Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    แก๊งป่วนปะทะก๊วนเก๋า... ;\.0./; ปีสอง ตอนที่ ๒ .. เกาะเกร็ดซิตี้

    ความเดิมตอนที่แล้ว
    http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2007/04/W5359610/W5359610.html

    เข็มสั้นเลขสิบ เข็มยาวเลขสิบสอง ตรงเป้ง !   ตึกเปิดให้เข้าไปใช้บริการ  พสิกาฝากของไว้ที่เคาน์เตอร์
    และสอบถามหาเจ้าหน้าที่ ที่เคยติดต่อกันไว้ เมื่อได้ความว่า เขาจะเปิดให้ขายหนังสือทำมือช่วงบ่าย  โดย
    การวางขายตรงที่หน้าตึกได้เลยใครสะดวกจะปูผ้าก็ปู ใครนำโต๊ะญี่ปุ่นมาด้วยก็วาง     ให้พื้นที่ด้านข้างตึก
    ทั้งหมด ไม่ต้องจับจอง ไม่ต้องแย่งกัน แบ่งๆ ปันๆ กันไป พสิกาพยักหน้าแม้จะยัง งง ๆ   แต่ก็ยิ้มสู้ โลก
    ในกะลาครอบของเธอดูเหมือนจะเปิดเผยอให้แสงสว่างเข้ามามากขึ้น

        มองไปมุมหนึ่งใกล้ ๆ ประตูทางเข้าอีกฟากหนึ่งของประตูหนึ่ง สงสัยเขากำลังเตรียมเปิดงาน
    กิจกรรมงานทีบีทีบุ้คเฟสติวัล ที่ประกาศโฆษณาตามหน้าเว็บไซต์ต่าง ๆ  ตอนนี้เจ้าหน้าที่ชายหลายคน
    สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ กำลังต่อปลั๊กไฟ ยกลำโพงมาตั้ง เดินสวนกันไปมา เขาจัดเวที มีเก้าอี้วาง
    ไว้ราว ๆ 50 ที่นั่ง เรียบร้อยแล้ว เขียนชื่องานและป้ายเว็บ

    “เปิดให้ขายบ่ายโมง ตอนนี้เพิ่งจะสิบโมง”     เธองึมงำ เริ่มอยู่ไม่สุข สาวเท้าเดินสำรวจไปทั่วๆ  
    บริเวณ  จากชั้นแรกสู่ชั้นสอง และชั้นสาม ปวดที่เท้าตุบๆ เพราะก่อนมาซื้อรองเท้าใหม่เป็นแบบคัตชู
    ส้นเตี้ย เพราะกลัวว่าต้องไปสถานที่ต่างๆ หากลากแตะเหมือนอยู่บ้านก็เกรงจะไม่สุภาพ ก่อนจะ
    เดินวนลงกลับมานั่งแหมะอยู่ตรงเก้าอี้ที่เขาตั้งหลบมุมไว้ให้นักอ่านที่ชั้นแรก ถอดรองเท้าปล่อยให้
    เท้าเปลือยเปล่าได้สัมผัสกับพื้นหินอ่อนเย็นๆ  จึงรู้สึกดีขึ้น

    เธอกวาดสายตาไปรอบๆ นี่เป็นอีกมุมมองของชีวิตเมืองหลวงที่มาสัมผัสหนนี้ก็แปลกดี บรรยากาศ
    เงียบเหงาในตึกสำหรับขายหนังสือโดยเฉพาะ แต่ชั้นจะแบ่งมุมเป็นสัดส่วน แต่ละส่วนจะจัดโชว์
    หนังสือของแต่ละสำนักพิมพ์ไว้โดดเด่น หากแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเวลายังเช้าไปไหม สำหรับ
    คนกรุงเทพฯ  จึงทำให้หนังสือมากกว่าคนอยากอ่านหนังสือ ทั้งที่ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นตึกสำหรับ
    หนังสือไทย โลกแห่งหนังสือไทยที่น่าสนใจมากมาย น่าเสียดายที่หนังสือสวย ๆ เอาไว้โชว์
    ประดับร้าน มากกว่ามีคนสนใจจับจองเป็นเจ้าของ

    ครึ่งชั่วโมงผ่านไป กิจกรรมงานทีบีทีบุ้คเฟสติวัล ที่ประกาศโฆษณาตามหน้าเว็บไซต์ต่าง ๆ คงกำลังจะเริ่ม
    เพราะเห็นมีเจ้าหน้าที่ชายหลายคน สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ กำลังต่อปลั๊กไฟ ยกลำโพงมาตั้ง
    เดินสวนกันไปมา เธอก็เพิ่งสังเกตเห็นมุมหนึ่งเขาจัดเป็นซุ้ม มีเวที มีเก้าอี้วางไว้ราว ๆ 50 ที่นั่ง
    เรียบร้อยแล้ว ทั้งที่เมื่อกี้ตรงประตูทางเข้า เหมือนมีแค่ชั้นวางหนังสือขวางอยู่เท่านั้นเอง  

