Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ห้วงคะนึง...

    ห้วงคะนึง…

    ...ผมลืมตาตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิด...

    ...มืดเสียจนผมไม่แน่ใจว่าผมได้ลืมตาขึ้นมาจริงหรือไม่ ผิวกายและลมหายใจสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นและชื้นแฉะรอบๆ บริเวณ...

    ...สายตาที่ลืมอยู่ในขณะนี้มองตรงไปด้านหน้าโดยที่ไม่อาจจับจ้องสิ่งใดได้...

    ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่ผมนอนอยู่อย่างนั้น...ผมค่อยๆ ใช้มือและแขนอันปวดเมื่อยยันร่างกายที่อ่อนล้าเพื่อที่จะลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ท่ามกลางสมองมึนงง

    ...ที่นี่ที่ไหน...

    รอบๆ ตัวในระยะที่สายตามองเห็น ไม่ว่าจะมองไปทางใดก็ล้วนมีแต่ความมืดมิดที่ไม่อาจแยกแยะทิศทางได้

    ทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ไม่แสดงการไหวติงใดๆ แม้แต่น้อย

    ...ไม่มีเสียงเดิน...ไม่มีเสียงตกกระทบ...ไม่มีเสียงสิ่งใดๆ เคลื่อนไหว...ไม่มีเสียงลมพัด...

    และ...ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจของสิ่งอื่นใด

    ผมยืนนิ่งอย่างสับสน...ทำอะไรไม่ถูก

    ...ผมควรจะเริ่มทำอะไร...จากตรงไหน...

    ตอนนี้...แม้แต่ที่ๆ ยืนอยู่ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าคืออะไรด้วยซ้ำ

    ...ผมมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร...

    ผมรวบรวมสติและตัดสินใจเดินสะเปะสะปะไปในความมืดโดยมีมือทั้งสองข้างปัดแกว่งคลำทางอยู่ด้านหน้าอย่างไม่รู้เหนือรู้ใต้

    ความมืดมิดอันเวิ้งว้างที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุดรอบๆ ตัวยังคงโอบคลุมผม ไม่ว่าจะก้าวไปทางใดก็ไม่อาจหลุดพ้นจากมัน

    ...ทุกย่างก้าวไม่อาจรับรู้ได้ว่าจะย่ำลงสู่พื้นเมื่อใด...

    ผมพยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ อะไรที่ทำให้ผมมาอยู่ในที่แห่งนี้ ที่ซึ่งผมเองก็ไม่อาจรู้ได้ว่าคือที่ใด

    ...ที่ๆ แม้แต่แสงก็ไม่อาจส่องถึงได้แห่งนี้...

    ...เกิดอะไรขึ้นกับผม...อะไร...ที่ทำให้ผมมาอยู่ที่นี่...ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น...

    ...ก่อนหน้านี้...

    อาการปวดหัวเกิดขึ้นในทันทีที่ผมพยายามจะนึกถึงเรื่องอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้น

    ...ผมยังคงเดินต่อไปอย่างไร้จุดหมายและเป้าหมาย...

    ...จุดหมาย...เป้าหมาย...อย่างนั้นรึ...

    สองคำนี้...ดูเหมือนจะเป็นคำที่ผมไม่คุ้นเคยเลยแม้แต่น้อย...ทำไม...ผมรู้สึกว่ามันช่างห่างไกลกับสิ่งที่ผมเป็นอยู่อย่างมาก

    ..................

    ผมคิดว่าเป็นระยะทางพอสมควรแล้วที่ผมเริ่มเดินออกมาจากจุดเริ่มต้น

    ...ไม่มีทางออก...

    อาการรับรู้หลังจากผ่านการเดินเท้ามาระยะเวลาหนึ่งบอกผมอย่างนั้น และนั่นส่งผลให้จังหวะก้าวของผมช้าลงเป็นลำดับ

    ...ผมต้องนึกให้ออกว่าเกิดอะไรขึ้น...นั่นอาจจะเป็นทางเดียวที่จะไขทุกอย่างให้กระจ่างและเป็นกุญแจไปสู่ทางออกจากสถานที่อันมืดมิดและเงียบเชียบแห่งนี้...

    พลังความคิดถูกนำมาใช้แทนพลังกาย...เส้นเลือดบริเวณขมับบีบรัดและคลายเป็นจังหวะตามการพยายามใช้ความคิด

    ...อะไร...

    จังหวะก้าวเท้าช้าลงอีก

    ..................

    เหมือนทำนบกั้นน้ำแตก...นานเท่าใดก็ไม่อาจรู้ได้ที่พลังความคิดถูกใช้ออกไป...ภาพแห่งความทรงจำภาพแล้วภาพเล่าค่อยๆ ไหลพรั่งพรูออกจากสมอง

    ...ความล้มเหลวในชีวิต...

    ...ความผิดหวังนับครั้งไม่ถ้วน...

    ...ความท้อแท้ที่กัดกินหัวใจ...

    ...การลาจากอันแสนเศร้า...

    ...ความพลัดพรากจากสิ่งที่รัก...

    ...การดำเนินชีวิตอย่างไร้ซึ่งจุดหมาย...

    ...เป้าหมายในชีวิตอันเลือนรางจนไม่อาจมองเห็นเป็นรูปร่างได้...

    ...ซ้ำแล้วซ้ำเล่า...

    จังหวะก้าวช้าลงเรื่อยๆ สวนทางกับความทรงจำที่หลั่งไหลออกมา

    แรงกดดันมหาศาลถาโถมเข้าสู่จิตใจอันอ่อนล้าและไหล่ทั้งสองข้างจนหนักหน่วง

    ผมไม่อาจจะก้าวเท้าหรือแม้แต่จะพยุงร่างกายให้ยืนอยู่ได้อีกต่อไป

    ...ร่างกายทรุดลง...ก้มหน้า...น้ำตาไหล...

    ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นทำให้ผมไม่อาจดำรงอยู่ได้อีกต่อไป

    สถานที่มืดมิด หนาวเหน็บ และไร้ซึ่งแสงสว่างแห่งนี้ แท้จริงคือโลกภายในจิตใจของผม

    ...โลกที่ปิดกั้นผมจากความบอบช้ำภายนอกมาตลอด...

    ...ผมเป็นผู้แพ้ในโลกแห่งความเป็นจริง...

    ด้านหน้าของผมบัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นทุ่งกว้างที่เขียวขจี ดวงอาทิตย์กลมโตลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้าใสกระจ่างคอยส่องแสงทองสดใสลงมาอาบท้องทุ่งทั่วทั้งบริเวณ ลมเอื่อยเย็นสบายพัดพาดอกหญ้าลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ ที่ปลายทุ่งตัดกับขอบฟ้ามีไม้ยืนต้นตระหง่านทอดร่มเงาคอยผู้ที่จะมาหลบพักกายและใจ

    ...ผมยันกายขึ้นยืนอีกครั้ง...

    ที่แห่งนี้เป็นที่ๆ ผมจะมีความสุขตลอดไป...โลกที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ภายนอก...ไม่มีการแก่งแย่งใดๆ...โลกที่เป็นนิรันดร์

    ...โลกในห้วงคะนึงของผม...

    ...จังหวะย่างก้าวช้าๆ แต่สงบและเป็นสุข...

    ...และ...เมื่อผมมองกลับไปยังความมืดมิดด้านหลัง...

    ตึกรามบ้านช่อง อาคารสูงตระหง่าน การจราจรคับคั่ง ความเร่งรีบสับสน การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น

    ...ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผลักดันให้ผมจมลงสู่ความมืดมิด...

    ...หากแต่...ก่อนที่จะก้าวลงไปยังทุ่งกว้าง...

    ...เสียงๆ หนึ่งซึ่งฟังไม่ได้ศัพท์ดังมาแต่ไกลจากที่ไหนสักแห่งในความมืดมิดเบื้องหลังนั้น...ผมหยุดก้าวเดินและหันกลับไปฟัง...เสียงอะไรบางอย่าง...

    ความคุ้นเคยและบางสิ่งบางอย่างในจิตใจถูกกระตุ้นโดยเสียงซึ่งไม่อาจแปลความหมายได้นั้น

    ...ผมหันกลับไปยังแสงสว่างอันอบอุ่นในทุ่งกว้างอีกครั้งอย่างลังเล...ก่อนที่จะตัดสินใจเดินไปตามเสียงอันแผ่วเบาที่ดังผ่านความมืดมิดนั้น...

    ...ในความมืดมิด...เสียงนั้นดังมาจากที่ไหนกันนะ...

    เสียงเริ่มชัดเจนขึ้นตามระยะทางที่ได้จากการก้าวย่าง

    ...และ...ที่ตรงนั้น...แสงสว่างอีกแห่งหนึ่งที่สาดส่องอย่างเจิดจ้าท่ามกลางความมืดมิด...

    เสียงอันคุ้นเคยและชัดเจน...น้ำเสียงแสดงถึงความห่วงใยและระทมทุกข์ดังมาจากแสงสว่างนั้น

    ...ผมนิ่งอึ้ง...เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ในอก...ก่อนตัดสินใจ...เดินเข้าไปยังแสงสว่างตรงหน้า...

    ..............

    สายตาพร่ามัวของผมลืมขึ้นท่ามกลางรอยยิ้มและน้ำตาแห่งความปีติของผู้คนซึ่งรายล้อมอยู่รอบกายของผม...อ้อมกอดอุ่นและแววตาแห่งความอารีซึ่งดูเหมือนห่างหายไปจากผมเป็นเวลานาน

    ...น้ำตาผมไหลออกมาท่ามกลางบรรยากาศอันอบอวลไปด้วยความสุข...

    ...ถึงแม้ผมจะเคยผิดหวัง...ท้อแท้...และทำผิดพลาดมามากมาย...แต่ในวินาทีนี้...ผมรู้สึกว่าผมได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว...

    ณ เตียงนอนในโรงพยาบาล คนไข้คนหนึ่งลืมตาตื่นขึ้นหลังจากการหลับไหลไม่รับรู้ต่อโลกรอบกายอย่างไม่ทราบสาเหตุมาเป็นระยะเวลานาน

    จากคุณ : KTHc - [ 11 ธ.ค. 50 22:41:25 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom