มากกว่าเดิม              นึกถึงโรงพิมพ์ "วิญญาณ " บางลำพู ที่ได้พิมพ์หนังสือ "พระคุณแม่ลูกกราบแทบเท้า " แม่จ๋าของข้าพเจ้า ที่เป็นงานรวม กลอนส่วนตัวเล่มแรกไว้นั้น เขา สั่งพิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตมันให้ ข้าพเจ้าทุกหน้า เน้น- ว่า ทุกแผ่นในหนังสือ ขนาด เอสี่ ค่ะ และ ราคา ที่ 1000 เล่มนั้น มากกว่าเล่มปัจจุบันนี้แค่ นิดหน่อยไม่มาก เท่าไหร่ก็มากเหมือนกัน สำหรับคนพิมพ์ครั้งแรก แต่ที่โรงพิมพ์นั้น เขาถือวิสาสะแก้ สคริปต์ข้าพเจ้าไปหลายอัน ข้าพเจ้าก็ทำอะไรไม่ เป็นเลยด้วย คือ พริ้นท์เลเซอร์มาจากหน้าเว็บ แล้ว ส่งไปให้เขาพิมพ์ ทั้งอย่างนั้น คือ ต้องการ "มู้ด" เหมือนคนเปิดหน้าเว็บแล้วอ่านกลอน ของข้าพเจ้าที่ลงไว้ในเว็บนั้น ๆ นั่นเอง           แต่ยังอุตส่าห์มีคนชมว่า หนังสือนั้นดีมาก ดีจริงๆ หลายคน เห็นราคาขายแค่เล่มละ 150 ของข้าพเจ้า แล้วทำตาโตว่าขายเท่านั้น ได้อย่างไร ข้าพเจ้า ยังเซ่อไม่หายว่า ทำไม ต้องทำตาโต ก็แค่นั้น ธรรมดา  ทีหลังต่อมา ได้พบเจ้าของโรงพิมพ์หลายโรง เขาบอกว่า ต้นทุนที่ถ้าให้เขาพิมพ์อาร์ตทุกหน้าอย่างนั้น คงเล่มละ เกือบ200 บาท แล้ว นั่นแหละค่ะ ถึงได้ ใบ้ ไปนาน   ที่ไปบ่นๆ ว่าโรงพิมพ์นั้น ทำไมพิมพ์แพง หุบปากเงียบไปเลย  ที่แท้ เขาพิมพ์ให้ถูกมากๆ อย่าง ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 13 ธ.ค. 50 23:24:39 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ที่แหวกประเด็นออกไปโรงพิมพ์วิญญาณ คือโรงพิมพ์นั้นเขา พิมพ์ อรรถกถา ให้การแปลบาลีพม่า บาลีเก่ามาเป็นบาลีไทย และ เป็นภาษาไทยสมัยปัจจุบันด้วย  เป็นประจำ  ที่นั่นมีนักบาลีมากมาย และ มี "กรรมการตรวจแก้" กันเป็นกิจลักษณะไม่แพ้ มหามกุฎราช วิทยาลัย  ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดบวรนิเวศ  เลยค่ะ        ที่โรงพิมพ์นั้น เป็น ของท่านอาจารย์พร  รัตนสุวรรณผู้ล่วงลับไป แล้ว ท่านเป็นฆราวาสผู้เป็นเกจิอาจารย์ เป็นปรมารจารย์ด้านบาลี อย่างหาตัวจับยากและ ถึงแม้ท่านจะล่วงลับไปแล้ว อรรถกถาฎีกาต่างๆ ก็ยัง ตรวจแก้ตรวจทาน พิมพ์กันอยู่มาถึงวันนี้ ด้วยคณะกรรมการ มูลนิธิของท่าน              ที่จริง ข้าพเจ้าก็แอบไป สอดส่ายถามอยู่เรื่อยว่า จะพิมพ์ให้ ข้าพเจ้าอีกบ้างได้ไหม ?  แต่ เจ้าหน้าที่แสนดีท่านนั้น ท่านจะบ่นว่า ไปหาพิมพ์โรงพิมพ์อื่นที่ถูก ๆ กว่านั้นเถิดไป เพราะ ระดับท่านพิมพ์ อรรถกถาฎีกา ระดับ เย็บเล่มกัน ปกแข็งเดินทอง ไม่ใช่พิมพ์อะไรหวือ หวาอย่างข้าพเจ้าทำ (คิดแล้วอายชะมัดกับงานเล่มหนึ่งที่ไม่เอาไหน ของข้าพเจ้า ) จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 13 ธ.ค. 50 23:31:21 ]

ความคิดเห็นที่ 46 หลายท่านมีคำถามว่า ข้าพเจ้ามานั่งพิมพ์หนังสือพระ ไปทำไม  เป็นคำถามที่ดี เพราะ หนังสือพุทธศาสนานั้น เป็นวิชา วิทยาศาสตร์ทางจิตที่ดีที่สุดของโลกมนุษย์ หาก เราไม่ช่วยกันพิมพ์ ก็เหมือนเราเกิดมาแล้วเสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์             อีกประการหนึ่ง เลือกหนังสือ ก็เลือกที่ท่านอ้างอิงพระ ไตรปิฎกอย่างเต็มปากเต็มคำหน่อย มิใช่ ไปพิมพ์หนังสือที่ "นั่ง เทียนเขียน" อย่างทั่วไป ไร้ประโยชน์ที่จะจัดพิมพ์ เพราะเท่ากับ ไปบิดเบือนพระพุทธศาสนา ไม่สมควรกับที่เกิดมาในยุค ระหว่าง 2500 คือ กึ่งพุทธกาล กึ่งพุทธกาลนี้ สมัยพระพุทธเจ้าท่านมีพระพุทธทำนาย ไว้ว่า จะมีพวก คนมีศีล มีธรรม มีปัญญา จะมีพวกเทพบุตร เทวดา นางฟ้า นางสวรรค์ฯลฯ พรหม ต่างๆ ลงมาเกิด เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนา แต่ในขณะเดียวกัน พวกสัตว์นรกอสุรกายที่อยู่ในนรกกันมาเป็นหมื่นๆ ปีก็พ้นทุกข์พ้นโทษทัณฑ์นรกมาเกิดกับเขาด้วยเหมือนกัน                  โลกมนุษย์กึ่งพุทธกาลนี้ ดูดีๆ ก็เหมือนกับดูหนังสงครามเทพ กับอสุรกายอย่างไรก็อย่างนั้น จึงเป็นเวทีแห่งการตึกันอันน่าอัศจรรย์ น่าบันทึกไว้อย่างยิ่ง  ในอนาคตชาติ พวกที่อ่านอักษรพวกเราถูก อ่าน ได้ จัก งุนงงสงสัย ว่า มนุษย์ในโลกนี้ ไฉนมันป่าเถื่อนกันถึงขนาดนี้ แต่ ในอนาคต อีก ไม่กี่ร้อยปี ก็ยิ่งป่าเถื่อนหนักเข้าอีก คนจะไม่สนใจ ศาสนา ยิ่งในทวีปเอเชียนี้ เห็นทีว่า พุทธศาสนาจะหลุดหายไป ไปโผล่ อยู่แถบยุโรปโน้น   ก็เห็นจะจริง ข้าพเจ้าได้เปิดเน็ตไปเห็นว่า อิตาลีเขา นับ พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติเขาด้วยไปแล้วเช่นกัน แต่พี่ไทย เรา กลับช่วยกัน หลบ ๆ ซ่อน ๆ แอบ ๆ คิดแล้วขำกลิ้ง จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 13 ธ.ค. 50 23:33:16 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อย่างที่ข้าพเจ้า เอ่ยไว้ต้น ๆ ลองไปอ่านกลับดูจะเห็นว่า พาดพิงถึง ชาวพุทธบางคนที่ข้าพเจ้ารู้จัก พอเปิดหน้าหนังสือเล่มนี้ดู ก็ร้องยี้ว่า ใครมันจะอ่านรู้เรื่อง "ท่านรู้ของท่านคนเดียว "                ข้าพเจ้าก็ได้ยินคนที่บ้าน เขาโวยสามสี่วันก่อน ที่ข้าพเจ้านำ หนังสือไปอวด เหมือนกัน เขาก็โวยเหมือน ท่านนั้นแหละว่า ศัพท์แสง อะไรยากเย็น เช่น สมุทเฉทประหาร อะไรทำนองนี้ ข้าพเจ้าก็เอ๋อนะคะ ตอบไปว่า ไมล่ะ ไม ไม่ หัด อ่าน ไม ไม่ หัด ฟังเทศน์ ฟังธรรม หลวง พ่อ ท่านเทศน์อภิธรรมให้ฟังไม่เห็นเธอสนใจเลย หากได้ยินได้อ่านอยู่ เรื่อย ๆ จน คำเหล่านั้น เข้าไป ในใจ เพราะ ความเคยชิน เคยได้ยิน วันหนึ่ง ก็ เข้าใจ จริง ๆ     เขาก็หา ได้สนใจไม่             นี่แหละ มนุษย์มนา ไม่ใช่ว่าเราวิเศษวิเสโสอะไรกว่าเขา แต่เพราะ เราได้ ศึกษา ได้ ผ่านหู ผ่านตา อยู่บ่อย ๆ เราจึงได้ มีปัญญาทางธรรม มาก กว่าเขาหน่อย แต่ หนังสือเล่มนี้ ท่าน ปรารภถึงการได้พบพระพุทธศาสนา แล้ว ไม่ ใส่ใจคำสอนให้ปฎิบัติ ของพระพุทธองค์  เหมือนข้าพเจ้าก็เช่นกัน มัก ผลัดเอาไว้ก่อน ว่า เมื่อนั่นเมื่อนี่ จะปฏิบัติธรรม ตอนนี้ อายุปาเข้าไป เท่าไหร่แล้ว ยังไปไม่ถึงไหน ยังอนุบาลสามอย่างไรก็อย่างนั้น เพราะไม่ใส่ จริง เพราะไม่ตั้งใจจริง เพราะยังเกาะเกี่ยวกับทางโลกอย่างสลัดไม่หลุด ดังนี้ เป็นต้น จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 13 ธ.ค. 50 23:35:07 ]

ความคิดเห็นที่ 48 แต่กระนั้นก็ดี เวลาที่ผ่านไปหลายปี ได้ สั่งสม หนังสือที่มีบุญได้ เก็บเกี่ยว การส่งเสริม ธรรมะ ของพระสงฆ์ นักปฏิบัติหลายองค์ไว้ ก็ให้ รู้สึกเป็นบุญที่ได้มีส่วนร่วมช่วยเผยแพร่พระศาสนา  และ ดีใจที่ปีก่อน ได้มีโอกาสช่วยพระทอง ฐิตธมฺโม วัดศรีประวัติ ท่านได้ พิมพ์หนังสือ วิปัสนากัมมัฏฐาน ของสำนักปฏิบัติธรรมวิวัฏฏะหัวหิน จึงทำให้ได้เห็น หนังสือปริยัติเล่มนี้ของท่านพระครูอนุรักษ์ชินวงศ์            ท้ายนี้ ก็ยังไม่ท้ายเสียทีเดียว ก็ยังจะส่งข่าวอยู่เรื่อย ๆ  กำลัง ฟังข่าวเรื่องที่บ้านกำลังจัดหารถที่สามารถ จะพาไป บ้านโป่ง ราชบุรี เพื่อไปกินกลางวันกับคณะญาติของคุณที่บ้าน แล้วจะกรุณาพาข้าพเจ้าไปกราบท่านพระครู ฯ ที่หัวหิน ปลายปี ดังประสงค์ โดยไม่เกี่ยวกับงบบริจาคทั้งหลาย ข้าพเจ้าก็กำลังฟังข่าวอยู่ด้วยใจจดใจจ่อ และ จะ ส่งข่าวให้ทุกท่านทราบว่า หนังสือเราจะ พิมพ์สำเร็จเป็นรูปเล่ม จริง ๆ เมื่อใด จะ ได้เห็นกันทางหน้าเว็บนี้ (นอกเว็บ) นี้   บุญเล็ก บุญน้อย นี้ ก็รีบเก็บเกี่ยวไว้เสียก่อน เพราะ ชีวิตมนุษย์นั้น เรากำหนดวันตายไม่ได้ อันเนื่องแต่ บุญกรรมวิบากเราทำไว้แต่หนหลัง แต่ วันนี้ เรากำหนด วันเวลา ในอนาคตได้ หากวันนี้เราทำดีแล้ว สวัสดีค่ะ บันทึกไว้ ณ คืน พระพฤหัส ๑๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐ เวลา ๒๔ นาฬิกา กับอีก ๒๕ นาที จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 14 ธ.ค. 50 00:26:30 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ก่อนจะจบเวลาค่ำนี้ คืนนี้ ฝากไว้สักนิดว่า ข้าพเจ้ารำพันเรื่องหนังสือ สิ่งที่ข้าพเจ้ารัก เสมือนวิญญาณของ ข้าพเจ้านี้ บางที ก็หวังจะ พิมพ์เหมือนกัน อีกหลายอย่าง และ มีหลายอย่างในพุทธศาสนา ที่ข้าพเจ้าย้งมิได้พาดพิงถึง ทั้งที่ควรจะวิพากย์วิจารณ์ แต่ข้าพเจ้าก็หาได้ไปแตะต้องเขา หรือ เธอ เหล่านั้นไม่         มิใช่ว่า ธุระไม่ใช่ แต่เป็นเพราะ คนเรา อย่างน้อย ถ้าคิดว่า ตัวเองดี แล้ว ก็คิดว่า คนอื่นเขาก็ดี ด้วยเหมือนกัน เพียงแต่ กังขาอยู่สักนิดว่า การปฏิบัติ ของแต่ละค่าย แต่ละสาย ที่ เขาปลื้มเปรมกันเหลือเกินกันอยู่ในสังคมนั้น...เขาปลื้มอะไร เขาปลื้มบุคคล หรือ เขาปลื้มธรรมะ บางทีเราต้อง ยอมรับว่า บางท่าน ที่เขา ประชานิยมกันไป เป็นวรรคเป็นวง นั้น...แท้ที่จริง ก็มิมีอะไร ปฏิบัติด้วยศรัทธากันไปอย่างไม่ได้พิจารณาด้วยปัญญา แล้วเรานั้น ปัญญาแค่ไหนกันเล่า ต้องถามตัวเองอยู่บ่อย ๆ ว่า ปัญญาแค่หางอึ่งจะไปวิจารณ์ วิพากย์เขาไปเพื่ออะไร พอคิดได้ดั่งนี้ ที่จะไป วิพากย์วิจารณ์เขา ทั้งที่รู้ก้นบึ้ง รู้ประวัติพิสดารพันลึก ของเขาบ้าง เธอบ้าง เหล่านั้น กลับหยุดได้ บางที คิด ๆ ไป เห็นเขาเด่น เขาดัง เกิดความ ฤษยา อย่างแรงกล้า ว่า อีโธ่เอ๋ยหล่อนนั้นมันแค่ไหนเชียว ร้ายเหลือเสียมากกว่า  แต่ พอ ได้สติ กลับหยุด ทันควันได้เหมือนกัน คือ บอกตัวเองให้หยุดได้แล้ว ไอ้ วิธี ผีเปรต ในเชิงคิดนั้น มันมิได้ ประโยชน์อะไรดอก  มันมีแต่ทำให้ใจเราขุ่นมัว ไปคิดเชิง "มันจะดีอะไร้ ก็แค่นั้นเอง " พอเสียที ชาตินี้เอาดีไม่ได้ ก็เพราะเที่ยวไปคิดเรื่อง " เขา" อย่างนั้นนั่นเอง เลยลองคิดใหม่ ตามที่หลวงพ่อเสือ ท่านสอนท่านสั่งไว้บ่อย ๆ ว่า " ดูเขา เราแย่ " ดูตัวเองดีกว่า ว่า รูปอยู่ที่ไหน นามอยู่ที่นั่น แม้นวินาทีเดียวใน 1 วัน กี่หมื่นวินาทีนั่น ก็ยังดีกว่า ไม่คิด ไม่ทำเลย            หากใจเรายังไม่หยุดอกุศล  บุญที่ไหนจะเกิด   คิดแล้วรู้สึก ละอายแก่ใจ ถึงแก่ต้องพิมพ์มาให้ญาติโยมอ่าน เพื่อเป็นอทาหรณ์ ว่า เที่ยวไปรู้เรื่องเขา แต่ไม่รู้เรื่อง เรา คือ ตัวเรา นี่มันแย่จริง ๆ (ขอยืมภาพนางแมวกับเจ้าตูบของนางมาร ฯ มาประกอบหน่อยนะคะ ) จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 14 ธ.ค. 50 01:17:25 ]

ความคิดเห็นที่ 50 สักพักหนึ่งก็ไปอ่าน ที่ท่านเจ้าคุณพระราชวิจิตปฏิภาณ ท่านเขียนธรรมไว้ ที่กระทู้ อภิธรรม กลับมานั่งคิด ว่าคนเรา มัวแต่ทำอะไรอยู่ ความตายมาเยือนเมื่อไหร่ จะหายใจครั้งสุดท้าย ด้วยความหลงผิด และ ความห่วงใย ใน ทรัพย์ ใน ลูก ในคู่ของตนอยู่กระนั้นหรือ         เรา ก้าวไปสักก้าว กับการปฏิบัติหรือยัง... มองไปรอบกายเรา ว่า เราทำอะไรที่เป็นระเบียบให้ชีวิตหรือยัง คำตอบมีแต่ว่า ยัง ทั้งนั้น .....เมื่อไหร่ดีล่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 14 ธ.ค. 50 02:12:37 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เมื่อวาน วันเสาร์ มีโอกาสไปแวะโรงพิมพ์ ได้เห็น ปกหน้าที่ปรู๊ฟสีพิมพ์เสร็จ จึง นำมาฝากไว้ ก่อนค่ะ     เล่มสีแดงนั้น ฝ่ายศิลป์ไม่รับ สี แต่ ได้ สี น้ำตาลอมส้ม สวยงาม อย่างปกซ้ายล่างค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 16 ธ.ค. 50 23:34:11 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ดูชัด ๆ อีกครั้งค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 16 ธ.ค. 50 23:46:05 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มีรายนามอีกเว็บหนึ่งแจ้งเพิ่มมาดังนี้ แต่คงไม่มีชื่อในหนังสือแล้วนะคะ FATAL_FRAME : 14-12-2007 08:13 AM ร่วมบริจาคไปเมื่อคืนวานนะครับ 200 บาท อนุโมทนาบุญด้วยครับ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 17 ธ.ค. 50 00:07:03 ]

ความคิดเห็นที่ 54 คุณ นกรำพึง ที่แจ้งมาว่าดังนี้ นกรำพึง [17 ธันวาคม 2550 16:13]         สวัสดีค่ะพี่ ทิกิ หนูขอร่วมทำบุญด้วยนะค่ะ เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาทค่ะ รบกวนขอเบอร์บ/ช ด้วยค่ะพี่ ขออนุโมทนาบุญ และ  ได้ส่งข้อมูลไปให้แล้วค่ะ ค้อปี้ภาพนี้มาจากเว็บอื่น เห็นเหมาะสมกับกระทู้ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 17 ธ.ค. 50 22:56:11 ]

ความคิดเห็นที่ 55 อนุโมทนาท่านผู้ใจบุญทุกท่าน ขอบพระคุณและ อนุโมทนาบุญ ท่านผู้มีจิตกุศลทุกท่าน ขออานิสงส์ในเจตนาทำบุญของท่านเป็นพลวปัจจัย ให้ท่านมีจิตใจอันมีสติปัญญานำ นำตนให้เป็นสุขในทุกที่ ทุกสถาน ทุกกาลเวลา ขอชื่อจริง และ ที่อยู่(ในประเทศไทย ) เพื่อเตรียมไว้ส่งหนังสือที่พิมพ์เสร็จ มาให้ด้วยนะคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 18 ธ.ค. 50 00:23:50 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ไม่ได้นำมาแจ้งถึง ท่านอีกเว็บ แจ้งว่า นำเงินเข้า jankhae เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 06:41 PM อยากร่วมทำบุญค่ะ ใช้เลขที่บัญชีธ.ไทยพาณิชย์ใช่มั้ยคะ บัญชีเดิมที่บอกไว้หน้าแรกใช่มั้ยคะ จะขอบริจาค 1000ค่ะ ถ้าได้รับเงินบริจาคแล้วรบกวนแจ้งด้วยได้มั้ยคะ คือกลัวไม่ถึงคุณ tiki น่ะค่ะ คือจะโอนพรุ่งนี้ค่ะ วันนี้ เข้าไปตรวจยอดเงินรับเพิ่มขึ้นอีก 2200 อนุโมทนาค่ะ และ ก็ เลยทำการ เบิกออกไปจ่ายค่าหนังสือ งวดสองให้โรงพิมพ์ ไปแล้ว และ เบิกหนังสือออกมา 300 เล่ม ส่วนอีก 900 เล่ม ทางโรงพิมพ์ จะจัดส่งวัด ในวันพรุ่งนี้   อนุโมทนาบุญทุกท่านค่ะ หนังสือสวยมาก จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 20 ธ.ค. 50 23:38:33 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เนื่องด้วย ต่างคนต่างยุ่งในปีใหม่ หลายท่านไม่มีเวลาว่างเสาร์ จึง กำหนดว่า พรุ่งนี้ จะนำหนังสือ อย่างน้อย 100 เล่ม ไปถวายพระภิกษุสงฆ์ที่ ป่วยเจ็บ โรงพยาบาลสงฆ์ เพื่อให้เป็นบุญ แก่ทุกท่านไปก่อน สำหรับ บ่ายนี้ เมื่อไปรับหนังสือ นำขึ้นรถตอน 17:15 นาฬิกา ก็เดินทางไป วัดสังฆทาน เพื่อพบท่านเจ้าอาวาส พระอาจารย์สนอง เพราะได้หนังสือที่เขาพิมพ์เผื่อมาอีกหน่อย จึง ได้ ถวายท่านอาจารย์ ไป 1 ห่อ คือ 26 เล่ม และ ได้ ถวายแก่มือท่านไป อีก 2 เล่ม ได้ถวาย ท่านอาจารย์ สามารถ 1 เล่ม และ ถวาย พระโกศล อีก 1 เล่ม ดังนี้ จึงขอให้ท่านทุกท่านร่วมอนุโมทนาบุญด้วย สำหรับท่านที่ประสงค์จะไปร่วมบริจาค หนังสือ ที่โรงพยาบาลสงฆ์ รอบ ต่อไป โปรดกรุณาแจ้งความประสงค์มาหลังไมค์ โดยด่วน จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 20 ธ.ค. 50 23:43:45 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เนิ่องด้วย เรื่อง การจะพิมพ์ ได้เป็นอดีตไปแล้ว บัดนี้ หนังสือพิมพ์แล้ว จึงขอส่งเรื่องนี้ต่อไปที่กระทู้ แล้ว ...หนังสือพระ ก็สำเร็จ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6152400/W6152400.html จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 21 ธ.ค. 50 00:32:40 ]

ความคิดเห็นที่ 59 สวัสดีปีใหม่พี่น้องทั้งหลายหน่อยค่ะ เนื่องในอภิลักขิตสมัย ปีใหม่สากล เปลี่ยนคริสต์ศักราช 2007 ไปเป็น คศ.2008  และ ทางไทยก็เลยพลอย เปลี่ยนพุทธศักราช จาก ๒๕๕๐ เป็น ๒๕๕๑ โดย ยึด วันขึ้นปีใหม่ ๑ มกราคม ด้วย ข้าพเจ้าก็ขอให้ทุกท่าน จง พรั่งพร้อมไปด้วยความสุข สดชื่น เงินตราไหลบ่ามาจากผู้เมตตาอารี จะหยิบจับการงานใด ๆ ก็ขอให้ลุล่วง ก้าวหน้า อย่าได้ติดข้องขัด  ขอให้ประสบแต่ความสุข ความเจริญ ทั้งในหน้าที่การงานและ ชีวิตครอบครัวทุกท่าน       จาก tiki_ทิกิ  ๑๙:๒๕ นาฬิกา คืนพระพฤหัสที่ ๒๗ ธันวาคม พระพุทธศักราช ๒๕๕๐ เรือนนนทบุรี สยาม  ราชอาณาจักรไทย ยังพอมีหนังสือ  " พระบรมสารีริกธาตุ- ชีวิตพอเพียง" ชาวห้องสมุดพันทิปร่วมพิมพ์ต้นปีอยู่บ้าง ผู้ใด ต้องการให้ส่งให้ในปีใหม่นี้กรุณา ส่งชื่อทีอยู่ ระบุ ต้องการหนังสือ " พระบรมสารีริกธาตุ- ชีวิตพอเพียง" ก็ช่วยไปลงชื่อไว้ที่นี่ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6152400/W6152400.html ก็ได้นะคะ ชื่อและ ที่อยู่ หรือ เบอร์โทรฯ ก็แล้วแต่ ส่งให้ ที่หลังไมค์เท่านั้นนะคะ ยินดีส่งให้เท่าที่เหลืออยู่ค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 27 ธ.ค. 50 20:01:01 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เรื่องหนังสือ "ตายแล้วไปเกิดใน ๓๑ ภูมิ ที่ทุกท่านร่วมบุญมานั้น ว่าจะไป ถวาย โรงพยาบาลสงฆ์ ส่วนที่เหลือ ในวัน ที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ นะคะ ขอเชิญทุกท่านไว้ก่อนที่นี่เลย จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 18 ม.ค. 51 08:06:01 ]

ความคิดเห็นที่ 61 หนังสือที่พิมพ์ไปแล้ว http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6021906/W6021906.html http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6152400/W6152400.html และ ที่กำลังจัดการใหม่เรื่อง "มะเร็ง" ด้วยค่ะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6235812/W6235812.html จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 18 ม.ค. 51 11:06:39 ]