    “พี่คะ ลงทะเบียนหรือยัง”    สาวเจ้าเนื้อร่างสูงใหญ่ หน้าตายิ้มแย้ม ส่งเสียงมาทักทาย

    “ลงทะเบียนอะไรคะ”     เธอถามกลับ งง ๆ

    “อ๋อ.. ลงทะเบียนเพื่ออบรมการทำหนังสือทำมืออย่างสร้างสรรค์ค่ะ เดี๋ยวจะมีคุณชิตะ  วันวันเจ้าของ
    บริษัทตรงประเด็นแม็กกาซีน เป็นวิทยากรค่ะ”

    “แล้วลงทะเบียนต้องทำอย่างไรบ้างคะ”

    “พี่ช่วยกรอกแบบฟอร์มนี้ค่ะ ชำระเงินหนึ่งร้อยเก้าสิบเก้าบาท แล้วเราก็จะให้อุปกรณ์สำหรับทำหนังสือ
    ทำมือ และการเข้าเล่มแบบปกแข็งให้น่ะค่ะ”

    “ดีจัง.. งั้นก็ดีค่ะ ขอลงทะเบียนค่ะ พี่กรอกแบบฟอร์มให้นะ”

    “เชิญนั่งทางนี้เลยค่ะ”    

                                 -------------------------

    การอบรมผ่านไปอย่างเชื่องช้า วิทยากรที่ชื่อชิตะ วันวัน เป็นหนุ่มไทยอายุราวๆ ยี่สิบปลายๆ อารมณ์ดี
    น่ารัก แจ่มใส และเป็นมิตร  พสิการับเอามิตรภาพที่เขาสื่อมาให้อย่างเต็มใจ เขาพูดและอธิบายให้ฟังถึง
    การจัดการประกวดอินดี้บุ้คประจำปีนี้ ที่กำลังจะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า งานที่พสิกาตั้งใจมาร่วม
    แต่ไม่ได้ส่งผลงานเข้าประกวด เพียงแค่อยากนำหนังสือทำมือที่ทำไว้มาร่วมออกบูธเท่านั้นเอง

    “พี่มีที่วางขายหรือยังล่ะ”   ชิตะถาม

    “ยังค่ะ ทุกอย่างของงานเป็นดำมืดปริศนาของพี่ ที่ต้องผจญล่ะ”

    “งั้นเอางี้สิพี่..ผมจองเต้นท์ไว้ พี่ไปวางรวมกับของผมก็ได้”

    “อืมม.. รบกวนหรือเปล่าคะ”

    “ไม่หรอก ผมจองไว้ทุกปี เต้นท์เรามีกิจกรรมด้วย ก็จะสอนทำหนังสือทำมือแบบนี้ การวาดภาพทำ
    เป็นโปสการ์ดขาย อะไรทำนองนี้ครับ”

    “ค่ะ..แล้วเดี๋ยวไปไม่ถูก หรือติดขัดอะไร ขออนุญาตโทรหาคุณได้ไหม”

    “ครับ”   เขายื่นนามบัตรให้

    “ถ้าเบอร์ผมโทรไม่ได้ พี่โทรเบอร์น้องๆ ในทีมงานก็ได้นะ”

    “ปุยให้เบอร์พี่เขาไว้ซิ”    เขาเรียกน้องในทีมงาน

    “ขอบคุณมากนะคะ”    สายตาสองคู่ประสานกัน ดอกมิตรภาพเบ่งบาน โลกในกระลาครอบของพสิกา
    มีแสงสว่างเรืองรองสวยงาม

                                 -------------------------

        หนูวีวี่วางสายจากการคุยโทรศัพท์จากพี่ตัวเล็ก  หลังจากนัดแนะกันเรื่องการเดินทางไปเที่ยว
    เกาะเกร็ดในวันรุ่งขึ้น  เธอกดเบอร์โทรศัพท์อีกครั้ง

    “พี่พิม........”

    “อือ...”

    “อ้าว..นอนแล้วหรือนั่น  เพิ่งจะสามทุ่มเองนะพี่”

    “อือ..พี่พักบ้านน้องสาว พอดีนอนกับเด็กๆ ลูกสาวเขาน่ะ ก็เลยนอนเร็วตามไปด้วย”

    “เจ๊ใหญ่ตกลงจะไปเกาะเกร็ดแน่นอนแล้ว  นอกจากนี้ก็มีเฮียชัย  เพื่อนหนู รูมเมทน่ะค่ะ เพื่อนอีกคน
    พี่นัทไม่รู้จะไปไหม ส่วนคนอื่นๆ คงไม่ได้ไป”

    “พรุ่งนี้สิบโมง เมเจอร์ใช่ป๊ะ..”

    “ค่ะ... ตามนั้นเลย”

    “จ้ะ..พรุ่งนี้พบกันนะ”

    “สวัสดีค่ะ”
                                 -------------------------

             ณ จุดนัดพบนอกจากหนูวีวี่ ซึ่งถือเป็นคนบ้านเดียวกันไปแล้ว  กับเฮียชัยที่เพิ่งพบเมื่อวาน  พสิกายัง
    ไม่ได้พบเพื่อนออนไลน์คนอื่นๆ เลย เคยคุยกันผ่านระบบออนไลน์ แต่ก็สนิทสนมกันระดับหนึ่ง ระดับเปิด
    หัวใจและความจริงใจให้กัน..

