คุณรามหวานเป็นเหมือนกันค่ะคุณ nonono หวานบ่อยด้วยค่ะ :o) ก็มีเมียเด็กนี่นะคะ จะทำตัวแก่คร่ำครึตลอดเวลาก็ยังไงๆอยู่
ต่อไปนี้เวลาขึ้นตอนใหม่จะขีดเส้นแบ่งออกจากลิ้งค์ตอนเก่านะคะคุณศิริรำไพร ส่วนเรื่องขโมยของจากในสวนนั่นเป็นเรื่องที่จะทำให้ไอรีนกับกริชสนิทกันมากขึ้นเท่านั้นเองค่ะ
กริชออกแล้วค่ะคุณ scottie เรื่องนี้เป็นเรื่องรักสามเส้าค่ะ คือระหว่าง ราม ไอรีน แล้วก็กริชค่ะ
วิไลอยู่ในสมัยซึ่งใหม่กว่าคุณอุ่นอยู่นิดค่ะคุณ RadoN เงื่อนไขหลายๆอย่างก็เลยไม่เหมือนกันค่ะ จะเก๊กมากนักก็ไม่ได้ค่ะ มันเป็นซะยังง้าน
บทที่ ๑๘ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6092491/W6092491.html
--------------------------------------------------------------
บทที่ ๑๙
"มีคนเข้าไปขโมยโน่นขโมยนี่อยู่ตลอดนั่นแหละ ก็ขโมยกันทีละนิดทีละหน่อย คุณแม่ก็เลยไม่คิดจะเอาเรื่อง รู้ๆกันอยู่ว่าพวกหัวขโมยก็ชาวบ้านแถวนี้ ท่านถึงไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา"
เสียงใสๆค้านทันควัน
"แต่คราวนี้หลานลุงคำเจ็บนะคะคุณราม แล้วลุงแกยังบอกอีกว่าไม่ใช่ครั้งแรกด้วยที่ถึงกับทำร้ายกันอย่างนี้"
ร่างใหญ่ๆขยับจากท่านั่งกึ่งนอนบนเก้าอี้ยาว ปิดหนังสือในมือแล้วดึงร่างเล็กๆซึ่งนั่งหมิ่นเหม่บนที่วางเท้าข้างขาของตัวให้เอนลงนอนเคียงข้าง โอบร่างนุ่มละมุนนั้นไว้หลวมๆ คิดเร็ว ตัดสินใจเร็วอีกเช่นเคย
"เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ถ้าจะทำให้เธอสบายใจขึ้น พรุ่งนี้ฉันจะพูดกับนพพร ให้ตำรวจเขาส่งพลตระเวนมาเดินตรวจแถวหน้าสวนให้บ่อยขึ้น ก็คงพอช่วยได้บ้าง ว่าแต่เธอจำนพพรได้ไหม"
ไอรีนทบทวนอยู่เป็นครู่ มั่นใจว่าคงเป็นชายหนุ่มร่างสันทัด หน้าตาคมคายที่เขาพามาแนะนำในงานแต่งว่าเป็นญาติห่างๆ และเคยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ เหตุที่จำได้ท่ามกลางผู้คนมากมายที่ได้พบเห็นในงานก็เพราะเขามากับภรรยาซึ่งกำลังท้องเช่นเดียวกับปรางผู้เป็นพี่สะใภ้
"คนที่เป็นตำรวจใช่ไหมคะ"
"นั่นล่ะ วันงานก็ไม่ค่อยได้คุยกัน คนเยอะไปหน่อย" เขาหัวเราะหึๆในลำคอ
"นพพรเป็น...เอ...ลำดับญาติอย่างไรดีล่ะ...เป็นลูกผู้พี่ของกริชคงง่ายที่สุดกระมัง เอาแบบนี้...พ่อของนพพรเป็นหลานของปู่ฉัน ก็เท่ากับพ่อของนพพรเป็นญาติผู้น้องของพ่อของฉัน น้องสาวคนเล็กของพ่อของนพพรเป็นแม่ของกริช งงไหมล่ะนี่" เสียงห้าวกลั้วหัวเราะ
"ไม่หรอกค่ะ ไม่งง" ถึงปากจะบอกว่าไม่งง แต่สมองก็พยายามทบทวนไล่โยงใยเส้นสายวงศ์ตระกูลตามลำดับที่เขาบอกอย่างลำบากยากยิ่ง
"ง่ายๆก็ได้ว่านพพรกับฉัน...กับกริชด้วย...เราเป็นญาติห่างๆกัน แต่เรื่องทางครอบครัวของกริชวุ่นวายกว่าเรื่องของนพพรมาก เอาไว้วันหลังจะเล่าความเป็นมาของกริชให้ฟัง วันนี้เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ฉันจะพูดกับนพพร ขอว่าให้ช่วยส่งพลตระเวนมาดูแลเงียบๆ ในเมื่อคุณแม่ไม่อยากให้ถึงกับกวาดล้างตามจับกันให้เป็นเรื่องใหญ่โต ถึงอย่างไรคนแถวนี้ก็เห็นๆกันอยู่ เราทำให้เขาเคือง เราเองอาจเดือดร้อนยิ่งกว่านี้"
ปากพูด นิ้วไล้ไปตามไหล่บางของภรรยา
"เข้าไปดูในสวนแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ชอบไหม"
สาวน้อยกระตือรือร้นขึ้นมาทันที ยันตัวจากอ้อมแขนล่ำสันขึ้นมองคนถาม ระยะหลายวันที่ผ่านมา คุ้นเคยกับเขาจนความใกล้ชิดแบบนี้ไม่ทำให้ประหม่าอีก
"ชอบค่ะ"
"อยากไปช่วยนายคำทำสวนไหมเล่า" เขาแกล้งถามเล่นๆไปอย่างนั้นเอง
แต่อีกฝ่ายกลับเห็นเป็นเรื่องจริงจัง นัยน์ตาสีน้ำตาลใสเบิกกว้าง ตื่นเต้นด้วยเห็นเป็นเรื่องสนุก
"คุณรามอนุญาตหรือคะ"
รามละมือจากเรือนร่างนุ่มละไมของภรรยาสาวน้อย สอดสองแขนรองใต้ท้ายทอยแทนหมอน แล้วมองใบหน้านวลกระจ่างใกล้ตัวยิ้มๆ
"ทำไมต้องให้ฉันอนุญาต ไม่ต้องคอยให้ฉันอนุญาตหรอก เธออยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ เห็นอยู่แต่บ้านทุกวันก็เป็นห่วง กลัวจะเบื่อ บางทีก็กลัวจะเหงา ยังเด็กอยู่นี่นะ คงอยากทำอะไรสนุกๆบ้างอย่างนั้นซี"
ออกปากอย่างเอ็นดู กลับโอบร่างน้อยให้เอนศีรษะลงบนแผ่นอกของตัวอีก
"ถ้าเธอทำสวนเองแล้วอยากปลูกอะไรบ้างล่ะ เห็นคุณแม่เคยบอกว่าปลูกหมากไว้มาก"
"ค่ะ เท่าที่ดิฉันไปเห็นมีหมากหลายต้นค่ะ แล้วก็มีส้มโอ มะม่วง กล้วยก็มี แต่ดิฉันว่าอีกหน่อยคงไม่มีใครกินหมากกันแล้ว ตอนนี้คนกินหมากน้อยลงแล้วนะคะ คุณราม น่าจะเอาพื้นที่มาปลูกผลไม้แทน" แววชาวสวนเริ่มออก อดยิ้มไม่ได้เมื่อคิดไปถึงว่าครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้เองที่เกือบจะได้เป็นสะใภ้ชาวสวนอยู่แล้ว
คนเป็นสามีเห็นรอยยิ้มนั้นเข้าพอดี
"ขำอะไร"
สาวน้อยปฏิเสธพัลวัน "เปล่าค่ะ เปล่า กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปน่ะค่ะ"
รามรู้ทัน พูดถึงเรื่องไร่เรื่องสวนแล้วจะมีใครที่ไหนได้อีก
"คิดถึงนายแจ้งละซี" ชีวิตเพียงสิบเจ็ดปีเท่านี้จะรู้จักใครมากมาย
คำตอบมีเพียงเสียงหัวเราะเบาๆอย่างขัดเขิน
เงียบกันไปครู่หนึ่ง ก่อนที่รามเป็นฝ่ายหวนกลับมาพูดถึงเรื่องที่กำลัง 'ปรึกษา' กัน
"ก็จริงนะ คนกินหมากน้อยลงจริงๆ แล้วเธอคิดอยากปลูกอะไรแทนล่ะ"
"ได้ตั้งหลายอย่างนี่คะ ลุงคำบอกว่าส้มโอได้ราคาดี ขโมยก็ยากด้วย เพราะจะแอบตัด แอบขนมันลำบากกว่าหมาก ขโมยกันทีก็ได้ไปไม่กี่ใบเพราะมันหนัก มันไม่คุ้มค่าเสี่ยง"
"คงศึกษามาดีแล้วสินี่" รามเย้า
"ก็คุยๆกับลุงคำอยู่นานค่ะ"
"ที่จริงนายคำก็ไม่ใช่ช่ำชองเรื่องทำสวนหรอกนะ นายคำเป็นคนเก่าคนแก่ของคุณพ่อ พอคุณแม่กว้านซื้อสวนแถวนี้เมื่อหลายปีมาแล้ว ตอนนั้นเห็นว่าเจ้าของเขาขายราคาดี นายคำก็เลยเสนอตัวไปทำสวนให้ เรื่องมันเป็นอย่างนั้น"
นายพันโทหนุ่มเล่าไปเรื่อยเปื่อย สบายอกสบายใจเพียงแค่ได้พูดคุยด้วย ได้ยินเสียงใสๆโต้ตอบ ได้รู้สึกถึงร่างเล็กๆละมุนละไมอยู่แนบชิดเช่นนี้ก็สุขใจจนหาอะไรเปรียบยากแล้ว แม้ความไม่ลงตัวยังคงอยู่ ความปรารถนาทางกายยังไม่เคยได้รับการตอบสนองอย่างเต็มอิ่มเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่เวลาเช่นนี้ เรื่องนั้นหาใช่เรื่องสำคัญไม่ ยังหวังอยู่ลึกๆว่าวันหนึ่งคงแก้ปัญหานั้นได้ ส่วนในเวลาแบบนี้ ความสุขสงบทางจิตใจเช่นนี้มีความสำคัญกว่าอะไรอื่นทั้งหมด
ทั้งคู่เงียบกันไปอีกเมื่อเสียงประกาศข่าวทางวิทยุเปลี่ยนเป็นเสียงเพลงจากเครื่องสาย
ไอรีนซุกหน้ากับซอกแขนกำยำของสามี หลับตาอย่างเปี่ยมสุข อบอุ่นทุกครั้งที่ได้อยู่ชิดใกล้เขา มองไม่เห็นว่าชีวิตนี้ยังต้องการอะไรอีก นอกจากสิ่งเดียวที่ยังทำเพื่อเขาไม่ได้ จนถึงวันนี้ก็ยังไม่คุ้นชินกับความรุนแรงของเขาเมื่ออยู่กันตามลำพัง แต่เขาก็เคยไม่เร่งรัด จะหยุดเสียกลางคันทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเธอร้องอย่างเจ็บปวด พอเขาหยุด เธอจะรีบขอโทษขอโพยทุกครั้งเหมือนเช่นเคย และเขาก็จะกระซิบบอกเหมือนเดิมว่าไม่เป็นไร นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ให้ความรู้สึกว่าเธอยังทำหน้าที่ภรรยาได้ไม่ครบถ้วน แม้จะพยายามกัดฟันทนทุกครั้งแล้วก็ตาม
แต่อะไรที่ยังเป็นปัญหาค้างคา ยังไม่มีการแก้ไข โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อปัญหานั้นอยู่ใกล้ตัว มันก็เหมือนตะกอนนอนก้น มันสงบอยู่ได้เพียงชั่วครู่ชั่วยาม คราใดที่ถูกก่อกวน มันก็กลับลอยขึ้นเบื้องบนอีก ไอรีนจึงได้ตระหนักว่าวันเวลาที่สงบสุขอย่างแท้จริงเป็นเพียงภาพหลอนเท่านั้น
(มีต่อค่ะ)
จากคุณ :
kdunagin
- [
11 ธ.ค. 50 04:05:04
]