Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ขอเธอจำเอาไว้ว่าหัวใจ...อยู่ที่เดิม - for you my best friend

    เพิ่งกลับมาจาก Cement Application Course 2007 ที่สวิตเซอร์แลนด์ ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกในยุโรป ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไปต่างประเทศ เพราะชีวิตต้องชีพจรลงเท้ามาแล้วมากมายหลายประเทศ

    แต่เป็นครั้งแรกที่ต้องเดินทางไปไกลขนาดนั้นคนเดียว ไม่มีใครมารับ ขากลับก็จะไม่มีใครมาส่ง ไปนั่งเรียนอยู่ที่นู่นคนเดียวกับคนหลายชาติสองอาทิตย์

    สองอาทิตย์สำหรับคนบางคนอาจจะสั้น ในขณะที่บางความรู้สึกก็ยาวนาน จนเหงาจนแทบจะขาดใจ

    จากวันแรก สองวันแรกที่น่าเบื่อแสนยาวนานและหนาวเย็นเหยียบ กลับกลายเป็นวันที่สามที่สี่ จวบจนวันสุดท้าย ที่อบอุ่น อยู่ท่ามกลางหิมะโปรยปราย กับ best friend ที่เดินไปกินข้าวด้วยกันทุกวัน มื้อเช้า มื้อเที่ยง แล้วก็มื้อเย็นตั้งแต่วันแรก จนมาถึงวันสุดท้าย

    จากวันแรกที่เหยีบบสนามบินซูริคที่แสนจะน่าหวาดกลัว จนถึงวันสุดท้าย รอยเท้าสุดท้ายที่ฝากไว้ที่สนามบินซูริคพร้อมคราบน้ำตา

    I miss you na my brother, my best friend.

    นึกถึงโรงแรม Aarauerhof ที่เป็นที่พักตลอดเวลาสองอาทิตย์, restaurant ของโรงแรมที่ต้องกินอาหารเช้าหน้าตาเดิมๆตลอดสองอาทิตย์, สถานีรถไฟของเมือง Aarau ที่เกือบจะเหมือนบ้านในทุกๆครั้งที่ต้องเดินทางไปเมืองอื่นๆ เช่น Luzern, Bern, Basel, Olten และใดๆ, ร้านขายของชำเล็กๆในสถานีรถไฟที่ซื้อน้ำดื่มตลอดเวลา, ถนนสายที่หนาวเย็น และมีหิมะโปรยปรายตลอดเวลาที่เดินไปกินข้าวเย็น และเดินกลับมาโรงแรม

    เพื่อนร่วมทางเดินที่เดินฝ่าฝน ฝ่าลมหนาวต่ำกว่า 5 องศา ฝ่าหิมะไปกินข้าวด้วยกันสองคนทุกคืน เพื่อนคนที่บอกว่า ไอยังไม่ค่อยหิว เราเดินหาร้านอาหารไปเรื่อยๆจนกว่าจะหิวก็ได้

    เพื่อนคนที่เป็นทั้งพี่ชาย เป็นที่ปรึกษา เป็นกรรมการห้ามมวยศึกไทย-จีน และ ไทย-โรมาเนีย

    เพื่อนที่ให้กำลังใจน้องสาวคนนี้เรื่องความรัก (ที่ตอนนี้ผิดหวังไปเรียบร้อยแล้ว)

    เพื่อนคนที่รู้สึกสนิทที่สุดทั้งๆที่รู้จักกันแค่สองอาทิตย์ในชีวิต

    เพื่อนคนที่บอกว่า I am a good guy. Right? I know you know me.

    จากที่นึกไม่ออกว่าหมายถึงอะไร จนวันนี้นึกออกแล้วว่าหมายถึงอะไร ก็จริง ไม่คิดว่าตัวเองจะไว้ใจผู้ชายคนไหนได้มากขนาดกล้าทำแบบนั้นได้เหมือนกัน

    จนถึงวันนี้ รายละเอียดของถนนสายนั้นยังจำได้ไม่ลืม ยังจำความเย็นจากเม็ดหิมะที่โปรยลงมาต้องหน้า ไออุ่นจากแขนที่โอบ รอยจูบลาที่หน้าผาก และรอยแตะลาสุดท้ายเบาๆที่แก้มที่สนามบิน

    I already told you I miss you na my mas Hafit.

    Now we are in the real world that we have too many limitations.

    If now we are in Aarau, Switzerland and if I can return to that time we've passed and if we don't have any limitation like this, I need to tell you I love you.

    I am missing you, I am thinking of you.

    I need your arms to hold me tight, I need your words for hearing, I need your eyes to see me, I need your lip to kiss me again.

    ขาขึ้นเครื่องบินกลับ ไฟลท์ของเพื่อนมี boarding time เร็วกว่าเราหนึ่งชั่วโมง ช่วงเวลาที่ร่ำลากันตรงหน้า gate ช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนจะเศร้า

    สายตาที่อบอุ่นเหมือนเดิม รอยยิ้มที่ยังมีให้เหมือนเดิม ปากที่พยายามจะพูดคำร่ำลา จนเราต้องบอกว่า " Hafit, don't make me cry na"

    สุดท้าย คำพูดมากมายนั้น ก็เหลือแค่คำสั้นๆว่า " Takecare na kwan " พร้อมๆกับมือที่เอื้อมมาแตะเบาๆที่แก้ม

    ไม่รู้ว่าในชีวิตนี้จะได้มีโอกาสเจอกันอีกไหม แต่รู้สึกดีมากที่ในชีวิตนี้ ได้มีเวลาสองอาทิตย์ที่เหมือนอยู่ในความฝัน เหมือนอย่างที่เพื่อนรักส่ง email มา

    " Two weeks in Switzerland and all what we've passed, yes it's like sweet dream for me too especially having you as my best friend "

    " I miss you too "

    " Hafit S."

    ถึงแม้วันนั้นฉันจะมีคนที่รักอยู่แล้วอยู่ในใจ ถึงแม้วันนั้นคุณก็มีคนที่คุณรักอยู่แล้วเช่นกัน แต่มนต์ของหิมะและอากาศที่หนาวจับใจ คงทำให้หัวใจของเราสองคนต้องการความอบอุ่นมากกว่าปกติ ในประเทศที่ห่างไกลนั้น ฉันรู้ดีว่าช่วงเวลาที่แสนสั้นนั้นมีค่ามากมาย คุณถอดแหวนแต่งงานออก ฉันเก็บคนที่ฉันรักไว้ในลิ้นชักที่ลึกที่สุดในหัวใจ

    ฉันรู้สึกและสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ผิดปกติของเราสองคน ฉันรู้ดีว่าช่วงเวลาที่เราได้เดินไปกินข้าวเย็นด้วยกัน คุณไม่ต้องการให้มีคนอื่นนอกจากเรา ความรู้สึกเขินเล็กๆ ความรู้สึกอิ่มเอมเต็มตื้นในหัวใจตอนที่เรานั่งกินข้าวด้วยกันสองคน ช่วงเวลาเขินๆเหมือนได้ย้อนกลับไปเป็นวัยรุ่นจีบกันอีกครั้งตอนที่เรานั่งกิน MC ด้วยกัน

    ทุกๆครั้งที่เรานับว่าเหลืออีกแค่กี่วันที่จะเราจะได้อยู่ที่นี่ แม้คำพูดของเราจะเหมือนกับว่าเราจะอยากกลับไปสู่บ้านเกิดเมืองนอนเสียเต็มประดา แต่เราก็รู้อยู่ในใจ ว่าเวลาที่เป็นของเราสองคน ความฝันของเรากำลังจะสิ้นสุด แล้วเราก็จะต้องตื่นเสียที

    คุณพยายามขอร้องให้ฉันนั่งรถไฟจาก Aarau ไปสนามบินซูริคเที่ยวเดียวกับคุณ ทั้งๆที่ฉันไปเลทกว่านั้นสักหนึ่งชั่วโมงก็ได้

    ส่วนฉัน ทั้งๆที่จะนอนตื่นสายอีกหนึ่งชั่วโมง แล้วค่อยไปสนามบินก็ได้ แต่ฉันก็เลือกที่จะตื่นเช้า และไปสนามบินพร้อมกันกับคุณ

    ขอบคุณที่มอบความฝันดีๆให้ที่สวิตเซอร์แลนด์ ขอบคุณที่มอบความรู้สึกที่ได้เป็นที่รัก และได้รักใครซักคนให้ แม้จะเป็นแค่ในช่วงสั้นๆ

    ทุกวันนี้คุณคือ Mas Hafit ของฉัน และฉันคือ My little sister kwan ของคุณ

    but we know we are best friends.

    ขอบคุณสำหรับภาพที่ส่งมาให้ นึกไม่ออกเลยว่าคุณมาแอบถ่ายรูปฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ และมีกี่ภาพกันที่คุณแอบถ่ายไว้

    ส่วนคนที่ฉันรัก ตอนนี้เราเลิกกันแล้ว (อีกแล้ว) ไม่ใช่นะ ฉันไม่ได้ทิ้งเค้าหรอก ก็ฉันรักเค้ามากมายขนาดนั้นนี่นา ฉันจะเลิกรักเค้าได้ยังไง

    มันก็แค่ เค้าคงรักฉันไม่มากพอ ที่จะร่วมชีวิต ที่จะช่วยกันสร้างครอบครัวไปกับฉันได้

    ไม่เป็นไรหรอก อากาศที่เมืองไทยหนาวไม่มาก ยิ่งเมื่อเทียบกับที่สวิตเซอร์แลนด์

    หัวใจของฉันยังอุ่นพอที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ โดยอาศัยความทรงจำอุ่นๆของเรา

    I miss you Hafit, takecare na

    Bangkok, Thailand.

    จากคุณ : Everything is gonna be fine - [ 23 พ.ย. 50 22:26:47 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom