Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    คนของความคิดถึง

    …
    วันนี้ฟ้าครึ้มฝน
    ฉันแหงนหน้ามองท้องฟ้าหลังเลิกงาน  บรรยากาศเหงาพิลึก
    ฉันไม่ชอบบรรยากาศอย่างนี้เลย  กระชับเสื้อคลุมก่อนก้าวเดินออกจากตึกที่ทำงาน
    วันนี้คงต้องนั่งแท็กซี่กลับบ้าน  เพราะคุณนายแดง ฉันหมายถึงรถที่ใช้ประจำต้องเข้าอู่
    หลังจากที่ฉันโดนชนท้ายเมื่อวันก่อน  

    ยังเดินไม่ทันพ้นตึก  ก็ต้องสะดุดตากับใครบางคนที่เดินตรงเข้ามาหา
    ใครบางคนที่คุ้นตา  คุ้นใจ  
    “ หวัดดี “  เสียงของใครบางคนที่ตอนนี้ยืนอยู่ต่อหน้า  
    “ คุณผอมไปนะ  งานหนักหรือไง  มัวแต่ดูแลคนอื่นจนลืมดูแลตัวเอง “ คำทักทายของคนที่ห่างหายไปนาน
    สายตาที่มองสำรวจทั้งตัวและมาจบลงที่ใบหน้า  ไม่สิ..ที่ดวงตา
    นานแค่ไหนนะที่ไม่ได้เห็นดวงตาคู่นี้  ดวงตาคู่สวย  กี่เดือนนะ สองเดือน สามเดือน  ไม่สิ หนึ่งปีต่างหาก
    หนึ่งปีหลังจากที่เขาย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัด
    “ ดูสิ  มืองี้ผอมแห้ง แก้มตอบ ตาโหลเชียว  …ไปหาอะไรกินกัน “
    แหม! ฟังดูโทรมพิลึก  แล้วเขาก็จับมือฉันเดินนำไปขึ้นรถ  เหมือนเด็กว่าง่ายเดินตามไปซะงั้น
    ตั้งแต่เจอหน้ากัน  ฉันยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดอะไรสักคำ  คนตัวโตที่กำลังขับรถพูดอยู่คนเดียว  
    ทั้งพูดทั้งขับ  บางทีก็หันกลับมามองหน้าฉันที  ยิ้มบางๆใส่ดวงตากระแทกดวงใจ
    …
    “ แวะร้านนี้นะ…น่านั่ง “
    เขาเลือกมุมที่เข้ามุมจริงๆ กระจกใสๆทำให้สามารถมองเห็นผู้คนข้างนอก  เดินกันไปมา
    ฉันแอบลุ้นหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังจะข้ามถนน  แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีรถคันไหนหยุดให้เธอได้ข้ามเลย
    นี่มันทางม้าลายนะ  
    “ สนใจอาหารกับคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าหน่อยสิคุณ “ เสียงขัดใจนิดๆ
    “ อยู่ที่โน่นเป็นยังไงบ้าง “  ฉันตักอาหารจากจานที่อยู่ข้างหน้าไปวางใส่จานของเขา
    เอาใจคนขี้งอน
    “ เมืองน่าอยู่  ไม่เล็กแต่ก็ไม่ใหญ่มาก ไม่วุ่นวาย  ตอนเย็นสักทุ่มสองทุ่มก็เงียบแล้ว “
    “ มีเซเว่นมั้ย “ ฉันหมายถึงมินิมาร์ทสะดวกซื้อที่มีอยู่ทุกมุมเมือง
    เขาหัวเราะตาหยี “ มีสิ แต่อาหารที่นั่นหาอร่อยถูกปากไม่ค่อยมี  ร้านที่อร่อยก็อยู่ไกล ขี้เกียจขับรถไปกิน  
    มีอยู่ร้านนึงอยู่ใกล้ๆสนามบิน อยู่ในรีสอร์ท  ตอนเย็นๆเห็นพระอาทิตย์ตกน้ำด้วย  อาหารอร่อย
    บรรยากาศดีแต่ก็อยู่ไกล  อีกร้านอยู่ในเมืองขนมจีนน้ำเงี้ยวอร่อยแต่ก็ไกลอย่างว่า
    เลยหาอะไรง่ายใกล้ที่ทำงานกิน  พอถึงวันหยุดก็ขับรถไปกินที  แต่กินคนเดียวรสชาติก็งั้นๆ “ ทำเสียงเซ็งจัด   ไม่อยากจะเชื่อ
    อืม…ตั้งแต่มาคุยแต่เรื่องกิน  
    “ กาแฟมั้ย  คาปูชิโน่ร้อนใช่มั้ยผมจำได้  คุณชอบ “
    กาแฟหลังอาหาร  ขนมหวานอย่างไอศกรีมและเค้ก  ของชอบของเราสองคน
    …
    ฉันนั่งฟังเขาพูดถึงเรื่องงาน ผู้คน บ้านเมือง พูดๆๆๆๆ
    ขับรถมาไกล นั่งฟังเขาสักหน่อย บางทีก็เผลอหัวเราะไปกับเรื่องที่เขาเล่า
    น้ำเสียงอย่างนี้ ท่าทางอย่างนี้และแววตาอย่างนี้ นานนักแล้วไม่ได้เห็น
    แผลเป็นที่หางคิ้วข้างขวาแม้จะเป็นรอยจางๆแต่ก็พอมองเห็น
    ฉันเกือบเผลอเอื้อมมือไปแตะ ก็แผลนี้ไม่ใช่หรือที่ฉันฝากรอยเอาไว้
    ตอนที่เล่นแบดมินตันคู่กัน แล้วต่างก็วิ่งไปรับลูกที่อีกฝ่ายตีข้ามมา…ไม่ได้นัดหมาย
    สุดท้าย เขาก็ได้แผลที่หางคิ้วจากแร็กเกตของฉัน

    เขาหยุดเล่าเมื่อเห็นฉันจ้องมองที่แผล ไม่ใช่ที่ตาของเขา
    “ไม่เจ็บแล้ว” เขาว่า
    “หมดหล่อเลยเนอะ”
    “ใครว่า..ดูเข้มขึ้นต่างหาก” เขายิ้มอีกแล้ว ผู้ชายอะไรยิ้มสวย ฟันขาวจัง

    “ อยู่ที่นั่นก็ดีอยู่หรอก เสียอย่างเดียว ไม่มีคุณ…คิดถึง ” จู่เขาก็พูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ
    อะไรบางอย่างไหวระริกอยู่หลังดวงตาของเขา  ฉันชะงักไปครู่ก่อนค่อยๆวางแก้วคาปูชิโน่ลง
    หลุบเปลือกตาลงมองแก้วกาแฟก่อนเงยหน้าขึ้นมองสบตาเขา  
    ไม่อยากให้เขาเห็นอะไรบางอย่างไหวระริกหลังดวงตาของฉัน  แต่ถึงนาทีนี้คงปิดไม่มิดปิดไม่ทัน  
    นั่งจ้องตากันอย่างนั้น…แล้วฉันก็แพ้
    เล่นเกมจ้องตาทีไร…แพ้ทุกที  

    ข้างนอก
    ฝนเริ่มลงเม็ดปรอยๆ ผู้คนนอกร้านต่างเร่งรีบ  สายฝนพาความชุ่มชื่นมา
    ผู้ชายข้างหน้าก็พาความชุ่มชื่นมา   อย่างสายฝน
    “ แม่ถามถึงคุณนะ  โจก็ด้วย “ ฉันหมายถึงน้องชาย
    “ เขาว่าไม่มีเพื่อนเชียร์บอล  อ้อ…เจ้ายุ่งยิ่งมันก็เหงาๆ “ ฉันหมายถึงพุดเดิ้ลน้อยของฉัน
    เขายิ้มอีกแล้ว “ แต่มีอยู่คน   ไม่คิดถึง “ เขาต่อว่าฉันรึนั่น
    “ ใคร “ แกล้งไม่รู้ซะงั้น
    “ ก็ใครล่ะที่นั่งอยู่ข้างหน้าผมนี่   ตั้งแต่มาไม่ได้ยินบอกสักคำว่าคิดถึง ขับรถมาไกลจะบอกให้หายเหนื่อยสักหน่อย
    ไม่ได้หรือไงนะ “
    ผู้ชายนี่…เวลางอนก็น่ารักดี  ถึงจะดูตลกหน่อยๆก็เถอะ  หรือจะน่ารักเฉพาะคนที่นั่งอยู่ต่อหน้านะ
    ….
    “ เข้าบ้านก่อนมั้ย “
    “ ไม่ล่ะ ดึกแล้ว เกรงใจแม่  อ้อ..เจ้ายุ่งยิ่งด้วย   พรุ่งนี้เช้าจะแวะมา  ก่อนกลับ “ เขาว่า
    “ มาหายุ่งยิ่งน่ะรึ “ ฉันแกล้งว่า  ผลคือโดนโยกหัวคลอน
    “ ของฝาก “เขายื่นถุงกระดาษให้…ของฝาก…ผ้าทอพื้นเมืองสีสวย ผืนไม่ใหญ่มาก
    “เอาไว้คลุมตอนหน้าหนาว เห็นปุ๊บซื้อปั๊บ คุณชอบ…ผมรู้ “ ดูเอาเถอะ คนอะไรช่างน่ารัก
    “ พรุ่งนี้แวะมากินของเช้าที่บ้านนะ  ขับรถดีๆล่ะ  ถึงที่พักแล้วอย่าลืมโทร.บอกด้วย “
    คำพูดเดิมๆที่พูดเสมอเวลาที่เขามาส่งที่บ้าน  

    ….
    ข้างนอกฝนยังตกไม่หยุด
    น่าแปลกที่ความรู้สึกอ้างว้างหายไป
    หรือจะเพียงข้ามคืนนี้  คืนพรุ่งนี้และคืนต่อๆไป  ความเงียบเหงาอาจจะย่องมาอีกอย่างเบาๆและเงียบๆ

    เสียงมือถือดังถี่ๆต่อเนื่อง  ตัวเครื่องหมุนรอบตัวเองน่าขำ
    “ ถึงโรงแรมแล้วนะ  … ทั้งๆที่เพิ่งเจอคุณ   แต่ตอนนี้ยังคิดถึงคุณอยู่เลย  จะไม่บอกสักหน่อยหรือไงว่าคุณก็คิดถึง “
    ฉันแอบยิ้มกับโทรศัพท์
    “ เอาเถอะ  คุณไม่ต้องบอกตอนนี้ก็ได้  ไว้บอกพรุ่งนี้ก็ได้ บางทีคุณอาจต้องบอกและตอบอีกหลายอย่างที่ผมจะถาม “
    ….
    อากาศเย็นเพราะฝนตก
    ผ้าคลุมไหล่ถูกนำมาใช้ก่อนหน้าหนาว  
    บางที
    พรุ่งนี้ฉันจะบอกเขาว่า “ คิดถึง “
    อาจบางทีจะบอกมากกว่านี้   ถ้าเขาถาม

    สายฝน
    ความเงียบเหงาอ้างว้าง  เหมือนไม่เคยมี

    ...
    รีไรท์ขยายความจาก " คิดถึง " http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nuntiya&month=08-2007&date=28&group=2&gblog=27

    จากคุณ : สิงห์อมบ๊วย - [ 4 ธ.ค. 50 03:26:13 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom