ช่วงๆนี้มีเรื่องให้น่าคิดตามอยู่ไม่น้อย
เรื่องที่ว่าคือเรื่อง แฟน
ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าวัยย่างเข้า 27 ของผู้คนที่อยู่รอบตัว จะมีแฟน หรือแต่งงาน
แต่หลายเรื่องที่เห็นๆอยู่ จะแปลกมั๊ยถ้าจะบอกว่า...
อยากเป็นโสด ไม่อยากมีแฟนแล้วอ่ะ
1. บางคน ทำให้มีคำถามวนไปเวียนมาในสมองว่า "มันต้องขนาดนี้เลยหรอเนี่ย"
เฮ๊ย ! พอได้แล้วมั๊งพี่ พอเฮ๊อะ ! ศักดิ์ศรีมันหายไปแล้วน่ะ รู้ตัวรึป่าว สำหรับเราไอ้คำๆนี้จะหายก็ช่างมัน ถ้า...
ฉันรัก ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้มันออกมาดี แต่...
ถ้าคำตอบมันมีแค่เรื่องรูป รส กลิ่น เสียง ทรัพย์สินเงินทอง ความร่ำรวย สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถปลดสิ่งที่เรียกว่าศักดิ์ศรีฉันไปได้หรอก
ใจเจ้าตัวยังมีคำตอบอื่นที่เค้าวิ่งตามและรอมันอยู่
แม้ว่าจริงๆแล้ว --- คำตอบได้ถูกตอบแล้ว โจทย์มันได้เฉลยไปแล้ว
game over.
2. บางคน ความไม่ชัดเจนมีมากพอๆกับความเสน่หาในอีกฝ่าย
ผลการเฝ้ารอ สวนทาง กับผลของปัจจุบัน
น้ำหนักเท่านั้นที่เรามองว่าคือสิ่งที่ขาด
ซักทีเหอะว๊า นกหวีดดังเมื่อไหร่ เราจะคอยเชียร์เหมือนสมัยเด็กตอนนั่งดู NBA ทางทีวีในตอนเช้า
ลุ้นตัวโก่ง กะพริบตาเดียว พลาดช็อตเด็ด ฝ่ายตรงข้ามได้ไป 3 แต้ม ร้องลั่นบ้าน
แต่วันนี้คนนั่งดูก็ได้แต่ "เอ๊า ! เมื่อไหร่จะเป่านกหวีดเริ่มเกมส์เนี่ย"
คนที่เป่านกหวีดไม่ใช่ใครที่ไหน ฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง
การเปรียบเทียบเกิดขึ้น !
จะเริ่มเล่นเกมส์ใหม่ดีมั๊ย? จะล้มเกมส์ที่เล่นค้างไว้ที่สนามนึงดี ?
จะกลับไปเล่นต่อที่สนามดี ? แต่สนามนั้นมันไม่สนุกแล้วอ่ะสิ
คิดๆๆๆ ไม่ทำอะไร เอ... โอเคทำซะหน่อยก็ได้ เดินเข้ามาสนามใหม่นี้ไปก้าวนึงล่ะ
แต่... อืมเดี๋ยวดูก่อน เสียงคนในสนามเก่านั้นตะโกนโหวกเวก บอก "ชั้นไม่ยอมน่ะ กลับมาเล่นต่อเดี๋ยวนี้"
อีกฝ่ายในสนามใหม่นี้ก็รอลุ้น ไกล้ล่ะ เดี๋ยวได้เล่นล่ะ อ๊ะ ! เดินเข้ามาในสนามแล้ว แต่อ้าว ! ทำไมหยุดไปล่ะ... ชั้นไม่พอใจน่ะ !
"ไม่เล่นจะไปแล้วน่ะ" ปากตะโกนอย่างนั้น แต่ก็ยังรอ รอ รอ ไร้การขยับเขยื้อนตัวออกจากสนาม
เจ้าของนกหวีด มุ่งหน้ามาทางสนามใหม่แต่ไม่ก้าวมากกว่าไปนั้น ยังหันไปมองสนามเดิม
ผลคือ ไม่เกิดอะไร
เกมส์นี้ ใครถือไพ่เหนือกว่า สำหรับเรา เดาไม่ยาก แต่อาจเดาผิด เพราะมันคือเกมส์
การตัดสินในเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเรา มันขึ้นกับใครอีกคนไปแล้ว คือ คำนิยามของบทนี้ในสายตาเรา.
3. บางคน อิสระภาพ โบยบิน
ความเสียใจบังเกิด แต่เจ้าตัวรับได้ ความเสียใจนั้นก่อเกิดน้ำตาบนใบหน้า
แต่ไม่เป็นไร มีคนช่วยเช็ด ซึ่งก็คือ ผู้เป็นสาเหตุนั่นเอง
หลายๆอย่าง เราคิดว่า...
นี่สิ่งของหรือคนเนี่ย สั่งให้เดินซ้ายก็ต้องซ้าย ถ้างั้นเหตุผลล่ะ?
อะไรน่ะ ! ไม่มี แค่ความต้องการของเธอ... โอเค ฉันเดินไปทางซ้ายก็ได้ ถ้าเธอต้องการ
ทำไม ?
เธอ - น้ำตาบนใบหน้า เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ฉันหันกลับไปมองอีกที น้ำตานั้นหายไปแล้ว ไม่ทิ้งร่องรอย
เรา - ใบหน้าเรียบเฉย เศร้าบางครั้ง หัวเราะบางที น้ำตาเกิดจากฉันเอง ไม่ว่าจะหันมาดูอีกกี่ที น้ำตายังพอมองเห็น ว่ามันเคยอาบบนแก้ม
บทสรุปคือ ฉันรับไม่ได้ว่ะ ฉันไม่ใช่สิ่งของน่ะ ฉันยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยังอยากทำอะไรตามที่ฉันอยากทำอยู่น่ะ
นึกถึงใจฉันบ้างสิ ก็ฉันไม่อยากเดินไปทางซ้ายอ่ะ ไม่รู้ดิ.
4. บางคน ป่าวประกาศกะฉันเสียงดังฟังชัด --- อยากมีแฟนว่ะ ทำไมไม่มีว่ะ !!!???
เอ๊า แล้วจะรู้มั๊ยล่ะค่ะคุณเพื่อน - -"
ป่าวหรอก เรามีคำตอบ
ฉันเป็นผู้ชาย ฉันคงเผ่นอ่ะ
ดูคุณ need มากเลย คุณขาดอะไรร้ายแรงรึป่าว คุณคงจะคาดหวังกะผมมากเลย
ไม่มีใครอยากถูกคาดหวัง ไม่มีใครอยากเป็นต้นเหตุของความผิดหวังของใคร
นึกถึงใจเค้าใจเราอ่ะ ถ้าอีกฝ่ายพูดว่า "อยากมีแฟนมาก" กะฉัน !
ขอบายน่ะ น่ากลัว ถ้าเราทำคุณเสียใจครั้งนี้
คุณ... ยังพอจะเดินต่อไปบนโลกใบนี้อยู่มั๊ยอ่ะ
คุณต้องการอะไรจากคนคนนี้ ?
คุณต้องการสิ่งๆนึงจากคนคนนึง
สองคำถามนี้ คุณว่ามันต่างกันมั๊ย
เราว่าต่างน่ะ
ประโยคที่สอง ดูเหมาะกะเพื่อนฉันในสภาพการณ์ตอนนี้
ดูล่องลอย แต่ค้นหา เรามองเห็นความเหนื่อยแฝงอยู่ คือนิยามของบทนี้.
บทสรุปของทั้งหมดที่เขียนมาคือ ขอเป็นโสดดีกว่า
ทุกวันนี้ก็โอเคน่ะ ถ้าต้องเจอเรื่องอย่างที่เขียนข้างต้น ปัญหาเยอะแยะเต็มไปหมดสิน่ะถ้างั้น งั้นชีวิตเราแค่นี้ก็ดีอยู่แล้วสิน่ะ
--- โอเค ขอเป็นโสดดีกว่า จนกว่าจะเห็นแง่ดีดีของการมีแฟนล่ะกัน ---
จากคุณ :
Raven_kate
- [
7 ธ.ค. 50 02:27:17
]