แววตาของเขาจ้องมองอย่างมุ่งมั่น มันเปี่ยมล้นและเฉียบขาด เมื่อเขาเหยียดยิ้มออกมาพวกนั้นพากันฉงนใจ ไม่มีใครกล้าตัดสินใจในความคิดสักคนว่าควรกระทำอะไรดี สิ่งที่ควรทำต่อไป สิ่งที่ควรทำออกมา พวกเขาพากันลังเล เขาจึงก้าวเดินผ่านออกมา มีทีท่าของการระวังตัวอยู่ในการก้าวเดินนั้น แล้วเขาก็จากพวกนั้นมา
เขาเถือเนื้อแขนตัวเองของตัวเองด้วยเศษกระจก วาดวงกลมแดงรอบแขนซ้ายของตัวเองด้วยมือข้างขวาที่กำกระจกใสที่ฝังความคมของมันกับฝ่ามือกระชับ ความคมเบียดแทรกกับผืนมือ มันกรีดเฉือนด้วยความเร็วทั้งที่ไม่มีทีท่าของการออกแรง เลือดไหลออกจากฝ่ามือของเขา มันหยดลงพื้นและมีความข้น และมีความคาว เขาชูมือที่มีเศษกระจกนั้นขึ้นท้าทายกลุ่มชายตรงหน้า เมื่อมองดูตรงใต้ตาขวาจะพบรอยช้ำ เมื่อถอยออกมาสักหน่อยมองใบหน้าโดยรวมของเขาในระยะกว้างครอบคลุมทั้งใบหน้าจะพบเจอแต่ร่องรอยฟกช้ำอันเกิดขึ้นมาหมาดๆเมื่อไม่กี่นาทีก่อน เขาหลบไม่ได้ ร่องรอยจากการที่เขาหลบไม่ได้ มันฝากฝังเอาไว้ แต่เขาก็โยกตัวหลบได้ เขาเป็นคนมีชั้นเชิง ในการโยกหลบซึ่งเป็นทั้งสัญชาตญาณและการตั้งสติไตร่ตรอง เขาหลบเมื่อมองเห็น แต่เขาไม่ได้หลบเมื่อมองไม่เห็น เขาเองก็ใช้ทั้งสติไตร่ตรองและสัญชาตญาณในการออกหมัดตอบโต้ กะระยะเหมาะๆให้แม่นยำ นั่นเป็นความคิดและสัญชาตญาณของการตอบโต้อย่างหวังผล เขาไม่สะเปะสะปะ เขาระมัดระวัง มันสั่งการให้เป็นไปเอง ความรอบคอบเกิดขึ้นมาเอง แล้วเมื่อถึงจุดหนึ่ง เขาเริ่มรู้สึกถึงการหอบ เขารู้สึกถึงลมหายใจเข้าออก รู้สึกถึงอากาศอุ่นผ่าวที่ถั่งถ่ายออกจากโพรงจมูกเข้าไปในปอด รู้สึกถึงอากาศอุ่นผ่าวที่ออกจากช่องท้องผ่านมาทางโพรงจมูก เขาหายใจหนักกว่าปกติ เขารู้สึกถึงหัวใจกับจังหวะการเคลื่อนไหวของมัน จังหวะของหัวใจที่รู้สึกหนักหน่วง เขายังไม่ได้รู้สึกถึงความเย็นของเหงื่อในท่าทีเริ่มแรก เขารู้สึกถึงว่าอุณหภูมิของเหงื่อเองก็อุ่นเช่นกัน แต่เมื่อเขารู้สึกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจอันดังก้องอยู่ในโสตประสาท เขาค่อยๆจับสัมผัสถึงความชื้นของหยาดเหงื่อที่ผุดออกมา แล้วเขาก็รู้สึกได้ว่าอุณหภูมิของมันค่อยๆเย็นลงอย่างรวดเร็วจากทีท่าแรกๆของมันที่ผุดหยาดออกมา แล้วเขาก็จับสัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมองออกไปข้างหน้า เขาไม่ได้จำเพาะเจาะจงไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือคนใดคนหนึ่ง เขามองออกไปกว้าง เขาสัมผัสถึงการมองออกไปกว้างๆ ครอบคลุม มองภววิสัยโดยรวมของช่วงปรากฏการณ์ตรงหน้า เขารับรู้ถึงภาพของเหตุการณ์ตรงหน้า จับดูสิ่งที่กำลังดำเนินเคลื่อนไหวไป จับดูทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกสิ่งทุกอย่างในสายตาเต็มไปด้วยรายละเอียด แม้เขาจะไม่ได้เพ่งเจาะลักษณะของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เขาก็รับรู้ได้ถึงความละเอียดของทุกๆสิ่งตรงหน้า ทุกอย่างมีรายละเอียดยิบย่อย และเขาก็มองดูอย่างกว้างๆ ในการมองดูของเขาคงเป็นตัวตัดสินใจถึงการกระทำ เขารู้สึกถึงได้ในความคิดอย่างฉับพลัน รู้สึกถึงการทำงานอันปุบปับของความคิด กระบวนการความคิดอันไหลอย่างสะดวกดายของเขา มันเป็นอย่างฉับพลัน การสั่งการของความคิดเป็นไป
เขาได้กลิ่นคาวของเลือดในเวลาถัดมา เขาสัมผัสถึงความชื้นเหนอะๆของเลือดที่ทะลักเต็มฝ่ามือในเวลาต่อมา เขาเคลื่อนการรับรู้มาที่เลือดข้นๆบนฝ่ามือซึ่งไม่ได้กำกระจกอีกต่อไป เขาเริ่มรู้สึกได้ถึงความเจ็บของแผลที่เกิดขึ้น ความคมของกระจกฝานลงไปกับชิ้นเนื้อมันลึกกว่าแผลที่เขาวาดไว้รอบวงแขนของตัวเอง เนื้อเหงื่อกับเนื้อเลือดปนเปกันไปหมด ความใสของเหงื่อถูกความข้นแดงของเลือดกลืนกินปนถมไปจนหมด
เขาย่างก้าวออกมา เมื่อรู้สึกได้ถึงบาดแผลเขาก็มีความคิดที่จะจัดการกับแผลที่เกิดขึ้น
ความบ้าดีเดือดที่เขาได้ก่อกระทำ ช่วยให้เขารอดพ้นเหตุการณ์ตรงหน้ามาได้ เขาไม่รู้อะไรนัก เขาไม่ได้คิดหยั่งจัดวัดว่าการณ์ที่กระทำลงไปจะเสียหายมากหรือน้อย หากไม่กระทำแบบนี้หรือกระทำแบบอื่น ผลที่ได้จะเป็นไปแบบไหนกันแน่ เขาไม่ได้คิด
พยาบาลชำระล้างแผลให้กับเขา เธอใช้สำลีเช็ดถูบนเนื้อแผล ใช้คีมคีบสำลีกับยาล้างแผล เธอทำอย่างง่ายๆปกติ เป็นไปตามสิ่งซึ่งเธอกระทำ ชุดขาวของเธอ มือของเธอกับถุงมือยางซึ่งกระทำตามโดยเป็นไปในแบบของการกระทำ เธอถามเขาว่าไปทำอะไรมา เขาตอบว่าป้องกันตัวเอง นั่นเองการรู้จักกัน เขามองดูเธอ เธอเองก็มองดูเขา มองดูแผลของเขา ไม่ได้มองดูใบหน้าเขาตรงๆ เธอสวมชุดสีขาว ชุดของพยาบาล เขาจำภาพชุดสีขาวของเธอได้อยู่ภายใน เป็นภาพของเธอ ร่างกายเธอ รูปร่างของเธอในชุดขาว มีใบหน้ารางๆของเธอกับชุดขาว ใบหน้าของเธอในความคิด สีขาวของชุดขาในความคิด
เขากระชับร่างของเธอแน่นเข้า ช่วงล่างของเขาขยับเข้าออกไปมา เธอเองก็ใช้สองแขนโอบรอบร่าง โอบรอบพาดแผ่นหลังของเขาไว้ เขาร่วมรักกับเธอด้วยท่วงท่ามาตรฐาน เนื้อตัวเปล่าเปลือย เบียดเสียดทาบทับเข้าหากัน สัมผัสของร่างแตะต้องกัน เขาโอบกอดร่างของเธอ สัมผัสริมฝีปากของเธอ รู้สึกกับเธอ รู้สึกถึงร่างเปลือยเปล่า เบียดเสียดชิดสัมผัสเข้าหากัน หลอมรวมกัน กายกลืนกัน กระทำกับเธออย่างที่ก่อกระทำการกระทำ เมื่อถึงจุดหนึ่งที่เนื้อต่อเนื้อเบียดเสียดกัน เขารู้สึกได้ถึงร่างของเธอร่างของเขา เมื่อร่วมในเนื้อทำนองเดียวกัน ความรู้สึกของความสุขอันหยั่งล้ำ มันดุเนิ่นนานแต่ก็รีบละลาจาก แต่มันก็ให้รสรู้สึกเนิ่นนาน รสรู้สึกโหยหา เป็นความรู้สึกเนิ่นนานที่ฝากฝังไว้กับการลาจาก ทำไมถึงรู้สึกเนิ่นนาน ทั้งที่มันก็เร่งรีบขาดหายเหลือเพียงร่องรอยของความรู้สึกที่ไม่หยั่งรากสัมพันธ์จีรังอันใด
เธอแต่งตัวด้วยชุดสีขาวสะอาด เขามองดูสีขาวนั้น บางครั้งที่เธอแต่งตัวเสร็จยืนอยู่ใกล้เตียงที่เขานอน หันหลังให้เขา เขาจะโอบเธอ ซุกหน้าของเขากับสะโพกของเธอแนบลงไปกับเนื้อผ้าสีขาวสะอาด ใช้มือวาดเคลื่อนไปตามต้นขาของเธอผ่านเนื้อผ้าสีขาว เหมือนเด็กถวิลหาการละเล่น
ผู้ชายจะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้นอนกับผู้หญิงสวยๆ เขาเพียงแต่ต้องการ เขาจึงได้นอนกับผู้หญิงสวยๆ เหตุผลของเขามีเพียงแค่นั้นเอง
เมื่อเวลาเป็นของวันวาน ในช่วงครั้งซึ่งเธอหยุดยืน ทรวงอกที่หายใจเข้าออก ในเสื้อผ้าชุดขาว เมื่อเธอรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจ เมื่อเธอจับได้ถึงจังหวะการเคลื่อนไหวของมัน รู้สึกถึงการกระเพื่อมของทรวงอก ของไออุ่นอากาศที่ผ่านเข้าออกในร่างจากร่าง ครั้งหนึ่งในทรวงอกของเธอซึ่งมีจังหวะการเต้นของหัวใจ มีจังหวะการหายใจเข้าออกของอากาศ ครั้งหนึ่งในทรวงอกของเธอนั้นมีจังหวะการเต้นของหัวใจของเขา มีจังหวะลมหายใจของเขา มีความรู้สึกของเขา มีตัวตนของเขารวมอยู่ด้วยเป็นส่วนประกอบ ประจุอยู่ในทรวงอกของเธอ
เธอจะจำมันได้ในครั้งหนึ่งของการหายใจหรือการเต้นของหัวใจ เพียงครั้งหนึ่งนั้น
----------------------------------
จากคุณ :
ชาวโลกพฤหัส
- [
30 ธ.ค. 50 14:32:53
A:125.27.119.205 X:
]