    เฮียชัยมาถึงก่อน หลังจากยกมือไหว้แล้วต่างก็ไม่สนทนาอะไรกัน ยืนรอเพื่อนร่วมก๊วนอยู่เงียบๆ
    ตรงชายคาของอาคารห้างสรรพสินค้าแห่งนั้น จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

    “พี่พิมอยู่ไหน”

    “ตัวเล็ก..อยู่ไหนล่ะ”

    “ร้านโดนัทในเมเจอร์ค่ะ”

    “พิมอยู่หน้าห้าง งั้นเดี๋ยวเดินไปหานะ”   เธอพยักหน้าให้เฮีย เดินเข้าไปที่ร้านโดนัท ในร้านค้าที่
    เปิดโล่งให้เห็นเคาน์เตอร์ขายของ กับโชว์

        ตัวเล็กซึ่งตอนนี้แผ่อิทธิพลเป็นเจ้ใหญ่ของเพื่อนๆ ในระบบออนไลน์  เพราะน้ำใจอันดีงาม และ
    อัธยาศัยชนิดที่ว่าประชาสัมพันธ์ของบริษัทใหญ่บางบริษัทอายได้ก็แล้วกัน  มองเข้าไปเห็นผู้หญิง
    ตัวเล็ก ไม่สูงมากนัก ผมดัดหยิกเป็นลอนปล่อยยามลงมาเคลียไหล่  สวย.. ใบหน้ารูปไข่ ผิวขาว สดใส
    สวมกางเกงยีนส์ เสื้อยืดสีดำ สีของเสื้อยิ่งขับผิวออกมาขาวนวลอย่างแจ่มชัด..สวยจริงๆ คนชื่นชม
    ก้มหน้าบอกตัวเองในใจ

        พอเงยหน้าสบตากับดวงตาสีน้ำตาลเข้ม แววหวานด้วยน้ำใจใจจริงก็ยิ่งเขินๆ  คิดถึงตัวเองที่พักหลังๆ
    เธอคุยกับตัวเล็กบ่อยมาก รู้ใจกันมากขึ้น เป็นว่า..ตัวเล็กรู้เธอเสียมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะตัวเล็กมีหัวใจ
    ของความเป็นพี่สาว ในขณะที่เรียกเธอว่าพี่พิมทุกคำ แต่พิมก็แพ้หัวใจของตัวเล็ก ยินยอมให้เธอแผ่
    อิทธิพลมาครอบคลุมหัวใจ เรียกได้ว่า “หลงรัก”
    ตัวเล็กก็ไม่ผิดนัก.. รักในความเป็นพี่สาวของตัวเล็กเหลือเกิน

        เดินเข้าไปยกมือไหว้สวัสดีแก่กัน..ตัวเล็กเอื้อมมือมาบีบมือกลมป้อมของเธอ

    “เธอกันซะทีนะคะ เรา”     โอย..เสียงอบอุ่นบาดใจจริงๆ   สบตาแล้วก้มหน้า เขินเข้าไป..พสิกา..เขินเข้าไป
    ลืมเฮียชัยไปเลยอีกต่างหาก สองสาวดื่มด่ำกับอารมณ์แรกพบหน้ากันจนพอใจ

    “ทานอะไรหรือยัง กาแฟไหม”    พิมส่ายหน้า  แอบมองนาฬิกา

    “อืม..เจ้าวีวี่ตัวดียังมาไม่ถึง เดี๋ยวให้พิมโทรตามนะ”

    “อือ..ลองดูซิแม่นี่สายทู้กงาน”   จากตัวเองกลายเป็นตัวประกอบแถมไม่ได้รับค่าตัวงวดนี้เพิ่งจะส่งเสียง
    .. พสิกากดโทรศัพท์

    “หนูกำลังจะถึงแล้ว”   ปลายสายรีบชิ่งบอกก่อนที่จะได้พูดอะไร

    “จ้ะ”

    “หนูกำลังลงรถตู้ พวกพี่อยู่ไหนอ่ะ”

    “ร้านโดนัทค่ะ”

    “เดี๋ยวหนูเดินไปน๊า..จุ๊บๆ”   .. พสิกาวางสายแล้วยิ้มๆ  นาทีถัดมาเจ้าตัวดีก็โผเข้ามาหา ยกมือไหว้ทักทาย
    กันแล้วก็แนะนำอีกสองสาวที่มาด้วย  นัทและหนูนา สองสาวตระกูล น.หนู ความรู้สึกดีฉายชัดในแววตา
    ของทุกคน แล้วพยักหน้าย้ายแหล่งเม้าท์กันออกจากสถานที่นั้น

    (ยังมีต่ออีกนิดหน่อยค่ะ)

    จากคุณ : สีน้ำฟ้า - [ 1 ธ.ค. 50 20:45:40 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom