Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    Tales of Phantom ตอนที่ 19 ตาย...เพื่อรัก !

    ตอนที่ 1-16  http://my.dek-d.com/linmou/story/view.php?id=328741




    ตอนที่ 19

    ตาย...เพื่อรัก !




    …บัดซบ !… เฉิงกวงสบถลั่นในใจ แม้จะนึกโมโหเพียงใด แต่เขาก็มิอาจไม่ยอมรับว่าอาไท่พูดถูก นั่นคือเรื่องรีบด่วนที่สุดในตอนนี้คือต้องหาดาบดีๆ มาให้ได้สักเล่ม ! แต่เขาจะไปหาจากที่ใดได้กันเล่า ? เพราะดูเหมือนร้านขายอาวุธของที่นี่จะไม่มีดาบดีๆ อยู่เลยสักเล่ม

    หลังจากออกไปตระเวนหาดาบดีๆ มาแทนดาบที่หักไปตลอดทั้งบ่ายโดยคว้าน้ำเหลว เฉิงกวงก็กลับมายังเรือนรับรองอาคันตุกะในเวลาเย็นอย่างอารมณ์เสียสุดขีด เพิ่งจะเดินเข้าในในเขตเรือนต้อนรับได้ไม่นาน หมิงหลุนก็ร้องตะโกนเรียกพลางวิ่งกระหืดกระหอบมาแต่ไกล

    “เฉิงกวงๆ !” ในที่สุดชายหนุ่มก็หาตัวน้องชายพบจนได้

    “มีอะไร ? ตอนนี้ข้ากำลังยุ่งมาก” เฉิงกวงพูดเสียงห้วนเนื่องจากยังไม่หายโมโหเรื่องที่หมิงหลุนแช่งให้เขาแพ้ตอนที่แข่งประลอง

    “เจ้ามัวไปที่ไหนมาน่ะ ? เมื่อครู่นี้ท่านเต่ามาหาเจ้าแน่ะ” หมิงหลุนกล่าวปนหอบ “เขาบอกว่าต้องขอโทษอย่างมากที่ทำดาบของเจ้าหัก ดังนั้นจึงนำดาบเล่มหนึ่งมาชดใช้ให้เจ้า”

    “ชิ ต่อให้ไม่มีดาบ ข้าก็ชนะได้อยู่ดี” เฉิงกวงปากแข็ง

    “นั่นสิ ! ข้าก็บอกท่านเต่าไปแบบนี้เหมือนกัน และก็ช่วยขอบคุณพร้อมกับปฏิเสธแทนเจ้าไปแล้วด้วย !” หมิงหลุนทำหน้าจริงจัง

    เฉิงกวงกระชากคอเสื้อพี่ชายทันทีด้วยอารมณ์แค้นสุดขีดจนอยากจะกลืนพี่ชายสุดที่รักลงไปทั้งเป็นเสียเดี๋ยวนี้

    “เจ้าปฏิเสธไปแล้วจริงๆ เรอะ ?! เจ้าเป็นกระบือหรือไร !”

    “แหะๆ แค่ล้อเล่นหรอกน่า !” หมิงหลุนหยิบดาบวิเศษยาวประมาณสามฉื่อออกมาจากข้างหลัง “ท่านเต่าบอกว่า ดาบเล่มนี้เป็นดาบที่พ่อครัวบ้านเขาใช้ทำอาหาร ชื่อว่าดาบหั่นผักเซวียนหยวน”

    “เจ้าจะหลอกใครไม่ทราบ !” เฉิงกวงชักดาบออกจากฝัก ก็พบกับรังสีเย็นยะเยียบทิ่มแทงเข้าใส่ทันที จึงค่อยเอ่ยอย่างพอใจ “ไม่เลวจริงๆ ด้วย นี่ อู๋หมิงหลุน เจ้ายืนอยู่ตรงนั้นอย่าขยับนะ”

    “หา ? ทำไมหรือ ?” แม้ปากจะถาม แต่หมิงหลุนก็ยืนนิ่งอยู่กับที่ตามคำสั่งแต่โดยดี

    “เฮอะ ! ข้าเคยบอกแล้วว่า ไม่เร็วก็ช้า ฆ่าจะฆ่าเจ้าสักวัน !” จบคำ เฉิงกวงก็ฟันดาบใส่ศีรษะของหมิงหลุนทันที !

    “ว้ากกกก !!” หมิงหลุนร้องลั่น ลนลานเอามือกุมศีรษะทรุดตัวลงนั่งโดยสัญชาตญาณ

    แต่คมดาบกลับหยุดชะงักลงเมื่ออยู่ห่างจากด้านบนศีรษะของหมิงหลุนสามนิ้ว พร้อมกันนั้นปอยผมหลายปอยก็เริ่มร่วงตกลงสู่พื้น…

    “ดาบดีจริงๆ ด้วย !” เฉิงกวงเอ่ยอย่างปราโมทย์ “แต่เต่าตัวนั้นเป็นใครกันแน่ ถึงได้มีดาบดีถึงเพียงนี้ได้ ?”

    “ต…ตกใจหมดเลย !” หมิงหลุนเพิ่งจะทราบก็ตอนนี้เองว่าเฉิงกวงแค่ต้องการลองดาบเท่านั้น “เฉิงกวง ต่อไปเจ้าจะฆ่าข้าจริงๆ หรือ ?”

    “เฮอะ ก็ไม่แน่” เฉิงกวงหยั่งน้ำหนักของดาบพลางเอ่ยตอบอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย

    “เป็นเพราะข้าแย่งอีอีมาจากเจ้า แล้วยังฆ่าท่านแม่ของเจ้ากับฉานอวี้อย่างนั้นหรือ ?”

    เฉิงกวงกระชากคอเสื้อหมิงหลุนโดยแรงแล้วเอาดาบขึ้นพาดคออย่างฉับพลัน เอ่ยเตือนเสียงเหี้ยม

    “หากเจ้ากล้าเอ่ยถึงเรื่องนี้อีกละก็…ข้าจะฆ่าเจ้าจริงๆ แน่ ! เฮอะ !”

    …จริงๆ เลย เอาเรื่องตายมาขู่กันอีกแล้ว… หมิงหลุนบ่นในใจ แต่ “เรื่องนี้” ที่เฉิงกวงว่า หมายถึงเรื่องอีอีหรือเรื่องท่านแม่กันแน่ ? เพราะเขาจำได้ว่าครั้งก่อนตอนที่เฉิงกวงบอกเขาว่าจะไปหาท่านแม่นั้น จากที่ดู เฉิงกวงก็ไม่ได้เกลียดชังอะไรท่านแม่ของตัวเองนี่นา ! จริงสิ…ตอนนั้นเขายังไปเจอฉานอวี้เข้าด้วย ถ…แถมยังถูกฉานอวี้…

    “จริงสิ ดาบเล่มนี้ชื่อว่าอะไร ?” เฉิงกวงถามขึ้นกะทันหัน น้ำเสียงกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

    “ดูเหมือนจะชื่อ ‘ชิงกาง(๑)’ นะ ?” หมิงหลุนนึกทวนที่เต่าบอกมา

    “ชิงกาง ? หึหึ ดูเหมือนครั้งนี้จะเก็บได้ดาบชั้นดีเข้าให้แล้ว” เฉิงกวงหัวเราะ

    “จริงสิ เฉิงกวง เรื่องการประลองวันพรุ่งนี้…” หมิงหลุนอึกอัก

    “อะไร ?”

    “ข้าไม่อยากไป” เสียงของหมิงหลุนเบาราวกับเสียงยุงบิน “เจ้าก็รู้ดีนี่นา ! ข้าไม่เป็นวิชาฤทธิ์อะไรสักอย่าง แล้วที่นั่นก็มีแต่ยอดฝีมือทั้งนั้น ขืนข้าไปก็มีแต่ไปตายอย่างเดียว !”

    “วางใจเถิดน่า ข้าจะปกป้องเจ้าเอง !”

    “จริงหรือ ? ขอบใจมากๆๆๆๆๆ…” หมิงหลุนมองน้องชายตาใสด้วยความซาบซึ้งใจ

    “เจ้าอย่าได้เข้าใจผิดเด็ดขาดเทียวนะ เพราะข้าไม่ได้มีเจตนาอื่น แค่ถือว่าตอบแทนที่เจ้าช่วยเอาดาบมาให้ข้าก็เท่านั้น !” เฉิงกวงทนสายตาแบบนี้ของหมิงหลุนไม่ไหวมากที่สุดแล้ว

    “ก็ไม่ได้เข้าใจผิดนี่นา เจ้ามีเจตนาแบบใดได้อีกหรือ ?” หมิงหลุนถามงงๆ

    “…ถือเสียว่าข้าไม่ได้พูด !” เฉิงกวงกระชากเสียง …ไอ้เจ้านี่…ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยชัดๆ !…


    <>::<>::<>


    วันรุ่งขึ้น อันเป็นวันแห่งการประลองรอบที่สามได้มาถึงในที่สุด เหล่าผู้เข้าร่วมประลองทั้งหมดได้ยกขบวนกันออกไปที่ชายป่านอกเขตนครหลวง จากนั้นมหาเสนาบดีสารทก็ทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศกฎของการแข่งขันเช่นเคย

    “ทุกท่านคงจะเห็นแล้วกระมังว่า สถานที่แห่งนี้คือสถานที่สำหรับคัดเลือกนักรบที่จะมาเป็นกองทหารราชองครักษ์ของอาณาจักรข้า” มหาเสนาบดีสารทชี้ไปยังแนวป่าทึบทางด้านหลัง “และที่นี่…ก็จะเป็นสนามประลองของการประลองในรอบที่สาม”

    “หา ? ไม่จริงน่า ! จะให้พวกเราเข้าไปในสถานที่ที่ใช้คัดเลือกนักรบที่จะมาเป็นทหารราชองครักษ์อย่างนั้นหรือ ?” คุณชายผู้อยู่ดีกินดีทั้งสองของอาณาจักรโรหิตมยุราร้องลั่นทันที

    “หากคุณชายทั้งสองรู้สึกหวาดกลัวละก็ สามารถที่จะสละสิทธิ์ได้ เพราะการประลองในรอบนี้อาจมีอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นจึงอนุญาตให้ทุกท่านเป็นผู้ตัดสินใจด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ว่าจะลงประลองหรือไม่” มหาเสนาบดีสารทประกาศ

    “อา ? ดีอย่างนี้เทียว อย่างนั้นข้าขอสละ…”

    โป๊ก !

    หมัดของเฉิงกวงประเคนเข้าให้ที่ศีรษะจนหมิงหลุนเห็นดาวทองระยิบระยับก่อนจะทันได้เอ่ยจบประโยค…

    “หึ ! หากเจ้าสละสิทธิ์ละก็ กลุ่มของเราก็จะขาดคุณสมบัติในการเข้าร่วมประลองทันที ขืนเป็นอย่างนั้น ข้าไม่ถูกไอ้หนูบัดซบของอาณาจักรธวลาพยัคฆ์หัวเราะเยาะจนท้องแตกตายสิแปลก !” เฉิงกวงเค้นเสียงลอดไรฟันพลางชูกำปั้นที่ยังมีควันลอยกรุ่น

    แทบจะขาดคำ หวงอวี่ก็เดินเข้ามาหาพลางเอ่ยเยาะเย้ยอย่างลำพอง

    “ฮ่าฮ่า อู๋เฉิงกวง เจ้าไม่คิดสละสิทธิ์ดอกหรือ ? แล้วเตรียมตัวตายพร้อมหรือยัง ?”

    “หวงอวี่ พูดแบบนี้มันเป็นการเสียมารยาทต่อท่านชายทั้งสามแห่งอาณาจักรหริมกรนะ !” ท่านชายเฉินอี้แห่งอาณาจักรธวลาพยัคฆ์ดุ

    “จริงสิ ข้าอยากจะถามมานานแล้ว ท่านเองก็เป็นมนุษย์เหมือนกันกระมัง ?” หมิงหลุนถามพลางลูบรอยปูดบนศีรษะป้อยๆ

    “ถูกแล้ว ข้าเป็นเช่นเดียวกับท่านชายหมิงหลุน”

    “อา ? เป็นเช่นเดียวกับข้า ? ก็หมายความว่าท่านเองก็ไม่เป็นวิชาฤทธิ์ใดๆ เช่นกันน่ะสิ ?” …ดีจริงๆ ในที่สุดก็ได้พบกับคนที่เป็นแค่หญ้าแพรกเหมือนข้าแล้ว !…

    “หึหึ ข้าหมายความว่า ข้ามีฐานันดรศักดิ์เช่นเดียวกับท่านชายหมิงหลุนต่างหาก เพราะข้าเป็นวิชาฤทธิ์” เฉินอี้เอ่ยตอบยิ้มๆ

    “เจ้าไม่ต้องหวังให้เหนื่อยเปล่าดอกน่า นอกจากเจ้ากับข้า ทุกคนที่อยู่ในที่นี้ต่างก็เป็นยอดฝีมือที่มีฤทธิ์แก่กล้ากันทั้งนั้นนั่นแหละ !” อาไท่ทำแก้มป่องอย่างไม่สบอารมณ์

    “เฮ้อ !” หมิงหลุนก้มศีรษะลงอย่างผิดหวัง

    ขณะนั้นเอง เต่าซึ่งคลานต้วมเตี้ยมเข้ามาหาก็ส่งเสียงร้องทักขึ้น

    “ท่านชายหมิงหลุน ท่านชายเฉิงกวง เมื่อวานนี้ข้าเสียมารยาทแล้ว”

    เฉิงกวงรีบยิ้มรับทันที “ไม่เป็นไรดอกน่า ข้าสิต้องเป็นฝ่ายขอบใจเจ้าด้วยซ้ำ ชิงกางเป็นดาบที่ดีมากจริงๆ”

    “ท่านชายเฉิงกวงโปรดปรานก็ดีแล้วพระเจ้าค่ะ เพราะถึงอย่างไรดาบเล่มนั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับข้าอีกแล้ว” นัยน์ตาของเต่าหม่นแสงลง

    “โอ๋ ?” หมิงหลุนมองเต่าอย่างประหลาดใจ …ท่าทางของท่านเต่าดูแปลกจริงๆ !…

    จังหวะนั้น กัณหราชา กุมมวาโฬราชา และท่านหญิงฝูหวนก็ได้มาถึงพอดี กุมมวาโฬราชาเดินเข้ามาหาพลางเอ่ยกลั้วหัวเราะ

    “โฮะๆๆ ดูเหมือนทุกคนจะมากันพร้อมหน้าแล้วสินะ”

    “การประลองในรอบที่สามยากมากเทียวนะ พวกเจาคิดดีแล้วหรือ ?” กัณหราชาถาม

    “ข้า…” หมิงหลุนเพิ่งจะอ้าปากเตรียมขอสละสิทธิ์ ก็ถูกเฉิงกวงถลึงจ้องเขม็งด้วยสายตาประหนึ่งห่ามีดบินนับหมื่นเล่มทิ่มแทงใส่ทันที และเมื่อใคร่ครวญถึงความปลอดภัยของชีวิตในอนาคต  หมิงหลุนจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างว่าง่าย

    ครั้นเห็นว่าไม่มีใครเอ่ยปากขอสละสิทธิ์ กัณหราชาจึงเอ่ยว่า

    “เมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นข้าขอประกาศกฎของการแข่งขันในครั้งนี้ล่ะนะ..”

    นับแต่ที่กัณหราชาและกุมมวาโฬราชาเดินเข้ามาหา เต่าก็เอาแต่จับจ้องท่านหญิงฝูหวนที่ยืนเหม่อลอยอยู่ข้างๆ ราชาทั้งสองอย่างไม่วางตา

    …ท่านหญิงพระเจ้าค่ะ…

    “เชื่อว่าทุกท่านคงจะทราบกันดีแล้วกระมังว่าป่าทึบแห่งนี้หมายถึงอะไร” กัณหราชาเอ่ย

    “หมายถึงอะไรหรือ ?” หมิงหลุนกระซิบถาม

    “เป็นป่ามรณะที่ใช้ในการคัดเลือกยอดนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของอาณาจักร ผู้ที่สามารถรอดชีวิตจากป่าแห่งนี้ออกมาได้ จะต้องมีพลังและความสามารถไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกข้าอย่างเด็ดขาด” เฉินอี้อธิบาย “ป่าทึบแห่งนี้แฝงเร้นทั้งกลิ่นอายสังหาร กับดัก และความตายอันน่าสะพรึงกลัว มิใช่สถานที่ซึ่งคนธรรมดาทั่วไปจะสามารถบุกฝ่าเข้าไปได้ เพราะฉะนั้น ท่านชายหมิงหลุน ท่านรีบสละสิทธิ์ล่วงหน้าเสียจะดีกว่า” ท้ายประโยคแนะนำด้วยความหวังดี

    “ข้าก็อยากจะทำเช่นนั้นเหมือนกัน !” หมิงหลุนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ “หากเข้าไปในป่าแห่งนี้ ข้าอาจจะต้องตาย แต่หากไม่เข้าไป ข้าต้องตายทันทีเดี๋ยวนี้ ! ท่านว่าข้าจะเลือกอย่างใดเล่า ?”

    “หึหึ แต่ก็ไม่เป็นไรดอก ! เพราะทางด้านพวกท่านมีท่านชายอวี้ที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ด้วยเทียวนะ !” เฉินอี้หันไปมองฉานอวี้ซึ่งมีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ตลอด

    …แค่เขาไม่ฆ่าข้า ข้าก็ขอบคุณเทวดาฟ้าดินแล้ว… หมิงหลุนคิดในใจ

    เวลานั้นกัณหราชาก็ได้เริ่มประกาศกฎของการแข่งขันในครั้งนี้ขึ้น

    “กฎของการประลองคือ…”

    “กรี๊ด !”

    จากคุณ : Linmou - [ วันรัฐธรรมนูญ 07:04:39 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom