Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    คนมีเพื่อน

    คนมีเพื่อน

    เพทาย

    ผมเคยเล่าไว้หลายครั้งแล้ว ว่าผมเป็นคนมีเพื่อนมาก เพื่อนบ้านที่ผ่านสงครามโลกมาด้วยกันก็มี เพื่อนนักเรียนประถมมัธยมก็มี เพื่อนพลทหารเกณฑ์รุ่นเดียวกันก็มี เพื่อนนักเรียนนายสิบก็มี เพื่อนร่วมงานก็มี เพื่อนจากวงเหล้าก็มี แทบจะจำหน้าค่าชื่อไม่ครบคน

    พอเกษียณอายุราชการ ก็ยังพอมีเหลืออยู่ไม่น้อย ลูกน้องเก่าก็ชมว่าหัวหน้าไม่เห็นเปลี่ยนแปลงเลย พอถึงเวลาคนไหนเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง ได้ดิบได้ดี ถึงวันเกิดวันแต่งงานญาติสนิท มิตรสหาย ก็บอกเล่าเก้าสิบกัน ไปพบปะสังสรรค์กันอย่างเคย บางคนเรียกคุณพ่อ บอกว่าวันเกิดคุณพ่อผมไม่มีวันลืม แต่เผอิญเจ้าคนนี้ดันตายก่อน เลยได้รับเลี้ยงไม่กี่ครั้ง

    ครั้นเกษียณมานานกว่าสิบปี ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปตามกฎอนิจจัง บางคนมีตำแหน่งสูงมากขึ้น จะตั้งวงเฮฮาปาร์ตี้เหมือนก่อนก็ขัดข้องกับฐานันดร บางคนที่มีอายุไล่เลี่ยกัน ก็เจ็บไข้ได้ป่วยสังขารทรุดโทรม บ้างก็อยู่บ้านเลี้ยงหลาน บ้างก็เข้าวัดถือศีลฟังธรรม นั่งวิปัสสนากรรมฐาน หรือหนีไปอยู่ภพอื่นก็มี

    เพื่อน ๆ ของผมที่ว่ามาแต่ต้น ก็ลดน้อยลงตามลำดับ จนถึงปัจจุบันก็เหลือกันอยู่ประมาณสองคนกว่า ๆ แต่ก่อนที่จะถึงวันนี้ไม่กี่ปี เจ้าลูกชายคนเล็กเห็นพ่อชักจะเหงา ก็ชวนให้เข้ามาเล่นอินเตอร์เนต ผมก็ว่าจะไปเล่นกับเขารู้เรื่องหรือ มีแต่เด็กทั้งนั้น เขาก็ว่าเอาเถอะน่าลองดูก่อน จะออกเงินค่าบริการให้ ลองดูสักปีหนึ่ง ถ้าไม่ไหวก็บอกเลิกได้ ขัดไม่ได้ก็เลยต้องเอา

    เจ้าลูกชายเขาคงรู้ใจผมจึงเปิดให้เข้าเวปพันทิปดอทคอม แล้วก็เลยไม่ค่อยได้แถไปไหน เพราะติดอยู่ในถนนนักเขียน เพราะการอ่านการเขียน เป็นเรื่องที่ชอบและผูกพันมาตั้งแต่เริ่มหนุ่ม เมื่อเข้ามาแรก ๆ ก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นผู้เฒ่าเหลาเหย่ เพราะสำนวนการเขียนไม่ได้บอกอายุ เพียงแต่ใช้คำศัพท์สมัยใหม่กับเขาไม่เป็นเท่านั้น

    เขียนเรื่องสั้นที่เป็นประสบการณ์ของตนเอง มาลงอย่างสม่ำเสมอได้เกือบปี ก็มีผู้ที่ชอบอ่านเรื่องสั้น ติดตามอ่านเพิ่มขึ้นอย่างน่ายินดี แล้วก็มีการวิสาสะพูดจาหยอกเย้ากันพอสมควร

    เพราะผมได้ตั้งปณิธานมาแต่ต้นแล้วว่า จะเข้ามาหาเพื่อนเท่านั้น ไม่ได้มาหาคู่ลับฝีปาก ใครล้อมาก็เล่นด้วยตามสมควร ใครซีเครียดมาก็อ่อนกลับไป หรือใครตั้งกระทู้ไม่ค่อยบันเทิงอารมณ์ อ่านแล้วก็เฉยเสียไม่ต้องลงชื่อว่าไม่ชอบ หรือแนะนำสั่งสอนหรือท้วงติง

    เพราะคนเขียนทุกคนเขาก็คิดว่าเรื่องของเขาต้องดีที่สุดอยู่แล้วทั้งนั้น เราจะไปวิจารณ์เขาทำไม ในเมื่อเราก็มีฐานะที่ไม่ดีไปกว่าเขา

    คนโบราณเขาว่าขัดไม้ยังเงางาม ขัดคอขัดใจไม่มีใครชอบแน่นอน

    แต่ก็ยังพลาดจนได้ เมื่อไปล้อเลียนนักเขียนท่านหนึ่ง โดยไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรเลย แต่เธอเข้าใจผิดไปอย่างไรไม่ทราบ โกรธเสียเอาเป็นเอาตาย ขอโทษตั้งหลายครั้งก็ไม่ยอมอภัย จึงรู้สึกเสียใจอย่างมาก และรู้สึกเป็นบาปติดตัวมาจนบัดนี้

    แน่นอนที่เธอเป็นนักเขียนหญิง ถ้าเป็นชายผมอาจจะเสียใจน้อยกว่านี้ หรือลืมไปแล้วก็ได้

    เมื่ออยู่มานานขึ้น ก็มีโอกาสได้พบเพื่อนตัวจริงในงานสังสรรค์ ได้พูดคุยกันหลายครั้ง โดยเฉพาะเมื่อมีงานแต่งงานของเพื่อนชายหญิง ที่เป็นนักเขียนทั้งคู่ ก็ได้เจอเพื่อนทีคุ้นเคยชื่อมากมาย แล้วก็คบหากันต่อมาบ้างห่างหายกันไปบ้าง ตามกฎอนิจจังเช่นเคย

    เมื่อชักคุ้นเคยสถานที่ขึ้น ผมก็เตร่ไปตามห้องต่าง ๆ ที่เมื่อแรกเขาเรียกว่าโต๊ะ คือเขาสมมุติว่าพันทิปเป็นคาเฟ่ เข้ามาก็เจอโต๊ะ แต่ผมคุ้นเคยกับภัตตาคาร เข้าไปก็เจอแบ่งเป็นห้อง ๆ ในเวปนี้ผมเห็นมีแต่ห้องสมุด ก็เลยเรียกโต๊ะที่เขาแบ่งไว้เป็นห้องไปหมด

    เคยเข้าไปเล่าเรื่องแมวและขอความรู้ในการเลี้ยงแมวจากห้องจตุจักร ก็ได้เพื่อนเป็นคนรักแมว เวลามีการขอความช่วยเหลือแมวจรจัด ก็แจ้งมาให้ทราบเสมอ

    แล้วก็เลยไปที่ห้องไกลบ้าน ก็ได้เพื่อนต่างประเทศเป็นแท็กซี่ไทยในนิวยอร์ค ซึ่งเล่าเรื่องได้สนุกมาก จนสำนักพิมพ์ในเมืองไทยขอไปรวมเล่ม ผมก็อยากได้แต่ไม่ทราบเสร็จหรือยัง

    แล้วก็ระเรื่อยไปถึงคลับสามก๊ก และมุมประวัติศาสตร์ ซึ่งมีผู้รู้จริงรู้กว้างขวางและรู้ลึกซึ้งในสองเรื่องที่ว่านั้น ก็ได้เพื่อนมาอีกหลายคน

    เดี๋ยวนี้เข้าห้องไร้สังกัด ทั้ง ๆ ที่ผมมีสังกัดอยู่แล้ว ไปเล่าเรื่องของคนวัยทองให้เขาอ่าน ก็มีผู้สนใจไม่น้อยกว่าในถนนนักเขียน แต่ยังไม่มีเพื่อนสนิท ทั้ง ๆ ที่มีผู้สูงอายุคอใกล้เคียงกันหลายคน

    มีเพื่อนอยู่คนหนึ่งในถนนนักเขียน ที่ได้พูดคุยถูกคอกันดี เพราะมีอายุค่อนข้างมากกว่าใคร และมีรสนิยมคล้ายคลึงกัน ครั้งแรกพบกันในกรุงเทพแถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แล้วหลังจากนั้นก็พบกันอีกหลายครั้ง แถวดอนเมือง

    ซึ่งแม้ผมจะต้องเดินทางไกลมาก และกลับเมื่อตะวันลับฟ้าแล้วก็ไม่ย่อท้อ เพราะถ้าปล่อยให้เพื่อนเอารถฝากไว้ที่ดอนเมือง แล้วขึ้นรถเมล์มาเจอกันที่กรุงเทพ ขากลับเพื่อนจะต้องขึ้นรถเมล์กลับบ้านประมาณลาดพร้าว หรือรามอินทราก็จำไม่ได้ ให้เป็นที่ลำบากลำบน ไม่เหมือนผมซึ่งนั่งรถเมล์มาต่อแท็กซี่ ไม่ถึงสองชั่วโมงก็ได้นอนแล้ว

    เพื่อนคนนี้เป็นคนที่ดื่มอย่างมีระดับ ไม่ว่าจะเป็นบรั่นดีหรือวิสกี้ ในเวลาอันพอสมควรจะไม่เห็นกิริยาอาการ คำพูด หรือความคิดเห็น แปลกเปลี่ยนไปจากปกติเลย

    ครั้นเห็นว่าผมดื่มเบียร์ผสมโซดา เพื่อนก็มาช่วยผมดื่มเบียร์ ขนาดถึงขวดที่สิบเอ็ดแล้ว โดยผมดื่มไปได้แค่สองขวด ก็ไม่เห็นเป็นไร แต่เบียร์หมดร้านแล้ว จึงต้องเปลี่ยนสถานที่ไปต่อใหม่

    คราวนี้เอาที่มีคาราโอเกะโดยนักร้องมาร้องให้ฟัง ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาดื่มเลย

    ในปีนี้ดูเหมือนพบจะได้พบเพื่อนท่านนี้เพียงครั้งเดียว เพราะผมเกิดมีอาการของโรคทางสมองนิดหน่อย พอทุเลาก็มาเจ็บกระดูกนิดหน่อย แต่มันเป็นที่หัวเข่าเลยเดินเหินขึ้นลงรถเมล์ลำบากขึ้นไปอีกนิดหน่อย จึงผัดแล้วผัดอีกหลายหน ยังไม่ได้พบกันสักที จนเกือบจะสิ้นปีไปแล้ว

    พอผมค่อยยังชั่ว ว่าจะเดินทางไปสังสรรค์สนทนาเหมือนอย่างเคย เพราะพอจะทุเลา การกระโผลกกะเผลกลงแล้ว เพื่อนก็ส่งข่าวมาว่าเกิดการป่วยขึ้นมาบ้าง

    ครั้นถามรายละเอียดของโรค ว่าจะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลภูมิพล เพราะอยู่ใกล้ดอนเมือง กลับได้ข่าวว่าเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกทรวงอก

    ก็ไม่ทราบว่าร้าว หรือเดาะ หรือหัก กันแน่ แต่ดูเหมือนจะไปรักษาตัวอยู่ที่ร้านคาราโอเกะเจ้าใหม่แล้ว อีกไม่นานคงจะทุเลาลง ขอให้โชคดีนะเพื่อน.

    ###########

    จากคุณ : เจียวต้าย - [ 21 พ.ย. 50 06:40:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom