หลังจากที่อ้อนวอนเว้าวอนด้วยสายตาและคำพูดตัดพ้อมาหลายอาทิตย์ หม่าม้าของผมก็ยอมให้ผมเขียนตอนต่อไปซะที ก็แหม...ถ้านานไป ผมก็กลัวแฟนๆคลับของผมจะลืม ก็รู้แหละครับว่าพระมารดาของผมยุ่งแค่ไหนในช่วงที่ผ่านมา แต่ไอ้วันที่เมากลับมานี่ผมขอบอก...นอกบ้านจะเก๊กยังไงไม่รู้ กลับมาถึงห้องนี่ดูไม่จืด (ก็จะจืดยังไง เหม็นเหล้าออกอย่างนั้น ผมละหน่าย)
เอ้า...เวรล่ะครับ เธอหันมามองผมตาขวาง หยุดนินทาดีกว่าเดี๋ยวผมจะอดเขียนต่อ ก็ชีวิตของลูกหมูน้อยๆอย่างผมนี่มันตกอยู่ในกำมือของผู้หญิงโหดๆคนนี้เขาเข้าไปแล้ว จะร้ายจะดียังไง เราก็เป็นแม่ลูกกัน สายใยสวาท (เอ...:-)ๆ) ตัดไม่ขาดหรอกครับ
มาต่อความจากตอนที่แล้ว หลังจากที่เราได้พบได้ตกลงรวมกันเป็นครอบครัว มันก็ถึงวันที่หม่าม้าของผมจะโบกลาเมืองผู้ดี กลับมาบ้านเกิด ด้วยความรักและความน่ารักของผมที่ตอนนั้นยังสีชมพูปิ๊ง (และการก่อการร้ายยังไม่บังเกิด) ผมก็เลยไม่ต้องขดตัวในกระเป๋า แต่ได้มานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่บนตักหม่าม้าในเครื่องบินลำโต ก็นับว่าเป็นการเดินทางโดยเครื่องบินของผมเป็นครั้งแรก (ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีอีกนับไม่ถ้วน 555555) ระดับผมแล้ว ไม่เคยธรรมดา
ขากลับบ้านคราวนั้นมีน้าชายผมคือ..เจเจ น้องชายหม่าม้าที่ตอนนั้นยังตัวกระเปี๊ยก อายุแค่ 11 กว่าๆ กลับมาด้วยเพราะเขาไปเรียนซัมเม่อร์ที่โน่น พูดถึงน้าคนนี้ ตอนเด็กๆก็ทักทายผมดี พอโตเป็นหนุ่มมาทำเมิน ลืมความสัมพันธ์เมื่อครั้งเยาว์ไปหมด ทำให้ผมน้อยใจอยู่บ่อยๆ เข้าเรื่องๆ เอ...นิสัยเปลี่ยนเรื่องไปมานี่ไม่รู้มาจากใคร สายเลือดมันแรงครับ ต่อ..ต่อ...
บนเครื่อง...เจเจก็นั่งข้างๆผมกับหม่าม้า (ก็จะไปนั่งที่ไหนเล่า...โอ๊ย....แม่ผมตบกบาลเข้าให้...ไปกระทบอะไรน้องรักเขาได้ที่ไหน) แอร์โฮสเตสฝรั่งผมทองก็ต้อนรับอย่างดี และเพราะเจเจเป็นเด็กน้อยที่ชอบเมาเครื่องบินก็เลยหลับตลอด ถ้าหม่าม้าไม่ปลุกให้ตื่นมาเข้าห้องน้ำก็คงได้เปียกแหละครับ แม่ฝรั่งผมทอง (ที่ผมชอบเลยครับ เพราะอกตู้มมาก สเป็คผมต้องอย่างนี้ครับ ไม้กระดาษไม่รับ) ก็ยิ้มหวานมากถามหม่าม้าเป็นภาษาที่ผมเข้าใจได้ดี (ก็ผมเด็กนอกนี่ครับ) แปลได้ว่า....ลูกชายไม่ทานอาหารหรือคะ...แล้วตุ๊กตานี่น่ารักจัง...ลูกชายคงติดมาก.....
ได้ครับ...ได้เรื่องซะแล้วยัยนี่ มาแหย่พระมารดาผู้ขี้วีนสุดๆ หม่าม้าผมหันไปทำหน้าเฉยเมย บอกยัยผมทองอกตูมๆที่กำลังจะโชคร้ายด้วยสำเนียงที่ผ่านการขัดเกลาอย่างดีว่า.....เขาไม่ใช่ลูกชายดิฉัน...เป็นคัสซิน (เออ...แปลว่าลูกพี่ลูกน้อง)...แล้วเจ้านี่ (ผมเองแหละ) ก็ของดิฉันเอง..... เท่านั้นแหละครับ...แอร์โฮสเตสสาวผู้ตระหนักแล้วว่าตัวเองได้พลาดอย่างใหญ่หลวง ก็รีบขอโทษแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว พอเธอลับไปหม่าม้าผมก็แสดงอาการเสียเซลฟ์ออกมาทันที รีบคว้ากระจกมาตรวจดูความเรียบร้อย แล้วหันไปค้อนน้องชาย (ที่หลับเป็นตาย) บ่นกระปอดกระแปด (ที่มีผมคนเดียวได้ยิน)....มาว่าเป็นลูกฉัน...บ้าเหรอ...อายุแค่ 24...ใช่มั้ยถ้วยฟู...อย่างหนูสิถึงจะเป็นลูกหม่าม้า...
ผมฟังแล้วก็ปลง....หลับดีกว่า เพราะความสุขของผมคือการได้ซุกตัวอยู่กับอกหม่าม้าของผมนี่แหละครับ อ้อมแขนที่กอดไว้ บอกให้ผมรู้ว่า ไม่ว่าจะเป็นยังไง เกิดอะไร หม่าม้าที่แม้ (ภายใน) จะอ่อนแอ ก็จะปกป้องลูกหมูสีชมพูกลมๆน่ารักอย่างผมสุดชีวิต การเดินทางของเราสองคนแม่ลูกยังอีกยาวไกล อย่าลืมติดตามนะครับ อยากจะเขียนยาวกว่านี้ แต่หม่าม้าบอกขี้เกียจ บอกให้ผมหัดจิ้มแป้นเอง แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไง เท้าผมมันเป็นแค่ตุ่มๆสี่ตุ่ม รู้ว่าต้องง้อ...ผมละเซ็ง นี่แว่วๆมาว่า คืนนี้นัดเพื่อนเก้งไปซ่าส์อีก อย่าเมากลับมาให้ปอเต๊กตึ๋งขับตามอีกนะ ผมอายเขา
**********************
ลูกชายชาราบูน
จากคุณ :
ลั่นทมขาว
- [
23 พ.ย. 50 10:09:34
]