กระเทยริษยา : ชะนีหมิว !
ฉันรู้สึกประทับใจกับบทความบทหนึ่งที่เคยอ่าน เนื้อความมีอยู่ว่า ความรักนั้นไม่มีเพศ แต่คนเรานั่นแหล่ะที่ไปกำหนดเพศให้มัน อ่านแล้วแอบเข้าข้างคนเขียนนิดนึงเพราะตัวเองดันโชคร้ายเกิดมาเป็นเพศไม่ปกติ ก็ใครกันหนอระบุไว้ว่าชายต้องรักหญิง สำหรับฉัน...ฉันคิดว่าความรักมันไม่มีเพศ ชายรักชาย หญิงรักหญิงก็สวยงามได้เกินกว่าเราจะไปตีกรอบใดๆให้มัน และความรักที่มาในรูปของความเป็นเพื่อนนั้น ก็ล้ำค่าไม่น้อยไปกว่าความรักประเภทใด.ใด
มิตรภาพสำหรับฉันนั้นไม่มีเพศไม่มีวัยมาเกี่ยวข้อง เพื่อนของฉันอาจจะแก่กว่าฉันเกือบรอบ หรือ ทำตัววิปริต (บางครั้งก็วิกลจริตด้วย) มองแล้วไม่สามารถบอกได้ว่าเขาเป็นเพศใด แต่คนพวกนั้นก็เป็นเพื่อนฉันได้ ฉันมักได้ยินเสมอว่าเพื่อนผู้หญิงนั้นคบยาก จุกจิกเรื่องมากน่ารำคาญ ฟังแล้วงี่เง่าสิ้นดี เพศมันระบุอุปนิสัยกันได้ด้วยหรือ? ฉันว่าคนเรามีนิสัย (สันดาน) แบบไหนมันอยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า อย่าดึงคำว่า เพศ มาเกี่ยวข้องเลย
หมิว เป็นเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งในจำนวนไม่กี่คนที่ฉันมี ฉันเห็นมันครั้งแรกในร้านอินเตอร์เน็ตของนังมี่ ความหมวย อึ๋ม โนตม ไม่สามารถดึงดูดความสนใจฉันได้ (มันแน่อยู่แล้ว) แต่ที่เตะตาฉันกับเป็นบุคลิกที่โดดเด่นและเป็นตัวของตัวเองของหมิว
กระเทยจะไปไหน หมิวไปด้วย เมาหรอไปเมาด้วย เล่นไพ่หรอ...เล่นด้วย ไม่มีหมอนนอนกระดาน เขยิบสิ นังหมิวนอนด้วย เรียกว่าต่อมเรื่องมากมันคงฝ่อไปตั้งแต่แม่มันตัดสายรก เพราะไม่เคยเห็นมันเรื่องมากเรื่องอะไรเลย ชีวิตมันชิลๆ !
ทุกเย็นมันจะแวะมาที่ร้าน (และบางทีมันก็ค้างเอาดื้อๆ ที่ร้านด้วย) เธอจะทำทานด้วยการขนกระเป๋าเครื่องสำอางใบโตมาให้เหล่าผีกระเทยสัมภเวสี ได้ทดลองแต่งหน้าแต่งตากันเป็นที่สนุกสนาน เสื้อผ้าของนัง หมิวทุกตัวจะยืดย้วยเพราะกระเทยชอบหยิบมาใส่เล่น รองเท้าส้นสูงของนังหมิวทุกคู่คงจะอยากไปเกิดใหม่เป็นผ้าใบให้รู้แล้วรู้แรดเพราะกระเทยพยามยัดทีนจนแทบจะระเบิดไปหมดทุกคู่
แต่วีรกรรมนังหมิว (หรือวีรกรรมพวกฉันก็ไม่รู้) ที่พวกเราต้องจำกันไปจนวันตายทำให้ฉันต้องยกตอนนี้ให้เป็นของมันไปเต็มๆ หนึ่งตอน เรื่องมันมีอยู่ว่า...
ช่วงใกล้สอบปลายภาค ฉัน นังหมิว นังมี่ และนังอาม สี่สาว เกินไปหลายแคลอรี่ (ญาติ เกิร์ลลี่เบอร์รี่) ตกลงใจจะปิดร้านให้เร็วขึ้นเพื่อดูหนังสือสอบกัน แต่ถ้าขืนสุมหัวกันโดยไม่ตั้งกติกา คงจะเม้าท์กันน้ำไหลไฟไหม้ป่า หนังสือหนังหาไม่ได้อ่าน เงื่อนไขปฎิบัติการอ่านหนังสือสอบให้จบภายในคืนเดียวจึงถือกำเนิดขึ้น นั่นก็คือ !!!
ทุกนางจะต้องหุบปากให้สนิท (สำหรับนังอามอาจจะยากหน่อยเพราะฟันมันเหยิน) จงอ่านหนังสือที่อยู่ตรงหน้าตัวเองไปให้ครบ 30 นาที จึงจะเม้าท์คลายเครียดกัน 10 นาที หลังจากนั้นก็ต่างคนต่างอ่านต่อ (เหมือนปลาหมอโผล่มาหุบอากาศเลยเนอะ) เราทั้งสี่สรุปว่าจะทำสลับไปแบบนี้จนกว่าจะอ่านหนังสือจบกันหมดทุกคน
แต่... ยังไม่ทันจะพ้น 30 นาทีแรก นังหมิวก็นอนอ้าปากหวอ น้ำลายย้อยไปเสียแล้ว !!!
กระเทยรักการศึกษาสามตัวจึงต้องนั่งถ่างตาอ่านกันไปเงียบๆ ฉันเองก็แอบสัปหงกไปหลายที เหลือบดูนาฬิกา แม่เจ้า เพิ่งจะตีหนึ่งกว่าๆ จะหลับซะแล้ว แล้วจะรอดหรือเนี่ยกุ ???
ขืนเป็นแบบนี้ได้ตามนังหมิวไปเฝ้าพระอินทร์กันทั่วหน้าแน่ๆ
ฉันพูดกับนังมี่และนังอามที่กำลังแข่งกันหาวชิงแชมป์เปี้ยน
เออ ไม่ไหวแล้ว ง่วงว่ะ นังมี่บ่นกระปอดกระแปดสลับกับหาว
ชั้นมีวิธี ฉันเดินไปหยิบโยเกิร์ตที่ซื้อเอาไว้ตอนหัวค่ำในตู้เย็น ทีแรกกะจะเอาไว้กินแก้หิวตอนดึกเสีย
หน่อย
มานี่ มาพอกหน้ากัน ฉันเสนอไอเดีย
หน้าสวยมันไม่ทำให้แกสอบผ่านหรออิชะมด นังมี่แหวใส่
เดี๋ยวกุบัลเล่ห์ ฉันพูดพร้อมกับเล็งปลายเท้าไปที่ก้านคอมัน พอกหน้าเอาไว้หน้ามันจะได้ตึงๆ พอ
หน้าตึงแล้วแกก็จะไม่ง่วง เข้าใจมั้ย อิกระบือทะเล ฉันชี้ทางสว่างให้มัน
ว้ายยยย... ไอเดียบรรเจิด เริ่ดศรีมากเจ๊ นังอามกระดี๊กระด๊า
เราสามคนจึงจ้วงโยเกิร์ตละเลงหน้ากันอย่างเมามัน ความเย็นของโยเกิร์ตทำให้ตาพวกเราสว่างพอสมควร แต่อย่างว่า...กระเทยกับหนังสือเรียนใครมองว่าเข้ากันก็บ้าแล้ว ... ฉันนั่งมองนังมี่กับนังอาม นี่ถ้ามันสองตัวถือดินสอเขียนคิ้วกับตลับแป้ง คงเป็นสมการที่ลงตัวมากกว่าจะให้มันถือหนังสือเรียนกับปากกาชัวร์ !!!
นั่งอ่านไปสักพักฉันก็ไถลหลังลงไปเป็นก้น กึ่งนั่งกึ่งนอน หาวไปรอบที่แปดสิบสี่ กำลังเคลิ้มใกล้หลับเต็มที่
อิโก้ๆ แกอยากตาสว่างมั้ย ฉันสะดุ้งเพราะนังมี่ย่องมาเขย่าฉัน
อะไรวะ ฉันปรือตามอง
จุ๊ๆ ค่อยๆ ลุกมานี่ ชั้นมีอะไรจะให้แกดู รับรองคราวนี้ตาแกค้างอ่านหนังสือถึงเช้าแกก็ไม่หลับ
นังมี่ดึงแขนให้ฉันลุกขึ้นนั่ง
ฉันขยี้ตา เห็นนังอามนั่งอุดปากตัวเองจนหน้าเขียว นึกว่ามันสำเร็จโทษตัวเองโทษฐานอ่านหนังสือไม่กระดิกด้วยการอุดปากตัวเองตาย แต่พอมองดีๆ แล้วมันกลั้นหัวเราะอยู่นี่หว่า... แถมกลั้นจนใจแทบขาดด้วย มือนังอามชี้ไปที่นังหมิว ฉันหันตามมือนังอามแล้วหนังสือเรียนแทบหลุดจากมือ ...ฉันคิดว่าฉันเห็น... เอ่อ... เห็นหอยมั้งคุณผู้อ่าน (หาว่าฉันลามกเหรอ เรื่องจริงทั้งนั้นนะ) นังหมิวกำลังหลับสบายในท่าตุ๊กแกตายลอยตามน้ำมา ท่อนล่างอ้าซ่าท้าผีบ้านผีเรือน ที่สำคัญมันใส่กางเกงบอลขาสั้นบานทะโร่ของนังมี่ กางเกงในก็ดันไม่ใส่ พวกฉันก็เลยได้ทำความรู้จักกับ น้องสาว มันโดยไม่ได้ตั้งใจ ความง่วงก็เลยหนีกระเทยสามตัวไปทางไหนก็ไม่รู้ เราสามคนกระซิบกระซาบกันว่าเกิดมายังไม่มีคนใดได้พบเห็นอะไรจะๆ ตาแบบนี้ ฉัน นังมี่ นังอาม จึงพร้อมใจเอาหัวชนกันแล้วยื่นหน้าเข้าไปจ้อง หน้าของเราสามคนอยู่ห่างจาก อะบึ๊จะกึ๊ ไม่ถึงคืบ
ทำไม ไม่ค่อยมีขนเลยวะ นังมี่เริ่มชันสูตร
เกิดมาเพิ่งจะเคยเห็นก็ครั้งนี้นี่แหละวะ บุญตาหรือซวยลูกกะตาวะเนี่ย ฉันกระซิบ
หนูว่าซวยจนควรจะควักลูกตาทิ้ง นังอามบ่นว่าซวยแต่ก็ยังจ้องตาไม่กระพริบ แล้วบ่นต่อ นอนอีเดียดแบบนี้หนูว่าเอาโยเกิร์ตป้ายเลยดีกว่า พูดจบก็หันไปหยิบช้อนโยเกิร์ต
จากคุณ :
เส้นคั่นหน้า
- [
5 ม.ค. 51 14:54:04
]