คุณเคยวิ่งตามความรักไหมค่ะ
ในขณะที่วิ่งตามสุขมากกว่าหรือเศร้ามากกว่า
ฉันวิ่งตามความรักมา 8 ปี
ทั้งสุขและเศร้าในขณะวิ่งตาม
รู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน
แต่เมื่อนึกถึงคนที่เราตามหา
กำลังใจมันก็ตามมา
-----------------------------------------
คุณอยากฟังเรื่องราวของฉันไหมค่ะ
แต่ฉันอยากเล่าจังค่ะ
-----------------------------------------
คนที่ฉันตามหาเค้าเป็นรักแรก
คงเป็นรักข้างเดียวแต่สิ่งที่เค้าแสดง
ออกมาเหมือนกับว่าเค้าใจตรงกับฉัน
แต่ก็ไม่เคยบอกความรู้สึกตัวเองกับเค้า
และเค้าก็ไม่เคยบอกความรู้สึกกับฉัน
จนเมื่อเราต้องแยกจากกัน
-----------------------------------------
เค้าได้โควต้าพิเศษคณะวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ฯ
ส่วนฉันสอบติดมหาวิทยาลัยต่างจังหวัด
ตอนปี1เราติดต่อกัน ฉันโทรศัพท์ไปที่บ้านเค้า
ตอนปิดเทอม หรือส่งเพจหากัน แต่ก็เป็นการเพจ
แบบเพื่อน แต่ก็มีบางคำพูดอย่างเช่นคิดถึง
มันทำให้ชุ่มชื่นหัวใจ จนลืมไปว่าความรัก
ทำให้คนตาบอด คำว่าคิดถึงของเค้าคงหมายถึง
เพื่อนคิดถึงเพื่อน แต่สำหรับฉันตอนนั้นมันไม่ใช่
---------------------------------------
พอเราขึ้นปี 2 ก็ขาดการติดต่อ ฉันกลัวเค้ารู้ว่าฉันคิด
กับเค้ามากกว่าเพื่อน พูดง่าย ๆ ก็คือ
ฉันว่าฉันคงวิ่งตามเค้ามากเกินไป
จนกระทั่งเรียนจบ เราไม่ได้ติดต่อกันเลย
แม้กระทั่งมีการนัดกันทุกปีใหม่จากหัวหน้าห้อง
เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้มาสังสรรค์กัน ฉันก็ไม่ไป
กลัวว่าจะเจอเค้า ทั้ง ๆ ที่อยากเจอ
----------------------------------------
ฉันมีเพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อ T ค่ะ
เราจะติดต่อกันตลอดตั้งแต่เรียนจบมัธยม
ถึงจะไม่บ่อยนักแต่ก็ไม่เคยขาดการติดต่อ
เพื่อนคนนี้เป็นหัวหน้าห้อง เค้าจะมีเบอร์เพื่อน ๆ แทบจะทุกคน
และเรียนวิศวะ ที่เดียวกับเค้าซึ่งเป็นรักแรกของฉันด้วยค่ะ
ฉันมักจะถามเบอร์เพื่อน ๆ จาก T บ่อย ๆ
แต่ทุกครั้งเค้าก็ไม่เคยให้เบอร์เพื่อนที่เป็นรักแรกของฉันเลย
และฉันก็ไม่กล้าถามตรง ๆ
จนกระทั่งผ่านไป 8 ปี
ในวันก่อนวันสิ้นปี2007 2 วัน T โทรมาหาและถามว่า
จะกลับบ้านหรือเปล่า ฉันบอกกับ T ว่าไม่ได้กลับ
ไม่อยากกลับหน้าเทศกาลคนเยอะ คงกลับหลังเทศกาล
และครั้งนี้ฉันก็ยังถามเบอร์เพื่อน ๆ อีก
และย้ำเสียงหนักแน่น
กว่าทุกครั้งหลายรอบว่า
ต้องบอกเบอร์เพื่อนทุกคนนะ
------------------------------------
ครั้งนี้ T ยอมให้เบอร์เค้าคนนั้น และก่อนให้ยังถามว่า
จะเอาอยู่เหรอ ฉันสงสัยอยู่เหมือนกันว่า T เค้าน่าจะรู้
ว่าฉันรู้สึกยังไงกับเพื่อนของเราคนนั้น
เมื่อฉันได้เบอร์เพื่อนคนนั้น ฉันก็โทรไปอำเค้า
เค้าจำเสียงฉันไม่ได้ เค้าถามว่าเอาเบอร์มาจากไหน
หลังจากที่คุยกันสักพักฉันก็ยังไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร
จนกระทั่งหนึ่งวันผ่านไปกับการรอคอยโทรศัพท์
เมื่อเค้าไม่โทรมาฉันจึงโทรไป กะจะอำอีกครั้ง
แต่สิ่งที่ได้ยินคือ อืมจะพูดอะไรก็ว่ามา
รู้แล้วว่าเป็นใครถาม T มาแล้ว
แค่ได้ยินน้ำเสียง ใจฉันก็วูบ
เพื่อนที่ไม่ได้คุยกันมา 8 ปี
ไม่มีแม้แต่น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ
ฉันได้แต่พูดว่า/แค่โทรมาสวัสดีปีใหม่หนะ
ไม่กวนแล้วแค่นี้แหละ
เงียบไม่มีเสียงตอบกลับ ฉันวางสายไป
ตอนนั้นรู้สึกโล่งแต่เศร้า
---------------------------------------------
8 ปีที่รอคอยโธ่เอ้ย
คิดไปเองคนเดียวทั้งนั้นซินะ
ไม่มีแม้กระทั่งน้ำตาบอกตัวเองว่า
ร้องไห้ไปเลยร้องไห้ให้สุด ๆ ร้องไห้กับแปดปีที่
ผ่านมา เชื่อไหมค่ะฉันพยายามเค้นน้ำตา
จนมันออกมา
ซึ่งปกติฉันเป็นคนบ่อน้ำตาตื้นจะตาย แต่ครั้งนี้ถึงกับ
ต้องเค้น คิดได้ดังนั้นก็หัวเราะตัวเอง
ฉันไม่ได้เศร้าอะไรมากมายนี่หว่า
---------------------------------------------------
มีเพื่อนสนิทคนนึงบอกฉันว่า
แกเลิกชอบเค้าตั้งนานแล้ว
แต่ที่แกลืมไม่ได้เพราะเค้าเป็น
รักครั้งแรกของแกและแกก็ยังไม่มั่นใจ
ว่าเค้าคิดยังไง แกจึงยังให้ความรู้สึกคิดถึงเค้า
มาทำให้แกเศร้า
มานั่งถามตัวเองว่าตอนนี้รู้สึกยังไง
คำตอบก็คือ
สบายใจจัง มันเหมือนยกภูเขาออกจากอก
ความรู้สึกที่หนักอึ้งมาหลายปี
มันได้ทลายไปแล้ว
และเพื่อนหญิงสนิทคนเดียวกันนี่
แหละค่ะที่บอกว่า T น่าจะชอบฉัน
เรื่องมันก็เลยยังไม่จบ
-------------------------------------
อยากอ่านต่อไหมค่ะ
คงยังไม่เบื่อใช่ไหม
แต่ฉันอยากเล่าจังค่ะ
-------------------------------------
หลังจากเรียนจบมัธยม เข้ามหา'ลัยปี 1
T ส่งจดหมายมาหาฉันบอกว่ารับน้อง
และซ้อมเชียร์เกือบทุกวันเหนื่อยมาก
อยากได้กำลังใจ ขอให้ฉันเป็น
กำลังใจให้ด้วย และบอกว่าคิดถึงฉันด้วย
ตอนนั้นดีใจมาก ดีใจเพราะอะไรรู้ไหมค่ะ
เพราะคิดว่าเป็นจดหมายจากเพื่อนที่เป็นรักแรกของฉัน
ก็ไม่ให้เข้าใจผิดได้ยังไงค่ะ
ตัวหนังสือของสองคนนี้เหมือนกัน
ยังกะก๊อบกันมางั้นแหละ
มิหนำซ้ำลงท้ายชื่อก็ยังเขียนเป็นลายเซน
ไม่ได้เขียนชื่อบรรจงกำกับมาซะด้วย
ตอนส่งก็ไม่ได้บอกว่าส่งจากใคร
แต่ฉันเดาว่าเป็นของรักแรกเพราะ
ซองและกระดาษเขียนประทับตรา
คณะและมหาลัยที่รักแรกเรียนอยู่
----------------------------------
ฉันตอบจดหมายฉบับนั้นค่ะ
แต่จ่าหน้าซองไปถึงรักแรกของฉัน
และฉันก็ได้รับจดหมายตอบกลับค่ะ
ดีใจมาก ๆ อีกแล้วแต่...
อายแทบอยากแทรกแผ่นดิน
ลายมือคนเดิม แต่ครั้งนี้ลายเซน
มีชื่อบรรจงเขียนกำกับ
นั้นหละฉันถึงรู้ว่าคนที่เขียนไม่ใช่เค้าคนนั้น
แต่เป็นจดหมายของ T ทั้งนั้น
ฮึ ๆ ฉันไม่พูดถึงจดหมายทั้งสองฉบับนั้น
ให้ใครรู้เลย แม้กระทั่งอยู่กับ T ก็ไม่พูด
เพราะอายเหลือเกิน
---------------------------------
มีครั้งนึงตอนปีหนึ่ง
ฉันถามถึงเค้าซึ่งเป็นรักแรกจาก T
แต่สิ่งที่ได้ยินจาก T คือ
โอ้ย มันไปนั่งเฝ้าผู้หญิงทุกวัน
ถามถึงมันทำไม
ตอนนั้นฉันคิดว่า T คงแกล้งพูด
เนื่องจากคงรู้ว่าฉันชอบเค้าคนนั้นแล้ว
จากจดหมายผิดซองนั้น
-------------------------------------
ช่วงที่ T เรียนปริญญาโทจะขึ้นลง
ระหว่างบ้านที่ต่างจังหวัดกับกรุงเทพ ฯ บ่อย ๆ
ทุกครั้งที่มาที่กรุงเทพ จะโทรหาฉันและเราก็
ไปหาอะไรกินกัน พร้อมกับเพื่อนผู้ชายอีกคน
T จะเทกแคร์ดีมาก ซึ่งเป็นนิสัยของเค้าอยู่แล้ว
----------------------------------
จนกระทั่ง T เรียนจบปริญญาโทและได้งานทำ
ที่สมุทรสาคร ฉันดีใจมากเพราะอยากไปเที่ยว
สมุทรสาครอยากไปดูหิ่งห้อย
แหมที่พักฟรี ก็กะจะพักกะ T หนะแหละ
ฉันบอก T ไปว่า นี่นายต้องพาเราไปดูหิ่งห้อยนะ ๆ
T ถามว่าไปกี่คน/ก็ไปเรากะนายไงจะไปกี่คนหละ
แหมอยากไปมานานแล้วนะเนี่ย
T ตอบว่าไงรู้ไหมค่ะ
โรแมนติกเกินไป
เท่านั้นแหละความคิดฉันก็หยุดกึก
/แหมนายก็พาแฟนนายไปด้วยไง
(พูดไปงั้นแหละรู้ ๆ ทั้งรู้ว่า Tยังไม่มีแฟน)
หรือไม่เราก็ชวนเพื่อนเราไปด้วยก็ได้
สรุปสุดท้ายฉันก็ไม่ได้ไปเพราะ T ลาออก
เพื่อไปช่วยกิจการที่บ้าน
------------------------------------
ช่วงที่ T ยังทำงานที่สมุทรสาคร
จะมีรถรับส่งที่ทำงานกับที่พัก
T จะนั่งคนเดียว ฉันคุยโทรศัพท์กับ T
และบอกให้เค้าไปนั่งกับสาว ๆ เผื่อจะได้มีแฟน
กับเค้าสักที แต่ทีก็ไม่ยอมทำตาม
ฉันจึงแหย่เค้าเล่น
"นายไม่ชอบผู้หญิงใช่ไหม นายชอบผู้ชายแน่ ๆ เลย
ใช่ไหม ๆ "
/เราไม่ได้ชอบผู้ชายเราชอบเธอ
อึ้งอีกแล้ว
แต่คิดว่าเพื่อนล้อกันเล่น
จึงล้อกลับ อย่ามาชอบเราน่า
เดี๋ยวเราเกิดชอบนายขึ้นมาจริง ๆ จะเป็นเรื่อง
------------------------------------
และมันก็เป็นเรื่องจริง ๆ
หลังจากนั้นการรอคอย
โทรศัพท์จาก T ก็เกิดขึ้น
และสิ่งนี้ก็ไม่พ้นสายตาเพื่อนหญิงผู้สนิทของฉัน
ในที่สุดฉันก็เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ทีเกิดขึ้น
ระหว่างฉันกับ T และเรื่องจดหมาย
ที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยนั้นด้วย
---------------------------------
เพื่อนหญิงผู้สนิทสองคนของฉัน
ว่าไงรู้ไหมค่ะ
/ ฉันว่าแล้วฉันสงสัยมานานแล้ว
เพื่อนอะไรมันจะติดต่อกันได้ตลอดขนาดนี้
(อ้อเพื่อนหญิงสองคนนี้เป็นเพื่อนสมัยเรียนมหา'ลัยค่ะ)
นี่เพื่อนสนิทผู้ชายฉันขนาดสนิทกันมาก ๆ มิหนำซ้ำ
ยังเรียนมหาลัยเดียวกันอีก ปีนึงมันโทรมาที
ฉันว่านาย T นี่มันชอบแกชัวร์
-----------------------------------------
แต่ฉันก็หาเหตุผลมาลบล้างค่ะ
ไม่อยากให้เหตุการณ์มันซ้ำรอยเดิม
เพื่อนสาวให้เหตุผลว่า
มันมีเพื่อนสมัยมัธยมทำงาน
กรุงเทพเยอะแยะใช่ไหม
และก็มีเบอร์เพื่อนเกือบทุกคน
ทำไมทุกครั้งที่มากรุงเทพต้องโทร
เรียกแกออกไปหาทุกครั้งทำไมไม่ชวนคนอื่น
ฉันตอบกลับไปว่า เพราะฉันยังไม่มีแฟน
ให้คอยตามหึงมันไง
/แล้วทำไมT มันไม่ยอมให้เบอร์ชายอันเป็น
รักแรกของแก อย่าบอกว่าไม่มีจ้างก็ไม่เชื่อ
/เค้าคงรู้ว่าฉันชอบเพื่อนเค้า
กลัวฉันเสียใจมั้ง หรือไม่ก็ไม่รู้สิ
/แล้วทำไมแกต้องรอโทรศัพท์เค้า
ทำไมต้องดีใจเวลาเค้าโทรมา
แกชอบเค้าใช่ไหม
/เปล่า
/ไม่หรอกแกชอบเค้า
/รักแรกแกเพียงลืมไม่ลง
/แต่คนนี้เป็นความรู้สึกปัจจุบัน
----------------------------------------
ฉันไม่มั่นใจว่าฉันรู้สึกยังไงกับ T กันแน่
จนกระทั่ง T หายไปเกือบเดือน
ไม่โทรมาและฉันก็ไม่โทรไป
-----------------------------------------
จนกระทั่ง 2 วันก่อนสิ้นปี
T โทรมาตอนที่ฉันเห็นเบอร์ T
ดีใจตื่นเต้น ฉันเป็นอะไรไป
และเมื่อ T ถามว่าปีใหม่กลับบ้านไหม
ดีใจจังเค้าอยากเจอฉันแหละ
ฉันกำลังจะตาบอดอีกครั้งแล้ว
-----------------------------------
ตอนเย็นก่อนวันสิ้นปี
ฉันโทรหา T
/อย่าบอกนะว่าเธอเปลี่ยนใจกลับมาบ้าน T ถาม
/ได้ทีฉันเลยอำเลย อืมตอนนี้ฉันอยู่หน้าบ้านนายแหละ
/ห๊าจริงเหรอ (เสียง T ออกจะตกใจไปหรือเปล่า)
พูดจริงเหรอ เฮ้ยตอนนี้เราไม่อยู่บ้าน ขับรถพาพี่
ออกมาทำธุระข้างนอก
...เสียง T เริ่มลุกลนฉันเลยเลิกอำ...........
เราพูดถึงเพื่อน ๆ เก่าสมัยเรียน
และก็จับคู่ให้กัน Tจับคู่ให้ฉัน
กับเพื่อนอีกคน ส่วนฉันก็จับคู่
ให้ T กับเพื่อนผู้หญิงของเราที่
ยังไม่มีแฟน แต่ฉันก็พูดกระเซ้า
T ว่าไม่เอาไม่ชอบคนอื่น
จะชอบที่รักคนเดียว
T หัวเราะเสียงดัง
แถมยังบอกว่า โหน่ากลัว
แต่แปลกเราไม่พูดถึงเค้าซึ่งเป็นรักแรกของฉันเลย
ฉันมั่นใจร้อยเปอร์เซนว่า T รู้แต่ไม่พูด
ฉันเปลี่ยนสรรพนามเรียก T ว่า "ที่รัก"
T คงเห็นว่าสนุกเลยเรียกฉันว่า "ที่รัก"
บ้างเหมือนกัน
-----------------------------------------
วันสิ้นปี
ฉันไม่อยากเก็บงำความรู้สึกอีกแล้ว
เพราะก่อนวันสิ้นปี
ฉันได้เคลียร์ความรู้สึกที่มันค้าง ๆ คา ๆ
ออกไปได้แล้วจากคนที่เป็นรักแรก
ฉันจึงตัดสินใจเด็ดขาด
เป็นไงเป็นกัน
ฉันโทรหา T เพื่อ Happy New Year
และก็สารภาพความรู้สึกที่มี
ฉันบอกเค้าไปว่าฉันชอบเค้า
เค้าหัวเราะอย่างเดียวเลย
เค้าคงคิดว่าฉันพูดเล่น
แหมก็เพื่อนที่คบกันมาสิบกว่าปี
ฉันบอกเค้าไปว่าอย่ามัวแต่หัวเราะ
ถ้าไม่รับรักฉันตอนนี้ วันหลังมาสารภาพรักฉัน
ฉันจะเชิดให้แล้วจะบอกว่า "เสียใจมาบอกอะไรตอนนี้ย่ะ"
/โหน่ากลัวสยิว อย่าชอบเราเลยน่ากลัว
/ไม่รู้หละบอกแล้วด้วย ไม่เคยบอกใครแบบนี้ด้วย
นายเป็นคนแรก
/โอ้พระเจ้าจอร์ซมีสายเรียกซ้อนแค่นี้นะ
.......นาย T นะ นาย T ....:-)
จบ..............
--------------------------------------------------
ฉันได้บอกเค้าไปแล้ว
ต่อไปจะเป็นยังไงก็ช่าง
ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นมากกว่าเพื่อน
แต่เราก็จะเป็นเพื่อนกันแบบนี้ตลอดกาลนาน
เพื่อนผู้แสนดีของฉันคนนี้
คนที่ฉันมองข้ามมาตลอด
ไม่เป็นไรหรอกถ้าเค้าจะไม่รู้สึก
เช่นเดียวกับฉัน
ฉันไม่โกรธเค้าเลย
คุณอาจจะไม่เชื่อ
แต่ถ้าคุณได้เป็นเพื่อนกับเค้า
คุณจะรู้ว่าทำไมฉันถึงโกรธเค้าไม่ลง
------------------------------------
อยากฟังเพลงดาวของคริสตินขึ้นมาแล้วซิ
ขอตัวไปฟังเพลงก่อนนะค่ะ
-----------------------------
Happy New Year 2008 คะ.............
แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 51 06:59:15
จากคุณ :
ตติตา
- [
1 ม.ค. 51 06:31:45
]