วันหยุดทั้งทีออกไปเดินเล่นสวนจตุจักรก็ไม่เลว
ความจริงคืออยากเหลือเกินที่จะได้ต้นพิทูเนีย มาแขวนไว้
ริมระเบียง ให้พวกหล่อนได้สะบัดกลีบสีหวานสลอนหน้าสวย ๆ
ออกอวดสายแก่ตาผู้พบเห็น
ที่จตุจักร ยิ่งใกล้เที่ยงดวงอาทิตย์ก็ยิ่งเร่งแผดแสง
ผู้คนเริ่มหนาตา เบียดเสียด แต่ความอยากได้ทำให้ใจสู้
กัดฟันเดินหาซะทั่วทั้งโครงการก็ไร้เงาพิทูเนียโผล่หน้าทักทาย
ผู้หญิงผิวบาง เสื้อชมพู เดินถือร่มเชียงใหม่ กับความฝันถึงดอกไม้หลากสี
ชมพู แดง ม่วง ขาว ห้อยระย้าเต็มระเบียงเริ่มมอดไหม้
เดินไปเรื่อยเปื่อยเตรียมตัวกลับบ้าน งานนี้ต้องบอกว่าในความสิ้นหวัง
ยังมีความโชคร้ายรออยู่ เมื่อฉันได้สบตากับดอกไม้ชื่อสวยชนิดหนึ่งเข้า
กุหลาบนางฟ้า หรือ ภาษาสากลเรียก "Gloxinia"
ระหว่างสอบถามราคาต่อรองค่าตัวหล่อน
ฉันก็เริ่มออกอาการต้องควักยาดมมาจ่อจมูกบ่อย ๆ
ไม่ใช่สู้ค่าตัวไม่ไหวแต่ วิงเวียนเหลือทน รู้ทันทีว่าตัวเองเริ่มมีไข้อ่อนๆ
ลืมสิ้นคำถาม ที่ปรกติต้องยิงเป็นชุด เวลาไปซื้อต้นไม้
"ชอบแสงแดดหรือร่มรำไรคะ ใช้ปุ๋ยสูตรอะไร รดน้ำบ่อยแค่ไหน
กี่เดือนถึงเปลี่ยนดินในกระถาง"
มันติดอยู่ในความคิดแต่ไม่ยอมหลุดจากปากสักคำ
ใจที่เป็นนายคอยแต่จะสั่งสองเท้าให้พาฉันกลับมานอนพักอย่างเดียว
กลับมาถึงบ้านหลังจากได้พักผ่อนสักครู่
ก็จัดแจงพาพวกหล่อนไปอาบแดดริมระเบียง
เพ่งพินิจได้ชั่วครู่ก็ต้องอุทานอย่างผู้ดีว่า "ตายห่Xค่ะ" (เพื่อความปลอดภัยของอมยิ้มดิฉันขอเซ็นเซอร์)
ฉันเห็นพวกหล่อนสวยจึงหอบหิ้วมาแต่ปัญหามันอยู่ตรงที่
จะมีปัญญาเลี้ยงรอดมั้ย ชื่อสวย รูปทรงสีสันงาม แต่บอบบาง
เพียงลมพัดกระทบกลีบดอกพวกหล่อนก็ตั้งท่าจะปลิดปลิวแดดิ้น
ลำพังแค่ไม่ถึงชั่วโมงที่อยู่ในถุงก็สลดลงอย่างเห็นได้ชัด
วิธีการป้อนปุ๋ยรดน้ำก็ลืมถาม
ฉันถอนหายใจยาวจ้องหน้าพวกหล่อนที่เริ่มคอตกอย่างน่าสงสาร
ในใจเริ่มนึก "นี่ถ้าทุกส่วนบนลำต้นของหล่อน เด็ดมาจิ้มน้ำพริกกะปิได้คุณนายเขียมอย่างฉันก็คงไม่สู้เสียดาย"
แต่...แหมใครจะบ้ากินแม่กุหลาบนางฟ้าเป็นผักจิ้มน้ำพริกกะปิละคะคุณ
แกร๊กๆๆๆ สุดท้ายฉันก็มานั่งหลังขดหลังแข็งค้นหาข้อมูล
ของคำว่า "Gloxinia" ทางอินเตอร์เนต
และนี่คือข้อมูลส่วนตัวคร่าว ๆ ที่ทำให้ฉันรู้ใจต้นไม้ชนิดนี้มากขึ้น
- หล่อนข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากบราซิล หลากสีสันงามฉูดฉาด
- รูปน่ะสวย แต่จูบไม่หอม มีดีตรงที่ผลิดอกให้ชมได้ตลอดปี
- แค่แสงจากหลอดไฟก็พอแล้ว เพราะหล่อนเป็นไม้ประเภท house plant
- ดินที่ใช้ ควรมีอินทรีย์วัตถุ สูง ๆ ร่วนซุย
- กินน้ำน้อย
- หล่อนมีหัวสะสมอาหารในดินเมื่อถึงคราวที่อวดดอกสวยจนร่วงโรย
ช่วยทิ้งหล่อนไว้ให้แห้งเหี่ยวตามยถากรรม
ไม่ต้องกลัวหล่อนตรอมใจตาย ขุดเอาหัวขึ้นมาทำความสะอาด
เก็บไว้ในที่เย็นก็ปลูกใหม่ได้อีก
(ต้นไม้ประเภทหล่อนได้เปรียบมนุษย์อย่างฉันตรงที่ฉันมันเหี่ยวแล้วเหี่ยวเลยต่อให้ขึงหนังหน้าจนตึงเป็นกลองเพล ก็ไม่หวนคืนแล้วสังขารอันร่วงโรย)
ฉันอุ้มกระถางน้อยจากริมระเบียงเข้ามาสู่ตัวบ้าน
หล่อนเฉาลงอย่างเห็นได้ชัด ขอโทษนะแม่กุหลาบนางฟ้า ที่ฉันลืมศึกษาก่อนว่ากลีบบอบบางของเธอไม่อาจทนสู้แสงได้เท่าพิทูเนีย ฉันรำพึงในความคิด
เคยมีคนบอกว่าปลูกต้นไม้ต้องปลูกด้วยใจรัก ถ้าไม่รู้ใจเค้า
เค้าก็อยู่กับเราได้ไม่นาน รดน้ำพรวนดิน ต้องการแสงแดดแค่ไหน
ให้ศึกษาไว้ จะได้ไม่ชิงโบกใบลาตายก่อนกำหนด
จะว่าไปมันก็คล้ายกับการทำความเข้าใจระหว่างมนุษย์เราเหมือนกันแฮะ
คุณว่ามั้ย?
ปล.อารมณ์บ่น ๆ ค่ะ ตอนนี้กำลังนั่งมองกุหลาบนางฟ้า
ที่พึ่งไปซื้อมาสด ๆ ร้อน ๆ ^_^
แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 50 08:51:51
จากคุณ :
ชิฟฟอนคาปูชิโน่
- [
18 พ.ย. 50 23:18:35
]